[Bulon Island] Snorkeling 1-day trip

สวัสดีค่าาา มาเล่าเรื่องดำน้ำต่อละนะคะ

และก็เหมือนเดิมน้า อย่างที่บอกไว้แล้วในโพสต์ก่อน ๆ ค่ะว่าทริปนี้เคโกะใช้บริการจาก TYC ชุมชนเกาะบูโหลนหมดเลย ซึ่งว่ากันตามตรง หลังจากทริปนี้แล้วเคโกะมีทริปอีก 2-3 ทริป ค่อนข้างติด ๆ กัน เลยทำให้ลืมทริปนี้ไปเลยอะ คือจำได้ไงว่าไปเที่ยวนะ แต่ไปไหนบ้าง คือไม่มีแพลนใด ๆ เป็นทริปที่ไม่มีการวางแผนอะไรเลยค่ะ ชิลล์มากกก 5555

เอาล่ะ เรื่องทริปดำน้ำนะคะ ก็จะไปดำกันวันที่ 2 ซึ่งตอนเย็นของวันแรกก็จะมีคนเรือโทรมาคอนเฟิร์มกับเราก่อนเป็นปกติแหละเนอะ และด้วยความที่เคโกะไปคนเดียวอะ และก็เป็นช่วงที่ไม่มีนักท่องเที่ยวค่ะ เลยจอยกรุ๊ปไม่ได้ ก็เลยเหมาลำไปเลยจ้าาาาา สนนราคาอยู่ที่ 1500 บาทนะคะ

พี่คนเรือแจ้งเคโกะว่าจะมาเลทนิดหน่อย เพราะขอไปเลือกตั้งก่อน (555 จำได้ไหมคะ โพสต์ที่แล้ว เคโกะพูดถึงแล้วอะว่าไปช่วงที่เค้าเลือกตั้งกันพอดีค่ะ และคนต่างจังหวัดนี่เค้ารักษาสิทธิ์เค้ามากเลยนะ) แต่ก็ประจวบเหมาะที่วันที่จะไปดำน้ำนั้น อากาศไม่ค่อยดีค่ะ ครื้มฟ้าครื้มฝนแต่เช้า ไปสายอีกนิด ก็โอเคค่ะ ฟ้าน่าจะแจ่มใสขึ้น ^^”

แล้วก็เริ่มออกไปดำน้ำค่ะ เหมือนแขกวีไอพีอะ คนเดียวเหมาลำาาาา 5555

การดำน้ำนี้เราจะได้ดำคนละที่กับเวลาไปเกาะหลีเป๊ะนะคะ เพราะงั้นจะไม่ซ้ำกันน้าาา

โดยทั่ว ๆ ไปแล้วจุดที่ดำน้ำก็จะมี เกาะบุโหลนเล, เกาะบุโหลนดอน, เกาะบุโหลนไม้ไผ่ และหินขาวค่ะ

แต่หมู่เกาะบุโหลนนั้นจะมีเพิ่มอีก 2 เกาะคือ เกาะบุโหลนรังและเกาะบุโหลนไก่ ซึ่งทั้งคู่เป็นเกาะที่มีแต่หิน ไม่มีหาดทรายและไม่มีแนวปะการังค่ะ

นี่คือหินขาวค่ะ หินขาวไม่ใช่เกาะนะคะ เป็นแท่งหินที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาค่ะ มีลักษณะสีขาว ๆ หน่อย ก็เลยเรียกว่าหินขาว ตรงนี้เค้าว่าเป็นจุดดำน้ำที่สวยมากที่นึง มีปะการังเจ็ดสี หรือแนวปะการังอ่อนหลากสีให้ชมค่ะ แต่ข้อเสียก็คือตรงนี้จะมีคลื่นลมค่อนข้างแรง — โดยส่วนตัวคิดว่าคล้าย ๆ ร่องน้ำจาบัง ของเกาะหลีเป๊ะค่ะ เด่นที่ปะการังอ่อนหลากสี และคลื่นลมแรงเช่นกัน

