[Taichung] WuFeng Lin Family Mansion and Garden

สวัสดีค่ะ บางทีก็เริ่มสงสัยตัวเองแล้วนะ ว่าไปเที่ยวเยอะเกินไป หรือเขียนบล็อกช้ากันแน่ ยังไม่ถึงครึ่งของทริปไต้หวันเลยค่ะ T.T

Spot name : WuFeng Lin Family Mansion and Garden / 雾峰林家宅园
Google maps : https://goo.gl/maps/XYQanyzpPFFcEG4z7
Transportation : bus no. 201, 108
Entrance fee : 250NTD
Opening hours : 9.00-17.00
Visited date : 30 Dec 2018
More information: https://www.taichung.guide/wufeng-lin-family-mansion-and-garden/
https://www.rtaiwanr.com/taichung-city/wufeng-lin-familys-mansion

สำหรับที่นี่นะคะ เคโกะมีเพื่อนขับรถมารับพาไปเที่ยวนะคะ และที่ Wufeng Lin Family นี้เป็นไอเดียของเพื่อนค่ะ เพื่อนเดาว่าเคโกะน่าจะมาแนวนี้ และก็ใช่เลย (555) ก็ถือว่าถูกใจและถูกจริตดีค่ะ และก็เพราะว่ามีเพื่อนมารับ เลยใส่การเดินทางไว้คร่าว ๆ ตามกูเกิ้ลแม็พให้พอเป็นไอเดียนะคะ

มาถึงแล้วก็ซื้อตั๋วเข้าไปชมสถานที่ค่ะ ราคา 250NTD/คน ซึ่งจะมีไกด์ทัวร์พาชม และอธิบายประวัติความเป็นมาเชิงลึกของสถานที่ค่ะ ซึ่งเคโกะแนะนำนะ

ได้บัตรมาแล้วค่ะ หน้าตาประมาณนี้

สิ่งนึงที่เราจะรู้ได้ง่าย ๆ เลยว่าที่แต่ละที่มีอะไรที่เราต้องสนใจเป็นพิเศษ ก็คือรูปที่อยู่บนตั๋วเข้าชมสถานที่นั้น ๆ ค่ะ ส่วนใหญ่มักจะเป็นอะไรที่เป็นไฮไลท์ของสถานที่นั้น ๆ อยู่แล้ว

ก่อนที่จะเดินชมอะไร ก็ต้องเช็ครอบไกด์ทัวร์ก่อนค่ะ ซึ่งก็ไปได้จังหวะเวลากำลังดี เพราะรอบถัดไปก็ใกล้เริ่มแล้ว

พอไกด์มาถึง เค้าก็จะแนะนำตัว ทักทายและชวนพูดคุยอะไรนิดหน่อย บทสนทนาสั้น ๆ ตรงนี้ เคโกะสัมผัสได้ว่าคนไต้หวันค่อนข้างจะให้ความร่วมมือและกล้าพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดความเห็นกันค่ะ อย่างตอนที่เค้าทักทายว่ามาจากไหนกันบ้าง ทุกคนก็จะตอบอย่างทันควันเลย ตรงนี้เคโกะว่าผิดกับคนไทยนะที่ไม่ค่อยตอบกันอะค่ะ หรือตอบแบบอ้ำอึ้งๆ ไรงี้ ซึ่งพอเพื่อนแนะนำเมืองแต่ละคนที่อยู่มาจนครบ (เพื่อน 3 คนมาจาก 3 เมืองเลยค่ะ) แล้วก็ชี้มาทางเคโกะ สาวไท่กั๋วคนเดียวในกรุ๊ป ><” ไกด์ก็ตกใจไปหน่อย ๆ แล้วเพื่อนก็รีบบอกว่า เค้า (หมายถึงเคโกะ) ฟังจีนได้ ไม่ต้องห่วง ไกด์ก็ดูตื่นเต้นแกมโล่งใจค่ะ (เอิ่มมมม เพื่อนถามหน่อยมั้ยว่าได้จริงรึเปล่า T.T)

