American Mura & Donki Ferris Wheel, Osaka

สวัสดีค่ะ โพสต์นี้มารวบ 2 ที่เที่ยวในเมืองโอซากะ เล่าในโพสต์เดียวกันเลยนะคะ จริง ๆ ตอนที่แพลนไว้ เคโกะว่ามันน่าสนใจอะ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ แล้วดูไม่ค่อยจะน่าสนใจกันเลย ><~

Spot name : American Mura / หมู่บ้านอเมริกา
Location : Osaka (เหมือนไม่ช่วยเนอะ 555) คือมันเป็นย่านที่กินบริเวณพอสมควรอยู่ค่ะ ไปได้หลายทาง
Access : ตามนี้เลยนะคะ
– สถานี Shinsaibashi Exit14 เดิน 7 นาที
– สถานี Yotsubashi เดิน 3 นาที
– ลงสถานี Namba เดิน 7 นาที
– สถานี Osaka namba เดิน 7 นาที
– สถานี JR Namba เดิน 8 นาที
Opening hours : n/a
Website : http://americamura.jp/en/index.php
Visited date : 20 Jan 2018

พวกเราใช้วิธีดร็อปจุดในกูเกิ้ลแม็พเอา แล้วก็เดินตามทางค่ะ ระหว่างทางเดินไป ก็ฝ่าดงย่าน Namba ย่านช้อปปิ้งสุดโปรดของเพื่อนคนนึงในกลุ่มไป แล้วก็เดินผ่านร้านครัวซองส์ที่เพื่อนว่าร้านนี้ดังและอร่อย ก็จัดไปค่ะ

IMG_4048

โดยส่วนตัวเคโกะนะ ถ้าไม่ใช่ครัวซองส์ที่ประยุกต์เป็นแบบใส่ไส้แล้ว มันเฉย ๆ มากค่ะ

ชิมขนมกันเสร็จแล้วก็เดินต่อไป จุดแรกที่เจอก็คือลานวงกลมตรงนี้ ดูเหมือนเป็นจุดนัดพบกันของหนุ่มสาว แล้วก็ที่นั่งเม้าท์มอยอะไรงี้อะค่ะ

DSC_5824

ย่านนี้ถือเป็นย่านช้อปปิ้งย่านนึงเลยค่ะ แต่ด้วยความที่ชื่อย่านนี้ก็คือหมู่บ้านอเมริกา (แปลตรงตัวมาจากชื่อภาษาญี่ปุ่น) เพราะฉะนั้นสินค้าส่วนใหญ่ก็จะไม่ได้ดูเป็นญี่ปุ่นจ๋าเท่าไหร่ จะออกแนวโมเดิร์น ๆ อาร์ตๆ อะไรงี้มากกว่านะคะ ซึ่งก็รวมไปถึงสีสันตามท้องถนนสองข้างทางด้วยที่ดูจะผิดแผกไปจากญี่ปุ่นสไตล์อยู่พอดูทีเดียว

DSC_5825

ร้านหนึ่งในที่เค้าแนะนำ ๆ ก็คือ Alice on Wednesday เป็นร้านที่เพนท์กำแพงสวยดี ตอนที่ไปก็มีการต่อคิวหน้าร้านด้วย .. เอาน่ะ น่าจะน่าสนใจนะ

จะมีพนง.ร้านอยู่หน้าร้านคอยต้อนรับอยู่ แล้วก็จะให้เข้าไปในร้านครั้งนึงไม่กี่คนค่ะ เข้าใจว่าร้านแคบและเล็ก เลยไม่อยากให้แออัดไปล่ะนะคะ