แล้วช่วงที่เคโกะไป เป็นช่วงที่ฝนตกด้วย อากาศไม่แจ่มใสด้วย คลื่นลมแรงมาก น้ำขุ่นค่ะ เลยทำให้มองไม่ค่อยชัดเลย แต่ถ้าสามารถดำลงไปใต้น้ำได้คือดีค่ะ แต่เคโกะสลัดเสื้อชูชีพไม่ได้ไง ว่ายน้ำไม่แข็งค่ะ ><~ อุแงงงง เลยได้แต่มองแบบมัว ๆ ไปแทน ฮรึกกกก

ไปต่อที่จุดอื่นค่ะ เคโกะบรรยายได้ไม่ละเอียดนะคะว่ารูปไหนคือเกาะไหน ถ่าย ๆ ไปก่อนอะ เกาะไหนลืมแล้ว 55555

มีอยู่จุดนึงคือน้ำใสพอสมควรค่ะ หลังจากผิดหวังจากหินขาวอะ เคโกะก็เลยเอามือถือจุ่มน้ำลงไปถ่ายรูปใต้น้ำมา มีน้องนีโม่ด้วย เห็นกันมั้ยคะ น้องตัวเล็ก ๆ นิดเดียวเองน้าาา ><

(มือถือกันน้ำได้ค่ะ — แต่ไม่ควรหาทำอะ เอาจริง 55555)

กล้องมือถือได้แค่นี้ล่ะค่ะ น้ำขุ่นประมาณนึงด้วย (แต่นี่คือใสสุดแล้ว 5555) รูปก็เลยหมอง ๆ ไปหน่อยนะคะ ><“

แล้วจากนั้นคนเรือก็พาไปที่คล้าย ๆ เกาะไข่ของหลีเป๊ะ คือมีลักษณะเป็นช่องทะลุหินตรงกลางเป็นวง ๆ แบบนี้อะค่ะ

ตอนแรกคือจะลงไปเฉย ๆ เพราะตรงนี้ไม่มีอะไรให้ดำน้ำดูเลย แค่มาถ่ายรูปเฉย ๆ เลยค่ะ ซึ่งจริง ๆ แล้วคือได้แค่ถ่ายรูปจากบนเรือ เพราะน้ำลง เรือเข้าจอดไม่ได้ค่ะ แต่พอคนเรือเห็นเคโกะเอามือถือจุ่มน้ำไปถ่ายรูปใต้น้ำมา ก็เลยชวนมานี่ แล้วให้เอามือถือติดมาด้วย

นึกออกไหมคะ คือเรือเข้ามาจอดใกล้ ๆ ไม่ได้อะ ต้องห่างออกไปแล้วว่ายน้ำเข้าฝั่งมาอะค่ะ ><~

เคโกะก็บ้าจี้นะ คือไหน ๆ น้องมือถือก็เปียกไปแล้วง่ะ ก็เปียกต่ออีกนิดก็ไม่เป็นไรมั้งงง … ก็เลยถือติดตัวว่ายน้ำมาขึ้นฝั่งเกาะนี้ด้วยค่ะ

ชายหาดเค้าเป็นหิน ๆ หมดเลย น่าจะเป็น 1 ใน 2 เกาะที่เคโกะบอกข้างต้นอะค่ะว่าไม่มีจุดดำน้ำ และไม่มีชายหาด

หันไปอีกทางนึง ก็มีช่องทะลุหินเหมือนกัน แต่ไม่กลมเท่ารูปบนนั่น และคนเรือก็ชี้รากไม้ให้ดูค่ะ เค้าบอกว่าลายรากไม้สวยดี ก็เลยถ่าย ๆ มาให้ดูกันด้วย

กลับมาที่ช่องทะลุหินเหมือนเกาะไข่หรือเกาะทะลุอีกรอบค่ะ ตรงนี้น่าจะเป็นด้านหลังที่เดินลอดช่องไปแล้ว และหันย้อนกลับมานะคะ

เรือลำที่เห็น ก็เรือที่พาเคโกะมานั่นแหละ จอดไกลมั้ย 55555

อีกรูปค่ะ เป็นด้านหน้าบ้าง

จริง ๆ มีรูปอีกเยอะ คือไหน ๆ ก็เอามือถือจุ่มน้ำว่ายน้ำมาแล้วไง ถ่ายให้คุ้มมมม (ถ่ายยังไงให้คุ้มไม่มีทางคุ้มเลย 5555)