ลักษณะบ้านก็จะเป็นบ้านแบบโบราณ ซึ่งเจ้าของบ้านเดิมก็มีฐานะอยู่ก็เลยจะมีอาณาบริเวณที่กว้างขวางมากเลยค่ะ และจริง ๆ แล้วนี่คือบ้านของตระกูลหลิน (Lin Family) ที่ตั้งอยู่ในเขต Wufeng ค่ะ

ด้านนอก สิ่งที่สะดุดตาที่สุดก็คือกำแพงสีส้มอิฐเป็นทางยาว ตัดกับกรอบหน้าต่างสีเขียว และผสมกับบานประตูสีดำ ทำให้ดูน่าสนใจมาก ๆ ค่ะ

กำแพงกับกรอบบานหน้าต่างเดี่ยว ๆ มั่ง

หน้าตาไกด์สาวประจำกรุ๊ปในวันนั้นค่ะ พูดเก่งและคล่องทีเดียว

ด้านในสุดก็จะเป็นลานกว้างตามแบบบ้านคนจีนสมัยก่อนค่ะ และชั้นในสุดจึงจะเป็นที่พักของคนในบ้าน

มีเกี้ยวทรงโบราณตั้งโชว์ไว้ด้วย นึกถึงหนังจีนเก่า ๆ ที่เคยดูเลยค่ะ

ชอบความอิฐสีส้มที่ก่อเป็นทางยาวสองฝั่งแบบนี้ค่ะ ^^”

ไกด์สาวก็จะเล่า บรรยายเกี่ยวกับห้องแต่ละห้องให้ฟังอะนะคะว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง โดยหลัก ๆ แล้วก็จะพูดถึงสิ่งที่แอบแฝงอยู่ในแต่ละจุดของบ้านที่เป็นความเชื่อของคนสมัยก่อน ในเชิงสัญลักษณ์ หรือ symbolic อะค่ะ เคโกะก็จำได้ไม่หมดอะนะว่ามีอะไรตรงไหนบ้าง ฟังทันบ้างไม่ทันบ้าง ออกบ้างไม่ออกบ้าง ><~

แต่แต่ละจุดที่ไกด์อธิบาย จะเป็น 1 ในกิจกรรมของที่นี่ด้วยค่ะ ก็ต้องคอยถ่ายรูปให้ตรงกับคำศัพท์แต่ละคำที่เค้าให้มาพร้อมกับบัตรผ่านประตูไว้ แล้วไปเล่นเกมเสี่ยงโชคในตอนท้ายก่อนกลับค่ะ

หน้าตาบัตรคำศัพท์ที่เราต้องถ่ายรูปให้ครบค่ะ

จากนั้นเราก็เดินเข้ามาเรื่อย ๆ จนมาถึงจุดที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ค่ะ เข้าใจว่าเป็นศาลาหรือเวทีการแสดงมหรสพในสมัยก่อนนะคะ

ซึ่งเค้ามีการบูรณะสถานที่ไว้ได้อย่างดีมากอะ ยังดูสมบูรณ์และสวยงามอยู่เลยค่ะ

ความรู้ทางสถาปัตยกรรมของเคโกะก็เข้าใกล้ศูนย์อะนะ ตรงไหนเรียกว่าอะไรก็ไม่ทราบค่าาาาา (บอกเคโกะได้น้าาาา)

ปลายหลังคาค่ะ (เรียกงี้ละกันนะ ฮาาาา) มีความอ่อนช้อยในลวดลายมาก สวยมากค่ะ

หลังคาเองก็งามไม่แพ้กัน

ด้านในมีเกี้ยวเจ้าสาวให้ดูอีก

ห้องโถงกลางที่อยู่ตรงหน้าเวทีการแสดงพอดีค่ะ

ชมสถานที่เสร็จแล้ว ก็ค่อยเอาหางตั๋วไปรับชามาดื่มได้ฟรี 1 แก้วค่ะ เลือกแบบเย็นมา

หลังจากนั้น ก่อนที่จะออกจากสถานที่แห่งนี้ ก็เอารูปที่ถ่ายมาไปให้จุดเล่นเกมดู ถ่ายรูปได้ครบทุกคำศัพท์ที่เค้ากำหนดมาให้ ถึงจะเล่นเกมเสี่ยงโชคสนุก ๆ นี้ได้ค่ะ