DSC_5829

ในร้านก็เป็นของจุ๊กจิ๊กน่ารัก ๆ ค่ะ ราคาก็พอใช้ได้เลย ไม่แพงเวอร์เกินไปค่ะ

อย่างที่บอก เป็นย่านช้อปปิ้งที่กลุ่มเราดูจะไม่ค่อยสนใจกันเท่าไหร่ เดินกันอยู่แป๊บ ๆ เราก็ไปต่อกันที่ของตายของคนไทยอย่างร้านดองกิโฮเต้ หรือ ดองกี้ที่คนไทยรู้จักกันดีค่ะ

วันที่เราไปนั้น ตัวชิงช้าสวรรค์ที่อยู่ด้านบนของร้านดองกี้ นัมบะนั้นเพิ่งเปิดได้สองสามวันเอง สนนราคาการขึ้นชมก็แค่ 600 เยนเท่านั้น ก็เลยจัดไปค่ะ

ก่อนจะนั่งชิงช้าสวรรค์ พนง.จะแจกซองพลาสติกใสสำหรับใส่มือถือให้คล้องคอด้วย ตัวชิงช้าสวรรค์เองก็ดูไม่ค่อยจะปลอดภัยเท่าไหร่ คือเป็นที่นั่งโล่ง ๆ เลยค่ะ แล้วจะหมุนตัวไปหันหน้าเข้าหากับผนังกระจกที่ให้เรานั่งดูวิวได้

จริง ๆ ก็ปลอดภัยแหละ แต่ก็แอบมีความรู้สึกนิดนึงว่ามันก็โล่ง ๆ อะ ><~

ดูวิวมุมสูงกันค่ะ

DSC_5840

มองลงไปข้างล่างบ้าง สูงอยู่น้าาาาา

DSC_5841

มีเป็นคลิปสั้น ๆ มาให้ดูด้วยค่ะ ในคลิปยังไม่ขึ้นถึงจุดสูงสุดแบบในรูปข้างบนนะคะ

 

จากนั้นพวกเราก็มานั่งจุมปุ๊กหนีหนาวอยู่ในร้านใกล้ ๆ กันนั้นร้านนึง ก็สั่งเค้กมาชิมกันค่ะ ซึ่งพวกเราไม่แน่ใจว่าสื่อสารกันไม่เข้าใจหรือยังไง เพราะสุดท้ายแล้วออเดอร์พวกเราได้ไม่ครบค่ะ

หน้าเคาน์เตอร์มีดิสเพลย์ราเม็งลอยได้แบบนี้ เก๋ดีอ่า

IMG_4058

เค้กชิ้นเล็ก ๆ 2 ชิ้น เนื้อเค้กจะหนัก ๆ หน่อย คล้าย ๆ พวกบัตเตอร์เค้กค่ะ แต่ชาเขียวอร่อย

IMG_4060

แล้วอีก 2 เมนูก็เป็นไอศกรีม .. มานั่งในร้านอุ่น ๆ แก้หนาว แต่กินไอศกรีมเพื่ออออออ …?

IMG_4061

ไอศกรีมเค้าตกแต่งสวยอยู่ รสชาติก็ปกติค่ะ ทั่ว ๆ ไปไม่ได้โดดเด่นหรือว้าวอะไรเลย

IMG_4062.jpg

อย่างที่ว่า ไม่รู้พวกเราสื่อสารกับพนง.ไม่เข้าใจหรืออย่างไร ออเดอร์ไม่ครบค่ะ รอจนเพื่อนเซ็ง ก็เลยไปเช็คบิลดีกว่า ถึงได้รู้ว่าที่สั่งไปอีกอย่างนึงนั้นหายไปแล้ว รอไปก็ไม่มาอะค่ะ  – -”

ก็ปิดท้ายโพสต์นี้ด้วยความเฟล ๆ เล็กน้อย ไว้กลับมาติดตามกันโพสต์หน้านะคะ แฮปปี้กันถ้วนหน้าละ (มั้ง ^^”)

ระหว่างนี้ ฝากเพจกันไว้ แวะไปทักทายพูดคุยกันได้ค่ะ >> https://www.facebook.com/thisiskeigo/

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.