[Tainan] ChiMei Museum

สวัสดีค่ะ โพสต์นี้จะพาไปเดินมิวเซียมที่สวยมาก ๆ ที่หนึ่งค่ะ ตามมากันเล้ยยย

Spot name : ChiMei Museum / 奇美博物館
Google maps : https://goo.gl/maps/PVK36bFSHN74i2xz5
Transportation : TRA to Bao’an Station, walk to Chimei Museum about 10-15 min
Entrance fee : 200NTD (combo ticket 280NTD — include special event exhibition)
Opening hours : 9.30 – 17.30, closed on Wednesday
Visited date : 28 Dec 2018
Website : https://www.chimeimuseum.org/ml/english/3

จริง ๆ แต่เดิมที่คิดไว้ ไม่ได้มีที่นี่ในแผนเลยค่ะ เพราะคิดว่าก็แค่มิวเซียมอะ แถมยังไกลอีก แต่พอดูรีวิวหลาย ๆ แหล่งแล้วก็แนะนำที่นี่กันหมด ก็เลยลองไปดูค่ะ

การเดินทางจัดว่าง่าย คือนั่ง TRA จาก Tainan station ไปสถานี Bao’an ค่ะ ตรงนี้จะซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์ก็ได้ หรือจะใช้บัตร Easycard แตะก็ได้นะคะ

พอไปถึงสถานี Bao’an แล้ว ก็เดินไปตามทางเลยค่ะ ออกจากสถานี เลี้ยวขวาแล้วตรงไปยาว ๆ เลย ตัว Chimei Museum จะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ จะไกลจากสถานีรถไฟอยู่พอสมควรนะคะ

เคโกะเดินเข้าจากลานจอดรถที่มี 7-11 อยู่ด้านหน้า ก็จะเริ่มมองเห็นความเป็นมิวเซียมที่จัดรวบรวมผลงานด้านศิลปะไว้บ้างแล้วค่ะ

เดินเข้าไปจนถึงตัวอาคาร ตัวอาคารมีสถาปัตยกรรมค่อนไปทางยุโรปสมัยก่อนค่ะ สวย สง่าและเท่มากเลยค่ะ

ขอถ่ายน้ำพุแบบไม่ย้อนแสงบ้าง ><“

พอเข้าไปในอาคารก็ต้องว้าววววเลยค่ะ เพดานสวยมากกกกกกกกก ตกแต่งตัวอาคารก็ดูอลังการเวอร์วังมากค่ะ

บริเวณด้านนอกนี่เราสามารถเดินชมได้ฟรีค่ะ แต่หากจะเข้าดูนิทรรศการภายในที่เค้าจัดแสดงก็ต้องเสียค่าบัตรด้วย ซึ่งบัตรทั่วไปจะอยู่ที่ 200NTD ค่ะ แต่จะมีบัตรพิเศษอีกแบบนึง คือบัตรรวมที่สามารถเข้าชมนิทรรศการพิเศษที่จัดเฉพาะช่วงเวลาด้วยได้ ซึ่งหากซื้อบัตรทั่วไปไปแล้ว แต่อยากเข้าชมนิทรรศการพิเศษเพิ่มก็ต้องซื้อบัตรเพิ่มค่ะ แต่หากซื้อบัตรรวมตัวนี้ก็สามารถเข้าได้ทั้งหมดเลย ช่วงที่เคโกะไปก็จะเป็นนิทรรศการจัดแสดงผลงานของศิลปินท่านนึงนะคะ

ด้านในห้องจัดแสดงจะแบ่งเป็นโซน ๆ แนะนำว่าเดินดูให้ครบตามแผนที่ที่เค้าให้มาตอนซื้อตั๋วค่ะ และด้านในห้ามถ่ายรูปค่ะ ก็เลยไม่มีรูปมาให้ดูกันนะคะ ^^”

สิ่งที่ประทับใจก็คือ เค้านำเสนอนิทรรศการของเค้าได้ดีมากเลยค่ะ มีการไล่เรียงลำดับขั้นตอนมาให้เข้าใจง่าย อีกทั้งมีช่วงแสดงด้วย ดีงามหมดทุกโชว์ค่ะ ถ้าไป ก็ไม่ควรพลาดเลยซักอันนะคะ

