สวัสดีค่ะ โพสต์นี้น่าจะเป็นไฮไลต์ของทริปนี้เลยนะคะ ^^”
คือ ต้องเล่าก่อนว่า ตอนที่หาข้อมูลมาเซี่ยงไฮ้นี้ ส่วนใหญ่ก็จะแนะนำให้มานั่งเรือล่องไปตามแม่น้ำ ซึ่งที่ใกล้และเดินทางสะดวกในเซี่ยงไฮ้ก็คือที่นี่ค่ะ ที่ Zhujiajiao (ถอดเสียงภาษาไทยได้ว่า จูเจียเจี่ยว นะคะ) ซึ่งจริง ๆ อย่างที่เคโกะโพสต์ไปแล้วว่าในเมืองซูโจวก็มี แต่ที่นี่ก็ดูจะเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมไรงี้ เคโกะก็เลยขอมาลองนั่งเรือที่นี่ที่เดียวพอ เพราะงั้นตลอดทั้งทริปที่อยู่ในเมืองซูโจว ก็เลยจะไม่นั่งเรือนะคะ เดี๋ยวมันจะยิ่งซ้ำซ้อนไปอีกอะ (แค่นี้ก็ซ้ำซากมากพอแล้ว ฮาาาา)
ที่นี่ก็จะไกลจากตัวเมืองนิดนึงนะคะ แต่เคโกะว่าคุ้มที่ถ่อมาอะ
Spot name : ZhuJiaJiao / Zhujiajiao Water Town / 朱家角 / 朱家角古镇
Google maps : https://goo.gl/maps/aF95hBsPsP52
Transportation : Metro line 17 to Zhujiajiao Station, exit 1 and walk around 15 min
Entrance fee : free
Opening hours : 8.30-16.30
Visited date : 12 Nov 2018
More information : https://www.travelchinaguide.com/attraction/shanghai/zhujiajiao.htm
อย่างที่บอกค่ะ ว่าค่อนข้างไกล ค่าเมโทร 8RMB นะคะ มาถึงแล้วก็ออก exit 1 แล้วเดินไปตามทางที่มีป้ายบอกค่ะ เดินมาจนถึงปากทางเข้าก็จะมีป้ายต้อนรับแบบนี้อยู่ ถ้าจำไม่ผิดจะมีรถถีบสามล้อรออยู่อีกฝั่งถนนนึงที่ต้องเดินไปด้วยนะ ถ้าไม่อยากเดินก็เรียกรถให้ถีบไปส่งได้ค่ะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/img_8146.jpg)
จากป้ายด้านบนนี้ ปากทางคือฝั่งตรงข้าม ต้องข้ามถนนไปอีกฝั่งนึงแล้วเดินตรงไปยาว ๆ ได้เลยค่ะ ระยะทางก็ประมาณซัก 3 ท้อใจเอ๊งงงง…
เดินมาเรื่อย ๆ แล้วก็ถึงในที่สุดค่ะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/img_8098.jpg)
ด้วยความที่ข้อมูลที่ได้มาก็คือ ปิดค่อนข้างเร็ว ก็เลยมาแต่เช้า เลยทำให้ดูเงียบเหงาไปหน่อยค่ะ เดินเก้ ๆ กัง ๆ หาที่ขายตั๋วอยู่พักนึงเหมือนกันกว่าจะเจอ ก็จะมีป้ายคล้ายขายทัวร์อะค่ะ อยู่ด้านหน้า ก็เดินเข้าไปถามพนง.ด้านในได้เลย
จริง ๆ แล้วที่นี่เดินเที่ยวได้ฟรีเลย แต่บางสถานที่ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มค่ะ อย่างเช่นสถานที่ที่เค้าว่าเป็น scenic spot หรือเรือล่องแม่น้ำก็ตามค่ะ วิธีเที่ยวอย่างประหยัดและคุ้มค่าหน่อยก็จะเป็น 1-day pass ราคา 80RMB ที่เคโกะซื้อมาค่ะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/img_8100.jpg)
เดี๋ยวเคโกะมาสรุปตอนท้ายให้นะว่าพาสตัวนี้คุ้มมั้ย
