[Chiang Rai] Samile Coffee Japanese style

สวัสดีค่ะ มาถึงโพสต์สุดท้ายของทริปเชียงรายแล้วนะคะ ก็จะมาปิดท้ายที่คาเฟ่นึงในเชียงรายที่บรรยากาศกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นมากค่ะ และที่นี่มีความเจ๋งอีกอย่างตรงที่มีช่างภาพมาถ่ายรูปให้เราด้วยค่ะ เหมาะกับคนไปคนเดียวแต่อยากได้รูปสวย ๆ หรือไม่ก็ไปกันหลาย ๆ คน แต่อยากได้รูปสวย ๆ โดยที่ไม่ต้องผลัดกันถ่ายมาก ๆ ค่ะ

Restaurant name : Samile Coffee Japanese style
Google maps : https://goo.gl/maps/DENJWjK1kdoGKZ1b9
Parking lots : Yes
Location : อ.เมือง จ.เชียงราย
Opening hours : 8AM – 6PM
Visited date : 26 Dec 2020
Website : https://web.facebook.com/Samile-Coffee-Japanese-style-105404494183604/

*** เคโกะจะลงตัวอย่างรูปที่ได้ไว้ในเพจนะคะ ขออนุญาตไม่ลงในบล็อกนะค้าาา แหะๆ ***

เคโกะไปถึงก่อนเที่ยงนิดหน่อยนะคะ คนไม่เยอะเลยค่ะ แต่พอบ่าย ๆ คนก็เยอะมากนะคะ ถ้ายังไงก็พิจารณาเวลากันด้วยเนอะ อยากได้มุมสวย ๆ ไม่ติดคนก็แนะนำให้มาช่วงสาย ๆ ค่ะ

ไปถึงเคโกะก็สั่งเครื่องดื่มก่อนเลย แล้วก็สอบถามพนักงานเคาน์เตอร์ด้วยถึงการใช้บริการช่างภาพค่ะ ก็เลยได้ความว่าช่างภาพมีถ่ายงานลูกค้าคนก่อนหน้าเคโกะอยู่ แต่กำลังเสร็จงานแล้ว ก็เลยโอเคค่ะ รออออ

เครื่องดื่มที่สั่งมาเป็นชาเขียวเย็นนะคะ

ตัวร้านมีที่นั่งทั้ง indoor และ outdoor เลยค่ะ ตอนแรกว่าจะนั่งด้านนอก แต่วางแก้วชาไว้นาน เริ่มละลายแล้ว บวกกับมีกระเป๋าอีก ก็เลยย้ายมาด้านในร้านค่ะ

ที่ร้านมีบริการชุดแบบญี่ปุ่นให้ด้วย ซึ่งก็แค่สั่งเมนูใด ๆ ที่ร้าน ก็สามารถยืมชุดใส่ถ่ายรูปได้แล้วล่ะค่ะ ซึ่งมุมแต่งตัวและชุดเสื้อผ้านั้นจะอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ค่ะ โดยมีพนักงานมาช่วยแต่งตัวให้ด้วย

สำหรับค่าบริการถ่ายภาพนั้น คิดอยู่ที่ 150 บาท/1-3 คนค่ะ ไม่จำกัดจำนวนรูป และไม่จำกัดเวลาค่ะ

แล้วก็ขอแปะรูปบรรยากาศร้านไปยาว ๆ เลยนะคะ

ตรงนี้เป็นบริเวณด้านหน้าร้านค่ะ ก็สามารถมานั่งถ่ายรูปได้เช่นกัน

ประตูกระจกนั้นคือตัวร้านที่เป็น indoor ค่ะ เป็นห้องแอร์ขนาดกะทัดรัดค่ะ

พอถ่ายรูปอะไรเสร็จสรรพ ก็หิวข้าวแล้วค่ะ หลังจากนี้คือไปสนามบินและบินกลับมากรุงเทพฯแล้ว ก็เลยตัดสินใจทานข้าวที่ร้านเลยค่ะ ซึ่งที่ร้านเองก็จะมีเมนูอาหารด้วย แต่ก็ไม่ได้หลากหลายอะไรนักค่ะ

เคโกะสั่งไปเป็นข้าวไก่เทอริยากิค่ะ

ตามความรู้สึกเลยนะ เมนูอาหารไม่ได้อร่อยว้าวค่ะ รู้สึกเหมือนเป็นอาหารฟรีซอะ และตัวซอสออกเค็มเกินไปค่ะ

ส่วนเครื่องดื่มเอง (ชาเย็น) ก็รสธรรมดา ๆ ค่ะ

สนนราคารวมทั้งหมด ถ้าจดมาไม่ผิด ก็ 299 บาทค่ะ –รวมค่าช่างภาพแล้วน้าาาา (ไม่มั่นใจเพราะลงท้ายด้วยเลข 9 นี่แหละ ><)

ก็จัดเป็นร้านที่มีมุมถ่ายรูปเยอะมากกกกกก เก๋ตรงที่มีช่างภาพบริการด้วย ชอบตรงนี้ค่ะ ฮาาาาาาา คือถ้ามีปัญหาว่าเพื่อนถ่ายรูปให้ไม่ถูกใจ ร้านนี้แก้ปัญหานี้ให้ได้ค่ะ ฮาาาา

แต่เอาจริง ๆ นะ ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่าช่างภาพจะคล่องหรือชำนาญอะไรมากมายค่ะ เค้าจะถ่ายรูปตัวอย่างให้เราดูก่อนสองสามใบเพื่อให้ดูแนวว่าเราอยากได้แนวไหน แต่ภาพที่ได้ก็จะมี under/over ไปบ้างค่ะ แล้วก็ไม่ได้จัดท่าให้เรา เราต้องคิดท่าเองทั้งหมดนะคะ แม้เคโกะจะออกตัวว่าจัดท่าไม่เก่งแล้วก็ตาม ก็ยังต้องสรรหาท่าออกมาเองอยู่ดีค่ะ T.T

ส่วนภาพที่ได้ ดีตรงที่เค้าให้เราหมดทุกรูป แต่ก็ต้องมาปรับแสงอะไรเองกรณีที่ไม่ถูกใจเราค่ะ –เคโกะเองก็ปรับไม่เก่ง แฮ่~ (ตามไปดูในเพจได้นะคะ จะลงไว้ให้ดูเป็นตัวอย่างนิดหน่อยพอกรุบกริบ)

โดยรวมเลย อยากได้รูปโพรไฟล์ใหม่มาเลยค่ะ ดีงามมมมม แต่ในเรื่องอาหารและเครื่องดื่ม เคโกะว่ากลาง ๆ ค่ะ ไม่จัดว่าแย่แต่ก็ไม่ถึอว่าดีเลิศนะ

แปะเพจไว้ให้ เผื่อหาทางไปไม่เจอค่ะ ฮาาาา
https://web.facebook.com/thisiskeigo

[Chiang Rai] In town, Chiang Rai

สวัสดีค่ะ ในตัวเมืองเชียงรายที่เด่น ๆ เคโกะก็ไปมาแล้วซะเยอะอะนะคะ เพราะงั้นในโพสต์นี้ก็เลยจะไปที่ที่ยังไม่เคยไปค่ะ แล้วก็พอดีกับว่ามีน้องที่ออฟฟิศเก่าแนะนำร้านอาหารมาให้ เลยไปชิมดูด้วยค่ะ

เริ่มต้นที่ร้านอาหารก่อนละกันเนอะ เคโกะกลับเข้าเมืองจากดอยช้าง มาถึงโรงแรมที่พักก็บ่ายแก่ ๆ แล้วล่ะค่ะ ก็เลยเก็บของให้เรียบร้อย แล้วก็ออกไปทานมื้อเย็นเลย

