[Tokyo] Hiromas Hostel in Ueno

สวัสดีค่ะ โพสต์นี้ตัดอารมณ์มาญี่ปุ่นบ้างเนอะ ต่อไต้หวันกันยาว ๆ กลัวจะเบื่อค่ะ แหะๆ

โพสต์นี้จะเล่าถึงโฮสเทลแรกที่เคยพักในญี่ปุ่นเลยค่ะ ไปมาหลายหนแต่ยังไม่เคยพักโฮสเทลเลยแหละ

Hostel name : Hiromas Hostel in Ueno
City : Ueno, Tokyo, Japan
Location : https://g.page/hiromas-ueno?share
Booking via : booking.com
Room type : Bed in 20-bed Female Dormitory Room
Room rate : 3,645Y (pre-paid in 1,050BHT)
Check-in date : 29-30 Dec 2019, 1 night
Website : https://hiromas.net/ueno/en/

โฮสเทลนี้อยู่ใกล้กับสถานีอุเอโนะเลยค่ะ ก็สะดวกดี แต่ว่าก็ไม่ได้ใกล้อะไรขนาดนั้นค่ะ เดินไปราว ๆ 10-20 นาที ขึ้นอยู่กับว่าจะไปตรงไหนของสถานีอุเอโนะเนาะ อย่างถ้าจะไป JR Ueno ก็จะราว ๆ 10 นาทีค่ะ แต่ถ้าจะเดินไป Keisei Ueno ก็จะประมาณ 20 นาทีไรงี้

เคโกะเดินเท้าไปจากอีกโรงแรมนึงแถว ๆ อุเอโนะ (คนละซีกกับโฮสเทลนี้นะคะ) ปากซอยมีลายน่ารักบนทางเท้าด้วย

เป็นถนนที่ชื่อว่า Kappabashihon ล่ะค่ะ ก็เลยมีลายกัปปะบนพื้น ส่วนภาษาญี่ปุ่นข้าง ๆ ก็คือทางลัดไปอาซะกุสะค่ะ

จากปากซอย เดินมาอีกนิดนึงก็ถึงแล้วค่ะ

สตาฟโฮสเทลพูดอังกฤษได้ดีทุกคนเลยค่ะ ฝากกระเป๋าก่อนเข้าพักได้ด้วย

ด้านหน้าเคาน์เตอร์เช็คอิน มีชั้นวางหนังสือนำเที่ยวหลากหลายแนว มีภาษาไทยด้วยล่ะ

ส่วนกลางมีโต๊ะนั่งกว้างขวาง เพียบเลยค่ะ และมีส่วนครัวเล็ก ๆ ซึ่งตรงนี้จะอยู่ชั้นล่าง ก่อนถึงเคาน์เตอร์เช็คอินทั้งหมดค่ะ

ใกล้ ๆ กันมีตู้กดน้ำหยอดเหรียญด้วยนะ

พอเช็คอินแล้ว เค้าจะให้การ์ดมา 1 ใบ จะมีพาสเวิร์ดเข้าห้องอยู่ค่ะ เพราะเคโกะพักห้องผู้หญิงล้วนเนอะ ก็ต้องมีพาสเวิร์ดเข้าห้องเพื่อความปลอดภัยค่ะ

ห้องจะเป็นห้องใหญ่ ๆ เลย แล้วแบ่งเป็นเตียงยิบย่อย 20 เตียง แบบ 2 ชั้น มีม่านปิดให้ทุกเตียงเพื่อความเป็นส่วนตัวค่ะ

ในห้องนอนเองเค้าแบ่งสัดส่วนไว้ค่อนข้างดีค่ะ มีราวแขวนเสื้อให้ริมห้องสุดเลย มีเบอร์ห้องแปะไว้ที่ไม้แขวนเสื้อทุกอันสำหรับทุกเตียงค่ะ มีรองเท้าแตะให้ใช้ (จะมีติดไว้ว่าฟรี –หมายถึงของโฮสเทลค่ะ) ส่วนล็อคเกอร์ก็จะเป็นระบบแบบตั้งพาสเวิร์ดเอาเอง ซึ่งเป็นตู้ใหญ่อยู่ แต่เคโกะก็ยัดกระเป๋าเดินทางและกระเป๋าอื่น ๆ เข้าไปทั้งหมดไม่ได้อยู่ดีค่ะ ฮาาาา