เดินวนอยู่นานมาก ห้องจัดแสดงก็เยอะ และน่าสนใจหมดทุกห้องเลยค่ะ กว่าจะออกมาก็เย็นแล้ว

หน้าอาคารมีต้นคริสต์มาสต์ขนาดใหญ่อยู่ และมีคนมาถ่ายรูปเยอะมากกกกกกกกกก มาถ่ายรูปรับปริญญาก็เยอะค่ะ รูปพรีเวดดิ้งก็มี ถ่ายรูปไม่ให้ติดคนคือยากอ่ะ

นอกจากตัวอาคารแล้ว รอบ ๆ ก็จะมีสวนต่าง ๆ มีรูปปั้น ซึ่งตกแต่งสไตล์ยุโรปยุคเก่าหมดเลยค่ะ สวยมาก ๆ

สะพานหน้าอาคารจัดแสดงค่ะ คนมาถ่ายรูปเยอะมากไม่แพ้กันเลย

น้ำพุก็สวยค่ะ

มุมกว้าง ๆ กับสะพานข้ามสระน้ำภายในอาณาบริเวณบ้างนะคะ

คือที่นี่สวย น่าถ่ายรูปมากจริง ๆ อะ ถ้ามาแล้วจัดคอสตูมมาให้เต็มเลยนะคะ ถ่ายกันสนุกแน่ ๆ เลยล่ะค่ะ ^^”

ปิดท้ายที่เหล่าห่านน้อยเล่นน้ำค่ะ

โดยรวมแล้ว ที่นี่แอบไกลไปนิด แต่พอได้มาแล้วก็รู้สึกว่าคุ้มค่ากับการมาค่ะ ใช้เวลาอย่างน้อยก็ครึ่งวันนะคะ แต่ถ้าเป็นคนชอบเดินมิวเซียม ชอบศิลปะ ชอบถ่ายรูป ก็ให้เวลาซัก 1 วัน น่าจะกำลังดีค่ะ

ไปพูดคุยกันได้ที่ inbox เพจนะคะ ^^
https://www.facebook.com/thisiskeigo/

[Tainan] Sicao Green Tunnel

สวัสดีค่ะ เข้าเมืองเดินเล่นเมืองไถหนานไปแล้ว ก็พาออกนอกเมืองไปชมธรรมชาติบ้างนะคะ

Spot name : Sicao Green Tunnel / 四草綠色隧道
Google maps : https://goo.gl/maps/EeN11cJFhxJXD3am7
Transportation : Bus no.99 to Sicao Green Tunnel 四草生態文化園區(大眾廟)
Entrance fee : Free but taking boat is not free
Opening hours : Everyday 8AM-5PM
Visited date : 28 Dec 2018

นั่งรถเมล์สาย 99 มาเรื่อย ๆ เลยค่ะ ลงเกือบท้าย ๆ สายเลย ซึ่งมีชื่อป้ายรถเมล์คล้าย ๆ กันหลายป้าย ต้องสังเกตดี ๆ นะคะ ลงให้ถูกป้ายนะ ไม่งั้นคือเดินไกลมากกกกกอ่ะค่ะ

พอลงรถเมล์มาแล้ว ฝั่งตรงข้ามจะเป็นวัดใหญ่ ๆ แบบนี้ค่ะ

เอาจริง ๆ เคโกะลงรถมาแล้วก็แอบงง ๆ อยู่เล็กน้อยว่าต้องเดินไปทางไหนต่อ ยังดีว่ามีคนลงรถป้ายเดียวกัน และจะไปนั่งเรือชมวิวธรรมชาติแบบเดียวกันด้วยค่ะ ก็เลยเดินตามเค้าไป ^^”

ก็เอาเป็นว่าลงรถปุ๊บ ให้เดินต่อขึ้นไปผ่านวัดใหญ่ ๆ มีลานกว้าง ๆ หน้าวัดแบบรูปข้างบน แล้วติด ๆ กันนี้ก็จะเป็นเคาน์เตอร์ขายตั๋วเรือค่ะ

หน้าตาแบบนี้เลย

ซึ่งเส้นทางเรือจะมี 2 เส้นทางค่ะ เคโกะขอเรียกง่าย ๆ ว่าเส้นสั้นกับเส้นยาวแล้วกัน เส้นสั้นเนี่ยราคา 200NTD ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ส่วนรอบยาวใช้เวลาประมาณ 70 นาที แต่ค่าเรือกลับเท่ากันคือ 200NTD (ตามป้ายที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์ ภาษาจีนเต็มพรืดนั่นแหละค่ะ ^^”)