Restaurant name : Ma-Long-Der / มาลองเต๊อะ
Google maps : https://goo.gl/maps/aJyh2FKEHyRGTcAj6
Parking lots : Yes
Location : อ.เมือง จ.เชียงราย
Opening hours : 8.30AM – 5PM, closed on Monday
Visited date : 25 Dec 2020
Website : https://web.facebook.com/MalongderCEI/

มาถึงหน้าร้านก็แอบเด๋อ ๆ นิดหน่อย เพราะรู้สึกว่าร้านดูใหญ่เกินตัวไปล่ะค่ะ แต่ก็มาแล้ว มั่นหน้าไว้~ 555

นั่งโต๊ะปุ๊บ พนง.ก็เอาเมนูมาให้ค่ะ คงคอนเซ็ปท์ร้านจริง ๆ เข้ากับร้านมากเลยค่ะ

ร้านก็จะเป็นอาหารเมืองนะคะ สั่งอาหารแล้ว เค้าก็ยก Welcome drink มาเสิร์ฟให้เป็นน้ำใบเตยอัญชัน หน้าตาน่ารักแบบนี้เลยค่ะ

เคโกะชอบการนำเสนอของร้านนะ ใช้เป็นขันใบเล็กแทนแก้วน้ำ ได้ฟีลย้อนยุคหน่อย ๆ ดีค่ะ

จากนั้นก็จะนำเซ็ทจานช้อนส้อมมาเสิร์ฟให้ค่ะ แพคมาน่ารัก ๆ แบบนี้เลย เป็นเรื่องเล็กน้อยแต่เคโกะกลับรู้สึกว่านำเสนอได้น่ารัก น่าสนใจดีค่ะ แล้วก็แหวกแนวจากแบบทั่ว ๆ ไปที่มักจะใช้เป็นถุงพลาสติกอะไรแบบนั้น ซึ่งใจเคโกะจะค่อนไปทางการใช้วัสดุที่ย่อยสลายตามธรรมชาติแบบนี้มากกว่าค่ะ

แกะกระดาษที่ห่อ ก็จะประมาณนี้ค่ะ

แล้วอาหารที่สั่งไปก็มาค่ะ มาไล่เลี่ยกันเลย

จานแรกเป็นเซ็ทขันโตกเซ็ทเล็กค่ะ ขนาดจะประมาณ 1-2 คนนะคะ แต่เคโกะก็หม่ำคนเดียวหมดแหละ 5555

ขันโตกเล็กจะประกอบไปด้วย น้ำพริกอ่อง, แกงฮังเล, แกงตูนกุ้งฝอย, ไข่ต้ม, แหนม, หมูยอ, ไส้อั่ว และผักต้มที่ไว้กินแนมกับสิ่งต่าง ๆ ในเซ็ทค่ะ และยังมีผลไม้, ข้าวเหนียวซึ่งห่อใบตองมาอย่างสวยงามอีกด้วย

แกะห่อข้าวเหนียวให้ดูนะคะ เป็นข้าวเหนียวดำ+อัญชันค่ะ สวยงามน่าทานมากเลย

กับข้าวแต่ละอย่างในขันโตกก็จะเป็นพอร์ชั่นเล็ก ๆ อะค่ะ ทานสองสามคำก็หมดแล้วไรงี้ แต่ส่วนตัวว่าอร่อยนะคะ อร่อยทุกอย่างเลย

จานต่อไป ไม่มีในเมนูค่ะ แต่เคโกะเห็นในหน้าเพจ เลยถามพนักงานดูว่ายังมีมั้ย พนง.ว่ามีก็จัดไปค่ะ กับตำสตรอเบอรี่

ตำสตรอเบอรี่นั้น เคโกะชอบความสตรอเบอรี่เยอะมากกกกค่ะ มาเป็นลูก ๆ เลย ท็อปด้วยปลากรอบและข้าวโอ๊ต ส่วนตัวรู้สึกว่าออกเค็มไปนิดหน่อยค่ะ ไม่ค่อยเข้ากับสตรอเบอรี่เท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้แย่นะคะ

อาหารมื้อนี้เบ็ดเสร็จ 535 บาทค่ะ

มาดูบรรยากาศร้านบ้าง

นอกจากร้านอาหารแล้ว เค้ามีห้องจัดแสดงงานศิลปะด้วยนะคะ มีภาพเขียนและของที่ระลึกอะไรต่าง ๆ เยอะแยะทีเดียวค่ะ ซึ่งแกลอรีแสดงงานศิลปะนี้เข้าได้ฟรีเลยค่ะ เดินเข้าไปชมงานตั้งแต่ด้านหน้าจนมาทะลุออกด้านหลัง ก็จะมาโผล่ด้านในร้านอาหารอีกทีค่ะ ก็มาเดินเล่นเพลิน ๆ ระหว่างรออาหารได้ค่ะ

แต่ในจังหวะที่เคโกะจะเดินออกจากร้านนั้นเอง น้องพนักงานก็เชิญชวนไปดูมุมของฝากที่ตั้งอยู่ภายในร้าน ก็เลยช้อปปิ้งต่อได้อีก – -“

ตัวที่อยากนำเสนอก็คือ พายสับปะรดภูแลค่ะ

เป็นพายสับปะรดที่ด้านในคือสับปะรดภูแลทั้งลูกค่ะ 1 กล่องก็คือ 1 ชิ้นนะคะ ข้างกล่องจะมีอธิบายวิธีอุ่นเพื่อทานแบบร้อน ๆ ด้วยค่ะ

เคโกะแกะด้านในให้ดูนะ

ส่วนรสชาตินั้น อร่อยค่ะ คอสับปะรดควรจัดเลยค่ะ ^^

ก่อนจะออกจากร้าน (ได้ซะที) ทางร้านก็มอบของเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ด้วย เห็นการ์ดที่แนบมาแล้วก็ได้แต่เสียดายค่ะ ที่ไม่ได้ไปดูสีสันดอยตุงค่ะ ก็แอบสนใจอยู่เหมือนกัน แต่ตารางเวลาคือไม่ได้แล้วอ่าาา โปรแกรมแน่นมากกก

ส่วนด้านหลังของการ์ดก็คือ mask นะคะ มีมาให้ 1 ชิ้นค่ะ

ออกจากร้านอาหารแล้ว มาต่อกันที่วัดค่ะ

วัดแรกที่แวะในตัวเมืองก็คือวัดห้วยปลากั้งค่ะ

Spot name : Wat Huay Pla Kang / วัดห้วยปลากั้ง
Location : อ.เมือง จ.เชียงราย
Google maps : https://goo.gl/maps/9Jp6md86rFwyfASt6
Entrance fee : Free
Opening hours : 7AM – 9.30PM
Visited date : 26 Dec 2020

วัดนี้ก็เป็นวัดที่เด่นตรงที่มีการผสมผสานกันระหว่างศิลปะจีนกับล้านนาค่ะ มีเจ้าแม่กวนอิมที่ใหญ่มากกกกกด้วยค่ะ

ที่จอดรถเค้ากว้างขวางมาก ณ วันที่ไปมีจนท.คอยโบกรถอำนวยความสะดวกให้ด้วยค่ะ

หันเข้าหาวัดแล้วหมุนไปทางด้านซ้ายมือ ก็จะเห็นองค์เจ้าแม่กวนอิมค่ะ

แล้วก็เข้าไปไหว้พระด้านในกันค่ะ

เคโกะเอ็นดูคำเตือนเค้าที่แปะอยู่ขั้นบันไดนะ ถึงกับต้องหยุดคิดเลยอะว่ารองเท้าแพงนี่คือต้องราคาไหนถึงเรียกว่าแพง ? รองเท้าเคโกะแพงมั้ย ? 5555

ซึ่งถุงใส่รองเท้าเนี่ย เค้ามีบริการให้นะคะอยู่เชิงบันไดนี่แหละ เป็นถุงผ้าอย่างดีเชียวค่ะ