ส่วนที่นอน มีล็อคเกอร์อันเล็กเหนือหัวให้ใช้เช่นกัน ระบบเดียวกับล็อคเกอร์ใหญ่ที่อยู่นอกเตียงเลยนะคะ

ข้าง ๆ เตียงเป็นชั้นแบบพับได้ค่ะ สามารถยกขึ้นมาตั้งไว้เป็นที่วางของกรุบกริบเบา ๆ ได้อีกด้วย

ส่วนห้องน้ำไม่มีรูปง่ะ แต่เป็นห้องน้ำในตัวค่ะ ใช้รวม ๆ กัน แบ่งชัดเจนว่าห้องอาบน้ำและห้องส้วมเลยค่ะ ซึ่งสะอาดสะอ้านดี มีอุปกรณ์ให้ใช้ครบครันด้วยค่ะ

สรุปเลยแล้วกันเนอะ

  • โลเคชั่นจัดว่าไม่ได้ดีเวอร์มาก แต่ก็ไม่ได้แย่เกินไป ใกล้สถานีอุเอโนะ (ใกล้ JR ที่สุดค่ะ) แต่โดยรวมถือว่าดีแล้ว คุ้มกับราคาที่จ่ายไปอะค่ะ
  • มีความปลอดภัยที่ถือว่าดีมาก ไม่มีการเปิดประตูห้องค้างไว้แบบที่เคยเห็นในโฮสเทลไต้หวันเลยนะคะ (ฮาาา)
  • สตาฟพูดอังกฤษได้ดีและชัดเจนค่ะ อธิบายกฎกติกาเข้าพักได้ชัดเจนดีด้วย
  • ที่พักสะอาด ห้องน้ำสะอาดดีเยี่ยมเลยค่ะ
  • มีผ้าเช็ดตัวให้ด้วย มีแชมพู สบู่ให้ใช้ในห้องน้ำด้วยค่ะ มีไดร์เป่าผม ครบครันมาก
  • มีไวไฟบริการ ความเร็วดีอยู่ค่ะ

โดยรวมแล้วประทับใจเลยแหละ เป็นที่พักโฮสเทลที่ดีที่นึงเลยค่ะ แนะนำนะคะ ^^

ฝากเพจด้วยค้าาาา
https://www.facebook.com/thisiskeigo/

Centurion Hotel Ueno

สวัสดีค่ะ กลัวจะเบื่อไต้หวันกันเพราะโพสต์ซะรัว ๆ เลย ^^” ก็เลยขอตัดสลับมาญี่ปุ่นนิดนึงนะคะ

Hotel name : Centurion Hotel Ueno
City : Tokyo, Japan
Location : https://goo.gl/maps/4PVegBmdVAW5m8F9A
Booking via : booking.com
Room type : Queen Room – non smoking with extra bed
Room rate : 66,690Y (4 nights)
Check-in date : 16 – 20 Feb 2019, 4 nights
Website : http://www.centurion-hotel.com/ueno/lang/en/

อยากจะบอกว่าที่ตั้งของโรงแรมนี้คือดีงามมาก ๆ ค่ะ ใกล้ย่านช้อปปิ้งในอุเอโนะอย่าง Ameyoko แล้วใกล้ ๆ ก็มี Don Quijote และ ตึกม่วงอย่าง Takeya อีกด้วย และมากไปกว่านั้นก็คือ ใกล้รถไฟฟ้าอยู่ 2 สถานี อย่าง Yushima และ Ueno-Okachimachi แต่ถ้าหากเดินต่อไปอีกนิด ก็จะมีสถานี Okachimachi อีก อีกทั้งก็ไม่ได้ไกลเกินเดินไปยังสถานี Ueno ด้วยค่ะ ถ้าหากนั่งรถไฟ Keisei Skyliner จากสนามบินนาริตะมาก็จะยิ่งสะดวกมากขึ้น ไม่ต้องต่อรถอะไรอีกให้ลำบากเลยล่ะค่ะ

ปูข้อดีกันมาขนาดนี้แล้วว มาดูกันนะว่าโรงแรมนี้จะเป็นยังไงกันบ้าง

โรงแรมนี้มีทั้งหมด 2 ตึก ตึกที่เราต้องไปเช็คอินก็คือตึกที่ไม่มี Family Mart ใต้ตึกค่ะ กระจกทางเข้าจะเป็นโค้ง ๆ และขึ้นบันไดเลื่อนไปจะเจอกับล็อบบี้โรงแรมเพื่อทำการเช็คอิน