เคโกะมีเวลาแค่ครึ่งวันนะก็เลยซื้อตั๋วเรือเส้นสั้นค่ะ

ซื้อตั๋วแล้ว ก็เดินเข้าไปรอในห้องที่เค้าจัดไว้ให้เป็นจุดพักก่อนทะยอยลงเรือค่ะ พอเรือเต็มก็ออก ไม่ได้มีเวลาตายตัวอะไรนะคะ ซึ่งในห้องที่รอลงเรือ ก็จะมีเปิดวิดีโอให้ดูถึงวิธีการนั่งเรือให้ปลอดภัย การใส่เสื้อชูชีพ ไรงี้อะค่ะ และก็ยังมีป้ายแปะอยู่บนกำแพงที่อธิบายถึงระบบนิเวศน์ในเส้นทางที่จะนั่งเรือไปกันค่ะ .. ซึ่งเป็นภาษาจีนทั้งหมดเลยค่ะ ><“

ลักษณะเรือก็จะหน้าตาประมาณนี้ ไม่เหมือนเรือในไทยเลยเนอะ แล้วก็มีเก้าอี้ตัวเตี้ย ๆ ให้นั่งค่ะ ไม่ได้ฟิกซ์ตายตัวอะไร สามารถดีงมานั่งล้อมวงเป็นกลุ่ม ๆ ก็ได้ค่ะ

ก่อนลงเรือ เค้าก็จะมีหมวกแบบนี้ให้ใส่ และมีเสื้อชูชีพให้ใส่ด้วยค่ะ

เสร็จสรรพ ก็ออกเรือค่ะ บนเรือมีไกด์ประจำเรือ คอยอธิบายนู่นนี่นั่นตลอดทางด้วยล่ะค่ะ … ซึ่งก็เป็นภาษาจีนเช่นกัน

เท่าที่สังเกตดู มีคนต่างชาติไปเหมือนกันนะ แต่น้อยมากกกกกกกกค่ะ และเกือบทั้งหมด (คือเว้นเคโกะไปไง เลยใช้คำว่าเกือบค่ะ 555) จะมากับคนไต้หวัน มีคนแปลให้ฟังนั่นเอง .. ดีจัง~

นั่งเรือไปเรื่อย ๆ ก็จะเริ่มมีแต่วิวต้นไม้เต็มสองข้างทางแล้วค่ะ

มีป้ายเล็ก ๆ ต้อนรับคนมาท่องเที่ยวด้วย

“ยินดีต้อนรับสู่ Sicao Green Tunnel” ค่ะ

เริ่มถึงปลายเส้นทางแล้ว คือ ก็เป็นเส้นทางมาดูอุโมงค์สีเขียว ตามชื่อแหล่งท่องเที่ยวนี่แหละค่ะ ซึ่งอุโมงค์สีเขียว ก็คือความที่ต้นไม้ทั้งสองฝั่งโน้มเข้าหากันจนดูเหมือนอุโมงค์ค่ะ

มาถึงนี่เพื่อสิ่งนี้กันสินะ~

เรือจะลอยเท้งเต้งให้ถ่ายรูปบริเวณนี้อยู่ครู่หนึ่งค่ะ ก่อนที่จะกลับเรือแล้ววกกลับทางเดิม

วิวขาไปกับขากลับก็จะต่างกันหน่อย ๆ เพราะได้วิวคนละฝั่งกันอะนะคะ

ตรงนี้ไกด์อธิบายว่าไง เคโกะก็ไม่ได้ฟังค่ะ ><“

พอวกกลับมาทางเดิมจนถึงท่าเรือ ก็คืนหมวกและเสื้อชูชีพค่ะ

จากนั้น เคโกะมีเวลาเหลืออยู่พอสมควร กว่าที่รถเมล์จะมา ก็เลยมาเดินเล่นเลียบด้านหลังวัดมาค่ะ ก็จะเจอสะพานนี้

บนสะพานก็ยังไม่วายมีคนเอากุญแจคู่มาคล้องด้วยนะ ^^”