ดูงานศิลปะเค้าสิคะ สวย ละเมียดละไมมากกก ลายเส้นอ่อนช้อยมากค่ะ

ไหว้พระแล้วก็แหงนดูเพดานซักนิดค่ะ สวยงามมาก ๆ

เสร็จแล้วก็หันไปทางขวาค่ะ จะมีเจดีย์สูง ๆ อยู่

ด้านในก็สามารถเข้าไปเดินชมได้ค่ะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะมีทั้งหมด 9 ชั้นนะคะ ซึ่งชั้นบน ๆ ก็จะแคบตามทรงอาคารค่ะ

แต่ละชั้นก็จะมีเจ้าแม่กวนอิมที่แกะสลักจากไม้จันทน์หอมในปางต่าง ๆ ด้วยค่ะ

เคโกะก็เดินขึ้นไปถึงชั้นบนสุดเลยค่ะ ชั้นบน ๆ ก็จะมีพระพุทธรูปอยู่ด้วย แล้วก็อย่างที่บอกคือค่อนข้างแคบ โดยเฉพาะชั้นบนสุดค่ะ

เดินกลับลงมา มองไปทางเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ก็จะเห็นกำแพงยาว ๆ อยู่ใกล้ ๆ เค้าว่าเป็นกำแพงเมืองไทยค่ะ 555 ออกแนวคล้ายกำแพงเมืองจีนเนอะ

จากบริเวณนี้ไปถึงเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่นั้น ค่อนข้างไกลค่ะ ทางวัดก็มีรถชัทเทิลบัสบริการด้วย ซึ่งถ้ามีคนขึ้นรถเค้าก็ออกรถเลยค่ะ ไม่ได้มีเวลาฟิกซ์หรือต้องรอคนเต็มคันอะไรแบบนั้นนะคะ

ด้านในสามารถเข้าไปชมได้ค่ะ ซึ่งจะมีลิฟท์บริการอยู่ ส่วนที่เข้าชมนั้นจะอยู่ชั้นบนค่ะ ค่าโดยสารลิฟท์ก็จะ 20 บาทค่ะ เคโกะถามเค้าเล่น ๆ ว่าเดินขึ้นไปเองได้มั้ย เค้าว่าไม่อนุญาตให้เดินขึ้นค่ะ ต้องจ่ายค่าลิฟท์และขึ้นลิฟท์ไปเท่านั้น

ด้านบนที่ให้เข้าชมก็จะเป็นงานแกะสลักประติมากรรมฝาผนังที่ต้องบอกว่าสวยงามและอลังการมากค่ะ

แล้วก็มีประตูมังกรด้วยค่ะ คนมาถ่ายรูปจุดนี้เยอะเลย

ปิดท้ายวัดนี้ด้วยมุมด้านข้างของเจดีย์ 9 ชั้นกับมังกรค่ะ

จากนั้นก็ขอมูฟไปต่อที่วัดแห่งที่ 2 ค่ะ วัดนี้ก็สวยงามไม่แพ้กันเลย

Spot name : Wat Rong Suea Ten (Blue Temple) / วัดร่องเสือเต้น
Location : อ.เมือง จ.เชียงราย
Google maps : https://goo.gl/maps/QHNu2Nct9JAUaBRFA
Entrance fee : Free
Opening hours : 7AM – 8PM
Visited date : 26 Dec 2020
Website : https://web.facebook.com/RSTBlueTemple

แค่พุ่งเข้าไปในเขตวัดและจอดรถก็เจอกับความอลังการและสวยงามของวัดแห่งนี้แล้วค่ะ

เริ่มตั้งแต่ประตูวัดเลยนะคะ

แล้วก็ตรงที่จอดรถค่ะ วัดนี้จะมีที่จอดรถไม่ได้เยอะมากค่ะ สามารถจอดได้ตรงบริเวณที่เคโกะจอดนี้ แล้วก็ถัดเข้าไปด้านในอีกค่ะ หรือไม่ก็ด้านหน้าวัดก็ได้ค่ะ

ด้านหน้าอุโบสถค่ะ มีน้ำพุงาม ๆ ด้วย ถ้าสังเกตให้ดี น้ำในบ่อน้ำพุก็เป็นสีน้ำเงินเหมือนกับวัดเช่นกันค่ะ

แล้วก็อุโบสถ ก็ยังคงเป็นสีน้ำเงินค่ะ เป็นสีน้ำเงินทั้งหลังเลย

เข้าไปไหว้พระด้านในกันค่ะ

ด้านในจะมีป้ายบอกว่า ห้ามยืนถ่ายรูปในระยะใกล้ค่ะ ถอยออกไปห่าง ๆ ก็ถ่ายได้ เคโกะก็เลยซูมมาให้นะคะ ไม่ใช่ระยะใกล้ชิดน้าาาา

ภาพวาดฝาผนังก็งามไม่แพ้กันเลยค่ะ

ด้านข้างวัดก็จะมีร้านค้าอะไรอยู่ประมาณนึง เคโกะก็เดินเล่นรอบ ๆ อุโบสถจนไปถึงด้านหลังค่ะ หามุมแปลก ๆ ถ่ายรูป แหะๆ

ก็จะมีประมาณนี้ค่ะ ได้ไปในตัวเมืองไม่ได้เยอะที่มากนัก และก็ยังเหลืออีกที่นึงค่ะ ซึ่งจะขอยกไปเป็นโพสต์หน้านะคะ
https://web.facebook.com/thisiskeigo

[Chiang Rai] Wang Put Tan Tea Plantation

สวัสดีค่าาาาา ช่วงนี้ไปเที่ยวไหนก็ลำบาก ไปเที่ยวแบบย้อนอดีตกับเคโกะก่อนเนาะ 5555

จริง ๆ โพสต์นี้ควรจะรวบกับตอนที่แล้วที่เล่าถึงดอยแม่สลองค่ะ แต่ความที่ตัวเองถ่ายรูปมาเยอะจัด //ว่างสินะ

ก็เลยคิดว่าแยกมาอีกโพสต์นึงเลยดีกว่า

Spot name : Wang Put Tan Tea Plantation / ไร่ชาวังพุดตาล
Location : อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
Google maps : https://goo.gl/maps/KsjcAqu8AghzoJ2H8
Entrance fee : Free
Opening hours : 8.30AM – 5.30PM
Visited date : 24 Dec 2020
Website : https://www.wangputtan.com/
Facebook : https://web.facebook.com/ไร่ชาวังพุดตาล-Wang-Put-Tan-Tea-Plantation-102445191266360/

เห็นรีวิวแน่นมากค่ะกับที่นี่ คือเค้านอกจากมีคาเฟ่แล้วเค้ามีบริการที่พักค้างคืนด้วยนะ สนใจลองติดต่อสอบถามกันเองนะคะ เคโกะมาเล่าเฉพาะส่วนคาเฟ่น้าาา

ทางเข้าค่อนข้างลำบากนิดนึง เป็นทางดินลูกรังเลยค่ะ แต่มีป้ายบอกตลอดทางอยู่นะ พอไปถึงก็จะเจอกับสิงห์สองตัวตั้งตระหง่านอยู่ปากทางเข้าค่ะ

ความที่ก็ไม่รู้อ่ะว่าอะไรยังไง (หาข้อมูลไว้ล่วงหน้าหลายวันก่อนเดินทาง แล้วความจำสั้นค่ะ ฮาาาา) พอเลี้ยวเข้าปุ๊บก็จอดรถปั๊บเลย

คลับคล้ายคลับคลาว่าแลนด์มาร์คเค้านอกจากสิงห์สองตัวด้านหน้าแล้วก็จะมีกาน้ำใหญ่ ๆ ด้วย

บริเวณด้านหน้าเนี่ย เคโกะคิดไปเองว่าเหมือนมีร่องรอยอารยธรรมหลงเหลืออยู่ถึงความนิยมในที่ผ่านมาค่ะ อาจจะมีการชงชาให้นักท่องเที่ยวชิมแล้วซื้อกลับอะไรงี้ แต่ตอนนี้ก็ดูร้าง ๆ โล่ง ๆ ไปเลยค่ะ ไม่มีคนเลยแหละ

เคโกะเหวอมากนะตอนแรก คือแบบ เฮ้ยย ร้างเบอร์นี้ทำไมคนนิยมรีวิว และเชียร์ให้มากันล่ะ ซึ่งตอนที่เคโกะเดินถ่ายรูปอยู่นั้น มีรถอีกคันนึงเข้ามาจอดที่เดียวกับเคโกะเลย เค้าก็ดูเหวอ ๆ ไปเหมือนกันว่าทำไมดูเงียบ ๆ ร้าง ๆ แล้วก็มาถ่ายรูปกับตึกกาน้ำชาด้านบนอะค่ะ แล้วเค้าก็ไป ….

