Foodies in Taiwan #8

เช่นเคยนะคะ ไม่ต้องมองหาตอนก่อน ๆ เพราะ #8 นี่หมายถึงทริปไต้หวันรอบที่ 8 ค่ะ ไม่ใช่ตอนที่ 8 แต่อย่างใด ^^”

ก็รวมเอาสรรพสิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่ได้หม่ำ ๆ ไปในทริปไต้หวันรอบที่ 8 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา (หลายเดือนแล้ว ><” ) ค่ะ

เริ่มต้นอย่างยาจกและหากินง่ายก่อน คือของกินเล่นใน 7-11 ค่ะ เคโกะซื้อใน 7-11 บนอาหลี่ชานนะคะ

เวเฟอร์ชาเขียวคืออร่อยเลยค่ะ ที่เหลือเฉยๆ อะ

IMG_4818

ต่อมาเป็นคล้ายๆ แป้งทอดใส่ผักใส่ต้นหอม คล้ายๆ หอยทอดบ้านเราอะค่ะ แต่เปลี่ยนจากหอยเป็นผักต่างๆ (ที่จำไม่ได้แล้วว่าคืออะไรนี่แหละ ฮาาา) แทนงี้ อันนี้น่าจะ 50NTD ถ้าชอบแนวนี้ก็อร่อยอยู่ค่ะ

ซื้อที่โซนของกินในงานแสดงโคมไฟที่เจียอี้นะคะ

IMG_4878

ต่อไปก็มาจากที่เดียวกับรูปบนค่ะ เป็นซาละเปาอบโอ่งมั้งนะ ลูกละ 40NTD ค่ะ คิวยาวพอควรเลย แต่เค้าก็ทำไวดีค่ะ รอไม่นานเท่าไหร่ อร่อยมากกกก

IMG_4879

ส่วนแก้วนี้เป็นน้ำ Pineapple Milk Tea ค่ะ ชื่อเมนูประหลาดเหลือเกิน แก้วละ 30NTD ซื้อจากตลาดกลางคืนที่เจียอี้

ในเรื่องของรสชาตินั้น คือเฉยๆ ค่อนไปทางไม่ค่อยอร่อยค่ะ >< เคโกะว่าน้ำสับปะรดกับนม มันไม่ค่อยเข้ากันน้าาาาา

IMG_4887

เช้าวันต่อมายังวนเวียนอยู่ที่ถนนที่เป็นตลาดกลางคืนเจียอี้ค่ะ ตามหาร้านน้ำส้มที่เค้าว่าอร่อยมากมาย แล้วก็เจอจนได้ จะอยู่ตรงวงเวียนพอดีค่ะ

เคโกะสั่งเป็น Orange Green Tea ราคา 50NTD แต่รสชาตินั้นกลับรู้สึกเฉย ๆ ค่ะ คิวเยอะเวอร์วังมากกกกก ทำเอาลุ้นมากว่าจะตกรถไฟมั้ย >< (เพราะกำลังจะไปนั่งรถไฟย้ายเมืองต่อค่ะ)

06

ต่อกันที่ขนมกินเล่น ซื้อกินเล่นฆ่าเวลาเหตุผลเดียวเลยค่ะ ซื้อที่ท่าเรือเกาะเสี่ยวหลิวฉิว ขากลับจากเกาะมายังตงก่าง ที่เมืองผิงตงค่ะ

ราคารวม 50NTD รสชาติไม่โอเคอย่างแรง ลูกชิ้นแป้ง ไส้กรอกแป้ง แป้งไปหมดเลย ><~

มีดีอยู่อย่างเดียว คือแม่ค้าพูดเก่ง อัธยาศัยดี แค่นั้นเลยค่ะ

IMG_4943

ต่อกันที่เมนูขึ้นชื่อของผิงตง (เพื่อนว่างั้น) เป็นปลาอะไรสักสิ่งค่ะ มากับน้ำซุปที่ข้น ๆ คล้ายน้ำซุปของราดหน้า หากินได้ที่ตลาดกลางคืนเมืองผิงตงค่ะ

ราคาไม่รู้เพราะเพื่อนจ่าย ^^”

ถ้าผ่านไปเจอ แวะกินเลยนะคะ เพราะมันอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกจริงๆ

IMG_4954

จากนั้นเพื่อนคนเดิม พาไปกินอีกร้านนึง เค้าว่าร้านนี้ดังเหมือนกัน แต่เท่าที่ดูแล้วนั้น สั่งยากเหลือเกินค่ะ เพราะเค้าใช้วิธีบอกเมนูกันอะ

กรี๊ดดด แล้วคนต่างชาติอย่างชั้นจะสั่งกินไงเนี่ย ><~

เมนูแต่ละจานจะมาเป็นจานเล็ก ๆ แบบนี้ค่ะ (คล้าย ๆ กับแกล้มเหล้าเนอะ ฮาาาา) ทานกับข้าวก็ได้ ทานเล่น ทานเปล่า ๆ ทานกับเบียร์ก็ได้ค่ะ

ทุกจานนั้น เพื่อนสั่งให้หมด เคโกะมีหน้าที่แค่บอกว่ากินได้ อยากกินหรือเปล่า แล้วก็กินค่ะ ^^”

โดยรวม ดูธรรมดา ๆ นะ แต่อร่อยมากกกกกกค่ะ ถ้าไปเจอ ถลาเข้าไปจิ้ม ชี้สั่งโลดเลยค่ะ

05

ต่อมา ตกม้าตาย ฝากท้องไว้กับ 7-11 อีกแล้ว ^^”

โอเด้งใน 7-11 กับชานมคนละยี่ห้อกับที่คนไทยฮิต ๆ กัน แต่รู้สึกว่ารสชาติไม่ต่างกันเลยค่ะ

รสชาติโอเด้ง ตามมาตรฐานโอเด้งใน 7-11 นั่นแหละ ซื้อมากินเล่นฆ่าเวลารอเพื่อนอีกคนมารับไปกินข้าวค่ะ

IMG_4986

เพื่อนอีกคนมารับไปเดินตลาดกลางคืนที่เดิมกับที่เพื่อนคนแรกพาไปเลย (เมืองนี้มีแค่ตลาดเดียวหรือไงนะ 555)

เพื่อนคนนี้ตั้งใจจะพาไปร้านเดียวกับที่เพิ่งไปมากับเพื่อนคนแรก เลยบอกว่าเพิ่งมากินไปเมื่อวาน เพื่อนก็เลยวนเวียนหาร้านใหม่ จนสุดท้ายไปลงตัวที่หม้อไฟค่ะ

หม้อไฟที่นี่สั่งว่าเอาชุดหมู/เนื้อ ขนาดประมาณไหน แล้วเค้าจะยกหม้อน้ำซุป กับเนื้อที่เราสั่งมาวางไว้ให้ จากนั้นเครื่องเคียงอื่นๆ เราเดินไปหยิบมาเองได้เลยจากตู้แช่หน้าร้าน รวมไปถึงน้ำจิ้มต่าง ๆ ด้วยค่ะ

น้ำจิ้มที่นี่ไม่เหมือนบ้านเราเลย เคโกะงงไปอีก สุดท้ายก็ไม่ได้จิ้มอะไร (ฮาาาา) เพราะจริง ๆ กินแบบไม่จิ้มก็อร่อยในตัวอยู่แล้วค่ะ

เซ็ทนี้แอบแพง แต่อร่อย และเพื่อนเลี้ยงค่ะ ^^”

IMG_4988

คืนนั้นพอกินข้าวกับเพื่อนเสร็จ เคโกะก็จับรถไฟไปเกาสง ไปถึงก็ดึกแล้ว แต่ก็ยังไปตลาดกลางคืนลิ่วเหอ (Liuhe Night Market) ค่ะ ได้น้ำเชื่อมเฉาก๊วยไข่มุกมา 1 แก้ว ราคา 40NTD แต่รสชาตินั้นไม่อร่อยเลยยยยย เคโกะกินไม่หมดอะ ถือกลับมาที่พักด้วย เช้ามาอีกวันก็ยังไม่หมดเลย ไม่ไหวจริงๆ

03

แล้วก็ได้ไอศกรีมซอฟท์เสิร์ฟมา 1 โคนคือเห็นคนซื้อเยอะไง ก็เลยไปมุงบ้าง ราคา 50NTD รสชาติก็ปกติค่ะ ธรรมดาทั่ว ๆ ไปเลย ไม่ได้ว้าวอะไร

