[Chanthaburi] Chantaboon

สวัสดีค่ะ โพสต์นี้จะยาว ๆ นิดนึงเนอะ พอดีเคโกะมีไกด์คนพื้นที่ไปด้วยค่ะ เป็นรุ่นน้องที่น่ารักของเคโกะเอง น้องมีวิ่งตอนเช้าแล้วก็ยังลากน้องไปทรมานต่อด้วยการเดินเที่ยวริมน้ำจันทบูรด้วย แต่น้องก็ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ ของกินแถวนั้นได้เยอะมาก ๆ เลยค่ะ

ขอบคุณน้องออมและน้องสาวมา ณ ที่นี้ด้วยนะค้าาาา ไว้จะไปกวนใหม่น้าาา 55555

Spot name : ชุมชนริมน้ำจันทบูร
Location : อ.เมือง จ.จันทบุรี
Google maps : https://goo.gl/maps/ZhnK8QEMDTHVkYi26
Entrance fee : Free
Opening hours : 24 hrs
Visited date : 25 Oct 2020

ไม่มีที่จอดรถนะคะ เคโกะไปจ๊ะเอ๋เอาวันที่เค้ามีแข่งวิ่งกันพอดี จะไปจอดที่โบสถ์ก็ไม่ได้ค่ะ เลยต้องไปจอดที่ลานจอดของโบสถ์ที่อยู่ห่างออกไป แล้วนั่งรถชัทเทิลบัสรับส่งเอา (ถ้าจำไม่ผิดจะ 20 บาทเป็นราคาไป-กลับค่ะ)

ในรถชัทเทิลบัสมีแปะตารางเข้าชมภายในอาสนวิหารฯด้วยค่ะ

ซึ่งเคโกะก็นัดน้องไว้ที่โบสถ์มารีอา หรือชื่อเต็ม ๆ คือ อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมลจันทบุรี นี่แหละค่ะ เป็นโบสถ์ที่สวยมาก ๆ ใครไปใครมาก็ต้องมาถ่ายรูปที่โบสถ์แห่งนี้ล่ะค่ะ แต่ส่วนตัวเคโกะเคยมาแล้วหนนึง เลยข้าม ๆ ไปนะคะ

พอเจอน้องแล้วเราก็ออกเดินกันค่ะ ซึ่งโบสถ์อยู่ใกล้กับชุมชมริมน้ำจันทบูรมาก ๆ เลย เดินทะลุไปนิดเดียวก็เจอเลยค่ะ

ชุมชนริมน้ำก็ต้องมีรูปแม่น้ำประกอบสินะ 555

ข้ามฝั่งมาก็จะมีป้ายต้อนรับ ป้ายแนะนำความเป็นมาของชุมชนริมน้ำจันทบูรนี้ค่ะ

โดยสังเขปก็คือเป็นชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำจันทบุรี ที่มีชาวจีนและชาวญวนอพยพมาอาศัยอยู่ตั้งแต่ช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้นค่ะ

มีงานกราฟฟิตี้เก๋ ๆ ให้เก็บรูปกันด้วย เห็นว่าเป็นฉากนึงในโฆษณาที่ดังมาก ๆ ชิ้นนึงเลยค่ะ –ก็ลืมแล้วว่าโฆษณาอะไร – -“

ลักษณะก็จะเป็นบ้านเรือทรงโบราณอะค่ะ อาจจะมีการบูรณะอะไรบ้าง แต่ก็ยังคงโครงสร้างเดิมไว้อยู่ค่ะ

จุดแรกที่จะแวะชมก็คือ บ้านเรียนรู้ชุมชนค่ะ แต่เผอิญว่ามาเจอเอาวันที่เค้าปิดซะงั้น 55555

เดินต่อไปค่ะ เจอร้านเสน่ห์จันท์ ร้านดังเหมือนกันน้าาาา แต่ไม่รู้เพราะมีงานวิ่งหรือเปล่านะ ร้านปิดอีกแล้วค่ะ 5555

แล้วก็เดินมาเรื่อย ๆ เจอโรงแรมนึงที่สามารถเข้าไปชมด้านในได้ค่ะ เค้าจัดเหมือนเป็นพิพิธภัณฑ์ย่อม ๆ ไว้ให้ศึกษาด้วย