เคโกะเองอย่างที่บอกอะค่ะว่าฟังทันบ้าง ไม่ทันบ้าง เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง ก็ไม่สามารถถ่ายรูปได้ครบทุกคำหรอกค่ะ แต่อาศัยเพื่อนเอารูปในมือถือที่เพื่อนถ่ายมาครบให้จนท.ดูและบอกว่า ทุกคนก็รูปเดียวกันหมด เค้าก็เลยให้เล่นเกมได้ค่ะ ^^”

เกมก็จะเป็นหมุนวงล้อนะคะ

หมุนไปได้ช่องไหนก็ได้เหรียญช่องนั้นแหละ ส่วนรางวัลใหญ่ (ที่เป็นช่องเล็ก ๆ) ได้อะไรนั้น ก็ฟังไม่ทันอีกแล้วค่ะ T.T

เคโกะได้เหรียญคำว่า 福 มา เป็นคำที่หมายถึงความโชคดีค่ะ

ก็เป็นอะไรที่เหมาะกับคนที่พอรู้ธรรมเนียมจีน วิถีชีวิตคนจีนมาบ้างอะนะคะ แล้วก็ชอบแนวแอนทีคๆหน่อย ชอบถ่ายรูปหน่อยไรงี้ ก็น่าจะถูกใจค่ะ

การบรรยายนั้น ในเว็บที่เคโกะแปะให้ข้างต้น มีบอกว่าภาษาอังกฤษก็มี แต่ต้องทำการจองล่วงหน้าค่ะ ก็แนะนำว่าถ้าจะมาชมที่นี่ แต่ไม่รู้ภาษาจีน ก็ควรมารอบที่เป็นภาษาอังกฤษค่ะ จะได้อินและเข้าใจมากยิ่งขึ้น จะได้สนุกกับการเดินชมสถานที่เนอะ

ไปพูดคุยกันต่อที่เพจได้นะคะ ^^
https://www.facebook.com/thisiskeigo/

Taiwan Indigenous Peoples Cultural Park

สวัสดีค่าาาา เพื่อน ๆ ที่อยู่ในเมืองผิงตง (Pingtung) นั้นมักจะชอบพูดว่าเมืองนี้เป็นเมืองที่น่าเบื่อ ไม่มีอะไรเลยยยยย ซึ่งเคโกะว่าก็จริงครึ่งหนึ่งนะ (555) เพราะบางสถานที่เที่ยวบางที่อะ ไม่มีรถประจำทางไปค่ะ เลยทำให้รู้สึกว่าไม่มีที่เที่ยวไหนเลย เฉพาะในเมืองนี้นะคะ

แต่ก็นะ ก็ยังไม่วายหาที่ไปจนได้ค่ะ ซึ่งที่นี่นั้น ไปง่าย มีรถประจำทางไป มีรอบเวลารถบัสเป๊ะ ๆ เลย แต่ว่าก็ยังคิดอยู่ว่าควรจะมีความเข้าใจในความเป็นมาของไต้หวันสักนิดหน่อยก็จะดีค่ะ หรือไม่ก็ชอบแนวพิพิธภัณฑ์ หรือชอบแนว ๆ วัฒนธรรมพื้นเมืองไรงี้อยู่เป็นทุนเดิมซักหน่อยล่ะค่ะ น่าจะเข้าถึงและอินได้มากขึ้นนะคะ

Spot name : Taiwan Indigenous Peoples Cultural Park / 台湾原住民族文化园区
Websitehttps://www.tacp.gov.tw/tacpeng/home02_2.aspx?ID=4
Facebookhttps://www.facebook.com/tacp.tw/
Opening hours : 8.30-17.30 (closed on Monday)
Entrance Fee : 150NTD
Access : Taiwan 好行 bus no.508 from Pingtung Station (120NTD for 1-day ticket)
Visited date : 10 March 2018