04

เช้าวันต่อมา เพื่อนคนเดิม คนเมื่อคืนจะพาไปเที่ยว เลยเดินหาร้านกินข้าวเช้าซักหน่อย ไปได้ร้านนี้มา อยู่ใกล้ ๆ สถานีจั่วอิง ในเมืองเกาสงค่ะ

(ผิงตงกับเกาสงเป็นเมืองที่ติดกัน ไปมาหาสู่กันง่ายค่ะ เพื่อนอยู่ผิงตงก็จริง แต่ก็จะพาเที่ยวเกาสง เพราะเกาสงมีที่เที่ยวเยอะกว่า — เพื่อนว่างั้นนะ — ซึ่งก็จริงค่ะ 555)

ร้านนี้สั่งง่าย มีเมนูอังกฤษให้ ก็จะดูคล้ายๆ  อเมริกันเบรคฟาสท์อยู่ค่ะ เซ็ทอาหารไม่รวมน้ำ เคโกะสั่งชานมแก้วใหญ่เพิ่ม เพราะชานมที่นี่อร่อยมากกกกกกกกกกกก คอชานมไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงค่ะ

(*ที่นี่ หมายถึง ที่ไต้หวันนะคะ ^^”)

เซ็ทนี้ทั้งหมดรวมแล้ว 105NTD แต่เยอะและอิ่มมากกกกกก ส่วนรสชาติ เคโกะว่ากลาง ๆ อะค่ะ ก็ไม่ได้ว้าวอะไร ที่ว้าวน่ะ ชานมเลยค่ะ

02

เพื่อนพาไปเทียนเหลียว หลังจากเดินขึ้นเขาอยู่ครึ่งวัน พอจะกลับก็เลยกินซอฟท์เสิร์ฟกันคนละอัน เป็นรสถ่านค่ะ คล้ายๆ ชาร์โคลนะ แต่สีอ่อนกว่ามากกกกก

ส่วนรสชาตินั้น … ไม่อร่อยอย่างแรง ไม่มีความเป็นถ่านใด ๆ เลยค่ะ

IMG_5020

เช้าวันถัดมา เป็นวันสุดท้ายที่จะได้เที่ยวละ ก็เที่ยวในเมืองเกาสงค่ะ เที่ยวไปด้วย หาร้านข้าวเช้านั่งทานไปด้วย จนมาได้ร้านนี้ อยู่ตรงข้ามกับชุนชิวเก๋อ (Spring and Autumn Pavilions) ที่สระบัว ใกล้ ๆ กับเจดีย์คู่มังกรเสือค่ะ

ทางซ้ายเป็นคล้าย ๆ แป้งโรตีใส่ไข่ แต่แป้งเค้าจะนิ่ม ๆ เลยค่ะ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเพิ่มแฮมด้วยมั้งนะ แล้วก็ชานมแก้วใหญ่ตามเคย ราคารวม 55 NTD ถูกเวอร์ อิ่มและอร่อยมากกกกกกกกกกกกค่ะ

01

คืนนั้นไปต่อที่ตลาดกลางคืนรุ่ยเฟิง มีลางสังหรณ์เบา ๆ ว่าวันนี้ตลาดอาจจะไม่เปิด เพราะดูในกูเกิ้ลเค้าว่าเปิดเป็นบางวัน และวันที่ไปเป็นวันที่ไม่เปิด แต่ไหน ๆ ก็มาแล้วไง เลยลองไปดู ซึ่งปรากฏว่าไม่เปิดจริง ๆ ค่ะ แต่บางร้านก็ยังขายอยู่ ซึ่งก็ไม่ได้เยอะอะไร ไม่คึกคักอย่างที่ควรจะเป็นค่ะ

ถึงกระนั้นก็ยังหาอะไรใส่ท้องได้อยู่ดี 5555

อันแรกเป็นขนมไข่นกกระทา ซื้อมาชิมดูเฉยๆ ว่าเหมือนที่ไทยมั้ย ก็ปรากฏว่าเหมือนทั้งรูปร่างและรสชาติค่ะ ต่างที่ขนาดของเค้าจะใหญ่กว่า แค่นั้นเลยจริงๆ

ถุงนึง 30NTD ลองครั้งเดียวพอค่ะ อยากกิน กินในไทยก็ได้อะนะ

IMG_5098

ต่อไปที่ไก่ทอด ร้านนี้มีน้ำจิ้มหลายแนว เคโกะเลือกแนวไทย อยากรู้จะมามุกไหน

ปรากฏว่า ราดน้ำจิ้มไก่มาเลยจ้าาาาาา เล่นง่ายมากค่ะพ่อคู๊ณณณณ

กล่องนี้ 100NTD รสชาติก็คือไก่ทอดแบบไม่ปรุงรสใด ๆ และมีน้ำจิ้มไก่ราดท็อปค่ะ จบปิ้งเลย

IMG_5099

ปิดท้ายโพสต์ของกินด้วยหมูแผ่นอัลมอนด์ที่ซื้อที่สนามบินเถาหยวน ก่อนผ่านตม. ราคา 160NTD มีโปรด้วย จำไม่ได้แล้วว่าซื้อกี่ห่อถึงจะแถมอีกหนึ่งห่อค่ะ เคโกะซื้อมาสองห่อ ฝากตัวเองกับฝากแม่แค่นั้นค่ะ เลยไม่ได้ของแถมนะ

หมูแผ่นเค้าเนี่ย ต้องยอมจริง ๆ ค่ะ คือ ทำออกมาได้บางเฉียบมากกกกกกกกกกกก และรสชาติก็อร่อยด้วยนะ ถ้าเจอก็รีบสอยมาโลดเลยค่ะ อร่อยจริง

IMG_5120

สำหรับทริปไต้หวันยังไม่จบแค่นี้นะคะ เดี๋ยวจะมาอีกโพสต์นึงปิดท้ายทริปจริงจัง แล้วจะโยกย้ายไปต่อที่อื่นบ้างเนอะ โพสต์ติด ๆ กันจนอยากไปอีกรอบแล้วค่ะ ฮาาาาาา

ฝากเพจปิดท้ายไว้เช่นเคย
https://www.facebook.com/thisiskeigo/

The Pier-2 @Sizihwan

สวัสดีค่ะ ที่เที่ยวในเกาสงจริง ๆ แล้วก็มีเยอะอยู่ แต่ก็มั่นใจว่าที่นี่น่าจะเป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่น่าสนใจของใครหลาย ๆ คนค่ะ

Spot name : The Pier-2 Art Center, Sizihwan
Location : Sizihwan, Kaohsiung, Taiwan
Access : KMRT to Sizihwan station
Entrance Fee : Free (เฉพาะรอบ ๆ บางส่วนอาจมีค่าเข้าชมสถานที่เพิ่มเติม)
Opening hours : Always open (เฉพาะรอบ ๆ บางที่มีเวลาปิดเปิดแตกต่างกัน)
Visited date : 12 March 2018
Websitehttp://pier-2.khcc.gov.tw/eng/home01.aspx?ID=1

ตอนที่ไป เพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักตอนอยู่เมืองผิงตงก็แนะนำ The Pier-2 มาให้ค่ะ แต่จริง ๆ เคโกะเองก็มีแพลนที่จะไปอยู่แล้ว พอเห็นเค้าแนะนำแบบนั้น ก็เลยรู้สึกว่าน่าจะต้องไปให้ได้ล่ะค่ะ

การเดินทาง ไม่ยากเลย นั่งรถไฟฟ้าไปจนถึงสถานี Sizihwan ก็จะถึงเลย ซึ่งตรงนี้จะมีสิ่งที่น่าสนใจอยู่ประมาณ 2-3 จุด ป้ายบอกทางในสถานีเองก็บอกไว้ชัดเจนดีว่าที่ท่องเที่ยวแต่ละจุดนั้นใช้เวลาเดินทางประมาณเท่าไหร่ ออก exit ไหน และเดินทางไปอย่างไร .. ภาษาจีนล้วน ๆ ค่ะ ><”

IMG_5069

สิ่งที่คนนิยมไปตามป้ายด้านบนนั้น ก็จะมีสถานกงสุลอังกฤษเดิม (บรรทัดบนสุด) ออก exit 2 และต่อรถบัสสายสีส้มไปประมาณ 10 นาทีค่ะ แล้วก็ The Pier-2 (บรรทัดที่สองจากล่าง) ออก exit 2 เช่นกัน และเดินไปประมาณ 10 นาที

จาก exit 2 ออกมาก็จะเจอประมาณนี้

DSC_6833

ด้านหน้าดูจะเป็นทางเข้าอะไรสักสิ่งค่ะ ก็เลยเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็พบว่าดูคล้าย ๆ เป็นมิวเซียมเล็ก ๆ ให้เยี่ยมชมอยู่ค่ะ แต่วันที่ไป ปิดพอดี ก็เลยอดเข้าไปดูด้านในนะคะ