พอดีเคโกะเหลือบเห็นป้ายห้องน้ำปักอยู่ เลยแบบ เอออ เดินไปห้องน้ำหน่อยดีกว่าไรงี้ ก็เลยค้นพบว่า อ้าววววว คาเฟ่เค้าอยู่ด้านล่าง (เป็นทางลาดชันลงไปค่ะ) และมีที่จอดรถ มีคาเฟ่อยู่ตรงนี้นี่นาาาาา

เข้าห้องน้ำเสร็จ ด้วยความที่ขี้เกียจค่ะ ก็เลยไปเอารถลงมาจอดด้านล่าง หน้าคาเฟ่เลย ที่จอดรถเป็น parking lots เยอะพอควรค่ะ

เดินเข้าไปในร้าน ร้านจะมีทั้งแบบ indoor และ outdoor เลยนะคะ ซึ่งบริเวณด้านนอกร้านเนี่ยมีมุมตกแต่งให้ถ่ายรูปเยอะเลย คนถ่ายรูปกันเพียบเลยค่ะ //คนไม่ได้หายไปไหน มากองอยู่ตรงคาเฟ่นี่เอง ไม่ได้ร้างซะหน่อย 5555

มีมุมยอดฮิตอย่างเฟรมใหญ่ ที่เอาตัวเราไปอยู่ในเฟรม พอถ่ายออกมาก็เหมือนกับเป็นเฟรมที่แบ็คกราวด์เป็นวิวยอดดอยไรงี้ด้วยค่ะ แต่ติดคนถ่ายรูปอยู่นะ เคโกะขอไม่ลงไว้ค่ะ

วิวก็จะวิวเขา ๆ ดอย ๆ ประมาณนี้

อย่างที่บอก เค้ามีบริการที่พักด้วยค่ะ เป็นบ้านหลัง ๆ แบบที่ถ่ายติดมา และเป็นแบบเต็นท์ด้วย (เห็นว่าปิดให้บริการอยู่นะ เช็คเพจอีกทีเพื่อความชัวร์นะคะ)

เคโกะว่าแบบเต็นท์น่าสนใจนะคะ ตื่นเช้ามาน่าจะมีหมอก ๆ ไรงี้อะ คงรู้สึกสดชื่นไม่น้อยค่ะ

แล้วก็เดินไปสั่งเครื่องดื่มในร้าน สั่งเสร็จคือจ่ายเงินเลยแล้วเค้าจะให้คิวเพจเจอร์มา แล้วก็ไปเลือกโต๊ะนั่งค่ะ แต่พออาหารเราได้แล้วก็มีพนง.ยกมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะนะ

ไปส่องหน้าตู้เค้กนิดนึงค่ะ

ในร้านอีกนิด

รอไม่นานเลยค่ะ เมนูที่เคโกะสั่งก็มาแล้ว

เครื่องดื่มเป็นชาพีชค่ะ มีบับเบิ้ลมาด้วย เอาลิ้นดุน ๆ ให้แตกก็จะมีน้ำ ๆ ไหลออกมาค่ะ ดื่มแล้วสดชื่นดี

ส่วนเค้ก เคโกะเลือกมาเป็น Honey Lemon Cake ค่ะ

ตัว honey comb ที่ท็อปมาข้างบนนั้นหวานมากกกกก ส่วนเค้กโดยรวมก็จัดว่าหวานไปสำหรับเคโกะอยู่ค่ะ (แล้วมีเค้กร้านไหนบ้างที่ไม่หวานสำหรับเธอออ 55555) กลิ่นเลมอนค่อนข้างบางเบาค่ะ เคโกะจำได้แค่ว่ามันหวานอะ แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะคะ

โดยรวมถือว่ามานั่งกินหนมชมวิวได้ค่ะ ชิลล์ ๆ ดีอยู่นะ

ฝากเพจด้วยค้าาา
https://web.facebook.com/thisiskeigo

[Chiang Rai] Doi Mae Salong

สวัสดีค่า มาเริ่มทริปเชียงรายกันเลยนะคะ ทริปเชียงรายของเคโกะนั้นจะเป็น เชียงราย – ดอยแม่สลอง – ดอยช้าง – เชียงราย นะคะ โดยจะพักที่แม่สลองคืนนึงและคืนที่ 2 ไปพักในเมืองค่ะ

โพสต์นี้จะยาวนี้ดดดนึงนะ เพราะเคโกะใช้เวลากับแม่สลองเยอะพอควรแหละ แล้วก็มีมุมถ่ายรูปเยอะเลยค่ะ จะตัดออกไม่ลงก็แอบเสียดาย อยากให้เห็นบรรยากาศไปด้วยกันค่ะ

Spot name : The Martyr’s Memorial Hall (Chinese Division 93 Memorial) / พิพิธภัณฑ์วีรชนอดีตทหารจีนคณะชาติภาคเหนือ ประเทศไทย
Location : อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
Google maps : https://goo.gl/maps/TWn9dYbK5WuUg23ZA
Entrance fee : Free
Opening hours : 8AM – 5PM
Visited date : 24 Dec 2020

เคโกะขับรถจากสนามบินเชียงราย ตรงดิ่งไปที่ดอยแม่สลองเลยนะคะ จากในเมืองมา ก่อนถึงแม่สลองกม.0 ก็จะเจอกับพิพิธภัณฑ์วีรชนก่อนค่ะ ยังไม่เคยมาก็เลยขอแวะตรงนี้เป็นที่แรกค่ะ

ด้านหน้าประตูทางเข้าตัวอาคารก็จะเป็นเหมือนสวนขนาดย่อม ๆ ค่ะ มีรูปปั้นของบุคคลสำคัญอยู่รอบ ๆ โดยมีนายพลต้วน บุคคลสำคัญของเหตุการณ์นี้ที่เค้าสร้างอนุสรณ์สถานไว้อยู่ด้านหน้าทางขวาของประตูค่ะ

อีกด้านนึงมีศาลาพักผ่อน และรูปปั้นอยู่ค่ะ ซึ่งเคโกะดูแล้วลืมแล้วว่ามีความหมายยังไง ฮาาาา

อันที่จริง มีความรู้สึกว่าต้องมีค่าเข้าสิ แต่เคโกะก็ไม่เจอคนขายบัตรเข้าชมเลยค่ะ เลยอนุมานว่าฟรีนะคะ แหะๆ

ลักษณะก็จะเป็นอาคารชั้นเดียวแบบจีนโบราณ ที่จะมีเรือน 3 ด้าน ตรงกลางมีลานกว้าง หรือที่คนจีนเค้าเรียกว่า 四合院 น่ะค่ะ