เคโกะเริ่มต้นการเดินทางที่สถานีรถไฟผิงตงนะคะ เดินไปขึ้นที่ท่ารถบัสเหมือนโพสต์ก่อนหน้าที่ไปเกาะเสี่ยวหลิวฉิวค่ะ ซึ่งท่ารถจะอยู่ทางด้านซ้ายมือของสถานีรถไฟ ติดกับ 7-11 ค่ะ แล้วก็ไปที่บูธขายตั๋วเพื่อซื้อตั๋วแบบ 1-day pass มา (ราคา 120NTD) ซึ่งจริง ๆ จะไม่ซื้อก็ได้ จะแตะบัตร Easycard ก็ได้ค่ะ เพียงแต่ว่าซื้อแบบ 1-day pass ก็จะคุ้มกว่าและถูกกว่าจ่ายเป็นเที่ยว ๆ ไปค่ะ

IMG_4967

จุดที่ขึ้นรถบัสก็จะมีสัญลักษณ์ของรถบัส Taiwan 好行 อยู่ค่ะ

IMG_4968

นั่งรถไปจนสุดสายเลยค่ะ รถบัสก็จะมาจอดที่ด้านหน้าของ Cultural Park แห่งนี้

DSC_6623

แล้วก็เดินไปซื้อตั๋วเข้ากันค่ะ ราคา 150NTD ค่ะ

IMG_4974

พอเข้ามาด้านในแล้ว จะมี tourist information counter อยู่ ก็เดินเข้าไปขอแผนที่หรือขอคำแนะนำเส้นทางก็ได้ค่ะ

ในสถานที่นี้จะมีการแสดงโชว์พื้นเมืองตามจุดต่าง ๆ ด้วย แต่น่าเสียดายที่เคโกะไปผิดจังหวะไปหมดเลย ไม่ได้ดูโชว์อะไรสักอย่างเลยค่ะ T.T

ตอนที่ไป พนง.แนะนำให้ดูนิทรรศการความเป็นมาของชนเผ่าพื้นเมืองต่าง ๆ ของไต้หวันก่อน ซึ่งก็อยู่ติดกับ tourist information นั่นแหละค่ะ

ภายในไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปนะคะ

ตัวอาคารที่จัดแสดงจะมี 2 ชั้น ทางเดินจะเป็นทางเดียว วน ๆ ขึ้นไปชั้นสอง จะออกมาที่ทางออกได้ค่ะ ก็จะเจอสะพานเก๋ ๆ แบบนี้

DSC_6627

ที่ cultural park แห่งนี้มีอาณาบริเวณที่ใหญ่มาก ๆ ค่ะ แบ่งออกเป็นประมาณ 5 โซนด้วยกัน ซึ่งมีรถชัทเทิลบัสบริการฟรีค่ะ

จุดแรกที่ขึ้นรถชัทเทิลบัสก็จะหน้าตาประมาณนี้ค่ะ

DSC_6626

** สิ่งที่ต้องระวังก็คือการขึ้นรถชัทเทิลบัสค่ะ ต้องสังเกตป้ายรอรถด้วยว่าไปไหน อย่างจุดข้างบน จุดทางเข้าที่เคโกะขึ้นจากด้านหน้าเลยเนี่ย ก็จะบอกว่าไปโซนไหน ซึ่งเค้าจะไปส่งให้ 2 โซนค่ะ คือ Naluwan กับ Fuguwan ส่วนโซนตรงกลางคือ Tamaluwan ไม่มีรถไปส่งค่ะ ต้องเดินไปเอง .. ถามว่าไกลมั้ย ก็นิดนึงค่ะ พอสมควรอยู่