แต่พอเดินทะลุไปด้านหลังอาคารนี้ก็จะเป็นลานกว้าง ๆ ที่แสดงผลงานศิลปะ, รถไฟเก่า ๆ ไรงี้ให้เดินถ่ายรูปเล่นกันได้ค่ะ ตอนที่ไป มีผู้คนมาถ่ายรูปกันเล่นเยอะทีเดียว

DSC_6834

บนลานกว้าง ๆ นั้นเอง บนพื้นก็มีรางรถไฟด้วยนะ เยอะเลยล่ะค่ะ

IMG_5072

ซึ่งตรงนี้เองก็จะเป็นจุดเริ่มต้นของรถไฟฟ้าที่คล้าย ๆ รถรางไฟฟ้าอะค่ะ ถ้าดูบนแผนที่รถไฟฟ้าของเมืองเกาสงก็คือรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน ด้านล่างของแผนที่นะคะ

แล้วก็ผลงานศิลปะอาร์ท ๆ บนลานกว้าง ๆ นั้น มีเยอะและกระจายอยู่หลายจุดค่ะ เคโกะลงรูปไม่ทุกอันนะคะ

IMG_5083

เดินเลย ๆ ไปอีกก็จะเป็นลักษณะคล้ายๆ โกดังประมาณนี้ค่ะ ด้านในเป็นมิวเซียมเช่นกัน แต่ไม่ใช่สิ่งที่เคโกะสนใจมาดูนะ เลยขอข้ามไปค่ะ

DSC_6841

จากรูปด้านบน เดินไปอีกนิดเดียว ก็จะถึง The Pier-2 แล้วค่ะ

พอเดินเข้าบริเวณที่เป็น The Pier-2 ก็จะเจอศิลปะประเภทกราฟิตี้ก่อนเลยค่ะ เยอะมากกกกกก

DSC_6844

มีหุ่นยนต์ตัวใหญ่อีก

DSC_6847

เดินไปอีกหน่อย ก็จะเจอกับสัญลักษณ์แดง ๆ นี้ ซึ่งถ้าเสิร์ชใน Google image ดู จะเจอรูปนี้เยอะค่ะ คล้าย ๆ แลนด์มาร์คที่ใครมาก็ต้องถ่ายอะค่ะ 555

DSC_6849

แล้วก็ส่องกราฟฟิตี้ตึกต่าง ๆ ต่อไป

DSC_6851

ได้ยินมาว่าตรงนี้คือท่าเรือค่ะ แล้วก็พัฒนาโกดังต่าง ๆ ที่บริเวณท่าเรือให้กลายเป็นร้านต่าง ๆ พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปะไปเลย แต่ว่าตัวท่าเรือเองก็ยังคงอยู่ แต่ออกไปในเชิงการท่องเที่ยวมากกว่าน่ะค่ะ

เพนต์โกดังให้กิ๊บเก๋กันไปได้อีก สวยอะ

DSC_6854.jpg

เดิน ๆ ไปเรื่อย ๆ ก็จะเจอกับเรือที่จอดรอนักท่องเที่ยวอยู่ค่ะ

DSC_6859

ป้ายเป้ยอะไรก็ทำไปในแนวศิลปะหมดนะคะ คือ สายอาร์ทน่าจะถูกใจเลยแหละ

IMG_5077

จริง ๆ แล้วจากสถานี Sizihwan นั้นสามารถนั่งรถไฟฟ้าสีเขียวอ่อนมาที่นี่ก็ได้ค่ะ แต่เคโกะสายถึกนะ เดินเอาค่ะ 555

มีสถานีใกล้ ๆ อยู่ด้วย ก็จะห่างจากสถานี Sizihwan 1-2 สถานีค่ะ

IMG_5080

ดูเก๋ตรงที่ทำเป็นชื่อสายรถไฟสีเขียวอ่อนรวมกับชื่อสถานที่ค่ะ (Hamasen คือ ชื่อสถานีที่ Sizihwan)

กราฟฟิตี้อันนี้ฮาดีค่ะ มีก๊อกน้ำด้วย ถ้าเปิดก๊อกน้ำก็จะดูคล้ายกับเด็กยืนปัสสาวะอยู่นะคะ 555

DSC_6860

แล้วก็มีศิลปะประเภทลอยตัวด้วย เคโกะเดินไปดูไป เพลินมากเลยค่ะ

DSC_6862

แล้วก็แอบแวะร้าน Sunny Hills ซื้อพายสับปะรดสักนิดนึง ร้านนี้ราคาแพงกว่ายี่ห้ออื่น ๆ แต่รสชาติดีทีเดียวค่ะ แถมแพกเกจสวยงาม เหมาะกับการเอาไปฝากคนอื่นมาก ๆ ค่ะ

DSC_6866

เดินเล่น ถ่ายรูปจนพอใจแล้วก็เริ่มวนกลับมาทางออก กลับไปที่สถานีตามเดิม

ตรอกนี้ไม่ได้เดินค่ะ

DSC_6868

งานศิลปะก็ยังมีอย่างต่อเนื่อง

DSC_6874

แนวน่ารัก ๆ ก็มีนะคะ ตรงนี้มีคนถ่ายรูปเยอะอีกจุดนึงเลยแหละ

DSC_6876

เดินกลับมาจนถึงสถานี เคโกะก็ขึ้นรถบัสสายสีส้มไปต่อที่สถานกงสุลอังกฤษเดิมค่ะ ซึ่งจะเป็นป้ายที่มีคนลงเยอะมาก ๆ คนขับรถเองก็บอกเป็นภาษาอังกฤษให้ด้วยค่ะ

พอลงรถปุ๊บ เดินไปทางขวานะคะ จะมีทางขึ้นอยู่ แต่ก่อนถึงทางขึ้นก็จะมีป้ายบอกค่าเข้าชมสถานที่ค่ะ

IMG_5086

บนป้ายใหญ่ ๆ ซ้ายมือ ก็จะบอกเวลาทำการค่ะ

  • วันจันทร์ – ศุกร์ เปิด 9.00-19.00 (18.30 last entry)
  • วันเสาร์ – อาทิตย์และวันหยุด เปิด 9.00 – 21.00 (20.30 last entry)
  • ปิดทุกวันจันทร์สัปดาห์ที่ 3 ของเดือน (ตัวเล็ก ๆ ด้านล่างคือวันหยุดค่ะ ถ้าสังเกต วันที่เคโกะไปคือวันที่เค้าหยุดพอดี T.T)

ส่วนป้ายทางขวามือก็จะเป็นรายละเอียดราคาค่าเข้าชมสถานที่

  • 99NTD สำหรับคนทั่วไป
  • 49NTD สำหรับพลเมืองเกาสง, นักเรียนนักศึกษาที่บัตรยังไม่หมดอายุ และกรุ๊ปตั้งแต่ 20 คนขึ้นไป
  • 39NTD สำหรับเด็กอายุ 1-6 ปี, ผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 65 ปีขึ้นไป, อาสาสมัครที่บัตรยังไม่หมดอายุ และคนที่มีรายได้น้อยที่ได้มีการลงทะเบียนไว้กับทางเมืองเกาสง
  • ฟรีค่าเข้า สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี, ผู้พิการพร้อมผู้ติดตาม 1 คน, ไกด์ทัวร์ที่มีใบอนุญาตรับรองจากทางการ และพลเมือง Shaochuantou Gushan เมืองเกาสง

ตอนแรกเคโกะไม่ได้สังเกตป้ายนะคะ ก็เลยเดินไปขึ้นบันไดเลย เพราะตัวสถานกงสุลอังกฤษเดิมนั้นอยู่ด้านบนค่ะ

IMG_5088

พอขึ้นไปถึงปุ๊บ อ้าวววววววว ปิดดดดดดด

เสียใจจจจจจจ T____T

DSC_6886

ถ่ายรูปวิวรอบ ๆ ปลอบใจก็แล้วกัน

วิวทะเลจากด้านบนค่ะ

DSC_6884

จากนั้นก็ลงมาด้านล่าง ข้ามถนนไปเดินเล่นเลียบทะเลก็แล้วกัน

มองย้อนกลับมาที่สถานกงสุลอังกฤษเดิมค่ะ ตัวอาคารที่อยู่ด้านบนเขานั่นล่ะค่ะ

DSC_6896

เดินเล่นชมวิวทะเลไปเรื่อยเปื่อย ตามประสาค่ะ

DSC_6897

เดินเล่นจนพอใจแล้ว เคโกะก็นั่งรถบัสสายสีส้มกลับไปที่สถานี Sizihwan และนั่งรถไฟฟ้ากลับเข้าเมืองนะคะ