โดยที่แต่ละอาคารก็จะมีนิทรรศการและโมเดลจำลองที่อธิบายประวัติความเป็นมาค่ะ โดยคร่าว ๆ ก็จะพูดถึงสงครามจีนคณะพรรคก๊กมินตั๋งที่นำโดยเจียงไคเช็ค โดยที่กองทัพของนายพลต้วนซีเหวินได้อพยพเข้ามาในบริเวณนี้เพื่อถอยรับมือกับกองทัพจีนที่นำโดยคณะคอมมิวนิสต์เหมาเจ๋อตุง ซึ่งต่อมา ถึงแม้ว่าคณะก๊กมินตั๋งจะพ่ายแพ้และต้องถอยร่นไปอยู่ที่เกาะไต้หวัน (เกิดเป็นประเทศไต้หวันนั่นแหละค่ะ) ก็ตาม แต่นายทหารส่วนใหญ่ก็ยังคงปักหลักอยู่ที่ดอยแม่สลองแห่งนี้มาเรื่อย ๆ ค่ะ ซึ่งก็ทำให้มีปัญหาในช่วงแรก ๆ อยู่บ้าง เพราะกลายเป็นดินแดนอันตราย ทั้งยาเสพติดและอาวุธ จนทางการไทยในยุคก่อนได้เจรจาปลดอาวุธและเปลี่ยนจากปลูกฝิ่นมาเป็นไร่ชาแทนจนถึงปัจจุบันค่ะ

ไปที่อนุสรณ์สถานเสร็จแล้ว ก็ต่อที่สุสานนายพลต้วนกันต่อค่ะ

Spot name : General Cemetery Tuan -The tomb Of Gen Duan / สุสานนายพลต้วน
Location : อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
Google maps : https://goo.gl/maps/zQn8RprW9ryUxTip6
Entrance fee : Free
Opening hours : N/A
Visited date : 24 Dec 2020

ตรงนี้เคโกะเคยมารอบนึงแล้วค่ะ ขออนุญาตไม่ลิ้งค์ถึงบล็อคที่เคยโพสต์ไปแล้วนะคะ แหะ ๆ แอบดูไม่ค่อยน่าจดจำซักหน่อยค่ะ

ทางเข้าจะเป็นทางแคบ ๆ ค่ะ มาจนสุดทางก็จะเป็นสุสานนายพลต้วน มีร้านค้าอยู่สองสามร้านที่เงียบเหงามากกกกกก

ส่วนสุสานก็จะเป็นอาคารแบบเปิดโล่งค่ะ เดินขึ้นบันไดไปด้านบนได้เลยค่ะ

เคโกะไม่ค่อยคุ้นกับความเป็นบันไดสูง ๆ แบบนี้เท่าไหร่ คลับคล้ายคลับคลาว่าครั้งก่อนที่มา ดูจะไม่ใช่ทรงนี้ค่ะ แอบดูโทรม ๆ ด้วยซ้ำ แต่ครั้งนี้ดูสวยงาม ไฉไลมากเลยค่ะ

จากนั้นก็แวะกินข้าวเที่ยงก่อนค่ะ เคโกะปักหมุดไว้แล้วว่าจะไปชิมก๋วยเตี๋ยวทำมือที่เค้าว่าอร่อยมาก ๆ ค่ะ

Restaurant name : ร้านบะหมี่ยูนนาน
Google maps : https://goo.gl/maps/rJe75eowuo7LXKYp7
Parking lots : No
Location : อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
Opening hours : 7AM – 5.30PM
Visited date : 24 Dec 2020

อ่านเจอรีวิวจากไหนซักแห่งบอกว่าเป็นบะหมี่ทำมือที่อร่อยมาก ๆ และเมนูที่เค้าแนะนำก็คือบะหมี่เกี๊ยวค่ะ เคโกะก็ตามนั้นเลยค่ะ สั่งบะหมี่เกี๊ยวมา 1 ชาม

อย่างที่เห็นเลยค่ะ เส้นจะแน่น ๆ หน่อย เกี๊ยวไส้หมูจะอยู่ด้านล่าง และมีเนื้อหมูแปะมานิดหน่อย สั่งแล้วเค้าก็จะถามว่าใส่พริกมั้ย เคโกะทานเผ็ดได้ ก็เลยตอบไปว่าเอาค่ะ เค้าก็จะโปะมาให้ด้านบนแบบในรูปค่ะ

ส่วนรสชาติ เคโกะว่าเกี๊ยวคือดีค่ะ เส้นก็ไม่ขี้เหร่อะ แต่เนื้อสัตว์ที่ใส่มาในชาม เคโกะว่าน้อยไปค่ะ แหะๆ

อ้อ ที่จอดรถ จอดได้แถว ๆ 7-11 นะคะ มีเวิ้ง ๆ พอจะจอดแอบได้อยู่ค่ะ แล้วใกล้ ๆ 7-11 นี่แหละก็จะมีถนนวัฒนธรรมสินค้าท้องถิ่นพื้นบ้านอยู่ ก็เลยเดินเล่นดูซักหน่อย

เพิ่งมาเห็นตัวภาษาจีน เป็นถนนกลางคืนค่ะ 55555 เคโกะไปกลางวันจะเจออะไร๊ 55555

ในตรอกนี้ก็จะมีกราฟิตี้เก๋ ๆ อยู่ค่ะ

ใกล้ ๆ กับร้านก็จะมีกราฟิตี้เก๋ ๆ อีกค่ะ ดูจะมีทั่วไปเลยนะคะเนี่ย

แล้วไปต่อที่ไร่ชา 101 ค่ะ ที่นี่เคโกะก็เคยมาแล้วเช่นกัน ก็มาอีกรอบค่ะ ดูเปลี่ยนไปพอตัวค่ะ

ก่อนถึงทางเข้า ผ่านไร่ชาก่อน เป็นขั้นบันไดสวยเชียว

ทางเข้าก็เลยมุมนี้ไปนิดเดียวเองค่ะ ตอนที่ไปคือโล่งมาก ไม่มีคนเลย

นอกจากด้านหน้าจะมีร้านค้าขายชาแล้ว ยังมีทางเดินลงไปชมไร่ชาอย่างใกล้ชิดด้วยนะคะ

แล้วเคโกะก็เดินกลับมาที่ร้านค้า สามารถชิมชาได้ค่ะ เค้าจะชงให้เราชิมฟรี ๆ เลย

เคโกะชอบดื่มชาอยู่แล้ว ก็จัดไปค่ะ

แต่ก่อนมีแต่ชาเพียว ๆ เดี๋ยวนี้มีชานมแล้วค่ะ เคโกะถามเค้าขอชิมได้มั้ย เค้าก็ยินดีชงให้ชิมค่ะ

อย่างที่เคโกะบอก คนโล่งมากกกก พนง.ร้านเองก็บอกเหมือนกันค่ะว่าปกติไม่ได้ชิมชาเยอะแบบนี้หรอก เพราะลูกค้าเข้าตลอด เค้าไม่มีเวลามาเทคแคร์มาชงชาให้ชิมหลาย ๆ แบบค่ะ แต่นี่คนน้อยมาก ๆ ก็เลยชงชาให้ได้เรื่อย ๆ

ส่วนตัวเคโกะแล้วชาที่นี่อร่อยจริงค่ะ ส่วนชานมเอง เพิ่งเคยได้ชิมนี่แหละ แล้วคืออร่อยมากกกก ชาเข้มอย่างที่ควรจะเป็นและหวานน้อยดีค่ะ ได้ฟีลเหมือนชานมไต้หวัน/ฮ่องกงเลย ซึ่งเค้ามีชานม 2 แบบค่ะ คือชาอู่หลงนมและชาเขียวนม

ชิมเสร็จแล้ว ลูกค้าอีกกรุ๊ปก็ชิมเสร็จแล้วเหมือนกัน พนง.เลยยกชานมที่ชงเหลืออยู่ในบีคเกอร์ให้เคโกะหมดเลยค่ะ จิบชาชมวิวไร่ชาไปพลาง ๆ ชิลลล์เลย