เริ่มต้นด้วยการกางแผนที่ออกมาอย่างงง ๆ แต่ก็เดิน ๆ ไปก่อนด้วย จริง ๆ แล้วจากแผนที่ เราสามารถเดินให้เป็นวงกลมได้ค่ะ ไม่ต้องย้อนไปย้อนมา ก็ดูสะดวกดีนะ
เส้นทางก็จะเป็นถนนคนเดินที่สองข้างทางขายของกิน ของที่ระลึก ของใช้ต่าง ๆ รายเรียงไปตลอดทางค่ะ และจุดที่ต้องใช้คูปองต่าง ๆ หรือจุดท่องเที่ยวทั้ง 8+1 นั้น ก็จะอยู่ตามเส้นทางที่เดินไปเป็นวงกลมนั่นแหละค่ะ อาจจะมีออกนอกเส้นทางนิดนึง แต่ก็ไม่ได้ไกลอะไรนัก
เคโกะพยายามถ่ายรูปให้ครบทั้ง 8 จุดมา (อีก 1 คือตั๋วล่องเรือนะคะ) แต่บางที่ก็ไม่รู้จะถ่ายอะไรให้น่าสนใจจริง ๆ อะ ><“
เริ่มกันเลยค่ะ เริ่มจากถนนคนเดินก่อนนะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/img_8101.jpg)
มีร้านขายของกินของใช้สลับเรียงกันไปเรื่อย ๆ ค่ะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/img_8112.jpg)
แล้วก็เดินมาหยุดอยู่กลางสะพานค่ะ ตรงนี้จะเป็นช่วงกว้างของแม่น้ำ มีเรือจอดเทียบท่ารอรับนักท่องเที่ยวอยู่ ดูแล้วก็ไม่น่าเชื่อว่าอยู่ในเมืองเซี่ยงไฮ้อะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/dsc_8556.jpg)
zoom out นิดนึงนะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/dsc_8558.jpg)
เดินต่อไปตามถนนแคบ ๆ ที่เลียบคลองค่ะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/dsc_8561.jpg)
จุดแรกที่แวะชมก็คือ Kezhi Garden (ไม่พ้นเดินสวนอีกแล้ว T.T)
เคโกะว่าลักษณะเป็นบ้านสมัยก่อนมากกว่าอะค่ะ มีเรือนบ้านแล้วก็สวนกว้าง ๆ รอบบริเวณตัวบ้านอะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/dsc_8563.jpg)
ห้องต่าง ๆ ในบ้านก็จัดแสดงแต่ละเรื่องราวไปต่าง ๆ กันค่ะ ซึ่งแสดงวิถีชีวิตของคนสมัยก่อน อย่างห้องนี้ก็คือจำลองเป็นห้องเรียน มีกระดาษ พู่กัน ที่ฝนหมึกแบบที่เคยเห็นในละครย้อนยุคเลยแหละ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/dsc_8567.jpg)
พ้นจากตัวเรือน ก็จะเป็นสวนค่ะ
บ้านสมัยก่อนของคนจีน มักจะมีสระน้ำอยู่ในบริเวณบ้านเสมอเลยนะคะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/dsc_8572.jpg)
ออกมาจาก Keshi Garden แล้วก็จะมี Art Gallery ที่อยู่ใกล้ ๆ สามารถเข้าชมได้โดยใช้พาสหรือคูปองที่เราซื้อมาค่ะ ภายในไม่ได้ถ่ายรูปมา เพราะเป็นการจัดแสดงภาพเขียน ไม่แน่ใจว่าถ่ายรูปได้มั้ย เลยไม่ถ่ายมานะคะ
แล้วก็เดินต่อไปค่ะ จุดต่อไปก็คือท่าเรือซึ่งก็อยู่ใกล้ ๆ กันนี่แหละ แต่จะเป็นท่าเรือเฉพาะของคนที่ซื้อพาสตัวนี้มาค่ะ จะมีสัญลักษณ์บอกอยู่ตรงท่าเรือนะคะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/dsc_8574.jpg)