ยืนอยู่บนสะพานก็ส่องรูปไปเรื่อย ๆ สังเกตได้ว่าที่นี่งามอย่างธรรมชาติจริง ๆ ค่ะ

ยืน ๆ ถ่ายรูป ๆ อยู่ก็มีเรืออีกลำล่องเรือผ่านมาพอดี ลักษณะก็จะแบบนี้เลยค่ะ

แล้วก็เดินไปอีกฝั่งนึง ไปดูเรือที่ใช้วิ่งเส้นยาวบ้างนะคะ สังเกตได้ว่าเรือจะใหญ่กว่า

ตรงนี้ยังเป็นท่าเรืออยู่นะคะ

ตอนที่เดินเล่นอยู่ เรือลำใหญ่ก็ออกเดินทางพอดีค่ะ

จริง ๆ แล้วก็แอบเสียดายนะ ไหน ๆ ก็มาทั้งทีแล้ว ก็น่าจะนั่งเรือเส้นยาวไปด้วยค่ะ T.T

ส่วนขากลับก็รอฝั่งตรงข้ามกับขามา หรือหน้าวัดค่ะ ก็รอสาย 99 เพื่อกลับไปตัวเมืองไถหนานเช่นเดียวกันกับขามานะคะ

โดยรวมแล้วก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวธรรมชาติค่ะ เคโกะว่าถ้าชอบแนว ๆ นี้อยู่แล้วก็ไม่ควรพลาดค่ะ เดินทางไกลนิดนึง แต่ก็คิดว่าคุ้มอยู่น้าาาาา

แปะเพจปิดท้ายตามเคยค่ะ ^^”
https://www.facebook.com/thisiskeigo/

[Tainan] Eternal Golden Castle – Fort Provintia – Hayashi Dept.

สวัสดีค่ะ ต่อจากโพสต์ที่แล้วนะคะ ซึ่งที่ถัดไปที่จะไปเนี่ย ก็เป็นที่ที่ไม่ได้ตั้งใจไปแต่แรก เลยไม่มีเส้นทางในหัวอยู่เลย ก็เลยต้องพึ่งกูเกิ้ลแม็พตลอดเลยล่ะค่ะ

Spot name : Eternal Golden Castle / 億載金城
Google maps : https://goo.gl/maps/ghrTL7SjLzv
Transportation : Bus no.88
Entrance fee : 150NTD (combo ticket : Anping Tree House, Anping Old Fort, Chi Kan Lou, Eternal Golden Castle). For individual ticket is 50NTD
Opening hours : Mon – Sun 8.30-17.30
Visited date : 27 Dec 2018

ไปทั้ง ๆ ที่ไม่มีข้อมูลอะไรในหัวเลยนะคะ ไปศึกษา ทำความรู้จักกันหน้างานสด ๆ เลย .. งานร้อนขั้นสุดค่ะ 5555

ไปถึงด้านหน้าทางเข้าจะเป็นที่จอดรถ ก็เดินผ่านลานจอดรถเข้าไป จะมีห้องขายตั๋วอยู่ แต่ถ้ามีตั๋วคอมโบ้อย่างเคโกะอยู่แล้ว ก็ให้เค้าเจาะตั๋วแล้วเดินผ่านได้เลยนะคะ วันที่ไปก็มีคนไปบางตามากค่ะ

ด้านหน้าดูเหมือนป้อมปราการอะไรสักสิ่งอะนะ

ตรงสะพานทางเดินลอดอุโมงค์กำแพงเข้าไป สองข้างทางจะเป็นคลองที่ขุดรอบ ๆ ไว้ค่ะ

ฝั่งนึงมีเรือให้นั่งเล่นด้วยนะ แต่ก็ว่างเปล่า ไร้ผู้คนเลยค่ะ

ดูใกล้ ๆ กำแพงสักนิดนึง

เทียบมุมกับกล้องมือถือแล้ว กล้องมือถือกากกว่าเยอะเลย (ก็ไม่รู้จะลงรูปให้เปรียบเทียบทำไม – -“)

ด้านในเข้าไปแล้ว รู้สึกเหวอมาก เพราะความรู้สึกแรกคือ เหมือนเป็นทุ่งหญ้าที่เวิ้งว้างมากค่ะ ความรู้สึกแบบ เห้ยยย ชั้นต้องมาดูอะไรเหรอออ ประมาณนั้นเลยค่ะ – -“