ด้านในมีคาเฟ่ด้วยค่ะ ตกแต่งเก๋ ๆ สไตล์ vintage และ antique เบา ๆ ให้เข้ากับสถานที่

ชั้นบนก็มีจัดแสดงตกแต่งของเก่าประวัติความเป็นมาหลายสิ่งอยู่ น่าสนใจดีนะคะ

แล้วก็จะมีลักษณะแนวนี้อยู่หลายที่เหมือนกันค่ะ เดี๋ยวก็จะเจออีกที่นึงนะ

เดินกันต่อไปก็มีศาลเจ้าอยู่ที่นึงค่ะ ยังคงเก็บโครงสร้างแบบดั้งเดิมไว้ การจัดวาง การตกแต่งอะไรก็คือของเก่าเลยอะ

รูปนี้ถ่ายย้อนออกมาหน้าถนนค่ะ

เดินขึ้นมาชั้นบนมีเจ้าตั้งอยู่

ซึ่งเท่าที่เดินมา น่าจะประมาณ 1/3 ของถนนเส้นนี้ เคโกะก็สัมผัสได้ถึงความเป็นจีนที่ค่อนข้างหนาแน่นอยู่ค่ะ ยังเปรย ๆ กับน้องอยู่เลยว่าใส่กี่เพ้ามาถ่ายรูป น่าจะเข้ากับสถานที่ดี

นอกจากร้านค้า โรงแรม ศาลเจ้าและบ้านเรือนสไตล์ย้อนยุคแล้ว ก็ยังมีกราฟฟิตี้ที่ร่วมสมัยเข้าไปปะปนด้วยค่ะ แต่ก็ไม่ได้ดูขัดแย้งเลย

เดินต่อมาเจอท่าแม่ผ่อง

ก็เลยเดินไปที่ท่าน้ำซักหน่อยค่ะ

แล้วน้องก็พาลัดเลาะตรอกซอกซอยไป เจอป้ายตรอกมีคุณกระต่ายเกาะป้ายอยู่ น่ารักดีค่ะ

เดินลัดเลาะออกมาเจอศาลเจ้าใหม่ที่ดูใหญ่พอสมควรค่ะ ช่วงที่เคโกะไปเป็นช่วงเทศกาลกินเจอยู่อะนะคะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นวันสุดท้ายที่จะมีจัดงานส่งเจ้าขึ้นสวรรค์อะไรทำนองนี้น่ะค่ะ เคโกะก็ห่างเหินการกินเจมาหลายปีแล้วล่ะ ก็มีลืม ๆ ไปแล้วนะคะ แหะ ๆ

แต่สิ่งที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับเคโกะก็คือ มีการแสดงงิ้วด้วยค่ะ

ว่ากันไปตามตรงแล้ว งิ้วน่ะก็ไม่เท่าไหร่ แต่สิ่งที่ตื่นตาตื่นใจกว่าก็คือน้ำตาลปั้นที่อยู่ด้านหน้าเวทีงิ้วนี่แหละค่ะ เคโกะไม่ได้เห็นนานมาก ๆ แล้วล่ะ

สมัยเด็ก ๆ เคโกะจะคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้ดีพอสมควรเลยนะคะ เพราะจะโดนลากไปงานสมาคมตระกูลหนึ่งในกทม.ทุกปี เค้ามีจัดงานสักการะบรรพบุรุษทุกฤดูหนาวอะค่ะ ก็จะมีการแสดงงิ้ว 3 วัน 3 คืนอะไรทำนองนี้แหละนะ แล้วหน้าเวทีก็จะมีน้ำตาลปั้นแบบนี้ค่ะ ซึ่งตอนเด็ก ๆ อะ ไม่มีสตางค์พกติดตัวอะไรเยอะ ก็จะได้แต่ยืนมองเค้าปั้นน้ำตาลค่ะ เป็นภาพที่ชินตาทุกปีในวัยเด็กอะนะ

ซึ่งเอาจริง ๆ นะ เคโกะก็ยังไม่เคยซื้อทานเลยค่ะ ><”

แต่ถามใจเคโกะตอนนี้ว่าอยากซื้อชิมไหม ก็ไม่นะ ไม่กินหวานอ่าาาาา 555

เอาล่ะ เราก็เดินชมย่านชุมชนกันต่อไปค่ะ ^^”