โดยรวม เคโกะว่าโอเคนะคะ ถ้าชอบทะเล ชอบถ่ายรูป มาเถอะค่ะ ไม่ผิดหวังแน่นอน มุมถ่ายรูปเยอะมากกกกกกกก สวยด้วยค่ะ

แปะเพจไว้ปิดท้ายเช่นเคย
https://www.facebook.com/thisiskeigo/

Lotus pond & Dragon Tiger Pagodas

สวัสดีค่ะ ยังวนเวียนในไต้หวันกันอยู่นะคะ โพสต์นี้จะเป็นที่เที่ยวยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวไปกันเยอะ ไม่ได้แหวกแนวอะไรละค่ะ แหะๆ

Spot name : Lotus pond & Dragon Tiger Pagodas
Location : Kaohsiung, Taiwan
Access : Zuoying THSR / Xin Zuoying TRA / Zuoying KMRT and walk around 10 min
Entrance fee : Free
Opening hours : always open
Visited date : 12 March 2018

เคโกะเองจองที่พักไว้แถว ๆ สถานี Zuoying อยู่แล้วอะนะคะ ก็เลยเปิด Google maps แล้วก็เดินตามโลด จากตัวสถานีเองก็จะค่อนข้างไกลนิดนึง เดินประมาณ 2 ท้อใจก็ถึงค่ะ แล้วก็รู้สึกท้อต่อเพราะอาณาบริเวณค่อนข้างกว้างมาก ๆ กว่าจะเดินวนไปครึ่งรอบสระเพื่อไปฝั่งที่มีเจดีย์คู่มังกรเสือก็เดินเหนื่อยอยู่ค่ะ แต่ดูวิวไปพลาง ๆ ก็พอทำให้รู้สึกหายเหนื่อยได้อยู่นะ

เดินมาถึงสระที่กว้างใหญ่ เห็นเจดีย์คู่อยู่ลิบ ๆ นั่นก็แอบท้อนิด ๆ ค่ะ เพราะต้องเดินอ้อมสระน้ำไปหา

DSC_6770

ระหว่างเดิน ๆ ไปก็ส่องจากระยะไกล ๆ ไปเรื่อย ๆ ก่อน

วิวสระน้ำกว้าง ๆ แบบนี้ ก็รู้สึกผ่อนคลายได้บ้างอยู่เหมือนกันนะคะ

DSC_6774

รอบ ๆ สระน้ำ จะมีแผนที่บอกจุดท่องเที่ยวสำคัญอยู่ค่ะ (ภาษาจีน) ถ้าดูกันให้ดี ๆ แล้ว รอบ ๆ สระนี้จะมีวัดเรียงรายอยู่เต็มไปหมดเลยค่ะ

IMG_5054

แบบภาษาอังกฤษก็จะหาอ่านได้ในวิกิฯ นะคะ แต่ก็จะไม่มีรูปให้ดูแบบเข้าใจง่าย ๆ อย่างในรูปข้างบนค่ะ
https://en.wikipedia.org/wiki/Lotus_Pond,_Kaohsiung

เดิน ๆ เข้าไปใกล้อีกนิด จะเจอกับวัดแห่งนึงชื่อว่า Pei Chi Pavilion (北極亭 – เป่ยจี๋ถิง) ที่จะมีรูปปั้นเทพเจ้าเซวียนเทียนช่างตี้อยู่ค่ะ มองเห็นได้แต่ไกลเลย

DSC_6779

ไปค่ะ ไปดูกันใกล้ ๆ

DSC_6782

ดูใกล้ ๆ รู้สึกว่าน่าเกรงขามมาก ๆ เลยค่ะ

DSC_6785

ด้านใต้รูปปั้นจะมีลักษณะเหมือนวัดค่ะ เข้าไปกราบไหว้ได้ มีเครื่องรางให้เช่าบูชาด้วย

จากนั้นเคโกะก็เดินไปต่อค่ะ มีเจดีย์อะไรสวย ๆ อยู่ตรงหน้าอีกจุดหนึ่งแล้วค่ะ

DSC_6794

ตรงนี้ค่อยดูเป็นสระบัวหน่อยเนอะ ^^”

ช่วงที่ไป (เดือนมีนาฯ) ดูดอกบัวออกจะไม่ค่อยบานเท่าไหร่ค่ะ ดูแล้ง ๆ เหี่ยว ๆ พอสมควรเลยค่ะ ^^”

เดินใกล้เข้าไปอีกนิด ที่นี่ก็คือ Spring and Autumn Pavilions (春秋閣 – ชุนชิวเก๋อ) ซึ่งศาลาด้านในสุดก็จะมีชื่อว่า 五里亭 (อู๋หลี่ถิง) ค่ะ

DSC_6799

ด้านหน้าจะเป็นมังกรตัวใหญ่ยาวที่สามารถเข้าไปเดินภายในตัวมังกรได้ค่ะ

DSC_6806

ด้านในก็จะเป็นรูปวาดบอกเล่าเรื่องราวศาสนาในแบบความเชื่อของคนจีนที่นี่ค่ะ

DSC_6809

เดินไปศาลาด้านในสุด วิวดี บรรยากาศดีมากเลยทีเดียวค่ะ

DSC_6812

จากศาลาอู๋หลี่ถิงก็จะมองเห็นเจดีย์คู่ได้ชัดขึ้น สะท้อนเงากับน้ำนิ่งในสระ ก็ดูสวยเก๋ไปอีกแบบค่ะ

DSC_6815

วิวฝั่งตรงข้ามบ้าง ซึ่งก็จะเป็นทิศที่เคโกะเดินมาถึงสระบัวแห่งนี้ล่ะค่ะ

ดูแล้วรู้สึกมั้ยอะว่ามันไกลมากจริง ๆ ><~

DSC_6817

พักถ่ายรูป พักเหนื่อยกันพอสมควรแล้วก็เดินต่อไปที่พระเอกของงานนี้ค่ะ

ที่นี่ก็คือเจดีย์คู่ หรือ Dragon and Tiger Pagodas (龍虎塔 – หลงหูถ่า) ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวเยอะมาก ๆ ค่ะ ด้านหน้าของเจดีย์ ฝั่งตรงข้ามถนนด้านหน้านั้นมีร้านขายของที่ระลึกเรียงรายหลายร้านเลยล่ะค่ะ

DSC_6826

ตรงนี้เราก็สามารถเดินลอดหัวมังกรแล้วไปออกทางปากเสือของอีกฝั่งนึงได้ค่ะ

รูปนี้เคโกะถ่ายจากด้านหลังของมังกรและเสือออกมาด้านหน้านะคะ

DSC_6829

จากนั้นก็ออกจากบริเวณนี้ค่ะ

เคโกะมองดูแผนที่เส้นทางในป้ายแสดงจุดท่องเที่ยวสำคัญที่ตั้งอยู่รอบ ๆ สระแล้วก็สังเกตเห็นว่ามีบ้านเก่าของหลากหลายตระกูลให้ไปเดินเยี่ยมชมกันด้วยล่ะค่ะ ไหน ๆ ก็มาแล้ว ก็เลยว่าจะไปลองเดินดูซะหน่อย แต่ครั้นจะเดินให้ครบทุกตระกูล ก็ไม่ไหวนะ (555) เลยขอเลือกเอาตระกูลของตัวเองค่ะ

บ้านเก่าตระกูลหลินค่ะ

เดินออกมาจากสระบัวได้สักหน่อย ก็จะเจอโมเดลจำลองถนนสายประวัติศาสตร์ของเขตจั่วอิงค่ะ ซึ่งก็รวมเอาบ้านเก่าตระกูลต่าง ๆ นั่นไว้ด้วยนั่นแหละค่ะ

IMG_5060

พยายามถ่ายรูปท็อปวิวให้พอมองเห็นภาพอะนะ ><

IMG_5061

เอาล่ะ เดินไปหาบ้านตระกูลหลินกันดีกว่าค่ะ

ไปถึงก็สตั๊นท์ไปสามวิฯ มีคนไปเดินดูเหมือนเคโกะด้วย เคโกะก็เลยแน่ใจขึ้นมาว่านี่แหละคืออดีตบ้านตระกูลหลินจริง ๆ ><