แล้วจากนั้นเคโกะก็ไปไร่ชาอีกแห่งหนึ่งต่อค่ะ แต่รูปเยอะเลยขอตัดไปอีกโพสต์นึงนะคะ ^^”

เคโกะเข้าที่พัก แล้วออกไปต่อค่ะ

Spot name : Phrathat Chedi Srinagarindra Stit Maha Santi Khiri / พระบรมธาตุศรีนครินทราสถิตย์มหาสันติคีรี
Location : อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
Google maps : https://goo.gl/maps/kdAxL6TkeiC5UDd96
Entrance fee : Free
Opening hours : 6AM – 5PM
Visited date : 24 Dec 2020

เค้าว่าให้มาช่วงเย็น ๆ คือเหมาะค่ะ แล้วจะมีจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่อยู่ใกล้ ๆ กัน เคโกะก็เลยมาในตอนเย็นอะนะคะ

ทางขึ้นลงชันพอตัวอยู่ แต่รถเล็กก็ยังขึ้นได้ค่ะ

มีลานจอดรถนะคะ ถ้าวน ๆ ตามกูเกิ้ลแม็พมาแล้วเจอวงเวียนแปลว่าผิดค่ะ ถ้าเคโกะจำไม่ผิดเนี่ย จะมีทางลาดลงไปด้านล่างอีกเส้นนึงที่อยู่ใกล้ ๆ กับวงเวียน ให้ไปทางลาดลงนั้นค่ะ จะเป็นทางที่ไปลานจอดรถ ส่วนเคโกะเองก็ไม่รู้ไง เลยจอดตรงวงเวียนนั้นเลยค่ะ แล้วเดินบันไดลงเอา 55555 #เดินเก่ง

เป็นพระบรมธาตุที่เพิ่งสร้างใหม่ไม่นานมากค่ะ สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จย่า ประดิษฐานองค์สมเด็จย่าอยู่ด้านในค่ะ

เป็นอาคาร 3 ชั้นนะคะ เดินชมได้ทุกชั้นค่ะ ซึ่งชั้นบนสุดเคโกะไปเสิร์ชมา เค้าว่าประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุไว้ค่ะ แต่เคโกะไม่เข้าใจว่าเค้าตั้งเหรียญแบบนี้เอาไว้ทำไม ยังหาข้อมูลไม่เจอนะคะ ใครเจอหรือทราบบอกเคโกะด้วยค่าาา แหะๆ

ส่วนอีกหลังนึงประดิษฐานพระพุทธรูปไว้ค่ะ เป็นอาคารชั้นเดียว

จากพระบรมธาตุนี้ จะมองเห็นวิวดอยแม่สลองได้สวยและชัดเจนดีเลยค่ะ

ขอลงพระบรมธาตุแบบเต็ม ๆ อีกรูปนะคะ สวยมากอะ

เพราะไปตอนเย็น พระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้วค่ะ เลยพอจะมองเห็นพระจันทร์อยู่เลือนลาง แต่พระจันทร์ไม่เต็มดวงนะคะ พอจะมองเห็นกันมั้ยอะ ><~

แล้วจากนั้น เคโกะก็ออกจากที่นั่นค่ะ ไปที่จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินต่อ อยากไปให้ถึงก่อนเวลาค่ะ จะได้หาที่ดี ๆ ถ่ายรูป ซึ่งไปถึงก็มีกรุ๊ปที่ไปก่อนเคโกะ และไปหลังจากเคโกะอีกหลายกรุ๊ปอยู่ค่ะ

ระหว่างรอ หันไปทางที่ขับรถลงมาจากพระบรมธาตุ ทางแอบเสียวเหมือนกันแฮะ ทางที่เห็นเป็นเส้นกลางเขานั่นแหละค่ะ

มีคนรีวิวในเว็บวงในอยู่เหมือนกันนะว่าไม่ควรเอารถเล็กขึ้นค่ะ แต่เคโกะขับรถเล็กไปนะคะ (รถ 1200cc ค่ะ) ก็ขึ้นได้สบาย ๆ ค่ะ ไม่มีอาการกระตุกหรือหน่วงอืด หรือรถไหล รถปีนทางชันไม่ขึ้นนะคะ อาจจะต้องพิจารณาปัจจัยอื่น เช่น น้ำหนักบรรทุกหรือจำนวนคน และทักษะขับรถขึ้นลงเขาประกอบด้วยค่ะ ซึ่งตัวเคโกะเองไม่ได้ขับรถชำนาญมากและไปคนเดียวนะคะ ก็ยังรอดแบบสบายหายห่วงค่ะ

เอาล่ะ ท่ามกลางความหนาว … ลืมกันหรือยังคะ เคโกะไปช่วงอากาศหนาวพอดีนะ กลางคืนคือเลขตัวเดียวค่ะ ยืนขดไปมาอยู่ในเสื้อแจ็คเก็ตอยู่พักใหญ่ เซลฟี่เล่นแก้เบื่อก็แล้ว ในที่สุดพระอาทิตย์ก็เริ่มลับขอบฟ้าค่ะ

แปะรูปรัวเลยน้าาาา

ตะวันลับขอบฟ้าแล้ว ก็ได้เวลากลับค่ะ ก่อนกลับก็ได้เวลาอาหารเย็น เคโกะเลือกไปชิมขาหมูที่ร้านอิ่มโภชนา ร้านดั้งเดิมนะคะ

ร้านอิ่มโภชนานี้จะมี 2 ร้าน คือร้านดั้งเดิมและร้านใหม่ค่ะ เท่าที่อ่านรีวิวมา ก็แนะนำร้านดั้งเดิมกัน ซึ่งจะอยู่หลืบ ๆ แอบ ๆ หน่อย ส่วนร้านใหม่จะอยู่ริมถนน ข้าง ATM ทหารไทยเลย (ถ้าจำไม่ผิดนะ)

Restaurant name : ร้านอิ่มโภชนา ดั้งเดิม (Imm Pochana)
Google maps : https://goo.gl/maps/GY1ayVrygy5VBEvZ9
Parking lots : Yes
Location : อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
Opening hours : 8AM – 7PM
Visited date : 24 Dec 2020

ร้านจะอยู่แถว ๆ ตลาดชุมชนอบต.อะค่ะ จะมีเวิ้งให้เข้าไปจอดรถได้ กลางวันเค้าดูเป็นตลาดชุมชนอะนะแต่เย็นแล้วไม่มีอะไรขายค่ะ จอดรถได้ตามสะดวกเลย แล้วเดินเข้าไปด้านในอีกหน่อย ก็จะเจอค่ะ

ความที่ไปคนเดียว ก็เลยสั่งได้แค่ขาหมูจานเล็กกับหมั่นโถว 1 ลูก เคโกะอยากชิมอีก 1 เมนูแต่โดนพนง.ร้านเบรคไว้ค่ะ เค้าว่าเยอะไป จะทานไม่หมดเอา //เคโกะก็ว่ากินหมดได้อยู่นะ 555

หมั่นโถวเค้าเป็นแบบเนื้อนุ่มเหมือนซาละเปานุ่ม ๆ นะคะ ไม่ใช่หมั่นโถวเนื้อแข็ง ๆ น้าาาา

ขาหมูเปื่อยยุ่ยดีค่ะ มันเยอะดี 555555 แต่เคโกะจำรสที่ชัดเจนไม่ค่อยได้อะ จำได้แค่ว่า เปื่อยยุ่ยดีแต่รสชาติยังไม่ค่อยโดนค่ะ

ตัดฉับมาอีกวันนึง เคโกะส่องในกูเกิ้ลแม็พ เห็นว่ามีจุดชมวิวดอยแม่สลองอยู่ใกล้ ๆ ที่พัก เดินไปได้ราว ๆ กิโลนึงไรงี้ค่ะ ด้วยอากาศเย็นสบาย ๆ เคโกะก็เลยแบบ เออ เดินก็ได้ จะได้ไม่ต้องหาที่จอดรถอีก 5555