ตั้งสติ ดูแผนที่แป๊บนะคะ

ก็จะเห็นว่า สิ่งที่เราควรไปเดินดูก็คือบริเวณที่อยู่รอบ ๆ ทุ่งนาที่ดูเวิ้งว้างนั้นค่ะ ^^”

เริ่มต้นออกเดินวนรอบ ๆ ก็เจอม้านั่งรูปแมว ทาสแมวอย่างเคโกะก็กรี๊ดดดไป น่าร้ากกกกก~

โดยรวมเลยละกัน รอบ ๆ ก็จะเป็นปืนใหญ่ตั้งแต่ยุคเก่าก่อนนู้นเลยอะค่ะ ซึ่งเค้ามีการอนุรักษ์ไว้ค่ะ แต่เดิมเป็นที่ฝึกซ้อมทางการทหาร ถ้ามองจากมุมสูงลงมาแล้ว หรือดูจากแผนที่ก็ได้ค่ะ ก็จะเห็นว่าพื้นที่เค้าเป็นรูปสี่เหลี่ยมล้อมรอบไปด้วยคูน้ำและปืนใหญ่ค่ะ

อ่านข้อมูลมา (ในตอนหลังจากที่ไปมาแล้ว) เค้าบอกว่าในวันหยุดจะมีการแสดงสมมติบทบาทเป็นทหารในยุคก่อนนั้นด้วยล่ะค่ะ และเป็นบริเวณที่มีต้น Golden Trumpet (ขออภัยค่ะ เคโกะโง่เรื่องต้นไม้มาก ๆ เลย ไม่ทราบจริง ๆ ว่าภาษาไทยเค้าใช้ชื่อต้นไม้นี้ว่าอะไร ดูรูปแล้วก็ไม่รู้ค่ะ T.T) ออกดอกบานสะพรั่งในเดือนมีนาคม – เมษายนล่ะค่ะ

น่าจะเป็นเหตุผลที่เคโกะไปแล้วเวิ้งว้าง ผู้คนบางตามากถึงมากที่สุดล่ะค่ะ T.T

แล้วก็ยังมีซากปรักหักพังให้ศึกษาอยู่ด้านนึงด้วยค่ะ (จากประตูทางเข้า จะอยู่ฝั่งซ้ายมือค่ะ)

จากนั้นก็นั่งรถเมล์ไปต่ออีกที่นึงในบัตรคอมโบ้ที่ซื้อมานะคะ

Spot name : Chihkan Tower / Chi-Kan-Lou / 赤嵌樓 / Fort Provintia
Google maps : https://goo.gl/maps/XiiNAVWih1p
Transportation : Bus no.88, 99
Entrance fee : 150NTD (combo ticket : Anping Tree House, Anping Old Fort, Chi Kan Lou, Eternal Golden Castle). For individual ticket is 50NTD
Opening hours : Mon – Sun 8.30-21.30
Visited date : 27 Dec 2018

ที่ Chikanlou นี่มีนักท่องเที่ยวเยอะมากกกกกค่ะ แต่พอเดินเข้าไปก็แอบใจแป้วนิดนึง เพราะเห็นมีล้อมเขตก่อสร้างอยู่ด้วย แต่ก็ยังสามารถเข้าชมได้ปกตินะคะ น่าจะซ่อมแซมสถานที่ล่ะค่ะ

เดินมาใกล้ ๆ ตัวอาคารอีกซักนิดนึงนะ

เห็นบันไดทางขึ้น ก็โอเคล่ะ ขึ้นไปชมด้านในได้ค่ะ .. คือถ้าแค่มาให้ดูรอบ ๆ ภายนอก คงแอบเฟลอะ 555

มี 2 อาคารนะคะที่สามารถขึ้นได้ (ก็มีแค่ 2 อาคารนี้แหละนะ) เคโกะจะขึ้นไปดูด้านในอาคารฝั่งขวามือก่อนค่ะ แล้วค่อยไปฝั่งซ้าย ซึ่งทั้ง 2 ตึกนี้มีทางเชื่อมอยู่คือชั้นล่าง หรือเรียกว่าไม่มีทางเชื่อมตัวตึกก็ได้นะ ><” และแต่ละอาคารก็จะมี 2 ชั้นค่ะ

