ดึงกลับมาที่ไต้หวันหน่อยนะคะ ^^” ในระหว่างที่มีเรื่องเล่าดองไว้เยอะแบบนี้ ก็จะสลับไปสลับมาหน่อยเนอะ แหะๆ
ในโพสต์นี้เป็นการไปเที่ยวที่เมือง Changhua (จางฮว่า) ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ติดกับ Taichung หรือไถจง แบบ 1-day trip ค่ะ โดยใช้การเดินทางคือรถบัสเป็นหลัก
รถบัสที่เคโกะพูดถึงก็คือ รถบัส 好行 ค่ะ ซึ่งเป็นรถบัสผ่านตามจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ในแต่ละเส้นทาง ซึ่งมีหลายเส้นทางทั่วทั้งไต้หวันเลย ก็สะดวกดีสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างเรา ๆ ค่ะ
ในเมือง Changhua นี้ มีที่ท่องเที่ยวเด่นมาก ๆ 1 ในนั้นคือถนนโบราณสายลู่ก่าง (Lugang) ค่ะ เคโกะก็เลยปักหมุดไปที่นี่แหละ แล้วก็มาดูว่าเส้นทางของรถบัสนั้นผ่านอะไรบ้างและมีอะไรน่าสนใจเพิ่มอีก
วันนั้นเป็นวันที่ลมแรงมาก ๆ ค่ะ หิ้วกล้องไปแต่ก็ไม่ได้ใช้เลย เพราะงั้นรูปทั้งหมดในโพสต์นี้มาจากมือถือหมดเลยนะคะ ^^”
เคโกะเริ่มต้นที่สถานีรถไฟ Changhua เพราะทิ้งกระเป๋าไว้ที่นั่นค่ะ (ย้ายเมืองที่จะพักจากไถหนาน ไปพักที่ไถจง แต่จะแวะจางฮว่าในวันนี้ก่อน ค่อยไปไถจงเข้าที่พักในตอนเย็นค่ะ)
รถบัสสายนี้ถ้าจำไม่ผิด ไม่มีตั๋วแบบ 1-day pass นะคะ (คือไม่ได้จดไว้อะ เลยคิดว่าไม่มีค่ะ) แค่เริ่มต้นก็สนุกสนานแล้วค่ะ เพราะป้ายแรกที่เคโกะลงนั้น ไม่มีใครลงด้วยเลยยยยยยย แถมคนขับก็ถามย้ำด้วยนะ ว่าลงตรงนี้เหรอ T.T
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8858.jpg)
ดูกันออกมั้ยคะว่าคือที่ไหน
ที่นี่ก็คือ Brand’s Health Museum ค่ะ แบรนด์ที่ว่านี้ก็คือเครื่องดื่มซุปไก่สกัดแบรนด์ รังนกแบรนด์อะไรนั่นแหละค่ะ ^^”
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8859.jpg)
ด้านในเค้าไม่ให้ถ่ายรูป ก็เลยไม่มีรูปมาฝากนะคะ ขอเล่าคร่าว ๆ แล้วกันเนาะ
- เป็นพิพิธภัณฑ์ของแบรนด์ที่เล่าถึงประวัติความเป็นมา มีพาเดินชมไลน์การผลิตประมาณ 3-4 จุดด้วย
- มีตัวอย่างให้ทดลองชิม และสามารถซื้อกลับไปได้ (ไม่ทราบเรื่องราคาค่ะว่าถูกกว่าซื้อข้างนอกมั้ยนะ)
- มีกิจกรรมให้เล่น ให้ร่วมสนุกเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก ๆ ที่เล่นกัน
- ประมาณ 90% จะไปกันเป็นครอบครัวค่ะ พ่อแม่ หรือปู่ย่าตายาย จูงมือลูกหลานตัวเล็ก ๆ มาดู มาชมกัน คนวัยหนุ่มสาวน้อยมาก ยิ่งคนต่างชาติด้วยแล้ว ไม่มีเลยค่ะ เคโกะหลงมาคนเดียวเลย T.T
- ก่อนเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ก็ต้องลงทะเบียนด้านหน้าก่อน ซึ่งฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
- ในช่วงที่เค้าพรีเซนต์ผลิตภัณฑ์ของเค้า เค้าเน้นย้ำว่ารังนกที่ผลิตนั้นเป็นสินค้านำเข้า โดยเก็บรังนกมาจากประเทศไทยทั้งหมดเลย (นี่อยากยืดตัวมาก ประเทศเก๊าเองงงง ><“) — แต่ก็แอบสงสัยอยู่ดีว่ามีมากพอส่งออกไปให้ทั่วโลกขนาดนั้นเลยเหรอคะเนี่ย?