เริ่มจากกระเบื้องโบราณบนพื้นถนนก่อน

IMG_5065

แล้วก็บ้านเก่า .. เหลือแค่นี้เองเหรอเนี่ยยย…

IMG_5067

อีกมุมนึงค่ะ ถ่ายจากด้านในออกมาหน้าถนน

IMG_5068

แล้วหลังจากนั้นก็เลยเดินกลับออกไปอีกทางหนึ่ง เพื่อขึ้นรถเมล์ไปที่อื่นต่อ ซึ่งระหว่างทางก็ผ่านบ้านตระกูลอื่นอีกตระกูลนึง (จำไม่ได้แล้วว่าแซ่อะไรค่ะ) แต่ดูสภาพดีกว่าของตระกูลหลินมาก ๆ เลย ><

มีคนบอกว่า มาเกาสงแล้วไม่มาเดินชมเจดีย์คู่มังกรเสือ ก็เหมือนมาไม่ถึงเกาสงค่ะ ^^”

ก็ดูเป็นอะไรที่ A Must ต้องมาอะนะคะ แต่ถ้าสายบุญมา น่าจะถูกใจค่ะ วัดเยอะมาก ๆ จริง ๆ

แปะเพจปิดท้ายเช่นเคยค่ะ ^^
https://www.facebook.com/thisiskeigo/

QiShan @Kaohsiung

สวัสดีค่ะ ด้วยความที่มีเพื่อนชวนเพื่อนที่มีรถมารับไปเที่ยวด้วยวันนึงนั้น เลยทำให้แผนการเที่ยวของเคโกะสะดวกขึ้นเยอะเลย และก็ประหยัดเวลาการเดินทางไปได้มากเลยด้วยค่ะ ก็เลยได้โพสต์นี้มาเพิ่ม นอกเหนือจากแผนการเดินทางของเคโกะค่ะ

Spot name : Qishan (Cishan) / 旗山 / ฉีชาน
Location : Kaohsiung, Taiwan
Access : Gangshan South Station and take bus no.8012
Entrance fee : N/A
Opening hours : เปิดตลอด แต่ละร้านอาจจะเปิดร้านไม่เหมือนกันค่ะ
Visited date : 11 March 2018

ตอนที่เพื่อนพามาก็ไม่ได้คิดอะไรค่ะ แต่พอมาถึงแล้ว นึกไปนึกมาอีกที ก็กลายเป็นว่าเป็นที่ที่อยากมาอยู่แล้ว แต่ต้องตัดออกเพราะมายากพอสมควรเลย ก็กลายเป็นความบังเอิญที่เพื่อนพามาพอดีล่ะค่ะ ^^

โดยรวมก็จะเป็นถนนคนเดิน ให้เดินจับจ่ายช้อปปิ้ง กินขนม กินของว่างอะไรกันงี้อะนะคะ ซึ่งโปรดักส์ขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือกล้วยค่ะ มองไปทางไหนก็จะเห็นกล้วยเต็มไปหมดเลย แต่โดยส่วนตัวก็จะเฉย ๆ ล่ะนะคะ เพราะในไทยเองก็มีเพียบไม่แพ้กัน 555

บนถนนคนเดินนี้ร้านรวงเปิดเยอะอย่างที่บอกล่ะค่ะ ซึ่งสองข้างทางก็จะเป็นตึกเก่า ๆ ดูคลาสสิคและเก๋ไปอีกแบบ

IMG_5031

เดินผ่านวัดจีน ดูเก่าๆ ขลัง ๆ ไปอีก

IMG_5023

สิ่งแรกที่เพื่อนพามากินก็คือเต้าหู้เหม็นค่ะ เท่าที่เคโกะชิมมานะคะ อยากจะทานให้อร่อย ก็ขอแนะนำว่าเป็นร้านนั่งทานไปเลยค่ะ จะครบเครื่องและรสชาติอร่อยกว่าตามตลาดกลางคืนที่เสียบไม้ ๆ ค่ะ

IMG_5024

สายเต้าหู้ไม่ควรพลาดจริง ๆ แต่เคโกะก็ยังรู้สึกว่าที่เคยทานในไถตง ที่เพื่อนอีกคนพาไปนั้น อร่อยกว่าที่ฉีชานนี่ค่ะ

เอาล่ะ เดินกันต่อไปค่ะ ด้านบนเข้าใจว่าอนุรักษ์ตึกโบราณไว้ ไม่ได้ใช้งานอะไรค่ะ ใช้งานเป็นร้านค้าแต่เฉพาะชั้นล่าง

IMG_5032

เดินไปเรื่อย ๆ จนสุดทางก็จะเป็นสถานีรถไฟฉีชาน (Qishan Station) ซึ่งเป็นสถานีรถไฟสายเก่า ปัจจุบันนี้ได้ยกเลิกไปแล้ว แต่ตัวสถานีเองก็ยังคงอนุรักษ์ไว้ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวไปค่ะ

IMG_5025

ในสถานีเองก็เลยพัฒนากลายเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม ๆ ที่จะเล่าถึงประวัติความเป็นมาของ Qishan นี้ค่ะ ตรงนี้จะมีค่าผ่านประตูด้วย 30NTD ค่ะ หางตั๋วสามารถเอาไปเป็นส่วนลดของกินเล่นได้ 15NTD ค่ะ (แต่ก็ไม่ได้ใช้ เพราะไม่รู้จะกินอะไรดี ฮาาาา)

IMG_5026

พอเข้ามาด้านในก็จะมีร้านค้าอยู่ (ในรูปที่เห็นไกล ๆ นั่นน่ะค่ะ) มีไอศกรีมรสกล้วยขายด้วย เพื่อนซื้อมาชิม เพื่อนก็บอกว่าไม่ค่อยอร่อยนักค่ะ แต่ส่วนตัวเองไม่ได้ซื้ออะไรกินเลย ฮาาาา

DSC_6744

เดินเข้าข้างในอีกนิดก็จะเป็นรางรถไฟพร้อมด้วยขบวนรถไฟรอต้อนรับอยู่ค่ะ

DSC_6746

ตัวขบวนรถไฟนั้นก็ได้ดัดแปลงให้กลายเป็นห้องสำหรับนั่งดู Simulation ผ่านอุปกรณ์คล้าย ๆ กับ Google Glass แต่ขนาดใหญ่กว่า ซึ่งพอสวมแล้ว เราก็จะมองเห็นภาพจำลองที่บอกเล่าเรื่องราวของ Qishan แห่งนี้ค่ะ (ภาษาจีน)

DSC_6748

จากนั้นด้านในตัวห้องของนายสถานีเองก็ยังมีเรื่องราวอื่น ๆ ที่น่าสนใจด้วยค่ะ

DSC_6749

ภายในตัวอาคารของสถานีนั้น นอกจากจะมีแผ่นป้ายที่อธิบายประวัติความเป็นมาเฉกเช่นพิพิธภัณฑ์ทั่วไปแล้ว ก็จะยังมีซากหรือโครงสร้างเดิมในสมัยก่อนเก็บไว้ให้ได้ดูกันด้วยค่ะ

DSC_6750

ตั๋วโดยสารในยุคอดีตจนถึงปัจจุบันเลยค่ะ

DSC_6754

แล้วก็ยังมีการแสดงเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่พอทำให้ดึงดูดสายตาได้อยู่

ในรูปก็จะเป็นคล้าย ๆ กลไกอัตโนมัติตามเวลาที่ตั้งไว้น่ะค่ะ คล้าย ๆ นาฬิกากุ๊กกูเนาะ ที่พอถึงเวลาขบวนรถไฟก็จะวิ่งออกมาให้เราเชยชมกันค่ะ รวมไปถึงรางด้านบนก็จะมีรถไฟวิ่งด้วย

DSC_6758

เดินเล่นกันพอสมควร ก็กำลังจะกลับ แต่ก็เหลือบไปเห็นสวนสาธารณะที่ใกล้ ๆ กันกับถนนคนเดิน และใกล้ ๆ กับที่เพื่อนจอดรถทิ้งไว้ด้วยค่ะ ก็เลยชวนกันไปเดินเล่นอีกสักหน่อย

นอกจากจะเป็นสวนสาธารณะแล้วก็มีทางเดินขึ้น เพื่อนก็อยากรู้ไปอีกว่าด้านบนมีอะไร เลยชวนกันเดินขึ้นไปค่ะ

IMG_5033

ด้านบนเป็นวัดขงจื๊อที่ใหญ่โตมากทีเดียวค่ะ

IMG_5034

แต่อาจจะเป็นเพราะเราไปค่อนข้างบ่ายแก่มากแล้ว คนก็เลยน้อย ๆ ค่ะ

IMG_5035

แล้วก็เจอกับทีมงานถ่ายรูปพรีเวดดิ้งด้วย

DSC_6761

เดินเล่นรอบ ๆ วัดไปมา ซึ่งวัดนี้ก็สวยดีนะคะ บวกกับเป็นที่สูง เลยทำให้มีลมพัดเย็นสบาย รู้สึกผ่อนคลายได้ดีทีเดียว พวกเราก็เลยมานั่งเล่น เม้าท์มอยอยู่ตรงนี้กันพักใหญ่ทีเดียวค่ะ