ด้านในจัดนิทรรศการแสดงความเป็นมาค่ะ ด้วยความที่ตัวอาคารเป็นของเก่าที่เค้าอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยม แต่เนื่องจากความเก่าของตัวโครงสร้างและอาคาร เลยทำให้จำกัดจำนวนคนขึ้นชมชั้น 2 เพียงประมาณ 12-15 คนค่ะ (เคโกะจำตัวเลขเป๊ะ ๆ ไม่ได้อ่า) ซึ่งเค้าจะมีเซนเซอร์ติดและหน้าจอแสดงจำนวนคนที่อยู่ชั้น 2 ด้วยล่ะค่ะ .. เจ๋งเนอะ

ซึ่งคนที่อยู่ชั้นล่าง ก่อนขึ้นก็จะต้องเช็คก่อนว่าชั้น 2 นั้นมีคนอยู่เยอะเกินจำนวนที่เค้าจำกัดไว้หรือไม่ แล้วค่อยขึ้นไปค่ะ .. ซึ่งไม่มีเจ้าหน้าที่ประจำการตรงนี้อยู่อย่างจริงจังนะคะ อาศัยจิตสำนึกการเคารพกฎกติกากันล้วน ๆ ค่ะ (เจ้าหน้าที่มีนะ แต่เค้าก็จะเดินหรือประจำอยู่จุดอื่น ๆ ค่ะ ไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้แบบเช็คจำนวนคนจริงจังอะไรงี้อะค่ะ)

มีโมเดลจำลองของ Chikanlou ด้วย

เดินขั้นมาชั้น 2 แล้วค่ะ

ยิ่งอยู่ชั้น 2 แล้วแหงนมองดูโครงสร้างอาคารก็จะเห็นได้ชัดเลยนะคะว่าเป็นงานโบราณจริง ๆ ยอมใจทางการเลยอะ ที่อนุรักษ์ไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมแบบนี้ค่ะ

บนชั้น 2 นี้มีกิมมิคเล็ก ๆ ให้เล่นกันด้วย สำหรับคนที่อยากมาขอพรในเรื่องการศึกษาค่ะ ตรงนี้จะมีเทพที่ให้พรด้านการศึกษาอยู่ จะเป็นลักษณะคล้าย ๆ กรับไม้ 2 อันแบบที่เสี่ยงทายในวัดจีนทั่วไปอะค่ะอยู่ ก็ขอพรแล้วโยนไม้ 2 อันนั้น หากออกมาแบบรูปซ้ายมือ ในป้ายอธิบายที่ตั้งอยู่ ก็คือโอเคค่ะ หยิบดินสอไปได้เลย (หย่อนเงินใส่กล่องก่อนด้วยนะคะ ><“)

เคโกะไม่ได้ลองทำนายดูนะคะ ไม่ได้เป็นนักเรียน นักศึกษาแล้วอะ ><” ก็เลยได้แต่ยืนดูคนอื่นเล่นค่ะ

ด้านหลังของอาคารทั้ง 2 หลังจะมีซากปรักหักพังอยู่นิดหน่อยค่ะ

เพิ่มข้อมูลสำหรับสถานที่แห่งนี้ปิดท้ายไว้นิดนึง (แล้วทำไมต้องมาเล่าปิดท้ายเนี่ย ฮาาาา)

จริง ๆ แล้วไม่ได้มีแค่ 2 อาคารหรอกค่ะ เค้าแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 ส่วนด้วยกัน แต่เดิมเนี่ยเค้าใช้เป็นสถานที่คล้าย ๆ กับที่ว่าการเมืองไถหนานค่ะ มีวัด, โรงเรียน และสวนหย่อมพักผ่อนในที่เดียวกัน

ถ้าย้อนกลับขึ้นไปดูรูปชั้น 2 ที่เคโกะลง นั่นคือวัดค่ะ ชื่อ Haishen Temple (海神庙 – ไห่เฉินเมี่ยว) ส่วนที่ขอพรด้านการศึกษาก็คือ เคยเป็นโรงเรียนให้การศึกษามาก่อน รวมทั้งเข้าใจว่าเจ้าของเดิมเองก็มีประวัติเด่นในเรื่องการศึกษาด้วยค่ะ ซึ่งตัวโรงเรียนนั้นก็คือตัวตึกที่เป็นขนาดเล็กกว่า ที่อยู่ด้านซ้ายในรูปบนที่มี 2 ตึกนะคะ