จริง ๆ โรงแรมมีบริการอาหารเช้า (คิดค่าบริการเพิ่ม) แต่เคโกะจองมาแบบไม่รับอาหารเช้าค่ะ พนง. พูดภาษาอังกฤษได้ดีมาก ๆ เลย อธิบายการระเบียบการเข้าพักต่าง ๆ ให้พวกเราอย่างคล่องแคล่ว ซึ่งห้องพักของพวกเราจะอยู่อีกตึกนึงที่มี Family Mart ใต้ตึกค่ะ ดีงามไปอีก ก็จะมีขนมกินตลอดที่เราพักที่นี่เลยนะ (555)

ด้านหน้าตึกมีคีย์การ์ดที่เราจะต้องแปะบัตร แล้วประตูอาคารจึงจะเปิดให้เราเข้าไปในตัวอาคารได้ค่ะ แต่จากภายในก็ไม่ต้องใช้คีย์การ์ดนะคะ

เปิดห้องเข้ามา จะเป็นทางเดินแคบ ๆ จนสุดมุมห้องจะมีไม้แขวนเสื้อตั้งพื้น พร้อมด้วยเสื้อคลุมให้ตามจำนวนคนเข้าพัก ซึ่งพวกเราก็อาศัยแขวนเสื้อกันหนาว และวางกระเป๋าเดินทางพวกเราไว้แถว ๆ นี้กัน

หันกลับไปที่ประตูห้องก็จะประมาณนี้

บนบานประตูห้องมีแผ่นป้ายที่ให้เราแปะหน้าประตูด้วยว่า Clean up room หรือ Do not disturb ค่ะ ซึ่งตอนที่พนง.โรงแรมอธิบายให้เราฟัง เราก็ฟังกันเข้าใจนะ แต่เราหาป้ายนี้ไม่เจอ พอเจอก็งงว่าทำไมไปติดอยู่บนประตู แกะก็ไม่ออกค่ะ มารู้เอาวันสุดท้ายคือเป็นแบบแม่เหล็ก แค่หยิบออกมาก็หลุดเลย เอิ่ม…….

แต่ว่า default ของโรงแรมก็คือทำความสะอาดให้ทุกวันค่ะ แต่สิ่งที่เค้าจะไม่แตะก็คือเตียง เค้าไม่ได้ทำเตียงใหม่ให้ทุกวันนะคะ

ใกล้ ๆ กันกับไม้แขวนเสื้อตั้งพื้น ก็จะมีเครื่องฟอกอากาศตัวเล็กตั้งพื้นอยู่ แต่ว่าพวกเราก็ไม่ได้เปิดใช้ค่ะ

ด้านขวามือ ถ้าเราหันเข้าไปในห้อง ก็จะเป็นห้องน้ำขนาดเล็ก ตามสไตล์ญี่ปุ่นค่ะ ^^”

มีม่านกั้นแยกส่วนเปียก (อ่างอาบน้ำ) และส่วนแห้ง

เปิดม่านออกให้ดูบริเวณอ่างอาบน้ำนะคะ

เงาสะท้อนในกระจกก็มองผ่าน ๆ ไปแล้วกันนะคะ –เคโกะรีบ ๆ ถ่ายรูปด้วยอะ เลยยังไม่ได้ถอดเสื้อกันหนาวเลยค่ะ ><“

ซูมให้ดูตรงชั้นวางตรงอ่างอาบน้ำ มีให้ครบทั้งแชมพู ครีมนวดและครีมอาบน้ำเลยค่ะ

ส่วนตรงอ่างล้างหน้า ก็จะมีครีมโลชั่นต่าง ๆ วางไว้ให้ใช้เช่นกัน

amenities ก็พร้อมสรรพค่ะ

คือมันก็หลีกเลี่ยงเงาสะท้อนในกระจกไม่ได้อะนะ แหะๆ

ออกมาจากห้องน้ำบ้าง บนกำแพงก็จะมีทีวีจอแบนแขวนผนังอยู่ ซึ่งพวกเราก็ไม่ได้เปิดเลยค่ะ

ใกล้ ๆ ก็เป็นโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ

หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้ง มีถังน้ำแข็งและแก้วน้ำตามจำนวนคนเช่นกัน วางไว้ให้บริการด้วย