ด้วยความโก๊ะ ๆ ของเคโกะเอง ก็จะนั่งรถวนไปวนมาสองสามรอบอยู่ กว่าจะครบค่ะ เพราะงั้นก็เลยจะออกตัวไว้ตรงนี้ว่า ถ้าแปะรูปสลับโซนกันก็ขออภัยด้วยค่ะ ><~

เริ่มที่โซนแรกคือ Naluwan ซึ่งจะอยู่ด้านในลึกเกือบสุดค่ะ โซนนี้มีโชว์ที่น่าสนใจอยู่ด้วย แต่เวลาไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องขอผ่านล่ะค่ะ T.T

การแสดงที่เคโกะว่าก็จะจัดในเธียเตอร์หน้าตาประมาณนี้ค่ะ

DSC_6656

มีป้ายตั้งอยู่ด้านหน้าว่ารอบต่อไปกี่โมง และโชว์ของชนพื้นเมืองกลุ่มใด ใจเคโกะอยากดูของชนเผ่าอาเหม่ยค่ะ แต่เป็นช่วงเช้า เคโกะโผล่ไปตอนบ่ายแล้วอะ และถ้าดูก็จะกลับเย็นเกินไปค่ะ ซึ่งก็นัดเพื่อนไว้ด้วย >< อดเลยยยย~

DSC_6657

ใกล้ ๆ ก็มีโซนอาหารจำหน่ายอยู่ พร้อมที่นั่งรับประทานเรียบร้อยค่ะ ราคาก็แรงนิดนึงตามประสาสถานที่ท่องเที่ยวนะคะ

DSC_6655

นอกจากนี้ก็จะมีอาคารจัดแสดงนิทรรศการด้วยค่ะ แสดงวิถีชีวิตพื้นบ้านของชนเผ่าค่ะ

มีป้ายห้ามถ่ายรูป แต่ก็แอบถ่ายมานิดหน่อย แหะๆ

IMG_4978

เอาจริง ๆ เคโกะว่าหุ่นที่เค้าจัดแสดงแอบหลอนอะ ><

ก็เหมือนจริงไป๊~

IMG_4979

ต่อกันที่โซนถัดไปดีกว่าค่ะ ^^”

โซนถัดไปจะอยู่ด้านในลึกสุดของ Cultural Park แห่งนี้เลย ซึ่งก็คือโซน Fuguwan ค่ะ การจัดแสดงของเค้าจะอยู่ในบ้านทรงโบราณแบบพื้นเมืองอะค่ะ ในบ้านแต่ละหลังก็จะมีการแสดงวิถีชีวิตของคนพื้นเมืองที่แตกต่างกันไป

ป้ายแสดงโซนก็จะเป็นประมาณนี้นะคะ

DSC_6639

บ้านในพื้นที่จัดแสดงก็แอบมีอะไรกุ๊กกิ๊กน่ารัก ๆ อยู่เหมือนกัน

DSC_6642

บ้านบางหลังก็จะมีการแสดงด้วยค่ะ … ซึ่งงงงง ไม่ได้ดูเช่นเดิม มาผิดจังหวะตล๊อดดดด T.T

DSC_6643

กำลังจะเดินออกจากโซนนี้อยู่แล้ว ก็เหลือบไปเห็นป้ายหรืออ่านในแผ่นพับที่ได้มาสักอย่างอะค่ะว่ามีงานหัตถกรรมด้วย ก็เลยโฉบเข้าไปสักหน่อย

มีคุณพี่เจ้าของบ้านนั่งเป่าแก้วทำเป็นเครื่องประดับลวดลายต่าง ๆ ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นวิถีของชนเผ่าอาเหม่ยค่ะ

DSC_6646

แล้วเคโกะก็แพ้ทางเครื่องประดับ accessories ต่างๆ อะ เลยยืน ๆ เลือก ๆ อยู่นาน สุดท้ายก็เลือกมาได้อันนึงค่ะ แล้วคุณพี่ก็อธิบายว่า แต่ละลวดลายที่อยู่บนสร้อย หรือบนเครื่องประดับนั้นจะมีความหมายไม่เหมือนกัน คล้าย ๆ เป็นการอวยพรไรงี้อะค่ะ ลวดลายแต่ละแบบก็จะมีความหมายต่างกัน แล้วเส้นที่เคโกะหยิบมานั้น เป็นการขอให้คลอดบุตรง่าย … เอิ่มมมมม… T^T