จากข้อมูลที่อ่านมา (หลังจากไปมาแล้วอีกเช่นเคย – -“) เค้าบอกว่าในตอนกลางคืนมีการเปิดไฟให้ตัวอาคารด้วยนะคะ เพิ่มความน่าสนใจของนักท่องเที่ยวค่ะ (ก็ว่าทำไมปิดดึก ฮาาา)

ไปต่อกันอีกที่เลยค่ะ

Spot name : Hayashi Department Store / 林百貨
Google maps : https://goo.gl/maps/LWsTkbcv4ok
Transportation : Bus no.88
Entrance fee : Free
Opening hours : Mon – Sun 10.30-21.30
Visited date : 27 Dec 2018

เคโกะดูใน google maps แล้วเห็นว่าใกล้ ๆ กันกับ Chikanlou เลยเดินไปนะคะ แต่ใส่สายรถเมล์ไว้ให้ด้วยค่ะ

ห้าง Hayashi เป็นห้างที่เก่าแก่ของไถหนานเลยค่ะ ตัวโครงสร้างตึก การตกแต่งภายในก็ยังคงความโบราณไว้อย่างนั้นด้วยล่ะค่ะ

แผนผังของห้างนะคะ

ห้างนี้เป็นห้างขนาดเล็ก มีเพียง 5 ชั้นเท่านั้น ส่วนชั้น 6 ที่เห็นใน Floor guide นั้นคือเป็นบันไดเดินขึ้นไปเองเป็นจุดชมวิวเมืองไถหนานในมุมสูง (สูง 6 ชั้นนี่แหละ – -“) และมีร้านอาหารอยู่ด้วยค่ะ

ลิฟท์เองก็ยังเป็นลิฟท์แบบโบราณอยู่ จำกัดจำนวนคนขึ้น-ลงได้ไม่กี่คนค่ะ และจอดเพียงชั้น 1 และชั้น 5 เท่านั้น เคโกะก็เลยขอลองขึ้นไปชั้น 5 แล้วค่อย ๆ เดินไล่ลงมาดูทีละชั้น ตามประสา windows shopping นะคะ แฮร่~

ขึ้นมาถึงชั้น 5 แล้วก็จะมีทางเดินไปขึ้นบันไดไปอีกชั้นนึงค่ะ แล้วก็จะเจอกับโซน outdoor เลย

มีร้านขายของที่ระลึกของห้าง Hayashi นี้ด้วย น่ารัก เก๋ ๆ อยู่เยอะเลยค่ะ

ชะโงกดูวิวข้างล่างหน่อยนะ อยู่หัวมุมสี่แยกพอดีค่ะ

ถ้าพอรู้ภาษาจีน/ญี่ปุ่นอยู่บ้าง หรือช่างสังเกตสักนิดก็จะเอะใจค่ะว่าทำไมห้างในเมืองไถหนาน ในไต้หวันที่ใช้ภาษาจีนเป็นภาษาราชการนั้นถึงได้มีชื่อห้างเป็นภาษาญี่ปุ่นแบบนี้

สาเหตุก็คือเจ้าของเดิมคนแรกของตึกนี้ก็คือคนญี่ปุ่นที่เข้ามาในช่วงที่ญี่ปุ่นมีบทบาทบนเกาะไต้หวันค่ะ นี่คือเหตุผลที่ทำให้เคโกะคิดว่าในอดีตมีชาวญี่ปุ่นมาอาศัยอยู่ในเมืองไถหนานอย่างหนาแน่นพอสมควรเลยล่ะค่ะ

ชื่อห้างนี้คือ 林 ในภาษาญี่ปุ่น อ่านออกเสียงว่า ฮายาชิ (Hayashi) ซึ่งภาษาจีนเองก็มีคำนี้เช่นกัน แต่ออกเสียงว่า หลิน ค่ะ (คนไทยจะคุ้นกับการออกเสียงว่า ลิ้ม ซึ่งเป็นสำเนียงของจีนแต้จิ๋ว และเป็นแซ่ของคนจีนในไทยที่มีมากที่สุดในไทยด้วยค่ะ)