ปิดท้ายที่เตียงนอนค่ะ จองห้องมา 3 คน ซึ่งจริง ๆ ก็คือห้อง 2 คนแล้วปรับจากโซฟาในห้องนอนเป็นเตียงนอนสำหรับคนที่ 3 นั่นเอง

เตียงนอนหลักในห้องก็จะเป็นแบบ double bed นะคะ ชอบตรงหัวเตียงมีพื้นที่ให้พอวางอะไรกรุบกริบนิดหน่อยด้วย มีสวิตซ์ไฟอยู่ตรงนี้ด้วยค่ะ ปรับแสงสว่าง/มืดได้ตามใจชอบด้วย

เตียงที่ 3 ก็จะจัดให้อยู่ข้าง ๆ ค่ะ ก็ขนาดพอเหมาะกำลังดีสำหรับ 1 คนล่ะนะคะ

จัดหมอนไว้ฝั่งกำแพง เลยแซวกันอยู่กับเพื่อนว่า แล้วจะต้องหันเท้ามาหาเพื่อนหรอ 5555 สุดท้ายก็เลยกลับฝั่งหมอนค่ะ ย้ายมาอีกฝั่งหนึ่งของเตียงแทน

สรุปเลยนะคะ

  • location คือดีงามมากกกก ได้ทั้งช้อปปิ้ง ได้ทั้งเที่ยวค่ะ ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง ใกล้สถานีรถไฟ เดินทางสะดวกมาก ๆ
  • ใต้ตึกมีมินิมาร์ทอยู่ และรอบ ๆ ก็มีร้านอาหาร ร้านค้าอะไรต่าง ๆ เพียบเลยค่ะ รวมไปถึงร้านเหล้า สำหรับนักท่องราตรีด้วยนะคะ ^^”
  • พนง. อัธยาศัยดีค่ะ พูดอังกฤษคล่อง ในวันเช็คเอาท์ พวกเราออกมาเจอกับพนง.ที่มาทำความสะอาดพอดี เค้าก็ทักทายเราอย่างยิ้มแย้มแจ่มใสดีค่ะ
  • ขั้นตอนการเช็คอิน-เช็คเอาท์ง่าย สะดวกดีค่ะ อย่างตอนเช็คเอาท์ก็แค่หย่อนบัตรห้องลงไปในกล่องที่อยู่ในลิฟท์ก็เป็นอันเรียบร้อยค่ะ

โดยรวมก็จัดว่าเป็นโรงแรมในย่านที่ดี แนะนำเลยค่ะ

เจอกันใหม่ในโพสต์ถัดไปนะคะ
https://www.facebook.com/thisiskeigo/

My Foodies in Japan Trip 2017

สวัสดีค่ะ ตั้งใจว่าโพสต์นี้จะลงรูปของกินที่ได้ตะลุยกินมาตลอดทริปญี่ปุ่นเมื่อต้นปี .. ตอนนั้นอากาศหนาว ฤดูหนาว แต่กว่าจะได้โพสต์ก็ปาเข้าไปหน้าร้อนซะงั้น ^^”

เอาล่ะ จะไม่อารัมภบทเยอะค่ะ เพราะรูปเยอะมากกกกกกกกกกกกกก จริง ๆ แล้วของญี่ปุ่นคิดเป็นเงินบาทแล้วไม่ถูกเลยนะ แต่ถ้าคิดเป็นเงินเยนแล้วรู้สึกถูกค่ะ เลยกินซะไม่หยุดคิดอะไรเลย แหะๆ

*** ถ้ารูปไหนเคโกะจำสถานที่กับราคาได้ ก็จะลงให้นะคะ ^^” ***

เริ่มด้วยของกินบนเครื่องบิน AirAsia X ขาไปค่ะ เป็นสปาเก็ตตี้อะไรสักสิ่ง สั่งแบบพรีบุ๊คจะได้น้ำ 1 ขวดมาด้วย เริ่ดดด ..