DSC_6762

จากนั้นก็ได้เวลากลับค่ะ ก่อนที่เพื่อนจะพาไปชมพระอาทิตย์ตกดินที่ Xiziwan และทานอาหารเย็นกันในสไตล์คน local แล้วก็แยกย้ายกันกลับ (ซึ่งส่วนหลังนี่ไม่มีรูปอะค่ะ ^^”)

ตัดฉับกันดื้อ ๆ ตรงนี้เลยแล้วกัน ไม่รู้จะแนะนำยังไงกับสถานที่แห่งนี้ เพราะการเดินทางก็ไม่ค่อยสะดวกเท่าที่ควร แม้จะมีรถเมล์มาถึง แต่ก็เป็นระยะทางที่ไกลเอาการเลยค่ะ ^^”

ฝากเพจปิดท้ายละกันเนาะ
https://www.facebook.com/thisiskeigo/

Moon World – TianLiao

สวัสดีค่ะ โพสต์นี้พาไปเที่ยวที่แปลก ๆ อีกแล้วนะคะ 555

เอาจริง ๆ นะ ทริปไต้หวันเดือนมีนาที่ผ่านมา ค่อนข้างจะเป็นที่ค่อนข้างแปลกตาค่ะ แล้วก็ไม่ได้อยู่ไทเปเลยด้วย ถ้าอยากหาที่เที่ยวแปลก ๆ ใหม่ ๆ ที่ไม่ซ้ำกับคนอื่น ๆ ก็เกาะบล็อคหรือเพจเคโกะไว้นะคะ 555 (งานขายก็มาาาา 555)

Spot name : Moon World / Badlands / TianLiao / 田寮月世界 (เทียนเหลียวเยว่ชื่อเจี้ย)
Location : Kaohsiung (Gaoxiong), Taiwan
Access :
– Gangshan South Station and take bus no.8012 to Moon World bus stop
– TRA to Kaohsiung Station, transfer to Kaohsiung bus (toward Chishan) to Moon World stop
Entrance Fee : Free
Opening hours : always open
Visited date : 11 March 2018
More information :
– https://eng.taiwan.net.tw/m1.aspx?sNo=0002121&id=631
– https://khh.travel/Article.aspx?a=6439&l=2&stype=1056&sitem=4089

วิธีการไปที่ Moon World หรือ TianLiao นั้นเคโกะเสิร์ชหามาได้คือเส้นทางแรกที่ใส่ไว้ด้านบน คือ นั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานี Gangshan South (Nan Gangshan) แล้วต่อรถบัสสาย 8012 นะคะ แต่วิธีที่สองนั้นเคโกะก๊อปมาจากเว็บการท่องเที่ยวไต้หวันค่ะ

แต่ส่วนตัวเอง ไปรถยนต์ส่วนตัวค่ะ ^^”

เรื่องของเรื่องคือ เป็นวันที่เพื่อนที่นู่นเค้าอาสามารับพร้อมกับเพื่อน ๆ เค้าอีก 2 คน แล้วก็มีคนที่ขับรถมาด้วย ก็เลยขับรถพาไปค่ะ ก็จะเป็นวันที่แสนสบาย 1 วันเลยแหละ แหะๆ

ที่นี่ถูกขนานนามว่า Moon World หรือ Badlands เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่คล้ายผิวพระจันทร์ค่ะ ก็เลยเรียกแบบนั้น

ไปถึงก็มีนักท่องเที่ยวอยู่บ้างพอสมควร แต่อากาศร้อน แดดออก ฟ้าโปร่ง เป็นใจสุด ๆ เลยค่ะ

พอเดินเข้าไปในเขต Tianliao ปุ๊บ ก็จะสะดุดตากับสระน้ำตรงกลางขนาดใหญ่เลยค่ะ

DSC_6681

กับดอกหญ้าริมสระน้ำบ้าง

DSC_6739

เดิน ๆ ตาม ๆ เค้าไปก็เจอป้าย Information ค่ะ

ป้ายนี้ไม่ค่อยช่วยอะไร (ฮาาาา) แต่อีกป้ายนึงที่อยู่ด้านในที่ลืมถ่ายรูปมา จะบอกเส้นทางการเดินให้ ซึ่งจะมีอยู่ทั้งหมด 2 เส้นทางค่ะ ทางเดินเป็นทางเดินง่าย ๆ สบาย ๆ พวกเราก็เลยเดินไปซะให้หมดเลย 555

IMG_5013

เริ่มเดินตามเส้นทางค่ะ ก็จะเห็นเขาเนิน ๆ แบบนี้ไปตลอดเส้นทางเลยค่ะ

DSC_6687

ทางเดินช่วงต้นก็จะประมาณนี้ เป็นทางซีเมนต์ เดินสบาย ๆ ค่ะ

DSC_6692

เดินไปสักพัก อ้าวววว เป็นขั้นบันไดให้เดินขึ้นไปซะงั้น แต่ก็ไม่ได้อะไรนะคะ เป็นขั้นบันไดที่ทำไว้ดีอยู่ มีที่ให้เกาะจับ พักเหนื่อยได้ค่ะ

DSC_6693

พอขึ้นไปถึงด้านบนแล้ว ก็จะเจอกับสระน้ำอีกแห่ง แต่สระน้ำนี้แห้งมากค่ะ แทบไม่มีน้ำเหลือแล้ว

DSC_6694

ดูวิวรอบ ๆ จากที่สูงไปแทนแล้วกัน

DSC_6703

ตรงกลางนั่นก็ที่เดินวนขึ้นมาตอนแรกค่ะ

วิวทิวทัศน์ก็จะประมาณนี้ล่ะค่ะ นี่แหละที่เค้าว่าเหมือนผิวดวงจันทร์เลยเอามาตั้งชื่อสถานที่แห่งนี้ค่ะ ^^”

DSC_6704

เดินวน ๆ อยู่รอบหนึ่ง แล้วก็ลงมาอีกทางนึง ซึ่งเป็นคนละทางกับขาขึ้นค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงไปนะคะ เดี๋ยวก็จะวน ๆ กลับมาเจอกันที่เดิมเองนั่นแหละ

ด้านล่างฝั่งนี้จะมีสัญลักษณ์รูปจันทร์เสี้ยวอยู่ด้วย

DSC_6710

แล้วพวกเราก็เดินต่อไปยังเส้นทางชมวิวอีกเส้นทางหนึ่งค่ะ วิวก็คล้าย ๆ กันแหละนะ ^^”

DSC_6721

ตรงนี้ก็ทำทางเดินไว้ให้เดินแบบสบาย ๆ เหมือนกันค่ะ ก็เดินกินลมชมวิวไปแหละนะคะ ^^”

DSC_6729

วิวจากมุมสูงบริเวณนี้ก็หน้าตาคล้าย ๆ กันนั่นแหละ แต่สระน้ำตรงกลางนั้นเป็นคนละสระกับด้านบนนะคะ เท่าที่ดู ที่นี่ก็จะเป็นเขา ๆ เนิน ๆ ดินทรายแบบนี้แล้วมีสระน้ำแทรกตรงกลางอะค่ะ

ดู ๆ ไปก็สวยไปอีกแบบ แปลกตาดีนะคะ

DSC_6736

เดินวนครบจบเส้นทาง ก็เดินกลับลงมาที่เดิม ที่จุดทางขึ้นตอนแรกสุดค่ะ พอมองย้อนกลับไปก็จะมุมประมาณนี้

DSC_6743

ก็เป็นอันจบกับ Moon World ที่นี่ค่ะ

หากถามเคโกะว่าน่ามามั้ย สำหรับใครที่ชอบเดิน ชอบถ่ายรูปแนว landscape ก็น่าสนใจค่ะ ในเว็บการท่องเที่ยว (ที่เคโกะแปะลิ้งค์ไว้ให้ด้านบน) นั้นมีรูปตอนกลางคืนที่เค้าเปิดไฟด้วย ซึ่งดูแล้วสวยมาก ๆ เลยค่ะ แต่ก็นะ น่าจะต้องเช่ารถหรือเหมารถมาเองค่ะ ดึก ๆ ไม่น่าจะมีรถบัสรับส่งอยู่นะ ^^”

