[Chanthaburi] Chantaboon

สวัสดีค่ะ โพสต์นี้จะยาว ๆ นิดนึงเนอะ พอดีเคโกะมีไกด์คนพื้นที่ไปด้วยค่ะ เป็นรุ่นน้องที่น่ารักของเคโกะเอง น้องมีวิ่งตอนเช้าแล้วก็ยังลากน้องไปทรมานต่อด้วยการเดินเที่ยวริมน้ำจันทบูรด้วย แต่น้องก็ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ ของกินแถวนั้นได้เยอะมาก ๆ เลยค่ะ

ขอบคุณน้องออมและน้องสาวมา ณ ที่นี้ด้วยนะค้าาาา ไว้จะไปกวนใหม่น้าาา 55555

Spot name : ชุมชนริมน้ำจันทบูร
Location : อ.เมือง จ.จันทบุรี
Google maps : https://goo.gl/maps/ZhnK8QEMDTHVkYi26
Entrance fee : Free
Opening hours : 24 hrs
Visited date : 25 Oct 2020

ไม่มีที่จอดรถนะคะ เคโกะไปจ๊ะเอ๋เอาวันที่เค้ามีแข่งวิ่งกันพอดี จะไปจอดที่โบสถ์ก็ไม่ได้ค่ะ เลยต้องไปจอดที่ลานจอดของโบสถ์ที่อยู่ห่างออกไป แล้วนั่งรถชัทเทิลบัสรับส่งเอา (ถ้าจำไม่ผิดจะ 20 บาทเป็นราคาไป-กลับค่ะ)

ในรถชัทเทิลบัสมีแปะตารางเข้าชมภายในอาสนวิหารฯด้วยค่ะ

ซึ่งเคโกะก็นัดน้องไว้ที่โบสถ์มารีอา หรือชื่อเต็ม ๆ คือ อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมลจันทบุรี นี่แหละค่ะ เป็นโบสถ์ที่สวยมาก ๆ ใครไปใครมาก็ต้องมาถ่ายรูปที่โบสถ์แห่งนี้ล่ะค่ะ แต่ส่วนตัวเคโกะเคยมาแล้วหนนึง เลยข้าม ๆ ไปนะคะ

พอเจอน้องแล้วเราก็ออกเดินกันค่ะ ซึ่งโบสถ์อยู่ใกล้กับชุมชมริมน้ำจันทบูรมาก ๆ เลย เดินทะลุไปนิดเดียวก็เจอเลยค่ะ

ชุมชนริมน้ำก็ต้องมีรูปแม่น้ำประกอบสินะ 555

ข้ามฝั่งมาก็จะมีป้ายต้อนรับ ป้ายแนะนำความเป็นมาของชุมชนริมน้ำจันทบูรนี้ค่ะ

โดยสังเขปก็คือเป็นชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำจันทบุรี ที่มีชาวจีนและชาวญวนอพยพมาอาศัยอยู่ตั้งแต่ช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้นค่ะ

มีงานกราฟฟิตี้เก๋ ๆ ให้เก็บรูปกันด้วย เห็นว่าเป็นฉากนึงในโฆษณาที่ดังมาก ๆ ชิ้นนึงเลยค่ะ –ก็ลืมแล้วว่าโฆษณาอะไร – -“

ลักษณะก็จะเป็นบ้านเรือทรงโบราณอะค่ะ อาจจะมีการบูรณะอะไรบ้าง แต่ก็ยังคงโครงสร้างเดิมไว้อยู่ค่ะ

จุดแรกที่จะแวะชมก็คือ บ้านเรียนรู้ชุมชนค่ะ แต่เผอิญว่ามาเจอเอาวันที่เค้าปิดซะงั้น 55555

เดินต่อไปค่ะ เจอร้านเสน่ห์จันท์ ร้านดังเหมือนกันน้าาาา แต่ไม่รู้เพราะมีงานวิ่งหรือเปล่านะ ร้านปิดอีกแล้วค่ะ 5555

แล้วก็เดินมาเรื่อย ๆ เจอโรงแรมนึงที่สามารถเข้าไปชมด้านในได้ค่ะ เค้าจัดเหมือนเป็นพิพิธภัณฑ์ย่อม ๆ ไว้ให้ศึกษาด้วย

ด้านในมีคาเฟ่ด้วยค่ะ ตกแต่งเก๋ ๆ สไตล์ vintage และ antique เบา ๆ ให้เข้ากับสถานที่

ชั้นบนก็มีจัดแสดงตกแต่งของเก่าประวัติความเป็นมาหลายสิ่งอยู่ น่าสนใจดีนะคะ

แล้วก็จะมีลักษณะแนวนี้อยู่หลายที่เหมือนกันค่ะ เดี๋ยวก็จะเจออีกที่นึงนะ

เดินกันต่อไปก็มีศาลเจ้าอยู่ที่นึงค่ะ ยังคงเก็บโครงสร้างแบบดั้งเดิมไว้ การจัดวาง การตกแต่งอะไรก็คือของเก่าเลยอะ