ชะงักไปสามวินาที ก่อนจะให้คุณพี่ช่วยแนะนำให้ ซึ่งภาษาจีนของคุณพี่เค้าก็ฟังไม่ค่อยถนัด (น่าจะติดสำเนียงท้องถิ่นมาค่ะ เลยทำให้ฟังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่) แล้วผสมกับความกากในภาษาจีนของตัวเองอีก งานยากเลยแหละ T.T

สุดท้ายก็ได้มา 1 เส้น เป็นสร้อยข้อมือค่ะ สนนราคา 150NTD เค้าอธิบายประมาณว่าเส้นนี้ ลวดลายนี้จะเป็นการขอให้ปลอดภัยค่ะ เข้าทางเคโกะนะ ปีชงค่ะ อะไรพอยึดเหนี่ยวได้ก็จัดไว้ก่อน ^^”

IMG_4980

สายที่เค้าทำไว้ค่อนข้างยาวประมาณนึงเลย แต่เค้าเห็นว่าเคโกะใส่เองและใส่เลย เค้าก็ตัดสายให้สั้นลง ให้ใส่ได้กระชับขึ้นค่ะ น่ารักทีเดียว

จากนั้นก็ออกจากโซนนั้นค่ะ กลับมาที่โซนด้านหน้า แล้วก็รีบเดินไปโซนที่อยู่ตรงกลาง ที่ไม่มีรถชัทเทิลบัสไปส่งค่ะ ก็คือโซน Tamaluwan นั่นเอง

โซนนี้จะไม่มีการจัดแสดงหรือโชว์อะไรเลย เป็นเหมือนนิทรรศการถาวรตั้งไว้ให้ดู ให้ศึกษาเฉย ๆ ค่ะ ไม่ค่อยมีคนมาเดินด้วยซ้ำ (ก็น่าจะเป็นเหตุผลที่ไม่มีรถชัทเทิลบัสไปส่งล่ะนะ)

ส่วนใหญ่ก็จะประมาณแสดงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชนพื้นเมืองค่ะ เช่น บ้านมีกี่แบบ การศึกษา การดำรงชีวิต การเกษตร การละเล่นเป็นยังไงอะไรงี้ค่ะ

ที่ดึงดูดเคโกะให้เดินมาโซนนี้ก็คือสะพานเชือกค่ะ 555 แพ้ทางสะพานเชือกอีกอย่างนึง ><

DSC_6659

เจอของเล่นพื้นเมือง ที่ไร้ผู้คนมาก ๆ 55

DSC_6667

แล้วก็บ้านค่ะ

DSC_6668

ปิดท้ายด้วยอะไรสักสิ่ง แต่สีสันสะดุดตาไง 555

DSC_6673

จากนั้นก็เดินกลับมาโซนด้านหน้าตามเดิม ซึ่งจะมีร้านขายของที่ระลึกด้วยค่ะ แล้วก็มีร้านค้า ของกินเล่นอะไรนิดหน่อยนะ เคโกะเดินดูผ่าน ๆ แล้วก็กลับค่ะ

วิธีกลับก็ตรงข้ามกะวิธีมาค่ะ ก็นั่งรถบัสสายเดิมนั่นแหละ ซึ่งป้ายรถเค้าก็จะอยู่ด้านหน้า ตรงจุดที่เราลงรถบัสตอนขามาค่ะ แล้วก็นั่งไปจนป้ายสุดท้ายก็จะไปถึงที่สถานีรถไฟผิงตงค่ะ

ก่อนจบโพสต์แบบดื้อ ๆ ก็ฝากเพจเลยแล้วกัน 555
https://www.facebook.com/thisiskeigo/