- การบรรยาย เกม และกิจกรรมทุกอย่างในมิวเซียมนี้เป็นภาษาจีนทั้งหมดค่ะ
เดินดูอยู่พักนึง ก็ไปต่อค่ะ ตอนแรกตั้งใจจะนั่งรถบัสไป แต่ลมแรงมากกกกกก ทำให้อากาศหนาวขึ้นแม้ว่าแดดจะแรงก็ตาม ประกอบกับเปิดกูเกิ้ลแม็พดูแล้วเห็นว่าไม่ไกล ก็เลยเดินไปค่ะ ><~ (เอะใจจากตารางเวลารถบัสก่อนนะว่าใช้เวลา 1-2 นาทีเองเหรอ น่าจะใกล้นะ อะไรงี้ค่ะ)
ที่ที่สองที่มาดูก็คือโรงงานริบบิ้นค่ะ มี Ribbon Museum ให้ดู เค้าเคลมว่าเป็นที่แรกในเอเชียด้วย ก็เลยแบบ มาดูหน่อยก็ได้ฟะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8861.jpg)
ตรงทางเข้า จะมีคุณลุงคอยโบกรถและแจกริบบิ้นให้ 2 เส้น/คนค่ะ ส่วนเคโกะเดินมาอย่างเก้ ๆ กัง ๆ คุณลุงก็โบกแล้วแจกริบบิ้นให้มา 2 เส้นด้วยเช่นกัน
ทางเข้าทำได้น่ารัก น่าถ่ายรูปเล่นดีค่ะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8862.jpg)
เดิน ๆ ไปหาทางเข้ามิวเซียม
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8865.jpg)
เข้ามาถึงหน้าประตู เป็นที่เดียวที่มีภาษาอังกฤษด้วย และโปรโมทว่าเป็นที่แรกในเอเชีย อย่างที่บอกไปค่ะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8868.jpg)
พอมาถึงเคาน์เตอร์ต้อนรับ พนง.ก็จะให้ทุกคนใช้ริบบิ้นสีแดงที่ได้รับแจกมาจากหน้าประตู มาทำเป็นดอกไม้ริบบิ้นแบบง่ายสุด ๆ ก่อนเข้าด้านในค่ะ
ก็เป็นกิมมิคน่ารัก ๆ ดี (ไม่มีรูปให้ดูค่ะ เพราะทักษะงานฝีมือของเคโกะห่วยมากเลย T.T)
ด้านในก็จะมีผลิตภัณฑ์ริบบิ้นทุกแบบทุกลายทุกสีให้เลือกละลานตามากกกกกกกกกกค่ะ ใครที่ชอบงานฝีมือ ชอบงานริบบิ้น ต้องกรี๊ดแน่ ๆ ค่ะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8870.jpg)
ด้านใน มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกเช่นเคย ซึ่งก็เช่นเดียวกันว่าจะเป็นเด็ก ๆ ซะส่วนมากค่ะที่ไปเล่นร่วมสนุกกัน
ก็อยากเล่นด้วยนะ แต่อายเด็ก อายภาษาตัวเองอีก ง่อนแง่นมาก T.T
ตบท้ายก่อนออกจากมิวเซียมด้วยการทำโบว์จากริบบิ้น DIY ค่ะ เค้าจะมีวิธีทำให้ดู พร้อมทั้งอุปกรณ์ และถังสีที่เราสามารถจุ่มเพื่อทำลวดลายบนริบบิ้นสีขาวที่ได้รับแจกมาตอนต้นอีกเส้นได้ตามใจชอบเลย
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8873.jpg)
ต่อไปที่โรงงานสุดท้ายแล้ว คือโรงงานแก้วและกระจกที่มีมิวเซียมด้านใน และเป็นป้ายรถบัสสุดท้ายของรถบัสสายนี้ค่ะ แต่เคโกะเดินไปนะ เพราะก็ไม่ได้ไกลจากโรงงานเมื่อกี้นี้ค่ะ
เดินเด๋อ ๆ เข้ามา เจอวัดใหญ่ ๆ ก่อน ก็งงนิดนึงว่า เอ๊~ ลายแทงชั้นเป็นโรงงานนะ ไม่ใช่วัด
แต่ก็เข้าไปวนซะ 1 รอบค่ะ ><“
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8881.jpg)
แล้วก็เดินเข้ามาในตัวโรงงาน ก็โชว์สินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์จากแก้วหลากหลายชนิดมากค่ะ เลือกซื้อเลือกหาได้ตามใจชอบเลย