ถ้าโดยสารระบบขนส่งสาธารณะมา ไปกลับก็ใช้เวลานานอยู่ แต่เคโกะมีเพื่อนขับรถพามาแบบนี้ เวลาก็เลยเหลือเยอะแยะเลย แล้วเพื่อนก็เลยแนะนำสถานที่เที่ยวให้อีกที่นึง ซึ่งแต่เดิมเคโกะก็สนใจอยู่ แต่ติดเรื่องของเวลาและรถบัสที่จะนั่งไปค่ะ พอเพื่อนพาไปก็เข้าทางเลย ^^

ส่วนจะเป็นที่ไหนนั้น โพสต์หน้ามาติดตามกันนะคะ

ฝากเพจด้วยน้าาาาา
https://www.facebook.com/thisiskeigo/

[airbnb] Zuoying, Kaohsiung

สวัสดีค่ะ มารีวิวเป็นที่สุดท้ายที่พักในทริปไต้หวันเดือนมีนาฯ ที่ผ่านมาแล้วนะคะ เบ็ดเสร็จทริป 8 วัน ปาเข้าไป 5 ที่พักเลยค่ะ แหะๆ

แต่ว่าที่พักที่สุดท้ายนี้เคโกะพักหลายวันหน่อยค่ะ ให้สมกับอยู่เมืองใหญ่ที่สุดทางภาคใต้ของไต้หวันนะคะ

Hotel name : Yoi Furniture / Yoi 家具
Location : Zuoying, Kaohsiung, Taiwan
Room type : Double bed room, shared bathroom
Price : 2,777.95BHT
Booking via : airbnb.com
Person(s) : 1
Night(s) : 3, 10-13 March 2018

ถ้าติดตามเคโกะมาตลอด จะเห็นได้ว่าเคโกะมักจะเลือกโฮสเทลเป็นอันดับต้น ๆ นะคะ ซึ่งก็ไม่ใช่ว่าในเมืองเกาสงจะไม่มีโฮสเทลพักนะ มีเยอะเลยค่ะ แต่ว่าจะอยู่ที่โลเคชั่นอื่น แต่เคโกะต้องการโลเคชั่นในบริเวณสถานีจั่วอิงค่ะ และก็น่าแปลกว่าแถวจั่วอิงไม่มีโฮสเทลเลย ก็เลยต้องไปซบอก airbnb และได้ห้องพักแบบห้องสองคนมา .. มองไปอีกมุมนึง ก็ดีเหมือนกันนะคะ ก็ดูเป็นส่วนตัวดีอะ กว้างขวางดีด้วย สบายยยย~

เคโกะจองห้องพัก จ่ายเงินเสร็จสรรพ ก่อนที่จะเดินทางได้ไม่กี่วัน โฮสท์ก็ส่งข้อความมาบอกค่ะว่าจะขอเปลี่ยนห้องหน่อยได้ไหม คือ เค้าบอกว่าห้องที่เคโกะจองจะมีคนมาพัก ได้ยังไงก็ไม่รู้ล่ะ แต่เอาเป็นว่ามีคนมาพักค่ะ แล้วก็เสนอห้อง master room ให้เคโกะพักแทนเฉพาะแค่ 2 คืนแรกโดยไม่เพิ่มเงิน ส่วนคืนสุดท้ายก็พักห้องที่จองไปนั่นแหละ ซึ่งสองห้องนี้ก็อยู่ตึกเดียวกัน ห่างกัน 2 ชั้น เคโกะก็โอเคนะ คือก็ไม่ได้อะไรอะค่ะ ไม่ได้จุกจิกขนาดนั้นอะค่ะ 555

การเดินทางจากสถานี TRA/THSR Zuoying (จั่วอิง) ก็ใกล้มากค่ะ ประมาณ 5 นาทีเอง ซึ่งเคโกะมาถึงดึก ๆ หน่อย ก็ไม่มีปัญหาค่ะ โฮสท์เค้าจะแจกแจงวิธีมาห้องพัก, การเอากุญแจห้อง ฯลฯ อะไรไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งที่แปลกใจก็คือ มันเป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์ค่ะ

IMG_4992

แต่เฟอร์นิเจอร์ในร้านเค้า เคโกะดู ๆ แล้วชอบนะ ถูกจริตดีค่ะ งานจะเป็นงานดีไซน์อะค่ะ เน้นตกแต่ง เน้นดีไซน์มากกว่านะ เก๋ ๆ ดีค่ะ ^^

ชั้นล่างเป็นส่วนโชว์รูมเฟอร์นิเจอร์ที่เค้าขายอยู่ ก็เดินขึ้นไปเปลี่ยนรองเท้าเป็นรองเท้าแตะสำหรับเดินในบ้านที่หัวบันไดชั้น 2 ค่ะ ซึ่งชั้นนี้จะมีครัวเล็ก ๆ ด้วย แต่เคโกะไม่แน่ใจนะว่าใช้ได้มั้ย

IMG_4993

และห้องที่เค้าให้มาพักแทนใน 2 คืนแรกนั้น บอกได้เลยว่ามันสุดยอดจริง ๆ ค่ะ อารมณ์แบบห้อง master room ของบ้านฝรั่งเลยอะ เป็นห้องที่ใหญ่มากกกกกค่ะ มีห้องน้ำในตัว และที่เก๋กู๊ดไปกว่านั้นก็คือ ห้องน้ำในตัวนี่ไม่ได้เล็ก ๆ นะคะ ห้องน้ำก็ใหญ่มากกกกก เหมือนกันและมีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ในตัวด้วย!!

ตอนที่เห็นห้องแล้วแทบอยากกรี๊ดค่ะ ไม่อยากย้ายกลับไปนอนห้องที่จองไว้ในคืนสุดท้ายเลยจริงๆ ^^”

มามะ มาดูกันไปทีละส่วน

** อย่าลืมนะคะว่านี่เป็นห้องที่เค้าให้พักแทนห้องที่จองไว้ ราคาห้องจะไม่ใช่ที่เคโกะจ่ายไปนะคะ **

ห้องอยู่ชั้น 3 ค่ะ แทบจะเป็นทั้งชั้นเลย ใหญ่มากจริงๆ เปิดประตูห้องเข้ามา ทางขวามือก็คือส่วนที่นอน

เตียงคู่ หนานุ่ม นอนสบายดีค่ะ

DSC_6674

ข้าง ๆ ก็เป็นเก้าอี้นั่งเล่น และโต๊ะเขียนหนังสือ

DSC_6675

ตรงข้ามกับเตียง ก็จะเป็นทีวีและลิ้นชักเก็บของกระจุกกระจิก

ข้อดีอย่างนึงของห้องพักในร้านเฟอร์นิเจอร์ก็คือ จะมีเฟอร์นิเจอร์เก๋ ๆ ประดับห้องเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานที่เยอะมาก และทำให้องค์รวมของห้องดูเก๋ ไม่จำเจ และไม่น่าเบื่อดีค่ะ

DSC_6676

บนกำแพงห้องก็จะติดกติกาการเข้าพักในห้อง รวมถึงวิธีการใช้รีโมททีวีและแอร์ค่ะ เพราะรีโมททั้งสองอย่างนั้นจะคล้ายกับที่ญี่ปุ่นนะ คือ เป็นภาษาจีนทั้งหมดค่ะ คนต่างชาติที่ไม่รู้ภาษามาใช้ก็ต้องงง ๆ กันแน่ๆล่ะเนอะ

IMG_5006

ในลิ้นชักใต้ทีวี ก็มีไดร์เป่าผมให้ใช้วางไว้ตรงนี้ด้วย

IMG_5007

ไปดูห้องน้ำกันบ้างค่ะ จะอยู่ฝั่งซ้ายมือของประตูห้องค่ะ

เข้าห้องน้ำไปปุ๊บ ซ้ายมือเป็นโซนเปียกทั้งหมด มีกระจกกั้นมิดชิด น้ำไม่กระเซ็นค่ะ มีชั้นวางขวดต่าง ๆ เพียบพร้อมมาก และมีครีมอาบน้ำ แชมพูวางไว้ให้ใช้ด้วย ส่วนฝักบัวอาบน้ำก็มีให้เลือก 2 แบบ งง ๆ ไปอีกจ้าาา มีทำไมสองแบบ 555

DSC_6677

แล้วก็เป็นอ่างอาบน้ำค่ะ ไม่ธรรมดาจริง ๆ เลยค่ะ แช่ตัวพร้อมกันได้ 2 คนเลยนะ

DSC_6679

ส่วนอีกฝั่งนึงของห้อง ก็เป็นส่วนแห้ง อ่างล้างหน้าก็มี 2 อ่างค่ะ (รูปเก็บภาพได้ไม่หมดนะคะ)

DSC_6678

จัดว่าเป็นความดีงาม แทบไม่อยากย้ายห้องจริง ๆ ^^”

เอาล่ะ ต่อไปเป็นห้องที่จองมาที่แท้จริงค่ะ

ห้องที่จองไว้จะอยู่ชั้น 4 และแน่นอนว่า ไม่มีลิฟท์ค่ะ เดินแบกกระเป๋าวนไปค่ะ T^T

แต่ที่พิเศษไปกว่านั้น ไม่ใช่ชั้น 4 ธรรมดา เพราะเป็นการนับชั้นที่ชวนงงมาก จำได้มั้ยเอ่ย ห้องเมื่อกี้นี้เคโกะบอกว่าอยู่ชั้น 3 เนอะ แล้วห้องนี้อยู่เหนือขึ้นไปอีก 2 ชั้น ก็ต้องเป็นชั้น 5 สิ ทำไมเคโกะบอกชั้น 4?

