[Tokyo] Sensoji Temple

สวัสดีค่ะ ต่อกันอีกนิดหน่อยกับญี่ปุ่นเนอะ เล่าเรื่องที่ใคร ๆ ก็รู้กันอยู่แล้วดีกว่า 555

Spot name : Sensoji Temple / 浅草寺
Google maps : https://goo.gl/maps/XVFcy7wAzeS55vSK7
Transportation : Asakusa station, on the left hand side
Entrance fee : Free
Opening hours : 6.00-17.00 (6.30-17.00 during Oct-Mar) for main hall but always open for temple grounds
Visited date : 16 Feb 2019

โดยส่วนตัว เคยไปมาแล้วนะคะ อ่านความเดิมเมื่อนานมาแล้วได้ที่นี่ค่ะ

วันนั้นเราลงจากเครื่อง ไปเก็บกระเป๋าที่โรงแรม แล้วก็ดิ่งไปที่วัดเลยค่ะ เพราะก็ไม่ได้ไกลกันมากเท่าไหร่ ไปถึงก่อน 5 โมงนิดหน่อย ก็เลยรีบเดินไป เพราะกลัวว่าจะวัดจะปิดก่อน แต่พอเดินไปถึง ก็ปิดซะแล้วค่ะ อดเลย~ ก็เลยได้แต่เดินเล่นอยู่ด้านล่าง รอบ ๆ วัดและตลาดถนนคนเดินด้านหน้าวัดค่ะ

ประตูด้านหน้า โคมไฟแดงอันใหญ่ที่เป็นเอกลักษณ์ของวัดแห่งนี้ค่ะ

เดินผ่านประตูเข้ามา ก็ยังไม่เอะใจว่าวัดจะปิดแล้วน้าาาา รีบก่อนมั้ยยยยยย – -“

เคโกะยังสาละวนกับการถ่ายรูปรอบ ๆ อยู่ เพื่อนคนนึงที่เดินนำลิ่ว ๆ ไปแล้วก็เดินกลับบอกว่า “วัดปิดแล้ว” .. ฮรึกกก T____T

ก็เลยหันไปถ่ายรูปเล่นกันต่อ 555

แล้วก็ไปเสี่ยงเซียมซีกันค่ะ ถ้าจำไม่ผิด ครั้งนึงก็จะประมาณ 100-200 เยนนะคะ

วิธีการก็คือ หยอดเหรียญลงไปในช่องหยอดเหรียญก่อน แล้วหยิบกระบอกเซียมซีขึ้นมาถือ แล้วเขย่า ๆ ให้ก้านไม้ออกมา 1 แท่ง ถ้าหล่นหลายแท่ง เอาแท่งแรกค่ะ และในระหว่างเขย่าเซียมซีนั้น ให้อธิษฐานถามเรื่องที่อยากถาม หรือขอพรไปด้วยค่ะ พอได้เบอร์ที่อยู่บนแท่งไม้แล้ว ก็เดินตามหาเบอร์บนตู้เล็ก ๆ ที่วางกระดาษทำนายเซียมซีอยู่ตรงนั้นแหละ

บนแท่งไม้จะเขียนเป็นตัวเลขภาษาญี่ปุ่น ถ้าไม่รู้ภาษาก็เอาไปเทียบเลยค่ะ ><” ไม่รู้จะช่วยยังไงนะ จริงๆ

พอได้ใบมาแล้ว ถ้าได้ใบดีก็ให้เก็บไว้กับตัวค่ะ แต่ถ้าได้ใบที่ไม่ดี ก็เอาใบนั้นไปผูกไว้ที่ราวลวดที่ทางวัดเตรียมไว้ให้ที่เค้าผูกกันเยอะ ๆ หรือไม่ก็กิ่งไม้ (ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะไปผูกที่ราวลวดที่ทางวัดเตรียมไว้ให้นั่นแหละ) เป็นอุปมาว่าขอฝากดวงชะตาที่ไม่ดีทิ้งไว้กับวัดให้บำบัดปัดเป่าให้ร้ายกลายเป็นดี ประมาณนี้ค่ะ