IMG_9048

ตัดฉับไปไว ๆ ต่อที่ลงเครื่อง ลากกระเป๋าปุเลง ๆ เข้าโตเกียวแล้ว ลงจากรถบัสปุ๊บก็หาข้าวกินกันก่อน ซึ่งรอบ ๆ ป้ายรถเมล์นั้นก็มีร้านสปาเก็ตตี้ค่ะ ที่ยังเปิดอยู่ ที่สำคัญ ฝนตกด้วยค่ะ วินาทีนั้นก็ไม่เลือกอะไรแล้ว ขอหม่ำก่อนล่ะ ^^”

พิกัด ใกล้ ๆ ป้ายรถเมล์ที่รถบัสจากนาริตะมาจอดค่ะ 2 จานนี้ 2592 เยน รสชาติก็อร่อยดีค่ะ เส้นไม่แข็ง ไม่นุ่มเกินไป ให้หอยมาตัวใหญ่ด้วย

page01

ตากฝนเข้าที่พักมาได้ ก็ยังไม่หยุดกินค่ะ ไป 7-11 ใกล้ ๆ ที่พัก กินโยเกิร์ตต่ออีก ถามว่าทำไมถึงหยิบยี่ห้อนี้มากิน .. คำตอบก็คือ หยิบแบบสุ่มค่ะ ไม่ได้เจาะจงอะไรเลยยยย แต่รสชาติก็เฉย ๆ นะคะ ไม่ว้าวเท่าไหร่

IMG_9057

ต่อไปที่มื้อเช้าวันถัดไป ซื้อข้าวกล่องเข้ามาทิ้งไว้ตั้งแต่คืนวาน แล้วโยนเข้าเวฟก่อนกิน (ที่พักมีไมโครเวฟให้ค่ะ) เป็นทงคัดสึธรรมดาใน 7-11 นะคะ

IMG_9058

กินคู่กับน้ำผลไม้รวมที่ซื้อมาด้วยกันนั่นแหละ อร่อยดีค่ะ ไม่หวานจนเกินไป ให้ความรู้สึกสดชื่นดี

IMG_9059

ตัดฉับไปที่มื้อเที่ยง แถว ๆ กินซ่ามั้งนะ เป็นร้านที่มีเมนูหน้าร้านแบบกดตู้อะค่ะ ร้านนี้อยู่ในตรอก ๆ ซอก ๆ หน่อย แต่ไม่เปลี่ยว ไม่น่ากลัวนะ ราคาน่าคบด้วย ก็จัดไปค่ะ

1 เซ็ท + 1 ชามนี้ราคา 700+420 เยนค่ะ รสชาติก็เฉย ๆ นะ ตามประสาร้านอุด้ง-โซบะทั่วไปค่ะ

page02

ต่อไปที่น้ำมะนาวโซดา ตัวนี้ดูไม่ละเอียด เพราะเคโกะไม่กินโซดาค่ะ กลัวกัดกระเพาะอะนะ กดตู้ขายน้ำหยอดเหรียญอัตโนมัติมาค่ะแถว ๆ นาคาโนะ (โตเกียว) 130 เยน

IMG_9069

ต่อด้วยมื้อเย็นวันนั้น เป็นร้านอาหารออกแนวตามสั่ง (มีเมนู) อะค่ะ ออกจีน ๆ หน่อยนะ แถว ๆ อุเอโนะมั้งคะ ไม่ค่อยแน่ใจ พอวันหลังจะมากินอีกก็วนหาไม่เจอแล้ว T.T (ความจำสั้นได้อีก 555)

2 เซ็ทนี้ราคา 1530 เยนค่ะ ร้านนี้มีเมนูอังกฤษให้ด้วยยย

page03

ต่อท้ายด้วยโกโก้นมจากตู้กดน้ำอัตโนมัติหน้าสถานีอุเอโนะค่ะ ลองคนละยี่ห้อกัน เคโกะค่อนข้างชอบโกโก้ที่นี่นะ คือ มันไม่หวานเว่อร์อะค่ะ ราคาก็ตามตู้กดน้ำทั่ว ๆ ไปเนาะ 2 กระป๋อง 260 เยนค่ะ

IMG_9076

กินข้าวเย็นกันไปชุดใหญ่ แต่ก็อย่าคิดว่าจะหยุดกินนะคะ ยังสรรหาขนมกินต่อได้อีก T^T

โดนัทแถว ๆ สถานีอาคิฮะบาระค่ะ 2 ชิ้น 334 เยน ตัวมัทฉะไม่ค่อยโอเค แต่อีกอันเป็นรสช็อคโกแลต ก็อร่อยดีค่ะ .. แต่กินแล้วก็คิดถึงพอนเดอริงนะ เคโกะชอบเนื้อแบบนั้นมากกว่าค่ะ แหะๆ

page04

มื้อเช้าวันที่ 3 ของทริป ไปกินที่ร้านแฟรนไชส์ ที่จำชื่อไม่ได้ค่ะ ><~ แต่สาขานี้ที่กินอยู่หน้าสถานีอิเคะบุคุโระ ถ้าจำไม่ผิด จะเป็นร้านเดียวกันกับที่ทานเมื่อวานเย็น แต่คนละสาขากันค่ะ