โฮสต์บอกว่านี่เป็นห้องชั้น 4 ค่ะ เคโกะเดินขึ้นบันไดนับชั้นแล้วน่าจะชั้น 5 นะ เพราะเค้าไม่นับชั้นลอยค่ะ T.T

สรุป มันเป็นชั้น 5 ที่เบอร์ห้อง (และบนกุญแจห้องที่แปะเบอร์ติดไว้) เป็นชั้น 4 ค่ะ

ห้องนี้ก็จะเล็กลงมาประมาณ 1/3 ของห้องใหญ่ที่เคโกะพูดถึงไปเมื่อกี้ค่ะ และไม่มีห้องน้ำในตัว ต้องเดินลงมาชั้นนึงเพื่อเข้าห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันกับชั้นล่างชั้นนั้นค่ะ

ซึ่งบอกเลยว่า ตอนที่เคโกะเข้าพัก ชั้นที่อยู่ด้านล่างเคโกะที่ต้องเดินลงไปใช้ห้องน้ำกับเค้าน่ะ ชั้นนั้นมีห้องพักอีก 2 ห้อง ซึ่งเต็มหมด เป็นผู้ชายฉกรรจ์ล้วน ๆ ค่ะ และก็เสียงดัง โหวกเหวกโวยวายมาก .. รู้สึกน่ากลัวมากกกกกก T^T

ย่องลงไปอาบน้ำตอนค่ำนะ เค้าเปิดประตูห้อง คุยกันดังลั่น อารมณ์ผู้ชายตั้งวงกินเหล้ากันหน้าบ้านอะค่ะ (มองภาพออกเนอะ) แล้วเคโกะเป็นผู้หญิงคนเดียว เดินลงไปอาบน้ำอ่ะ … ฮืออออ โคตรน่ากลัววววววว ><~

วกกลับมาดูห้องกันเถอะ (เปลี่ยนอารมณ์ไวมั้ย 555)

ก็เป็นเตียงคู่กลางห้องเลยค่ะ นอนสบายดีเหมือนกัน

DSC_6899

ข้าง ๆ เตียงก็เป็นชั้นวางของกระจุกกระจิก โต๊ะเก้าอี้นั่งเล่น 1 ชุด

DSC_6900

ช้างเขียวๆ นั่นเก้าอี้ค่ะ ดีไซน์เก๋มากเลย

แล้วก็มีพัดลมด้วย? ตอนที่ไป อากาศก็ไม่หนาวแบบเปิดพัดลมแทนแอร์ได้นะ 555

DSC_6901

ส่วนตรงข้ามกับเตียง ก็ยังคงมีทีวีให้ดูอยู่ และมีโต๊ะเขียนหนังสือให้ด้วย

DSC_6903

เช่นเคย บนกำแพงมีแปะป้ายกติกาการเข้าพัก และแนะนำวิธีการใช้รีโมทต่าง ๆ ค่ะ

DSC_6902

ส่วนในลิ้นชักใต้ทีวีก็มีไดร์เป่าผม นี่ถ้าไม่ซน เปิดดูนู่นนี่นั่น ก็จะไม่รู้เลยนะ 555

DSC_6904

ครบถ้วนแล้วมาสรุปกับห้องนี้กันเลยค่ะ ซึ่งเคโกะจะพูดรวม ๆ เน้นไปในห้องที่เคโกะจองมานะ

  • โลเคชั่นเริ่ดมาก ถ้าต้องการห้องพักใน area นี้ค่ะ (ระแวกจั่วอิงนะคะ) เดินมาจากสถานีนิดเดียวเองอะ ใกล้มากจริง ๆ และรอบ ๆ มีมินิมาร์ท ร้านอาหารเยอะอยู่ค่ะ
  • โฮสต์คุยอังกฤษได้ดีเลยค่ะ แต่พอแอดไลน์ไว้คุยกันเผื่อบอกทางนู่นนี่นั่นอะค่ะ กลายเป็นจีนเฉยเลย ><
  • โฮสต์ก็น่ารักดีนะคะ ห้องพักไม่ว่างก็เอาห้องอื่นมาให้พักแทน ซึ่งราคาต่างกันก็ถือเป็นความผิดพลาดของเค้าเนอะ ก็ไม่ควรคิดเงินเพิ่มอะค่ะ แล้วก็คุยดีน่ารักมีมารยาทดีค่ะ ในวันที่เคโกะต้องเปลี่ยนห้อง เคโกะลืมไปว่าต้องคืนกุญแจห้องให้เค้าและเอากุญแจห้องใหม่มา เค้าก็ไลน์มาตามค่ะ เคโกะก็โอเคนะ คือเราโก๊ะเอง ก็เลยรีบวนกลับไปคืนกุญแจห้องให้เค้า เค้าก็ขอโทษใหญ่เลยว่าทำให้เราลำบากต้องวนไปวนมาไรงี้อะค่ะ ซึ่งจริง ๆ เคโกะว่า เราเองก็ผิด เค้าเองก็ไม่ได้แจ้งเตือนล่วงหน้าหรือบอกก่อนว่ากุญแจห้องใหม่อีกห้องอยู่ไหน จะได้เอาของย้ายไปวางไว้ก่อน ไรงี้
  • ห้องพักสะอาดสะอ้านมากกกกกค่ะ มีตู้น้ำดื่มให้กดด้วย ดีงามมาก ๆ
  • สิ่งที่ต้องคิดนิดนึง ไม่เชิงเป็นข้อเสียนะคะ ก็คือ ห้องอยู่ชั้นบนสุด ไม่มีลิฟท์นะคะ เพราะงั้นถ้ากระเป๋าหนัก ก็ต้องคำนึงนิดนึงอะค่ะว่าโอเคกับการแบกกระเป๋าขึ้นห้องมั้ย
  • ห้องพักไม่มีห้องน้ำในตัว เป็นห้องแบบ shared bathroom ค่ะ ซึ่งต้องเดินลงไป 1 ชั้น
  • เรื่องนี้เคโกะซวยเอง คือ ดันมาเจอคนเช่าห้องพักชั้นล่างที่ดูน่ากลัวค่ะ ผวาพอควรเลย แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่มีอะไรนะคะ เค้าก็ไม่ได้มาพูดจาแทะโลมหรือมีทีท่าลวนลามอะไรอะ แค่มอง ๆ เฉยๆ ค่ะ
  • ห้องพักมีไวไฟให้ใช้ทุกห้องค่ะ และเน็ตแรงเร็วดีเลยค่ะ
  • การเช็คอิน-เช็คเอาท์เป็นแบบทำด้วยตัวเองนะคะ เคโกะว่าสะดวกดีนะ (ซึ่งขั้นตอนต่าง ๆ พวกนี้ โฮสต์จะบอกเราล่วงหน้าก่อนเดินทาง และจะย้ำอีกรอบนึงล่วงหน้า 1 วันก่อนเข้าพักค่ะ)
  • โฮสต์ response ไวมากค่ะ ถามไปแป๊บเดียวก็ตอบกลับมาเลยค่ะ

เป็นห้องพักห้องนึงที่เคโกะชอบมากนะ แนะนำเลยค่ะ และถ้ามีงบค่าห้องเยอะ เอาห้องใหญ่ไปเลยค่าาาาาา เอาให้สุดนะ เพราะมันสบายมากจริงๆ ^^ แต่ถ้าอยากประหยัดแบบเคโกะ ห้องที่เคโกะพักก็ดีแล้วค่ะ

ฝากเพจแปะปิดท้ายโพสต์ค่ะ
https://www.facebook.com/thisiskeigo/