รูปนี้ถ่ายย้อนออกมาหน้าถนนค่ะ

เดินขึ้นมาชั้นบนมีเจ้าตั้งอยู่

ซึ่งเท่าที่เดินมา น่าจะประมาณ 1/3 ของถนนเส้นนี้ เคโกะก็สัมผัสได้ถึงความเป็นจีนที่ค่อนข้างหนาแน่นอยู่ค่ะ ยังเปรย ๆ กับน้องอยู่เลยว่าใส่กี่เพ้ามาถ่ายรูป น่าจะเข้ากับสถานที่ดี

นอกจากร้านค้า โรงแรม ศาลเจ้าและบ้านเรือนสไตล์ย้อนยุคแล้ว ก็ยังมีกราฟฟิตี้ที่ร่วมสมัยเข้าไปปะปนด้วยค่ะ แต่ก็ไม่ได้ดูขัดแย้งเลย

เดินต่อมาเจอท่าแม่ผ่อง

ก็เลยเดินไปที่ท่าน้ำซักหน่อยค่ะ

แล้วน้องก็พาลัดเลาะตรอกซอกซอยไป เจอป้ายตรอกมีคุณกระต่ายเกาะป้ายอยู่ น่ารักดีค่ะ

เดินลัดเลาะออกมาเจอศาลเจ้าใหม่ที่ดูใหญ่พอสมควรค่ะ ช่วงที่เคโกะไปเป็นช่วงเทศกาลกินเจอยู่อะนะคะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นวันสุดท้ายที่จะมีจัดงานส่งเจ้าขึ้นสวรรค์อะไรทำนองนี้น่ะค่ะ เคโกะก็ห่างเหินการกินเจมาหลายปีแล้วล่ะ ก็มีลืม ๆ ไปแล้วนะคะ แหะ ๆ

แต่สิ่งที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับเคโกะก็คือ มีการแสดงงิ้วด้วยค่ะ

ว่ากันไปตามตรงแล้ว งิ้วน่ะก็ไม่เท่าไหร่ แต่สิ่งที่ตื่นตาตื่นใจกว่าก็คือน้ำตาลปั้นที่อยู่ด้านหน้าเวทีงิ้วนี่แหละค่ะ เคโกะไม่ได้เห็นนานมาก ๆ แล้วล่ะ

สมัยเด็ก ๆ เคโกะจะคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้ดีพอสมควรเลยนะคะ เพราะจะโดนลากไปงานสมาคมตระกูลหนึ่งในกทม.ทุกปี เค้ามีจัดงานสักการะบรรพบุรุษทุกฤดูหนาวอะค่ะ ก็จะมีการแสดงงิ้ว 3 วัน 3 คืนอะไรทำนองนี้แหละนะ แล้วหน้าเวทีก็จะมีน้ำตาลปั้นแบบนี้ค่ะ ซึ่งตอนเด็ก ๆ อะ ไม่มีสตางค์พกติดตัวอะไรเยอะ ก็จะได้แต่ยืนมองเค้าปั้นน้ำตาลค่ะ เป็นภาพที่ชินตาทุกปีในวัยเด็กอะนะ

ซึ่งเอาจริง ๆ นะ เคโกะก็ยังไม่เคยซื้อทานเลยค่ะ ><”

แต่ถามใจเคโกะตอนนี้ว่าอยากซื้อชิมไหม ก็ไม่นะ ไม่กินหวานอ่าาาาา 555

เอาล่ะ เราก็เดินชมย่านชุมชนกันต่อไปค่ะ ^^”

หลาย ๆ ร้านมีการปรับตกแต่งให้ดูโมเดิร์นและทันสมัยมากขึ้น มีคาเฟ่น่ารัก ๆ เพียบ นี่น่าจะเป็น 1 ในนั้นค่ะ คนเยอะมากกกก

แล้วก็มาเจอกับอีกโรงแรมนึงมั้งนะ ชั้นล่างเปิดให้เข้าชมได้ค่ะ เค้ามีของเก่ามาจัดโชว์ให้ดูค่ะ

ระหว่างทาง น้องก็ชี้ให้ดูร้านขนมเทียนเจ้าเก่า เคโกะก็เลยปราดเข้าไปซื้อมาชิมดู เค้าจัดใส่เป็นถุง ๆ ไว้ให้ค่ะ น่าจะถุงละ 20 บาทนะ แต่ขนมเทียนเค้าจะเป็นลูกเล็ก ๆ แบบ 1 คำหมดค่ะ

เป็นขนมเทียนที่ลูกเล็กมากจริง ๆ ค่ะ เข้าใจแหละว่าคงทำลูกเล็ก ๆ ขายเพื่อให้นักท่องเที่ยวซื้อชิมกันถ้วนหน้าในกลุ่มไรงี้อะนะคะ

