Osaka w 1-day Amazing Pass

สวัสดีค่ะ กลับมาเขียนต่อได้ซะที ทั้ง ๆ ที่ก็ตั้งใจจะเขียนรัว ๆ ซะหน่อย ก่อนที่จะกลายเป็นหน้าหนาวอีกรอบ (ฮาาาา) .. เอ๊ะ หรือรอให้หน้าหนาวอีกรอบดีคะ จะได้เนียน (ฮาาาา)

จริง ๆ แล้วโอซากะนี่เคโกะเคยไปแล้วรอบนึง แต่ครั้งนี้มาอีกรอบกับคนร่วมทางกลุ่มใหม่ ก็เลยจำเป็นต้องไปซ้ำอีกรอบอะนะคะ แต่ก็แอบเลือกที่ที่จะไป (และใช้พาสได้) ที่ไม่ซ้ำจากเดิม ยกเว้นที่ที่เคโกะเห็นว่า เออ มันดีจริง น่าไปแหละ อะไรงี้นะคะ

รีวิวเก่า ยังอยู่ที่บ้านบล็อกแกงค์หลังเดิมค่ะ คลิกอ่านได้ที่นี่นะคะ

Location : Osaka
Pass : Osaka Amazing Pass 1-day
Visited date : 21 Jan 2018

ตอนแรกเคโกะวางโปรแกรมไว้ค่อนข้างจะซ้ำรอยในทริปก่อนเลย คือเริ่มต้นด้วยการไปทานซุชิเอนโด แต่พอไปหาข้อมูลเพิ่มเติม ปรากฏว่าร้านปิดวันอาทิตย์ค่ะ (อดกันไปตามระเบียบ – -” ) เราก็เลยมาเริ่มสตาร์ทการใช้พาสของเราที่ปราสาทโอซากะ หรือ โอซากะโจ (Osaka Castle)

การเดินทาง ใช้ subway ไปลงสถานี Tanimachi 4-chome exit 1B, 9 หรือสถานี Morinomiya exit 1, 3B หรือสถานี Osaka Business Park exit 2 หรือสถานี Temmabashi exit 3 หรือสถานี Keihan Temmabashi ก็ได้ค่ะ

เพราะเป็นบริเวณที่กว้างขวางและใหญ่มาก เลยจะอยู่กึ่ง ๆ ระหว่างสถานีต่าง ๆ ก็เลือกเอาตามเส้นทางที่เราสะดวกไปและกลับแล้วกันนะคะ ^^”

ตัวเคโกะเอง เลือกลงสถานี Tanimachi 4-chome แล้วออก exit 9 ค่ะ

IMG_4069

** คำว่า chome นั้นเป็นภาษาญี่ปุ่น อ่านออกเสียงได้ประมาณว่า โจ-เหมะ ค่ะ เอาไว้ใช้เวลาฟังชื่อสถานีเนอะ ^^”

เดินไปซักอึดใจนึงก็ถึงบริเวณปราสาทโอซากะค่ะ ภายนอกก็จะเป็นกำแพงสูง ล้อมรอบไปด้วยคูน้ำแบบนี้ … มากี่รอบ เคโกะก็ยังคงถ่ายรูปวิวเดิมๆ  อยู่เหมือนเดิมเลย – -”

DSC_5865

เดินเข้าไปด้านในตามทาง ก็จะพบกับปราสาทที่ตั้งโดดเด่นเป็นสง่าค่ะ ถ้ามาฤดูดอกซากุระบาน เคโกะว่าน่าจะสวยมาก ๆ ค่ะ

DSC_5890

จะเข้าไปชมด้านใน ก็เสียสตางค์นิดหน่อย แต่ถ้าถือบัตร Osaka Amazing Pass แบบเคโกะแล้ว ยื่นบัตรให้พนักงานสแกนบัตร แล้วก็ผ่านเข้าไปด้านในได้เลยโดยไม่ต้องเสียเงินค่ะ

ด้านในก็จะเป็นประวัติความเป็นมาของปราสาทหลังนี้ รวมไปถึงเจ้าของปราสาทด้วยค่ะ ซึ่งห้ามถ่ายรูปด้านในนะคะ ช่วงที่เคโกะไป มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นมาก โดยปกติจะขึ้นลิฟท์เพื่อขึ้นชั้นบนสุด แล้วค่อย ๆ ดูการจัดแสดงวนลงมาชั้นล่างค่ะ แต่ว่าเพราะคนเยอะ พวกเราก็เลยเดินขึ้นบันไดแทน เดินวนดูทีละชั้นแล้วค่อยขึ้นชั้นบน ก็จะไม่ค่อยเรียงลำดับเท่าไหร่ แต่พวกเราก็ไม่ค่อยอินกันอยู่แล้ว (555)