ช่วงสาระผ่านไปนะคะ มาดูกันต่อเนอะ

ชั้นบนนอกจากจะมีร้านขายของที่ระลึกแล้ว ยังมีศาลเจ้าแบบญี่ปุ่นเล็ก ๆ อยู่ด้วยค่ะ

ใกล้ ๆ กันมีห้องอะไรสักอย่าง เข้าใจว่าเป็นห้องนิทรรศการนะ แต่วันที่ไป เค้าปิด ไม่ให้เข้าชมค่ะ ก็เลยอดเลย

ในห้างนี้ก็จะขายของที่ค่อนข้างจะเป็นแนวอาร์ต ๆ ค่ะ หลาย ๆ แบรนด์สินค้าจะเป็นสินค้าแฮนด์เมด ในความรู้สึกของเคโกะเอง รู้สึกว่าราคาค่อนข้างสูงค่ะ ก็เลยได้แต่เดินดูเฉย ๆ ><“

จริง ๆ เคโกะมาห้างนี้เพราะอยากได้รองเท้าแบรนด์ Hoqin ไปลองนะ เพราะมีบล็อกเกอร์คนนึงพูดถึงรองเท้าแบรนด์นี้ว่าเป็นแฮนด์เมดและใส่สบาย ใส่ดีมาก เดินสบายมาก ๆ ค่ะ อะไรงี้ แต่พอเห็นราคาแล้วก็แบบ .. สู้ไม่ไหวค่ะ ก็เลยได้แต่ด้อม ๆ มอง ๆ T.T

(โดยส่วนตัวเคโกะ เป็นคนใช้รองเท้าราคาไม่แพงมากอะค่ะ แบรนด์ก็จะเป็นแบรนด์ทั่วไปบ้าง ไม่มีแบรนด์บ้าง ของจีนบ้าง ราคาก็จะประมาณ 400 – 1000 นิด ๆ ค่ะ ไม่เกิน 2000 เลย ยกเว้นรองเท้าแบรนด์ Adidas ที่เคโกะหลงรักแบรนด์นี้อยู่แล้ว ซึ่งก็จะราคาเกิน 2000 อยู่แล้วล่ะค่ะ — เล่าเพราะอยากให้พอมองเห็นภาพที่เคโกะว่าแพงนะ เพราะถูกแพงของแต่ละคน ไม่เหมือนกันค่ะ)

นอกจากร้านค้าต่าง ๆ ในห้างแล้ว ยังมีการนำเอาชิ้นส่วนของห้างที่เป็นของเก่าจริง ๆ มาโชว์ให้ดูด้วยล่ะค่ะ

อย่างอันนี้เป็นประตูลิฟท์เก่าค่ะ

สำหรับตัวห้าง Hayashi เคโกะว่าโอเคนะ ถ้าชอบงานอาร์ต ๆ หน่อย หรือชอบช้อปปิ้งก็มาเดินเล่นได้ค่ะ บางแบรนด์มีขายเฉพาะที่นี่ที่เดียว (อย่าง Hoqin เป็นต้น)

แต่สำหรับที่อื่น ๆ ในเมืองไถหนานนั้น ที่ที่เคโกะว่ามาแล้วก็ไปดูซักครั้งก็ Anping tree house และ Chikanlou อะค่ะ ส่วนที่อื่น ๆ (Anping Old Fort, Eternal Golden Castle) นั้นเคโกะว่าไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ และถ้าหากไปแค่ 2 ที่ใน 4 ที่ ก็ไม่ได้จำเป็นต้องซื้อตั๋วคอมโบ้นะคะ เพราะจุดคุ้มทุนอยู่ที่ 3 ที่ค่ะ คล้าย ๆ กับไป 3 ฟรี 1 นะ แต่ถ้าว่าง ๆ ก็ไปให้ครบทั้ง 4 ที่ก็ได้ค่ะ หากจัดเวลาดี ๆ ก็สามารถไปได้ครบในวันเดียวเลยค่ะ

แต่สุดท้ายแล้ว โดยความคิดเห็นส่วนตัว ใน 4 ที่ที่ไปมา (ไม่รวมห้าง Hayashi นะคะ) ก็ไม่ได้รู้สึกว้าวววว แบบต้องไปนะ อะไรงี้ค่ะ แล้วพอไปมา ก็ไม่ได้ประทับใจอะไรเท่าไหร่ ยังไม่ค่อยอิน ณ จุดนี้ค่ะ ^^”

แปะเพจปิดท้ายเช่นเคยค่ะ
https://www.facebook.com/thisiskeigo/