จุดเด่นเค้าคือตัวแป้งที่เป็นเนื้อใส มองเห็นไส้ถั่วด้านในได้ แต่ถ้าถามใจเคโกะนะ เคโกะว่าเฉย ๆ มาก ๆ ค่ะ เคยเจอที่อร่อยกว่านี้อะ และรสชาติคือยังไม่เข้มข้นเท่าไหร่ คิดว่ารสอ่อนไปหน่อยค่ะ

เดินกันต่อไปก็เจอกับร้านไอศครีมตราจรวดค่ะ น้องเล่าว่าเป็นร้านดั้งเดิมและร้านเดียวที่ยังมีอยู่

สารภาพตามตรงว่าเคโกะไม่รู้จักไอศครีมตราจรวดค่ะ ><” เกิดไม่ทัน แง้~ //ผิด

มีป้ายอธิบายความเป็นมาของร้านด้วยค่ะ

ไหน ๆ ก็มาแล้ว เลยเข้าไปซื้อชิมซักอันนึง น้องแนะนำรสยอดฮิตที่ว่าอร่อยมาให้ค่ะ ก็จัดไป

สำหรับความรู้สึกส่วนตัวของเคโกะเลยนะ คือยังไม่ถูกจริตค่ะ ได้รสหวานนำ หวานแบบหวานเลยอะ แล้วเคโกะไม่กินหวานไง ก็เลยรู้สึกว่าธรรมดามากค่ะ ><“

เดินต่อไปจนสุดถนนก็จะเป็นสภาวัฒนธรรมประมาณนี้

ซึ่งด้านในก็มีของที่ระลึกขายและมีแผ่นพับแนะนำสถานที่และการท่องเที่ยวด้วยค่ะ

แล้วเราก็เดินย้อนกลับมาทางเดิม เจอตรอกนึงมีร้านขายของที่ระลึกแบบน่ารัก ๆ และร้านก็น่ารักด้วย แวะถ่ายรูปกันไปอีก 555

เดินซะเยอะ แวะชิมน้ำมะปี๊ดกันซักหน่อยค่ะ มะปี๊ดของจันทบุรีก็คือส้มจี๊ดนั่นเองล่ะค่ะ

จริง ๆ แล้วของกินทั้งของกินเล่นและอาหารจานหลักอะไรงี้ มีค่อนข้างเยอะและหลากหลายพอสมควรบนถนนสายนี้เลยนะคะ แต่ด้วยความที่น้องกินเจ แต่เคโกะไม่กินเจ เลยทานด้วยกันไม่ได้ค่ะ ก็ดูไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ด้วย หากเคโกะจะไปนั่งชิมนู่นนี่และปล่อยให้น้องคอยไรงี้ ก็เลยไม่ได้ชิมอะไรมากมายนักอะนะคะ

ก่อนจะกลับออกจากชุมชนริมน้ำนี้ เคโกะก็เลยซื้อขนมไข่กรอบไปชิมที่บ้านด้วย

ก็เป็นไอเท็มที่ขายกันแทบทุกร้านอะค่ะ เลยคาดหวังไปว่าต้องอร่อยนะ แต่เอาเข้าจริง ก็คือขนมไข่ที่หน้ากรอบ ๆ และทำให้ติดกันเป็นแพอะค่ะ – -“

ปิดท้ายทริปแบบมีไกด์นำด้วยศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชค่ะ ซึ่งเดินไปได้นะ แบบเหนื่อยมาก ๆ ค่ะ ฮาาาา… เคโกะเลยขอขับรถไปดีกว่า ซึ่งบริเวณศาลพระเจ้าตากนั้นมีที่จอดรถอย่างจำกัดค่ะ แต่เราสามารถเอารถเข้าไปจอดในค่ายตากสินที่อยู่ติดกันได้นะคะ

ซึ่งในค่ายเองก็มีห้องประดิษฐานพระเจ้าตากที่หลอมด้วยทองแดงไว้ด้วยล่ะค่ะ

ส่วนของศาลสมเด็จพระเจ้าตากฯนั้น คนเยอะมากกกกกกกค่ะ และตัวอาคารเองก็ทำเป็นทรงหมวกที่สมเด็จพระเจ้าตากสินนิยมสวมใส่ประจำด้วยล่ะค่ะ

ก็กราบไหว้พระเจ้าตากกันเรียบร้อยแล้ว เคโกะกับน้องก็เลยแยกกันตรงนี้ล่ะค่ะ

จบทริปสั้นที่จันทบุรีแล้ว เดี๋ยวไปต่อทริปมหากาพย์ (ห้ะ อีกแล้ว?) ที่เชียงรายนะคะ ^^”
https://www.facebook.com/thisiskeigo