เคโกะเอาตัวอย่างของตัวเองมาให้ดูนะว่านี่คือตัวอย่างของใบที่ไม่ดีค่ะ 5555

ไม่อยากบอกเลยว่าเป๊ะปังเวอร์มาก เคโกะถามคำถามตอนเขย่าเซียมซีไปด้วยค่ะ และได้คำตอบมาอย่างเป๊ะเลย T.T

เคโกะขอแนะนำการดูใบทำนายแบบง่ายสุด ๆ เผื่อใครที่ยังไม่ทราบก็แล้วกันนะคะ

ในด้านบนหัวกระดาษจะมีเขียนแบบสรุปว่าดีหรือไม่ดี พร้อมด้วยเบอร์ของเซียมซีเป็นภาษาญี่ปุ่นค่ะ (ดูตรงวงกลมแดงที่เคโกะวงให้อะค่ะ)

大凶 = ไม่ดีอย่างมาก
凶 = ไม่ดี
吉 = ดี
大吉 = ดีมาก
** เคโกะลืมไปแล้วนะคะว่าธรรมดา ๆ กลาง ๆ เนี่ย มีมั้ยแล้วใช้คำว่าอะไรค่ะ แหะๆ

เห็นด้านหน้าเป็นภาษาญี่ปุ่นเต็มพรืดไปหมด ก็ไม่ต้องตกใจค่ะ ด้านหลังมีคำอธิบายภาษาอังกฤษให้ด้วยนะ

จากนั้นเราก็ออกไปเดินกินขนมที่ถนนคนเดินด้านหน้าวัดกันค่ะ

ร้านแรกกับโมจิที่คนต่อคิวเยอะมากกกกกกกกกกกกก

เค้าเรียกว่ามันจูนะคะ เลือกกันมาคนละชิ้นคนละไส้มาชิมกันดูเฉย ๆ ค่ะ เพราะเห็นคิวยาวเหลือเกิน

3 ชิ้นนี้ราคาไม่เท่ากันแต่ละชิ้นนะคะ รวม 3 ชิ้นราคา 530เยนค่ะ รสชาติเฉย ๆ ค่ะ

ดูบรรยากาศตอนค่ำของบริเวณนี้บ้าง

คนเยอะมากจริง ๆ ค่ะ ครั้งที่แล้วเคโกะมาช่วงเช้ามั้งนะ คนบางตากว่านี้เยอะเลยค่ะ (แต่มันก็หลายปีแล้วนะเธอ – -“)

มาชิมเซมเบ้หรือข้าวเกรียบต่อกันอีกซักร้านค่ะ มีให้เลือก 3 แบบ เป็นเซมเบ้สดด้วย คือทำกันสด ๆ ร้อน ๆ ตรงนั้นเลยค่ะ ก็เลยลองสักหน่อย

จริง ๆ เราสั่งแค่ 3 ชิ้นแต่แม่ค้าฟังผิด เลยได้มา 4 ชิ้นค่ะ

สามชิ้นนี้ลืมจดราคาเป๊ะ ๆ มา น่าจะประมาณ 300 เยนค่ะ รสชาติก็เซมเบ้ทั่วไปนั่นแหละ แต่ตัวที่แย่สุดคือเซมเบ้โชยุค่ะ คือเซมเบ้เองก็เค็มในตัวอยู่แล้ว แล้วราดโชยุอีก กรี๊ดดดด จะให้เค็มไปไหน ><“

ปิดท้ายที่โคมไฟแดงด้านหน้าวัด ประตูนอกสุดค่ะ ก่อนที่เราจะมูฟไปที่อื่นต่อ

ก็เป็นวัดที่ใครมาโตเกียวครั้งแรกก็ควรมาแหละค่ะ ค่อนข้างจะเป็นอะไรที่แนะนำกันสุด ๆ แล้ว แต่เคโกะก็ขอแนะนำต่อไปอีกหน่อยว่า เดินชิมขนมบนถนนหน้าวัดนี้ไปเรื่อย ๆ ได้เลยค่ะ มีขนมทานเล่นเยอะเหมือนกัน

แล้วเจอกันโพสต์หน้าค่ะ
https://www.facebook.com/thisiskeigo/