จากนั้นพวกเราก็มาเบรคหาอะไรกินเล่นกันบริเวณด้านหน้าทางเข้าปราสาทค่ะ ซึ่งจะมีซุ้มขายอาหารเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่

อากาศหนาว ๆ ก็จัดซอฟท์ครีมไปสิคะ เข้ากับอากาศสุด ๆ เลยล่ะ

IMG_4076

จากนั้นเราก็เดินออกอีกทางนึงค่ะ คือไปทางสถานี Morinomiya เพื่อจะนั่งรถไฟไปสถานี Osaka Business Park ด้านหน้าของทางเข้าจากสถานี Morinomiya ก็มีรถไฟแบบนี้ด้วย น่าจะรับส่งถึงปราสาทล่ะค่ะ

DSC_5893

จากนั้นก็นั่งรถไฟไปต่ออีก 1 สถานีค่ะ เพื่อไปขึ้นเรือ Aqua-liner ออกจากสถานีมาแล้วก็เดินไปทางซ้ายค่ะ จะเห็นสะพานข้ามแม่น้ำยาว ๆ แบบนี้อยู่ตรงหน้า ก็ข้ามสะพานไปเลยค่ะ ตัวท่าเรือจะอยู่ด้านซ้ายมือค่ะ

DSC_5895

แล้วเราก็ต้องเข้าไปจองเวลาขึ้นเรือก่อน ใช้พาสตัวนี้ก็นั่งฟรีค่ะ มีให้เลือก 3 แบบ ถ้าจำไม่ผิดจะมีแบบ 20, 30 และ 60 นาที ก็ขึ้นอยู่กับระยะทางค่ะ ว่าไปไกลใกล้แค่ไหน แต่พวกเราเลือกแบบสั้น ๆ พอ เอาบรรยากาศค่ะ ฮาาาา

หน้าตาตั๋วที่เค้าจะให้มานะคะ มีสแตมป์เวลาให้เรียบร้อย ซึ่งแนะนำว่าต้องดูเวลาให้ดี ๆ ค่ะ ให้ตรงกับที่เราต้องการ (พนง.จะบอกก่อนว่ามีรอบไหนบ้าง) ไม่งั้นจะขึ้นเรือไม่ได้ค่ะ

IMG_4085

บนตั๋วเรือจะระบุที่นั่งไว้เสร็จสรรพเรียบร้อย ซึ่งเราก็ต้องไปนั่งตามที่ที่ระบุไว้ค่ะ ตัวเรือเป็นกระจกใส สามารถมองทะลุภายนอกได้ คือดีงาม แล้วเราก็นั่งเรือกรี๊ดกร๊าด ถ่ายรูปกันประมาณนึง ก็ถึงท่าเรือที่เราต้องขึ้นแล้วค่ะ

จากนั้นเราก็กระดึ๊บนั่งรถไฟต่อไปยังสถานี Osakako เพื่อมาที่ห้าง Tempozan Market Place ค่ะ ด้านหน้าห้างมีโปรโมทเลโก้แลนด์นิดหน่อย เข้าใจว่าเพิ่งทำเสร็จได้ซักพักนะคะ ในพาสเองก็เพิ่งรวมเข้ามาในปีนี้เองด้วยค่ะ สามารถใช้พาสเข้าได้ฟรีเลย

DSC_5908

สำหรับที่นี่ นอกจากพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Osaka Aquarium Kaiyukan แล้ว ที่เด่น ๆ อีกอย่างก็คือ Tempozan Ferris Wheel ค่ะ เห็นจากระยะไกลเลยล่ะค่ะ

DSC_5912

ตอนที่ไป ด้านหน้าก็ยังมีประดับไฟอยู่นะคะ รอให้มืดอีกนิด ไฟจะสวยมากเลยค่ะ ตอนที่พวกเรากลับลงมาก็แวะถ่ายรูปเล่นกันอีกพักใหญ่เลยล่ะค่ะ

DSC_5914

แล้วเราก็เข้าไปด้านในห้างกัน ตั้งใจมา Legoland แต่ปรากฏว่าอนุญาตให้เข้าได้เฉพาะเด็ก หรือมีเด็กไปด้วยค่ะ ถ้ามีแต่ผู้ใหญ่ ไม่ให้เข้าเลย อดกันไป