แต่สวยจริงค่ะ คือถ้ามาถูกจังหวะ น้ำขึ้นแล้วเรือเทียบฝั่งได้คือดี จะได้ไม่ต้องว่ายน้ำขึ้นเกาะเองนะ แล้วก็ไม่ต้องหาเรื่องเอามือถือหรือกล้องไปจุ่มน้ำด้วยค่ะ เว้นแต่มีอุปกรณ์ป้องกัน — ซึ่งเคโกะไม่มีน้าาา เอามือถือจุ่มลงน้ำดื้อ ๆ เลยค่ะ ><~

//ได้ข่าวว่าเธอเพิ่งถอยมือถือมาใหม่ด้วย ใจถึงมาก 55555

อยู่ตรงนี้อยู่พักใหญ่ ๆ แล้วก็ไปต่อที่เกาะบุโหลนไม้ไผ่ เพื่อพักทานข้าวเที่ยง ซึ่งเกาะนี้ก็เป็นที่ตั้งที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติด้วยค่ะ มีจุดกางเต็นท์ มีห้องน้ำด้วยนะ

ข้าวเที่ยงของเคโกะ คนเรือเตรียมให้ใส่กล่องมาอย่างดี ซึ่งเคโกะมองว่าดีค่ะ จะได้ไม่ทิ้งขว้างเป็นขยะให้บนเกาะอะนะคะ

และความที่ไดเอ็ตอยู่ เลยรีเควสท์ของเมนูปลาและไข่ต้มเพิ่มโปรตีน เลยได้แบบนี้มา ^^”

ถามว่าอร่อยมั้ย คือดีอยู่นะคะ

ที่ดีสุดคือน้ำดื่ม //ตามประสานุช 5555

ทานอิ่มแล้วก็ไปเดินเล่นบนเกาะค่ะ

มาเจอป้ายหน่วยพิทักษ์นี่เข้า ก็เลยถึงบางอ้อว่า ตรงนี้คืออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรานั่นเอง เคยได้ยินแต่ชื่อค่ะ ชื่อเก๋ดี แอบติดหูมาหน่อย ๆ แหะ ๆ

ปกติแล้วจะมีเจ้าหน้าที่อยู่ แต่อย่างที่บอกค่ะ เป็นช่วงเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ไม่อยู่บนเกาะเลย อยู่แต่นุ้งแมวววว ^^”

น้องแมวน่ารักและเป็นมิตรมากค่ะ เคโกะเข้าไปทักทายด้วย น้องก็เล่นด้วยนะ เหมือนเหงา เหมือนไม่เจอคนมานานอะ 5555 แล้วก็วิ่งวน วิ่งตามต้อย ๆ ตามแจเลยค่ะ น่าร้ากกกก 5555

ตรงนี้มีจุดชมวิวให้เดินนิดหน่อยด้วยค่ะ

วิวด้านบนก็จะประมาณนี้ มองมุมสูงแล้วเห็นแนวน้ำลึกน้ำตื้นชัดเจน ซึ่งถ้าดูใกล้ ๆ จะมีทุ่นลอยน้ำกั้นเขตไว้อยู่ค่ะ คือดำน้ำได้เฉพาะภายในทุ่นเท่านั้นค่ะ

เดินชมวิวเสร็จกลับลงมา น้องแมวก็มารออยู่ค่ะ ก็ไม่ยอมเดินขึ้นไปด้วยกันนี่นะ 5555

เดินเลียบเล่นชายหาด หาดทรายขาวนุ่มละเอียดมากค่ะ เหมือนที่เกาะบูโหลนเล ที่รีสอร์ทเลย

แล้วก็ดำน้ำเล่นต่ออีกพักใหญ่ ก่อนที่จะได้เวลากลับ

ความที่มาคนเดียวเนาะ มันก็จะมาไวเคลมไวค่ะ 5555 คนเรือเลยแถมให้อีกนิด ด้วยการพาไปดูถ้ำค้างคาว ถ้าเข้าใจไม่ผิด น่าจะอยู่ท้ายเกาะบุโหลนเล เกาะที่ตั้งรีสอร์ทเนี่ยแหละ