หลาย ๆ ร้านมีการปรับตกแต่งให้ดูโมเดิร์นและทันสมัยมากขึ้น มีคาเฟ่น่ารัก ๆ เพียบ นี่น่าจะเป็น 1 ในนั้นค่ะ คนเยอะมากกกก

แล้วก็มาเจอกับอีกโรงแรมนึงมั้งนะ ชั้นล่างเปิดให้เข้าชมได้ค่ะ เค้ามีของเก่ามาจัดโชว์ให้ดูค่ะ

ระหว่างทาง น้องก็ชี้ให้ดูร้านขนมเทียนเจ้าเก่า เคโกะก็เลยปราดเข้าไปซื้อมาชิมดู เค้าจัดใส่เป็นถุง ๆ ไว้ให้ค่ะ น่าจะถุงละ 20 บาทนะ แต่ขนมเทียนเค้าจะเป็นลูกเล็ก ๆ แบบ 1 คำหมดค่ะ

เป็นขนมเทียนที่ลูกเล็กมากจริง ๆ ค่ะ เข้าใจแหละว่าคงทำลูกเล็ก ๆ ขายเพื่อให้นักท่องเที่ยวซื้อชิมกันถ้วนหน้าในกลุ่มไรงี้อะนะคะ

จุดเด่นเค้าคือตัวแป้งที่เป็นเนื้อใส มองเห็นไส้ถั่วด้านในได้ แต่ถ้าถามใจเคโกะนะ เคโกะว่าเฉย ๆ มาก ๆ ค่ะ เคยเจอที่อร่อยกว่านี้อะ และรสชาติคือยังไม่เข้มข้นเท่าไหร่ คิดว่ารสอ่อนไปหน่อยค่ะ

เดินกันต่อไปก็เจอกับร้านไอศครีมตราจรวดค่ะ น้องเล่าว่าเป็นร้านดั้งเดิมและร้านเดียวที่ยังมีอยู่

สารภาพตามตรงว่าเคโกะไม่รู้จักไอศครีมตราจรวดค่ะ ><” เกิดไม่ทัน แง้~ //ผิด

มีป้ายอธิบายความเป็นมาของร้านด้วยค่ะ

ไหน ๆ ก็มาแล้ว เลยเข้าไปซื้อชิมซักอันนึง น้องแนะนำรสยอดฮิตที่ว่าอร่อยมาให้ค่ะ ก็จัดไป

สำหรับความรู้สึกส่วนตัวของเคโกะเลยนะ คือยังไม่ถูกจริตค่ะ ได้รสหวานนำ หวานแบบหวานเลยอะ แล้วเคโกะไม่กินหวานไง ก็เลยรู้สึกว่าธรรมดามากค่ะ ><“

เดินต่อไปจนสุดถนนก็จะเป็นสภาวัฒนธรรมประมาณนี้

ซึ่งด้านในก็มีของที่ระลึกขายและมีแผ่นพับแนะนำสถานที่และการท่องเที่ยวด้วยค่ะ

แล้วเราก็เดินย้อนกลับมาทางเดิม เจอตรอกนึงมีร้านขายของที่ระลึกแบบน่ารัก ๆ และร้านก็น่ารักด้วย แวะถ่ายรูปกันไปอีก 555

เดินซะเยอะ แวะชิมน้ำมะปี๊ดกันซักหน่อยค่ะ มะปี๊ดของจันทบุรีก็คือส้มจี๊ดนั่นเองล่ะค่ะ

จริง ๆ แล้วของกินทั้งของกินเล่นและอาหารจานหลักอะไรงี้ มีค่อนข้างเยอะและหลากหลายพอสมควรบนถนนสายนี้เลยนะคะ แต่ด้วยความที่น้องกินเจ แต่เคโกะไม่กินเจ เลยทานด้วยกันไม่ได้ค่ะ ก็ดูไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ด้วย หากเคโกะจะไปนั่งชิมนู่นนี่และปล่อยให้น้องคอยไรงี้ ก็เลยไม่ได้ชิมอะไรมากมายนักอะนะคะ

ก่อนจะกลับออกจากชุมชนริมน้ำนี้ เคโกะก็เลยซื้อขนมไข่กรอบไปชิมที่บ้านด้วย

ก็เป็นไอเท็มที่ขายกันแทบทุกร้านอะค่ะ เลยคาดหวังไปว่าต้องอร่อยนะ แต่เอาเข้าจริง ก็คือขนมไข่ที่หน้ากรอบ ๆ และทำให้ติดกันเป็นแพอะค่ะ – -“