ด้วยความที่มาคนเดียว ก็จะเหวอ ๆ หน่อย ๆ เพราะคนอื่นเค้าก็มากันเป็นกลุ่ม พนง.ท่าเรือถึงกับบอกให้รอซัก 20 นาทีเลยค่ะ (คงกะว่าถ้าไม่มีคนมาจอยเรือด้วย ก็ให้ถอดใจไม่นั่งเรือไปซะเองมั้งนะ 555)
แต่สุดท้ายก็มีกรุ๊ปทัวร์ต่างชาติกรุ๊ปนึงมาพอดี เลยได้ยัดลงไปในเรือลำเดียวกะพวกเค้าด้วย ^^”
ก็จะมีคนพายเรือให้ ล่องไปตามลำคลอง ออกแม่น้ำและไปสิ้นสุดที่ท่าน้ำอีกท่านึง ใกล้ ๆ กันค่ะ (มีระบุให้บนแผนที่ ดูควบคู่ไปด้วยได้ ไม่หลงออกนอกเส้นทางแน่ค่ะ)
ระหว่างทางก็จะผ่านอะไรต่าง ๆ ซึ่งคนพายเรือไม่มีบรรยายให้นะคะว่าอะไรคืออะไร – -“
ก็ดูวิวไปละกันเนอะ ^^”
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/dsc_8580.jpg)
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/dsc_8583.jpg)
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/dsc_8589.jpg)
รูปสุดท้ายก็จะเป็นบริเวณท่าเรือที่ขึ้นเรือมาค่ะ เดินออกจากท่าเรือแล้วก็จะเป็นตรอกคนเดินที่มีร้านค้ามากมายเช่นเคย
เดินผ่านร้านขายผลไม้เคลือบน้ำตาลเสียบไม้ขายอยู่ ดูมีหลายอย่างน่าทาน ประกอบกับฝังใจจากหนังสือเรียนมา จะพูดถึงเจ้าขนมนี่บ่อยมาก ถึงแม้ว่าตัวเองจะเป็นคนไม่กินหวานเลย ก็ยังอดใจซื้อมาชิมดูไม่ได้ค่ะ
เจ้านี่เรียกว่า ถางหูลู่ (糖葫芦) ไม้นี้ 15RMB ค่ะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/img_8113.jpg)
ส่วนรสชาตินั้น … มันก็คือผลไม้เคลือบน้ำตาลที่ค่อนข้างหนาอ่ะค่ะ แล้วน้ำตาลก็จะแข็งตัวหน่อย กัดลงไปก็จะแข็ง ๆ แต่มีความกรอบของน้ำตาลที่เคลือบไว้ ส่วนผลไม้ด้านในก็คือผลไม้สดเลย รสก็จะเป็นผลไม้สดอะค่ะ เคี้ยวไม่ดี น้ำตาลก็หล่นกระจายค่ะ (พลาดมาแล้ว แหะๆ)
ก็ชิมเอาความสบายใจ และเคลียร์ความคาใจจากหนังสือเรียนไปอะค่ะ ถ้าให้กินอีกก็ไม่แล้ว ไม่ชอบกินของหวาน ๆ ค่ะ ><~
จากนั้นก็เดินตามคูปองจุดท่องเที่ยวที่เหลือที่มาในพาสนะคะ ตรงนี้ไม่ขอไล่เรียงละกันเนอะ (เอาตรง ๆ ก็คือ รูปไม่ครบ และลืมแล้ว ฮาาาาา)
ตรงนี้น่าจะเป็น City God Temple ค่ะ ถ้าไม่ซื้อพาส ก็มีค่าเข้าวัดเช่นเคย แต่ด้านในดูค่อนข้างรกร้าง แทบไม่มีคนมากราบไหว้ขอพรอะไรเลยค่ะ ดูไม่มีอะไรน่าสนใจเลยด้วย
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/dsc_8592.jpg)
ส่วนตรงนี้เป็น Qing Dynasty Post Office ค่ะ เห็นว่าเป็นที่ทำการไปรษณีย์ตั้งแต่ดั้งเดิมยุคเก่า (เดาว่ายุคชิง ตามชื่อนะ) นู้นเลยค่ะ ด้านในจัดแสดงประวัติความเป็นมาของไปรษณีย์ และโชว์แสตมป์และโปสการ์ดเก่า ๆ ให้ดูค่ะ