ระหว่างเดินไป ก็ถ่ายรูปกราฟฟิตี้ที่มีอยู่ไปทั่วไปด้วยค่ะ

ผ่านร้านนี้ ร้านสวีทแม่สลองคาเฟ่ด้วยนะ เห็นมีคนรีวิวว่าครัวซองต์ที่ร้านนี้คืออร่อยมากกกกค่ะ มาเช้าไปร้านยังไม่เปิด ก็ผ่านไปก่อนนะ

แล้วก็มาถึงหมุดที่ปักไว้ว่าคือจุดชมวิวดอยแม่สลองในที่สุดค่ะ

เคโกะว่าวิวเฉย ๆ นะ วิวไร่ชาหรือวิวบนพระบรมธาตุสวยกว่าเยอะค่ะ

และความที่พระบรมธาตุฯนั้นอยู่ที่สูงมาก เลยจะมองเห็นพระบรมธาตุฯได้จากทุกบริเวณของแม่สลองเลยนะคะ รวมถึงจุดชมวิวในรูปด้านบนนี้ด้วยค่ะ

เหมือนสมเด็จย่ายังอยู่ตรงนี้เสมอ มองดูประชาชนในสายพระเนตรตลอดเวลาเลยอะ

แล้วเคโกะก็เดินกลับมาที่พัก เช็คเอาท์และไปจุดสุดท้ายของดอยแม่สลองนี้ที่หลักกม.0ค่ะ ซึ่งมีตลาดให้เดินกรุบกริบด้วย

Spot name : ดอยแม่สลอง กม.0
Location : อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
Google maps : https://goo.gl/maps/NMEAfPkhyaN1mw3C6
Entrance fee : Free
Opening hours : N/A
Visited date : 25 Dec 2020

มีที่จอดรถบริการนะคะ มีป้ายบอกทางอยู่ค่ะ จอดได้เลย

รอบ ๆ ก็จะเป็นร้านค้ามีทั้งของกินและของใช้ เสื้อผ้าไรงี้ค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นของขึ้นชื่อที่ดอยแม่สลองนั้นแหละค่ะ

ช้อปปิ้งตรงนี้เสร็จแล้ว เคโกะก็มุ่งหน้าต่อไปยังดอยช้างแล้วล่ะค่ะ

ตัดจบโพสต์ตรงนี้เนอะ โพสต์หน้าจะเป็นไร่ชาอีกไร่นึง ที่เคโกะเกริ่นไว้ในโพสต์ค่ะ
https://web.facebook.com/thisiskeigo

[Chiang Rai] B2 Night Bazaar Chiang Rai

สวัสดีค่ะ มาต่ออีกโพสต์นึงเลยนะคะกับที่พักในเชียงรายค่ะ

Hotel name : B2 Night Bazaar Chiang Rai
City : อ.เมือง จ.เชียงราย
Location : https://g.page/B2NightBazaar?share
Booking via : agoda.com
Room type : Superior Room
Room rate : 500.74BHT (1 nights)
Check-in date : 25 – 26 December 2020, 1 nights
Facebook page : https://web.facebook.com/B2Hotel
Website : https://www.b2hotel.com/detail.php?id=39

เป็นโรงแรมในเครือบีทูอะนะคะ จริง ๆ ก็ไม่น่าต้องพูดอะไรเยอะ เค้ามีสาขาอยู่ทั่วประเทศ หลายจังหวัดเลยค่ะ 555 และสำหรับเคโกะเอง ถ้าจำไม่ผิดก็ไม่ใช่การเข้าพักบีทูครั้งแรกนะคะ เคยพักสาขาอื่นมาแล้ว

เชคอินแล้วมีวางค่ามัดจำห้อง 500 บาทด้วยค่ะ เค้าจะมีใบให้เซ็นต์ประกันของเสียหาย (มั้งนะ) ใบนึงด้วย ซึ่งต้องเก็บไว้คืนห้องด้วยค่ะ

สำหรับสาขานี้คือไม่มีลิฟท์นะคะ ขึ้นลงบันไดเอาน้าาาา ต้องระวังเรื่องกระเป๋าสัมภาระด้วยนะคะ

เคโกะรีเควสท์ห้องดับเบิลไป ได้มาเป็นเตียงเดี่ยวที่เลื่อนเตียงชิดกัน ^^”

ปลายเตียงก็จะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง ทีวีแบบติดผนัง มีตู้เย็นมินิบาร์อยู่ใต้ตู้ค่ะ

บนโต๊ะจะมีน้ำดื่มและแชมพูครีมอาบน้ำวางไว้ให้ค่ะ

ข้าง ๆ หน้าห้องน้ำก็จะเป็นตู้เสื้อผ้าแบบเปิดโล่ง เคโกะชอบแบบนี้นะ เพราะสะดวกดีค่ะ หยิบเสื้อผ้าง่ายดี แหะๆ

ถอยไปอยู่อีกมุมห้องนึงแล้วถ่ายในห้องให้ดูน้าา ห้องที่นี่เค้าจะเป็นห้องเล็ก ๆ เลยค่ะ

ส่วนในห้องน้ำ ก็จะไม่ได้แยกส่วนเปียกและส่วนแห้งนะคะ แหมมม ห้องเล็กเนาะ แยกลำบากอยู่อะ 5555

แต่ก็มีเครื่องทำน้ำอุ่นค่ะ ผ้าเช็ดตัวก็วางไว้ให้ในห้องน้ำแบบในรูปเลยนะคะ

พอเชคเอาท์แล้วเพิ่งเห็นว่ามีบริการกาแฟฟรีอยู่ข้าง ๆ reception ที่ล็อบบี้ด้วยค่ะ

แล้วก็ทางเข้าออกโรงแรมมี 2 ทางคือด้านหน้าปกติกับด้านข้างที่มาจากลานจอดรถนะคะ ซึ่งที่จอดรถคือมีเยอะพอสมควรอยู่ค่ะ

ว่ากันโดยสรุปเลยเนาะ

  • เป็นห้องเล็ก ๆ สไตล์บัดเจ็ทโฮเทลค่ะ ถ้าไม่อะไรมาก เคโกะว่าโอเคนะ เทียบกับราคาหลักร้อยที่จ่ายแล้ว คุ้มค่ะ
  • มีไวไฟบริการด้วยค่ะ
  • พนง.บริการโอเคค่ะ
  • บีทูสาขานี้ไม่มีลิฟท์นะคะ ต้องระมัดระวังเรื่องสัมภาระด้วยค่ะว่าจะหนักไปมั้ย จะหิ้วขึ้นลงบันไดสะดวกหรือเปล่าอะค่ะ

โดยส่วนตัว โรงแรมราคาหลักร้อยแบบนี้ เคโกะโอเคนะ

เดี๋ยวโพสต์เรื่องที่เที่ยวในทริปจะรีบตามมาค้าาาา ><
Facebook : https://web.facebook.com/thisiskeigo

[Chiang Rai] OYO 1012 Vintage Home

สวัสดีค่ะ มาต่อที่ทริปเชียงรายกันเลยนะคะ เท่าที่ลิสต์ไว้คือค่อนข้างยาวแหละ 5555 ส่วนในโพสต์นี้เป็นที่พักในทริปนี้ก่อนนะคะ โดยที่เคโกะจะพักที่ดอยแม่สลอง 1 คืน และในเมืองเชียงราย 1 คืนค่ะ

เริ่มที่ที่พักบนดอยแม่สลองก่อนเนอะ

Hotel name : OYO 1012 Vintage Home
City : อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย
Location : https://goo.gl/maps/rsUKz8aPA5e7h9Aa8
Booking via : agoda.com
Room type : Superior Double Room
Room rate : 545.72BHT (1 nights)
Check-in date : 24 – 25 December 2020, 1 nights