IMG_4092

แล้วพวกเราก็เลยเดินไปต่อคิวขึ้น Ferris Wheel กันแทนค่ะ เลือกได้ว่าเอาแบบพื้นกระจก หรือพื้นธรรมดา ซึ่งไหน ๆ ก็มากันทั้งทีแล้ว เลยเลือกแบบพื้นกระจก ซึ่งคิวจะนานกว่า ก็รอ ๆ ไปค่ะ

ได้ดูวิวทะเลมุมสูงล่ะค่ะ แล้วมาในตอนเย็นแบบนี้ ก็สวยไปอีกแบบนะคะ

DSC_5922

เห็นสะพานแดงไกลๆ ด้วย

DSC_5936

เสร็จสรรพเราก็เดินออกจากห้างค่ะ เดินผ่านร้านเครปใกล้ ๆ ระหว่างทางที่เดินกลับไปสถานีรถไฟนั่นแหละ ก็เลยชวนแวะนั่งกินขนมเล่นกันอีก ^^”

หน้าร้านไม่ได้ถ่ายมา แต่เจ้าของร้านเป็นคุณป้าใจดีน่ารักมากเลยค่ะ

บริเวณเคาน์เตอร์ร้านนะคะ

IMG_4097

เราสั่งเครปกันไป 2 อย่างกับเครื่องดื่ม 2 แก้ว ครบจำนวนคนพอดีค่ะ ^^”

เครปชิ้นแรกเป็นเครปสตรอเบอรี่ค่ะ

DSC_5963

อีกอันเป็นเครปอะไรไม่รู้ววว ><~ น่าจะเป็นเพลนเครปใส่ไซรัปค่ะ

DSC_5965

เนื้อเครปนิ่มอร่อยดีนะคะ ส่วนเครื่องดื่ม (ที่ไม่ได้ลงรูป) ก็โอเค ตามมาตรฐานญี่ปุ่นค่ะ

กินกันเสร็จ ก็ออกจากร้าน แล้วก็ไปสะดุดกับร้านที่ขายของ One Piece เข้า ก็แวะกันไปอีกเพราะในกลุ่มมีคนที่ชอบการ์ตูนเรื่องนี้มาก ๆ อยู่ค่ะ

IMG_4100

จากนั้นเราก็นั่งรถไฟต่อไปที่สถานี Umeda ค่ะ วนขึ้นไปชั้นบนสุด ๆ เลย จะมีของฟรีที่สนุกอยู่ ก็คือ Umeda Joypolis Wild River ค่ะ ซึ่งใช้พาสก็เข้าฟรีเลยค่ะ แล้วปิดดึกด้วย พวกเราก็เลยมากันในเวลาค่ำมืดแบบนี้ค่ะ

IMG_4101

ลักษณะก็จะเป็นคล้ายๆ หนัง 4 มิติล่ะค่ะ สนุกไปอีกแบบ ก็ถ้าใช้พาสนี้อยู่แล้ว แนะนำว่าแม้คิวจะยาวไปสักหน่อย แต่ก็ไม่ควรพลาดค่ะ ^^

ปิดท้ายการใช้พาสนี้ด้วย Umeda Sky Building Floating Garden Observatory ค่ะ ซึ่งเดินออกไปจากสถานีไกลสักหน่อย แต่เราก็เดินค่ะ (555) ซึ่งมีค่าเข้าเช่นกัน แต่ถ้าถือพาสใบนี้ก็เข้าฟรีได้เลยค่ะ

หน้าตาตั๋วนะคะ

IMG_4103

แล้วก็ออกไปโต้ลมหนาวดูวิวกลางคืนที่ด้านนอก ชั้นที่เค้าให้เข้าไปดูวิวได้ค่ะ

DSC_5974

ตอนขาขึ้นและขาลงนั้น ใช้ทางคนละทางกันค่ะ แต่สุดท้ายแล้วก็จะมาบรรจบที่เดียวกัน ซึ่งขาลงนั้นเป็นบันไดเลื่อนที่ยาวมาก ๆ เลยค่ะ

 

จริง ๆ ในแพลนแล้วเนี่ย ยังมีที่ที่อยากไปอีกสองสามแห่งค่ะ แต่ว่าเวลาเราไม่พอจริง ๆ ก็เลยได้ไปเท่านี้เองนะคะ ก็นำเสนอเป็นทางเลือกเนอะว่าที่ไหนที่เหมาะที่น่าไปบ้างอะค่ะ ^^

เจอกันในโพสต์หน้านะคะ ระหว่างนี้แวะไปพูดคุยกันที่เพจกันก่อนได้ค่ะ ^^”

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.