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8882.jpg)
ที่นี่จะมี 3 กิจกรรมที่น่าสนใจค่ะ
สิ่งแรกคือ ห้องเป่าแก้ว แบบ DIY (ราคาแตกต่างกันตามรูปแบบที่เลือก) จริง ๆ เคโกะสนใจเป่าแก้วนะ แต่คิดถึงแผนเที่ยวของตัวเอง ก็วิตกว่าจะทำแตกขึ้นมาค่ะ เลยขอผ่านดีกว่า T.T
สิ่งที่ 2 ก็คือ ห้องกระจก 360 องศา มีค่าเข้า 100NTD ค่ะ เค้าจะมีถุงมือ ถุงเท้าให้ อันนี้เคโกะก็สนใจ แต่มาคนเดียวไง มันต้องไปกันหลาย ๆ คนมั้ยอะถึงจะสนุก .. ก็อดไปอีกค่ะ T.T
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8886.jpg)
สิ่งสุดท้ายก็คือมิวเซียม (อีกแล้ว 555) ค่ะ ซึ่งจริง ๆ ก็คือประวัติความเป็นมาของโรงงานผลิตแก้วแห่งนี้แหละ แต่ก็จะเล่าถึงกระบวนการ วิธีการผลิตแก้วแบบต่าง ๆ ลงลึงไปถึงระดับเทคนิคด้วยค่ะ คือ ถ้าคนเรียนมาสายนี้ ควรมาดูนะ เคโกะว่าน่าจะได้ความรู้กลับไปบ้างค่ะ ^^”
ตัวมิวเซียมอยู่ชั้น 2 จะมีพนง.เช็คอยู่ก่อนทางขึ้น (เช็คนี่คือ เช็คว่าไม่มีอาหารและเครื่องดื่มถือขึ้นไปค่ะ)
ตัวนิทรรศการต่าง ๆ เคโกะไม่ได้ถ่ายรูปมานะ เพราะไม่ค่อยมีความรู้ในเชิงเทคนิคของแก้วและสายการผลิตค่ะ T.T
ทางเดินช่วงนึงเป็นพื้นกระจกด้วย เข้าใจว่าอธิบายถึงลักษณะของทรายที่นำทาผลิตเป็นแก้ว/กระจกนะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8889.jpg)
จากนั้นก็เดินไปรอรถบัส นั่งรถย้อนกลับมาลงที่จุดไฮไลท์ของเส้นทางสายลู่ก่างค่ะ ซึ่งก็คือถนนสายโบราณลู่ก่างนั่นเองงงงงง
ป้ายรถเมล์ที่ลง จะเป็นจุดท่ารถด้วย และถนนสายลู่ก่าง ก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้ค่ะ ต้องเดินไปอีกประมาณ 10-15 นาที มีแผนที่แปะให้ดูที่ป้ายรถเมล์ด้วยนะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8895.jpg)
เดินมาถึงแล้วก็คราคร่ำไปด้วยผู้คนค่ะ แม้จะบ่ายแล้วก็ตาม เดินไหลตามผู้คนโลดเลยค่ะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8897.jpg)
ตลอดถนนเส้นทางนี้ก็จะมีวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบเก่าดูขลังให้เข้าไปกราบไหว้ด้วย (เคโกะผ่านค่ะ แหะๆ)
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8900.jpg)
แล้วก็ตึกรามบ้านช่องสไตล์โบราณเลย ถ้าคนน้อยก็น่าจะถ่ายรูปกันได้เพลิน ๆ ค่ะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8909.jpg)
บนถนนเส้นนี้ซึ่งจริง ๆ แล้วยาว มีหลายแยกไปอีก ก็จะมีร้านค้าหลากหลายประเภทค่ะ ทั้งของอุปโภค บริโภค มีเกมเหมือนเกมงานวัดด้วยนะ มีงานฝีมือแบบแฮนด์เมดด้วย ถ้าชอบอะไรแนวนี้ก็น่าสนใจทีเดียวค่ะ
ของกินก็เยอะค่ะ ทั้งแบบร้านเข้าไปนั่งทาน กับแบบของกินเล่นที่เดินไปกินไปด้วยได้
สิ่งแรกที่โดนเลยคือเห็ดออรินจิทอด ดูธรรมดา แต่อร่อยมากกกกกอะ สนนราคา 50 NTD ค่ะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8902.jpg)