สำหรับที่นี่เคโกะแนะนำว่าเปิดกูเกิ้ลแม็พแล้วตามไปเลยค่ะ พอกูเกิ้ลแม็พบอกว่าถึงแล้วก็คือให้หยุดเลยนะคะ แล้วมองซ้ายขวาให้ดีค่ะ (ขึ้นอยู่กับว่ามาจากทางไหน) จะอยู่ฝั่งเดียวกับ 7-11 ล่ะค่ะ เคโกะมาจากในเมืองก็จะอยู่ฝั่งขวามือ ถึงก่อน 7-11 นิดเดียวค่ะ จะมีทางเข้าหลืบ ๆ เข้าไป ก็พุ่งเข้าไปเลยค่ะ

เพราะที่นี่เค้ารีโนเวทใหม่จากรีสอร์ทเดิม ถ้าเข้าใจไม่ผิด รีสอร์ทเดิมคือ Vintage Resort Doi Maesalong ค่ะ แล้วให้ OYO ซึ่งเป็นโรงแรมเชนมาทำกิจการต่อ ก็เลยยังไม่มีป้ายชื่อโรงแรมอะนะคะ ดีที่เคโกะจำหน้าตาด้านหน้าของโรงแรมได้ ก็เลยไปได้ถูกต้องค่ะ ไม่งั้นน่าจะงมอีกนาน 55555

เปิดที่รูปภายนอกแล้วกัน ฮาาาา

หน้าตาจะประมาณนี้ค่ะ มีแอเรียกว้างขวาง จอดรถได้สบาย ๆ เลย

แต่เพื่อความชัวร์ ก็เลยถามพนง.อีกรอบนึงว่าใช่ที่เรามาพักรึเปล่า พอได้รับคำคอนเฟิร์ม เค้าก็อธิบายเพิ่มอย่างที่เคโกะบอกเนี่ยล่ะค่ะ ไม่แน่ใจว่าตอนนี้จะมีป้ายชื่อโรงแรมชื่อใหม่ไปติดหรือยังนะคะ ^^”

จากนั้นก็จะมีพนง.พาเราไปที่ห้องพักค่ะ พอเปิดประตูก็ตกใจอะ คือห้องพักหลักร้อย ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะเจอห้องพักที่กว้างมากกกกเบอร์นี้เลยค่ะ

อ้อ ที่พักเค้ามี 2 อาคารนะคะ เคโกะได้ห้องที่อยู่ตึกด้านซ้ายของล็อบบี้ เป็นอาคาร 2-3 ชั้นค่ะ เป็นบันได ไม่มีลิฟท์นะคะ

มาดูกัน

เปิดประตูห้องมาก็เป็นเตียงนอนใหญ่เลย

มีกระจกแต่งตัวที่ไม่มีเก้าอี้ให้ (555) อยู่ที่ข้างผนังห้อง แต่มีที่วางหน้ากระจกนิดหน่อยค่ะ

ข้างเตียงอีกข้างก็จะเป็นตู้เย็นมินิบาร์และโต๊ะข้างเตียง

ถัดห่างออกไป ก็เป็นชุดรับแขกค่ะ ก็จะมีน้ำดื่มให้ 2 ขวดวางที่โต๊ะรับแขกนั่นแหละ ซึ่ง ณ ตอนที่ไป อากาศหนาวมากกกกก ไม่จำเป็นต้องเอาน้ำดื่มเข้าตู้เย็นเลยค่ะ

อีกมุมนึงน้าาา

ซูม ๆ หมอนบนเตียง .. ทำไมไม่รู้ ฮาาาา

ผนังห้องอีกข้างนึงจากประตูห้อง ก็จะเป็นตู้เสื้อผ้าแบบเปิดโล่งค่ะ มีรองเท้าแตะให้ใส่ในห้องด้วย ซึ่งก็ควรใส่ค่ะ เพราะอากาศหนาว พื้นเย็นมากกกกอะ

ฝั่งตรงข้ามกับเตียง ก็จะเป็นทีวีแบบติดผนัง ถามใจเคโกะก็จะบอกว่าระยะมองทีวีไกลไปค่ะ ควรจะเปลี่ยนไซส์ทีวีให้ใหญ่ขึ้นเพื่อให้สัมพันธ์กับระยะมองทีวีเนาะ แต่ส่วนตัวก็ไม่ค่อยซีเรียสค่ะ ไม่ค่อยดูทีวีเท่าไหร่

ติดกับทีวีที่เห็นเป็นประตูนั่นก็คือห้องน้ำค่ะ ห้องน้ำไม่ได้แยกส่วนเปียกส่วนแห้งนะคะ แต่ก็ดูมีร่องรอยของการมีผ้าม่านแยกพื้นที่อยู่นะ 555

มีเครื่องทำน้ำอุ่นที่ไม่อุ่นค่ะ เคโกะอาบน้ำตอนกลางคืนคือต้องกลั้นใจรีบอาบให้เสร็จ ๆ ไปอะ หนาวมากกกกค่ะ

วันที่ไป ตอนกลางคืนอุณหภูมิเหลือเลขตัวเดียวค่ะ ส่วนกลางวันจะอยู่ประมาณ 10+ ค่ะ

ส่วนก๊อกน้ำที่อ่างล้างหน้าคือเย็นเฉียบเลยนะคะ ไม่เหมือนญี่ปุ่นที่เค้ามีเครื่องทำน้ำอุ่นไปหมดทุกก๊อกในห้องน้ำน้าาา 555

ปิดท้ายที่ถ่ายจากด้านในมาประตูห้องค่ะ

ตอนที่ไป มีเรื่องรองเท้าแตะในห้องขาดด้วยค่ะ เลยต้องถือลงไปขอเปลี่ยนเป็นคู่ใหม่ ซึ่งตอนแรกก็ไม่ได้อยากจะเปลี่ยนหรอกค่ะ ก็อยู่แค่คืนเดียวเอง แต่ก็ไม่ไหวอะ อากาศหนาวและพื้นเย็นมากค่ะ เดินเท้าเปล่าไม่ไหวจริง ๆ

ระหว่างรอเค้าเอารองเท้าแตะคู่ใหม่มาให้ ก็เลยได้พูดคุยกับเค้านิดหน่อย เพราะคาใจเรื่องภาษาจีนที่เค้าคุยกันบนแม่สลองนี้อะค่ะ ฟังดูคล้ายจีนกลาง แต่ก็ไม่ใช่อะ ก็เลยได้คำตอบว่าเป็นจีนท้องถิ่นเค้าล่ะค่ะ

สรุปกับที่นี่นะคะ

  • พนง.น่ารักดีค่ะ เหมือนไม่ค่อยรับแขก แต่จริง ๆ ก็อัธยาศัยดี ลักษณะเป็นการจัดการแบบครอบครัวอะค่ะ
  • ห้องพักกว้างมากกกกกกกกกกก
  • มีที่จอดรถเยอะค่ะ
  • ใกล้มินิมาร์ท ร้านอาหาร ร้านค้า
  • ห้องไม่มีเครื่องทำความอุ่นนะคะ ตอนกลางคืนก็จะหนาว ๆ หน่อย อาศัยซุกตัวในผ้าห่ม ขดอยู่บนเตียงเอาค่ะ

โดยรวมจัดว่าโอเคเลยนะคะ ชอบความกว้างของห้องค่ะ แต่ในแง่ความอุ่นนั้นค่อนข้างไม่ผ่านค่ะ ทั้งน้ำอุ่นที่ไม่ค่อยอุ่นและห้องที่ออกจะหนาวอยู่ แม้จะปิดแอร์ก็ตาม แต่เทียบกับราคาแล้ว ก็พอใช้ได้ค่ะ

จะพยายามไม่ดองบล็อกน้าาาา ^^”
https://web.facebook.com/thisiskeigo