เป็นร้านที่เปิดเช้ามากกกก (เอ๊ะ เปิด 24 ชม.มั้งนะ ไม่แน่ใจค่ะ) ก็เป็นที่พึ่งของนักท่องเที่ยวรอบเช้าได้ดีค่ะ 3 จานนี้ทั้งหมด 1210 เยน เคโกะว่าติดเค็มไปหน่อย ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่

page05

กระโดดข้ามมาไว ๆ อยู่ที่โอไดบะค่ะ ระหว่างนั่งพักเหนื่อยก็ไปสอยน้ำมะนาวอย่างที่อยากชิมจริง ๆ ที่ไม่มีโซดามาจากมินิมาร์ทใต้ตึกฟูจิเทเลบินั่นแหละ

IMG_9115

แล้วก็มานั่งหม่ำ ๆ ในฟู้ดคอร์ทที่ห้าง Diver City ค่ะ เคโกะจัดทาโกะยากิไป 550 เยน รสชาติอร่อยกว่าที่ไทยเยอะเลย ลูกใหญ่ ไส้ปลาหมึกเต็ม ๆ คำค่ะ ชอบมากกกกก

IMG_9130

ต่อด้วยเครปช็อคโกแลตกล้วย ราคา 411 เยน สั่งตามเมนูเลย ไม่ได้ customize อะไร รสชาติเฉย ๆ ค่ะ ธรรมดา ๆ ไม่ได้ว้าวอะไรค่ะ

IMG_9131

กลับมาที่พัก ก็แวะ 7-11 กินขนมต่ออีก – -”

Jagabee ตัวนี้จำรสชาติไม่ได้แล้วค่ะ แหะๆ น่าจะเป็นรสกุ้งเผามั้งคะ ไม่ชัวร์ ถ้าจำไม่ผิด รสจะคล้าย ๆ ข้าวเกรียบกุ้งอะค่ะ

IMG_9136

ต่อไปที่ไอศกรีม Haagen-Dazs รสแปลก ๆ คือ ไม่รู้จักขนมชนิดนี้เลยค่ะ แต่ก็ซื้อมาลองชิมดู รู้สึกไม่โอเค ไม่ถูกจริตค่ะ ออกแนวรสถั่ว ๆ ด้านบน ผสมวานิลลาด้านล่าง ตัวนี้ไม่ชอบค่ะ

IMG_9137

มาต่อที่มื้อเช้าวันที่ 4 ค่ะ ไปกินข้าวในสถานีโตเกียวค่ะ ก็เลือก ๆ ร้านเข้าไป เป็นเซ็ทอาหารเช้าให้เลือก ก็เลือก ๆ กันคนละเซ็ทล่ะค่ะ โดยรวม ๆ ก็โอเคนะคะ ราคารวม 1641 เยนค่ะ

page06

กินเสร็จออกมากดน้ำที่ตู้น้ำอัตโนมัติแถว ๆ นั้นแหละอีกขวดค่ะ เป็นชาโฮจิฉะ รู้สึกว่าไม่หวานเลย ชอบค่ะ

IMG_9164

ต่อที่มื้อเย็นวันนั้น ไปจัดซุชิสายพานแถวสถานีอุเอโนะค่ะ ตามลายแทงในพันทิปไป เห็นว่าเป็นซุชิหน้าล้น หน้าทะลัก ไรงี้ เป็นร้านที่คิวยาวมากกกกกก เคโกะไปนั่งหนาวอยู่หน้าร้านอยู่พักใหญ่ถึงจะได้คิวเข้าร้านค่ะ ร้านไม่มีเมนูอังกฤษให้ แต่บนสายพานก็พอโอเคอยู่นะคะ หรือไม่ก็เปิดเมนูแล้วจิ้ม ๆ ก็ได้ค่ะ ในเรื่องรสชาติ เคโกะว่าโอเคเลยนะ กินกันถล่มทลายมาก จำไม่ได้ว่ากี่จานค่ะ แต่สองคนกินกันอิ่มปลิ้นเลย หมดไป 5270 เยนค่ะ

page07

ซุชิหน้าล้น ๆ อร่อยทุกอย่างค่ะ ชอบแซลมอน 3 อย่าง (ซ้ายล่าง) กับขวาล่างเป็นพิเศษค่ะ