ปิดท้ายทริปแบบมีไกด์นำด้วยศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชค่ะ ซึ่งเดินไปได้นะ แบบเหนื่อยมาก ๆ ค่ะ ฮาาาา… เคโกะเลยขอขับรถไปดีกว่า ซึ่งบริเวณศาลพระเจ้าตากนั้นมีที่จอดรถอย่างจำกัดค่ะ แต่เราสามารถเอารถเข้าไปจอดในค่ายตากสินที่อยู่ติดกันได้นะคะ

ซึ่งในค่ายเองก็มีห้องประดิษฐานพระเจ้าตากที่หลอมด้วยทองแดงไว้ด้วยล่ะค่ะ

ส่วนของศาลสมเด็จพระเจ้าตากฯนั้น คนเยอะมากกกกกกกค่ะ และตัวอาคารเองก็ทำเป็นทรงหมวกที่สมเด็จพระเจ้าตากสินนิยมสวมใส่ประจำด้วยล่ะค่ะ

ก็กราบไหว้พระเจ้าตากกันเรียบร้อยแล้ว เคโกะกับน้องก็เลยแยกกันตรงนี้ล่ะค่ะ

จบทริปสั้นที่จันทบุรีแล้ว เดี๋ยวไปต่อทริปมหากาพย์ (ห้ะ อีกแล้ว?) ที่เชียงรายนะคะ ^^”
https://www.facebook.com/thisiskeigo

[Chanthaburi] Chanthaburi

สวัสดีค่ะ เผลอแป๊บ ๆ เคโกะก็ดองบล็อกไว้อีกแล้วนะคะ 555555 //ยิ้มเขิน

ทริปจันทบุรีนี้เคโกะมีเวลาค่อนข้างน้อย อาจจะไปได้ไม่ครบทุกที่นัก และเพราะเคยไปมาแล้วหนนึง (มั้ง) ด้วยแหละค่ะ

เริ่มเลยเนอะ

ออกจากกทม. ที่แรกที่ไปก่อนเลยก็คือวัดปากน้ำเขมหนูค่ะ ที่นี่เค้าเด่นเรื่องโบสถ์สีน้ำเงิน และอยู่ริมน้ำด้วย

Spot name : วัดปากน้ำเขมหนู / Wat Paknam Khaem Nu
Location : อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
Google maps : https://goo.gl/maps/EMUpwpL1RH6kFUcTA
Entrance fee : Free
Opening hours : 5AM-8PM
Visited date : 24 Oct 2020

ที่จอดรถเยอะมากกกและคนก็เยอะมากกกเช่นกันค่ะ แต่เท่าที่ดูคือก็ยังสร้างไม่เสร็จดีนะคะ

ด้านในก็สีฟ้าค่ะ คือสีฟ้าล้วนนนนเลย สวยอ่าาาา

ด้านข้างก็มีคนมาถ่ายรูปเยอะมาก ๆ เช่นกันค่ะ คือมุมไหน ๆ ก็มีคนถ่ายรูปทุกมุมเลยอะ

อีกมุมนึงบ้าง

โดยรวมก็เป็นวัดที่ผู้คนมาถ่ายรูปกันเยอะมากค่ะ

ต่อไปจริง ๆ เคโกะแพลนว่าจะไปลานหินสีชมพูด้วยนะ แต่ช่วงเวลาดูจะไม่ค่อยเหมาะนักค่ะ ก็เลยตัดออก แล้วไปเจดีย์บ้านหัวแหลมแทน

Spot name : เจดีย์บ้านหัวแหลม / จุดชมวิวเจดีย์บ้านหัวแหลม / Jaedee Klang Nam Viewpoint Baan Hua Laem
Location : อ.นายายอาม จ.จันทบุรี
Google maps : https://goo.gl/maps/66X65ixSdsgiZ2z16
Entrance fee : Free
Opening hours : N/A
Visited date : 24 Oct 2020

ตรงนี้กับจุดชมวิวเนินนางพญาใกล้กันค่ะ ก็สามารถจอดรถไว้ที่เดิมแล้วเดินไปเดินมาเอาได้เลยนะคะ