สิ่งที่โดนถัดไปก็คือขนม???? (คนไทยเรียกว่าอะไรคะ ก่อนหน้านี้ที่ไปกับเพื่อน เพื่อนก็ถามเหมือนกันว่าคนไทยเรียกว่าอะไร เคโกะก็นึกอยู่นานก็นึกไม่ออกอะ 5555) คนจีนเรียกว่า 车轮饼 (แปลตรงตัวก็คือ ขนมล้อรถค่ะ) เคโกะซื้อมา 2 ไส้ ช็อคโกแลตกับข้าวโพด 20NTD อร่อยมากค่ะ ไส้ข้าวโพดนะ เหมือนซุปข้าวโพดเลยค่ะ ข้าวโพดเยอะมากและไม่หวานเกินไป
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8903.jpg)
ปิดท้ายที่ขนมแบบขนมโตเกียวบ้านเรา แต่เค้าใช้วิธีพับเป็นเครปเลย รสชาติคือขนมโตเกียวบ้านเราเลยค่ะ แต่ทำแป้งนิ่มกว่าเยอะ ไม่ได้จดราคามา แต่ไม่ประทับใจเท่าไหร่ค่ะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8908.jpg)
ปิดท้ายแบบจริงจังด้วยน้ำชาเขียวมะนาว 45NTD ที่ร้านนี้ค่ะ คนต่อคิวหน้าร้านเยอะมากกกกกกกกกกกก และร้านมีกิมมิคด้วย ให้เสี่ยงเซียมซีไรงี้ค่ะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8910.jpg)
วิธีสั่ง ก็เหมือนร้านชานมทั่วไปค่ะ สั่งแล้วจ่ายเงิน เค้าจะให้บิลมา ในบิลจะมีหมายเลขคิวอยู่ ก็รอฟังเสียงขานเบอร์แล้วไปรับชาที่เราสั่งไว้
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/05/img_8911.jpg)
ช่างเป็นชามะนาวจริง ๆ ค่ะ ฝานมะนาวใส่ให้มาด้วย ><~ ส่วนเรื่องรสชาติ ก็เฉย ๆ นะคะ เหมือนชามะนาวทั่วไป
โดยสรุปกับ 1-day trip ที่เมือง Changhua ค่ะ
- ในตัวโรงงานต่าง ๆ ที่ไปดูมา พอได้เดินไปจากโรงงานแรกไปโรงงานที่สองแล้ว ก็สัมผัสได้ว่านั่นคือเขตโรงงานค่ะ เดินทางด้วยรถส่วนตัวจะสะดวกกว่า จึงไม่น่าแปลกใจที่ไม่มีคนต่างชาติไปเลย และส่วนใหญ่ก็จะไปกันเป็นครอบครัว พาเด็กไปเรียนรู้โรงงานต่าง ๆ ค่ะ
- ทั้ง 3 โรงงานนั้น โดยส่วนตัวแล้วก็คิดว่าก็เฉย ๆ ค่ะ ไม่ได้ว้าว ไม่ได้น่าประทับใจเท่าไหร่
- ถนนโบราณสายลู่ก่างคือดีงาม ของกินเยอะ คนเยอะ ตึกรามบ้านช่องคือเก่าจริง น่าถ่ายรูปเล่น เคโกะว่าน่าสนใจค่ะ ก็แวะมาเดินเล่นได้ ถ้าไม่ติดว่าไกลไปจากเมืองท่องเที่ยวใหญ่ ๆ สักหน่อยก็นะ
ในเมือง Changhua นั้นมีอีกที่นึงที่น่าสนใจที่เคโกะลิสต์ไว้ว่าจะไปในครั้งนั้นนะคือ 八卦山 (BaGuaShan ปา-กว้า-ชาน) ค่ะ เป็นวัดที่มีพระองค์ประธานองค์ใหญ่ ๆ ประดิษฐานอยู่ แต่มันพลาดตรงที่เคโกะไม่ได้จองตั๋วรถไฟล่วงหน้า และไปขึ้นรถไฟ ไถหนาน-จางฮว่า ขบวนด่วนตอนเช้าไม่ทันค่ะ เลยต้องนั่งรถไฟขบวนธรรมดา (แถมหลายต่อด้วย) เลยทำให้มาช้าไปกว่าที่กำหนดไว้ ก็เลยจำเป็นต้องตัดออกค่ะ
ก็ลองดูละกันเนอะ สำหรับใครที่มีเวลาว่างและบังเอิญไปเมือง Changhua ค่ะ
— เพื่อนมารู้ทีหลังว่าไปจางฮว่ามา ไปเดินลู่ก่างมาก็ตบอกตกใจใหญ่เลย เพราะก็ไม่คิดว่าจะไป คือเมืองนี้มันไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวอะค่ะ ^^”
ยังมีอะไร amazing อีก ติดตามกันให้ดีนะคะ ^^”
https://www.facebook.com/thisiskeigo/