มาจบท้ายที่ 7-11 ใกล้ที่พักอีกเช่นเคย ไปหยิบไอศกรีมแท่ง Godiva มาชิมค่ะ อันนี้อร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก แท่งละ 350 เยนเท่านั้นนนนน แนะนำค่ะ อร่อยมากจริง ๆ

IMG_9201

ยังไม่หยุดกินค่ะ 55 เหมือนเมื่อกี้ไม่ได้กินซุชิมาเลยนะนี่

อันนี้เป็นคัพเค้กช็อคโกแลต ซื้อในสถานีรถไฟอุเอโนะมั้งคะ ไม่แน่ใจ เห็นป้ายลดราคาอยู่ก็เลยหน้ามืด เข้าไปหยิบ ๆ มากินซะงั้น – -” แต่รสชาติเฉย ๆ นะ ไม่ว้าวค่ะ ซื้อมา 2 ชิ้น 2 แบบ 303 เยน หลังหักส่วนลดแล้วค่ะ

IMG_9203

กินอิ่มไป ก็ล้างปาก แก้เลี่ยนด้วยชามะนาวค่ะ อันนี้ก็อร่อย ชอบมากกกกกกกกกอีกเช่นกัน ซื้อได้ตาม 7-11 ค่ะ

IMG_9204

ต่อไปที่มื้อเช้าวันที่ 5 เริ่มด้วยขนมอีกชิ้นที่เหลือที่ซื้อมาพร้อมกับกับคัพเค้กช็อคโกแลตอะค่ะ

ตัวนี้เฉย ๆ อีกแล้ว ดีที่ไม่หวานเกินไปค่ะ

IMG_9207

ส่วนมื้อเช้าจริงจังนั้น เราไปนั่งกินกันในร้าน Lawson ใกล้ ๆ ที่พักค่ะ ซึ่งในร้านมีที่ให้นั่งกินด้วย สบายเลย

IMG_9208

รสชาติเฉย ๆ เหมือนโอนิงิริในร้านสะดวกซื้อทั่ว ๆ ไปเลยค่ะ

เห็นมีชานมไข่มุกแบบสำเร็จขายด้วย แปลกดีก็เลยซื้อมากินคู่กันค่ะ

IMG_9210

ตัวนี้เคโกะว่าไม่อร่อยค่ะ ไข่มุกไม่หนึบหนับเลย

ส่วนมื้อเที่ยง ไปเดินเสาะหาจนได้ร้านใกล้ ๆ สถานี Noborito หลังกลับจาก Fujiko F Fujio Museum ค่ะ เลือกไว ๆ เลยเอาเป็นทงคัตสึด้งอีกเช่นเคย ^^” รสชาติทั่ว ๆ ไปค่ะ ไม่เด่น ไม่ว้าวอะไรพิเศษนัก น่าจะราคา 580 เยนค่ะ

IMG_9257

แล้วก็เป็นของกินเล่นในย่านไชน่าทาวน์ที่โยโกฮามะ นะคะ

เริ่มด้วยเสี่ยวหลงเปา …แบบประยุกต์ค่ะ – -” แต่ก็อร่อยใช้ได้ทีเดียว เค้าเอาไปจี่ในกะทะ เลยได้ texture กรุบ ๆ นิด ๆ แปลกแต่อร่อยดีค่ะ จานนี้น่าจะ 620 เยนมั้งคะ

page08

แล้วก็ขนมหน้าตาเหมือนในไทย เค้าเรียกอะไรนะคะ ขนมไข่หงส์หรือเปล่า เคโกะกินเป็นอย่างเดียวอ้ะ ~><~  ลูกละ 100 เยนค่ะ ถ้าซื้อเยอะจะได้ถูกกว่านี้ แต่เอามาแค่ชิมพอค่ะ แล้วก็รู้ว่าในไทยอร่อยกว่านะ

IMG_9262

ต่อด้วยซาลาเปาหมูลูกยักษ์ค่ะ 500 เยน ก็เหมือนซาละเปาทั่ว ๆ ไปนะ ต่างแค่อันนี้เป็นลูกใหญ่มากกกกค่ะ กินแล้วอิ่มเลยทีเดียว