เคโกะได้มุมจอดรถคือดีเลยอะ ริมทะเลเลยค่ะ ซึ่งเดินลงหาดได้เลยด้วยนะ เห็นมีเด็ก ๆ แถวนั้นเล่นน้ำกันอยู่บ้างค่ะ

จากลานจอดรถตรงนี้ มีรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างวิ่งรับส่งไปจุดชมวิวเจดีย์บ้านหัวแหลมด้วยค่ะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะคนละ 10-20 บาท (ค่าจอดรถ 20 บาท –แต่เคโกะไม่เสียอะค่ะ ไม่รู้ทำไม แง้ววว ><~)

เอาจริง ๆ เคโกะว่าไม่ได้ไกลมากค่ะ เดินได้อยู่นะ เคโกะเดินไปค่ะ เดินไปแบบชิลล์ ๆ ก็ราว ๆ 10 นาทีได้ แต่ถ้าขี้เกียจก็นั่งรถอย่างที่บอกก็ได้เช่นกันค่ะ

เดินมาถึงทางเข้า ด้านหน้าก็จะมีจุดขายธูปเทียนของไหว้สักการะอะไรอยู่ตรงนี้ทั้งหมดค่ะ ด้านในคือก็จะไม่มีแล้ว

แล้วก็เดินไปตามทางซึ่งเป็นสะพานไม้ มีราวเชือกกั้นพอสังเขปค่ะ (รูปนี้คือถ่ายย้อนออกมานะคะ)

ก็เดินมาเรื่อย ๆ จนสุดทางก็จะเจอกับพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ตรงนี้ค่ะ

ไกล ๆ ด้านหลังก็คือเจดีย์กลางน้ำค่ะ เคโกะซูมไปให้ดูนะคะ

จากนั้นก็เดินกลับออกมาทางเดิมค่ะ แล้วเดินเลยลานจอดรถขึ้นเนินไปหน่อยนึงก็จะเจอกับจุดชมวิวเนินนางพญาแล้วล่ะค่ะ

Spot name : จุดชมวิวเนินพญา / Noen Nangphaya viewpoint
Location : อ.นายายอาม จ.จันทบุรี
Google maps : https://goo.gl/maps/4tQSTvTCDpieu7Lx8
Entrance fee : Free
Opening hours : Mon-Fri 9AM-5PM, Sat-Sun open 24 hrs
Visited date : 24 Oct 2020

ตรงนี้ก็เป็นอีกจุดนึงที่คนเยอะมากกกกกกกกกค่ะ พอขึ้นที่สูงไปก็จะเห็นวิวทะเลทั้งอ่าวแบบนี้เลยค่ะ

แล้วจุดไฮไลท์ที่คนนิยมถ่ายรูปก็คือมุมนี้ ซึ่งถึงกับต่อคิวกันถ่ายรูปเลยอะ ><

แล้วก็ใกล้ ๆ กันมีป้ายบอกไปจุดชมวิว (ที่เคโกะลืมชื่อแล้ว 5555 และไม่ตรงกับป้ายที่ถ่ายติดมานะคะ เสิร์ชในกูเกิ้ลแล้วไปโผล่อีกที่เฉยเลย) แต่ตรงนี้เคโกะขับรถวนขึ้นไปค่ะ อยู่ไม่ไกลกันมาก มีป้ายบอกทางให้อยู่ค่ะ

แต่เป็นจุดที่ไม่มีคนเลยยยยยยยย 5555

จุดเด่นของตรงนี้คือพระยืนองค์ใหญ่ที่หันหน้าออกทะเลค่ะ แต่วิวทะเลนั้นกลับไม่ค่อยเห็นเพราะมีต้นไม้บังซะเยอะ และไม่ได้สวยมากเท่าไหร่ค่ะ

ต่อกันที่ร้านอาหารบ้างนะคะ

วันแรกเคโกะแวะร้านปูจ๋า ท่าแฉลบค่ะ วางแผนไม่ค่อยดี แต่อยากทานร้านนี้เลยต้องวนรถไป ๆ มา ๆ เลย แหะ ๆ

Restaurant name : ร้านอาหารปูจ๋า ท่าแฉลบ / Pu Cha Seafood Tha chalaeb
Google maps : https://goo.gl/maps/zSpBL9fHaTE7x3pN9
Parking lots : Yes
Location : อ.เมือง จ.จันทบุรี
Opening hours : 10AM – 9PM
Visited date : 24 Oct 2020
Website : https://web.facebook.com/pojathacharap