ด้านหน้าก็ดูเก่าจริงนะ ^^”
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/img_8123.jpg)
ด้านในค่อนข้างมืด เลยเก็บภาพโปสการ์ดที่เค้าโชว์ไว้มาให้ดูรูปนึงค่ะ ^^”
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/img_8126.jpg)
มีร้านขายยาโบราณร้านนึงที่ก็น่าสนใจค่ะ ยังจัดแสดงร้านขายยาตามแบบฉบับโบราณอยู่ได้อย่างครบถ้วนทีเดียวค่ะ
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/img_8138.jpg)
มีอีก 2-3 ที่ที่ไม่ได้ถ่ายรูปมา ซึ่งจะมีแกลอรีอาร์ทอีกที่นึงค่ะ แต่จะจัดแสดงศิลปะที่ดูเป็นแนว abstract ค่ะ ค่อนข้างเข้าใจยากทีเดียว แล้วก็มีร้านแสดงผลงานแฮนด์เมดด้วย ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วเป็นอะไรที่ชอบแนว diy มากเลยนะ แต่น่าเสียดายค่ะ ผลงานที่โชว์ทำไว้ดี แต่กลับไม่น่าสนใจเท่าที่ควร และสินค้าที่ขายก็ไม่ได้น่าสนใจด้วยเช่นกัน
ระหว่างทางที่ไปไปรษณีย์นั้น จะมีร้านให้เช่าชุดจีนย้อนยุคและบริการถ่ายรูปด้วย ตรงนี้จะเป็นบริเวณที่มีร้านหลายร้าน และดูคึกคักมากเลยค่ะ
แอบถ่ายมา ^^”
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/img_8118.jpg)
ปิดท้ายด้วยไส้กรอกไม้แถว ๆ นั้นละกันค่ะ เห็นเด็ก ๆ นักเรียนที่มาทัศนศึกษาถือกันเยอะ เลยหลอนตาม ไปซื้อมาชิมบ้าง
มันก็เป็นไส้กรอกธรรมดา แบบบ้านเราล่ะนะ แต่เค้าจะยาวกว่าและบากออกเยอะ พอทอดแล้วก็จะบาน ๆ ออก ดูน่าสนใจขึ้น และโรยด้วยผงปรุงรสค่ะ ไม้ละ 13 RMB
![](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2019/03/img_8129-1.jpg)
สรุปกับ Zhujiajiao นะคะ
- เริ่มที่ตัวพาส 80RMB ก่อนเลยค่ะ โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ เพราะจุดท่องเที่ยว 8 จุดนั้น ไม่ได้น่าสนใจซะทีเดียว และเรือที่ได้นั่งล่องแม่น้ำนั้นก็ค่อนข้างสั้นไปหน่อยค่ะ สู้ไปจ่ายค่าเรืออย่างเดียวเลยน่าจะดีกว่า อาจจะนั่งเรือได้เพลิน ๆ กว่านี้ค่ะ
- เป็นจุดท่องเที่ยวแนวอนุรักษ์นิยมจุดเดียวในทริปนี้ที่มีความเป็นตะวันตกเข้ามาแทรกอยู่เยอะ ที่นี่จะพบเห็นร้านกาแฟสไตล์ตะวันตก หรือคาเฟ่ได้ทั่วไปเลยค่ะ
- มีการใช้ภาษาอังกฤษอยู่ทั่วไป น่าจะสะดวกกับคนต่างชาติทีเดียวค่ะ
- เดินทางง่าย สะดวก
โดยรวมก็มาเดินเล่น ช้อป ชิม ชิลล์ และนั่งเรือได้ค่ะ (ก็ยังคงเชียร์ให้นั่งเรืออยู่ดี ฮาาาา) ถึงแม้จะไกลจากตัวเมืองไปหน่อย แต่คุ้มค่ากับการมาค่ะ
พยายามขยันเคลียร์โหลดองอยู่นะคะ ตามไปทวงเรื่องเล่ากันได้นะ
https://www.facebook.com/thisiskeigo/