IMG_9263

เสร็จแล้วก็เข้าห้าง … จำชื่อไม่ได้อีก เอาเป็นว่าอยู่ตรงสถานีใหญ่ ๆ ที่โยโกฮามะน่ะค่ะ ข้างบนขึ้นไปดูวิวที่สูงได้อะค่ะ ><” น่าจะเป็น Landmark Tower นะ

เลี้ยวเข้าร้านราเม็ง น่าจะชั้นล่างของห้างค่ะ 2 ชาม 2210 เยน รสชาติก็ราเม็งอะค่ะ แอบรู้สึกมันเยอะไปนิดนึง โดยรวม ๆ แล้วก็โอเคอยู่

page09

ต่อด้วยของหวานอย่างดาร์คช็อคโกแลตปั่น ณ Godiva ในห้างเดียวกันค่ะ 590 เยน บอกได้คำเดียวว่า มันอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกก

IMG_9279

จากนั้นกลับเข้าโตเกียว ไปลงที่อุเอโนะ แล้วกดน้ำจากตู้ขายอัตโนมัติมาอีกแล้ว เป็นน้ำส้มยูซุเลมอนค่ะ กลิ่นหอมมากกกกก อร่อยด้วย เป็นเครื่องดื่มร้อนนะคะ แต่อร่อยทีเดียว

IMG_9283

ต่อด้วย Jagariko รสสุกี้ยากี้ … เออ เอาเข้าไป รสแปลก ๆ แต่ก็กินค่ะ อร่อย ชอบ ๆ

IMG_9284

ปิดท้ายวันนั้นด้วยไอศกรีม Haagen-Dazs ค่ะ แต่เปลี่ยนเป็นรสชาเขียวบ้าง ก็หอมชาเขียว รสชาเขียวเข้มข้น อร่อยดีค่ะ สมราคาเนาะ

IMG_9285

กระโดดข้ามไปมื้อเที่ยงวันที่ 6 … แอบงงอยู่เหมือนกันว่ามื้อเช้าหายไปไหน ?

ไปกินข้าวในห้างบนสถานีชิบูยะมั้งคะ ไม่แน่ใจอย่างแรงเลย เป็นร้านแนว ๆ สลัดนะ แปลก ๆ ดีค่ะ แต่ก็อร่อยดี ร้านนี้น่าจะฮิตนะคะ คิวยาวพอสมควรเลย ราคา 2 เซ็ทอยู่ที่ 2460 เยนค่ะ

page10

กระโดดข้ามไปมื้อเย็นเลย เป็นร้านตู้กดเมนูหยอดเหรียญอะค่ะ แถว ๆ อุเอโนะ ได้มาเป็นข้าวหน้าเนื้อ กับแกงกะหรี่ค่ะ รวม 1220 เยน ถูกและอร่อยค่ะ ^^

page11

มื้อเช้าวันที่ 7 วันสุดท้าย ก็ซื้อข้าวกล่องมาเวฟกินกันค่ะ เอาเร็วเข้าว่าเนาะ ของเคโกะเป็นข้าวหน้าเต้าหู้ค่ะ หยิบมาด้วยความคิดถึงไต้หวันอย่างแรงงิ ^^”

IMG_9338

ข้ามไปที่สนามบินเลยค่ะ ซื้อชามะนาวขวดนี้ที่ร้านค้าแถว ๆ เกทนั่นแหละ อร่อยค่ะ ชอบอีกแล้ว คือ มันไม่หวานแหลม และหอมมะนาวดีอะค่ะ

IMG_9349

ส่วนอาหารบนเครื่องขากลับนั้น เลือกเป็นผัดไทยค่ะ เคโกะว่าอร่อยเกินความคาดหมายอยู่นะ แต่ไม่ถึงกับอร่อยเวอร์วัง แนะนำไรงี้นะคะ

IMG_9350

ปิดท้ายของกินด้วยช็อคโกแลตเหล้า แอลกอฮอล์ 3.7% ค่ะ ผสมลูกเกดด้วย ไปได้มาจากดองกี้ค่ะ อร่อย ได้รสชาติเหล้าพอกรึ่ม ๆ ค่ะ ใครชอบแนวนี้ จัดได้เลยค่ะ

IMG_9375

ก็เป็นอันจบทริปญี่ปุ่น 2017 ไปอย่างสมบูรณ์แล้วนะคะ แหะๆ ลากข้ามมาหลายเดือนเลยทีเดียว ^^”

แล้วเจอกันใหม่ในโพสต์ถัดไปค่ะ