เคโกะไปทานคนเดียว เลยสั่งแค่ 2 จานก็พอนะคะ แค่นี้ก็คือแน่นท้องมากแล้วอะ ><“

จานแรกเป็นปลากะพงผัดพริกไทยดำค่ะ

อีกจานน่าจะเป็นน้ำพริกปูไข่นะคะ

ถ้าจดราคามาไม่ผิด 2 จานนี้รวม 385 บาทค่ะ ซึ่งอร่อยทั้ง 2 จานเลยนะคะ แต่ก็ไม่ต้องแปลกใจนะคะว่าทำไมไม่มีข้าว 5555 ไม่ได้รับข้าวค่ะ ทานเปล่า ๆ เลย ><“

ปิดท้ายที่คาเฟ่ที่เคโกะแวะเป็นที่สุดท้ายก่อนตีรถกลับกรุงเทพค่ะ

Restaurant name : Bunny Boom
Google maps : https://goo.gl/maps/Q7JV7ErG8ey5Jiix6
Parking lots : No (จอดรถไหล่ทางได้)
Location : อ.เมือง จ.จันทบุรี
Opening hours : 8AM – 7PM
Visited date : 25 Oct 2020
Website : https://web.facebook.com/bunnyboomChantaburi

ร้านนี้เคโกะอ่านรีวิวมา เค้าแนะนำเป็นชะมวงชีสโทสต์, ขนมปังหมูชะมวง และไอศกรีมผลไม้ต่าง ๆ นะคะ ซึ่งเคโกะดู ๆ แล้วคาร์บจะเยอะไปแล้วววววว เลยเลือกเอาที่อยากทานค่ะ — แต่ที่สั่งมาทานนี่คาร์บและแฟทก็ไม่น้อยอะเธอ 555555

จริง ๆ แล้วร้านนี้เป็นร้านที่อยู่ด้านหน้าของโรงแรม Blue Rabit ค่ะ แต่เคโกะไม่แน่ใจนะว่าเข้าไปจอดในโรงแรมได้มั้ย เห็นจอด ๆ กันอยู่ริมถนนด้านหน้าคาเฟ่กันหมดเลยค่ะ

ร้านจัดตกแต่งน่ารัก มีกิมมิคเป็นคุณกระต่ายตามชื่อร้านและชื่อโรงแรมเลยล่ะค่ะ

เคโกะเลือกนั่งที่เคาน์เตอร์ยาวริมหน้าต่างกับคุณกระต่ายนะคะ

เมนูที่สั่งมาก็จะมี Chocolate Banana Cake (95BHT) ค่ะ ช็อคโกแลตเข้มข้นดีค่ะ

เครื่องดื่มเป็น Smoothies Somjeed Jelly Yogurt ค่ะ (85BHT) เอาส้มจี๊ดมาทำเป็นเครื่องดื่มสมูธตี้ผสมโยเกิร์ตก็ดูแปลกแหวกแนวดีค่ะ เลยลองสั่งมาชิมดู ก็ออกเปรี้ยว ๆ แต่ไม่ได้เปรี้ยวแหลมนำอะค่ะ ทานกับโยเกิร์ตแล้วคือเข้ากันดีเลยค่ะ

ตอนที่ไปมีโปรโมชั่นสั่งเครื่องดื่มและเค้กคู่กัน ลดค่าเค้ก 20% ด้วยค่ะ

แล้วก็สั่งเพิ่มอีกอย่างคือชะมวงชีสโทสต์ (95BHT) ค่ะ

ก็คือเอาหมูชะมวงที่เป็นเมนูขึ้นชื่อของจันทบุรีมาวางบนขนมปังโทสต์และโปะด้วยชีสล่ะค่ะ ก็สร้างสรรค์ดี เพิ่มความแปลกใหม่ให้กับหมูชะมวงดีค่ะ ส่วนรสชาติก็โอเคอยู่นะคะ ติดอยู่ที่ซอสมะเขือเทศที่ราดบนหน้ามา เคโกะว่าไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ค่ะ ^^” แต่ก็ไม่ได้ขัดมากอะนะคะ

โดยรวมแล้ว ร้านนี้คือดีค่ะ อร่อยยยย

เดี๋ยวโพสต์หน้าจะมาต่อทริปจันทบุรีอีกตอนนึงก็จะจบทริปนี้แล้วนะคะ จะพยายามไม่ดองบล็อกค่ะ แหะ ๆ
https://web.facebook.com/thisiskeigo

[Chanthaburi] Chanpraya Resort

สวัสดีค่ะ กองดองเยอะอยู่นะคะเนี่ย ยังไม่พ้นทริปเดือนตุลาปีที่แล้วเลยอะ 5555 //ยิ้มเขิน

ทริปจันทบุรีนี้เป็นทริปสั้น ๆ ค่ะ จริง ๆ แพลนไว้นานมากแล้วว่าจะไปซัก 3 วัน 2 คืน แต่พอจะไปขึ้นมาจริง ๆ ก็มีเวลาให้ได้แค่นี้เองอะ แต่ก็ไปค่ะ

Resort name : Chanpraya Resort / จันท์พระยา รีสอร์ท
City : อ.เมือง จ.จันทบุรี
Location : https://goo.gl/maps/CREj6mf3goRrrkUC6
Booking via : agoda.com (เราเที่ยวด้วยกัน)
Room type : Standard Cottage
Room rate : 638.25BHT (1 nights)
Check-in date : 24 – 25 October 2020, 1 nights
Facebook page : https://web.facebook.com/Chanpraya/

เคโกะจิ้ม ๆ เอาจากอะโกด้า เพราะจะใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันค่ะ ด้วยเงื่อนไขคือที่พักหลักร้อยและมีสระว่ายน้ำ .. แอบดูขัดแย้งนิดนึง แต่ก็ได้ที่นี่มา เดี๋ยวมาดูกันค่ะว่าที่พักหลักร้อยกับสระว่ายน้ำมันไปด้วยกันได้มั้ย

เคโกะออกไปเที่ยวเตร็ดเตร่แต่เช้า กว่าจะเข้าที่พักก็คือมืดแล้วค่ะ รูปในห้องก็จะมืด ๆ นิดนึงนะ และรูปไหนที่สว่าง ๆ คือถ่ายอีกวันนึงค่ะ

ขับรถมาตามกูเกิ้ลแม็พแล้วแวะจอดรถด้านหน้าทางเข้าเพื่อเช็คอินที่พักก่อน แล้วพนง.ก็จะขี่จักรยานมาส่งที่ห้องค่ะ น่าจะเพราะมืดแล้วกลัวมองไม่เห็นเลขห้องอะเนอะ ก็เลยมาส่งค่ะ

ห้องพักจะเป็นลักษณะบ้านพักเป็นหลัง ๆ ค่ะ สามารถจอดรถด้านข้างได้เลย

มีน้องแกะยิ้มแฉ่งอยู่ด้านหน้าบ้านพักค่ะ แต่ละหลังตกแต่งไม่เหมือนกันนะคะ

หน้าห้องพักมีโต๊ะนั่งเล่นค่ะ

เปิดประตูเข้าห้องก็ อื้มมมม ห้องเล็กมากกกกค่ะ

เตียงก็เต็มห้องแล้วอะ

ปลายเตียงจะเป็นบานประตูสไลด์ค่ะ เหนือบานประตูก็จะเป็นทีวี

ซึ่งบานประตูนี้เนี่ย ก็คือเป็นตู้เย็นมินิบาร์และราวแขวนเสื้อผ้าค่ะ ทำเหมือนตู้เสื้อผ้า แต่เป็นแบบโปร่ง

มีถาดวางแก้วน้ำ รีโมททีวี,แอร์วางไว้ให้ตรงนี้ ก็งงอยู่ว่าทำไมมาอยู่ตรงนี้ 555

แล้วบานประตูสไลด์อีกด้านคือประตูห้องน้ำค่ะ เราไม่สามารถสไลด์ตรงราวแขวนเสื้อผ้าค้างไว้ได้นะคะ เพราะมันจะชนกับบานประตูสไลด์ที่เปิดไปเป็นห้องน้ำอีกฝั่งนึงค่ะ

ห้องน้ำเป็นแบบปูนเปลือย ทรงตัวยูค่ะ

ลองนึกภาพตามเนอะ ทั้งห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าค่ะ ส่วนหน้าคือที่นอน แล้วมีตู้ (ตู้เสื้อผ้า/ตู้เย็น) ขวางกลางห้องยื่นไปในส่วนหลังของห้องอยู่ แล้วส่วนหลังคือห้องน้ำ จะเป็นผังห้องตัวยูพอดี

ด้านในห้องจะเป็นราวแขวนผ้า และอ่างล้างหน้าค่ะ

แล้วในหลืบด้านซ้ายของอ่างล้างหน้าก็จะเป็นส่วนเปียก ฝักบัวอาบน้ำไรงี้ค่ะ มีขวดครีมอาบน้ำให้ แต่ไมมีแชมพูแฮะ งง 555

เคโกะไม่รู้ห้องอื่นเป็นมั้ยนะ แต่ห้องนี้ที่เคโกะได้พักคือเครื่องทำน้ำอุ่นไม่อุ่นค่ะ ปรับได้แค่ร้อนกับปิดอะ แล้วตอนนั้นที่ไปคืออากาศเย็นในตอนกลางคืนค่ะ ก็ต้องอาบน้ำเย็นอะ หนาวสุดดด T.T

แล้วก็ยืนตรงฝั่งส่วนเปียก ถ่ายย้อนออกมาให้ดูรวม ๆ ของส่วนแห้งนะคะ

อ้อ อีกจุดนึงที่ไม่ค่อยชอบก็คือปลั๊กไฟค่ะ มีรูเดียวที่หัวเตียงด้านในสุดของห้อง >< และเป็นแบบ 2 ขาด้วย เคโกะเตรียมโน้ตบุ๊คไปจะทำงานด้วยก็อดเลยค่ะ (โน้ตบุ๊คเป็นปลั๊กไฟ 3 ขา และไม่หักขาค่ะ 555)

ภายในรีสอร์ทก็จะประมาณนี้นะคะ

แล้วก็ไปดูสระว่ายน้ำกันค่ะ 5555555 หัวเราะก่อนเลย

เป็นสระว่ายน้ำที่เล็กมากกกกกค่ะ น่าจะเหมาะให้กับเด็ก ๆ เล่นน้ำกันเฉย ๆ มากกว่าให้ผู้ใหญ่เล่นน้ำจริงจัง ฮาาาา

คือก็หิ้วชุดว่ายน้ำไปเก้อไง 555555

ปิดท้ายที่อาหารเช้าค่ะ มาเป็นเซ็ทที่เราต้องไปบอกที่ครัวเองว่าจะรับอะไรบ้าง เค้ามีให้เลือกล่ะค่ะ ถ้าจำไม่ผิดก็จะเป็นข้าวต้ม หรือ ABF นะคะ

บริเวณห้องอาหารค่ะ ก็จะอยู่ติด ๆ กับสระว่ายน้ำนั่นแหละ

เริ่มที่ปาท่องโก๋กับชา/กาแฟ/โอวัลตินหรือไมโลนี่แหละก่อนเลย เคโกะเลือกเป็นโอวัลติน (หรือไมโลนี่แหละ) มาค่ะ เป็นแบบ 3-in-1 นะคะ ปรับหวานไม่ได้น้าาา และมากับน้ำอัญชันค่ะ

แล้วก็ ABF ค่ะ มาพร้อมกับผลไม้เป็นแตงโมค่ะ

สรุปโดยรวมเลยแล้วกันค่ะ

  • มีไวไฟให้ค่ะ ความเร็วโอเคอยู่
  • ห้องเล็กค่ะ จุดปลั๊กไฟน้อยมากกกก มีแค่จุดเดียวเอง
  • เครื่องทำน้ำอุ่นไม่อุ่นค่ะ ไม่มีแชมพูให้ด้วย (แม้จะไม่ได้ใช้ก็เถอะ 555)
  • พนง.ห้องครัวที่รับออเดอร์อาหารเช้าทำงานไม่ค่อยโอเคค่ะ คือต้องมีการย้ำว่าเราจะรับอะไรอยู่สองสามรอบค่ะ และค่อนข้างช้า
  • สระว่ายน้ำคือเล็กมากกกกกก เหมือนไม่ได้มีไว้ให้ว่ายน้ำ เหมือนไว้ให้เด็ก ๆ เล่นน้ำกันเฉย ๆ มากกว่าค่ะ

สำหรับส่วนตัวแล้ว ยังไม่ผ่านค่ะ
https://web.facebook.com/thisiskeigo