แล้วก็จอดเรือให้ใกล้ ๆ ค่ะ

คือใกล้ได้แค่นี้เอง ที่เหลือคือ จงว่ายน้ำเข้าไปดูซะ 5555

คนเรือปล่อยให้เคโกะว่ายไปดูคนเดียวด้วยนะ กรี๊ดดดด เด็กสาว (?) อย่างชั้น ก็กลัวค้างคาวเป็นเหมือนกันนะ ><~

ก็ข้างในถ้ำ ลักษณะก็จะเป็นถ้ำแคบ ๆ ที่เพดานสูง ๆ หน่อย ส่วนค้างคาวเองก็จะเกาะอยู่บนเพดานตามสไตล์เค้า ตัวจะเล็ก ๆ ค่ะ น่าจะเป็นค้างคาวแม่ไก่มั้ยนะ ส่งเสียงกรีดร้องอยู่ให้พอได้ยินค่ะ มีค้างคาวไม่ได้เยอะมาก แต่อาจจะเพราะไม่ได้เข้าไปลึกด้านในด้วยค่ะ

ทั้งสองถ้ำก็จะคล้าย ๆ กันเลยนะคะ

แล้วเคโกะก็เล่นน้ำอยู่ตรงนี้แหละ อีกพักนึง ก่อนที่จะกลับที่พัก เป็นอันจบทริปดำน้ำแล้วค่ะ

โดยรวมกับการดำน้ำสน็อคเกิ้ลบริเวณหมู่เกาะบุโหลนนะคะ เคโกะว่าดี จะดียิ่งขึ้นถ้าดำน้ำตัวเปล่าใส่ฟินได้เป็น เพราะถ้าเจอช่วงที่น้ำขุ่นแล้ว สน็อคเกิ้ลแบบใส่เสื้อชูชีพคือแย่เลยค่ะ วิสัยทัศน์แย่มากเลย มองไม่ค่อยชัดค่ะ แต่ความเป็นธรรมชาตินั้น เคโกะให้คะแนนที่นี่เยอะเลยนะ ดูค่อนข้างจะอุดมสมบูรณ์เลยล่ะค่ะ

ดำน้ำไม่เป็นมาได้มั้ย เคโกะว่าได้นะ แอบเห็นห่วงยางและเชือกอยู่ในเรือ แบบเวลาไปดำน้ำที่อื่น ๆ อะค่ะ เค้ามักจะให้เกาะห่วงยาง แล้วก็ลาก ๆ ไปดูอะนะ แต่สำหรับเคโกะกับที่นี่แล้ว คนเรือถามแล้วค่ะว่าว่ายน้ำได้ใช่มั้ย ก็เลยไม่ได้ใช้นะคะ ปล่อยให้ว่ายเอง มีพาไปดูตรงนั้นตรงนี้บ้าง แต่ไม่ได้ใช้ห่วงยางลากไปค่ะ

และที่สำคัญ ควรหาเพื่อนมากันหลาย ๆ คนนะคะ จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าเหมาเรือออกมาดำน้ำคนเดียว อ่วมค่ะ 55555

จบทริปเกาะบูโหลนเนอะ สงสัยตรงไหนเม้นท์สอบถามได้หรือไม่ก็อินบ็อกซ์ไปที่เพจนะค้าาาา
https://www.facebook.com/thisiskeigo

[Bulon Island] Bulon Island + Namkee Cafe

สวัสดีค่ะ ตอนแรกว่าจะบีบอัดมาโพสต์เดียว แต่รูปเยอะจัด เลยต้องแตกเป็น 2 โพสต์เลย แหะๆ

โพสต์นี้จะเล่าตั้งแต่การเดินทางไปเกาะบูโหลนเลยนะคะ แล้วก็พาไปเดินเล่นรอบ ๆ เกาะ ก่อนปิดท้ายที่ร้านคาเฟ่ยอดฮิตที่หาดใหญ่นะคะ ส่วนโพสต์หน้า จะเป็นทริปดำน้ำที่ไปดำน้ำ 1-day trip มาค่ะ

เคโกะเข้าใจว่าเกาะบูโหลนนี้น่าจะยังไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ค่ะ เลยอยากเล่าให้ละเอียดนิดนึงน้าาา

การเดินทางจากกทม. เหมือนไปหลีเป๊ะเลยค่ะ บินลงหาดใหญ่ แล้วต่อรถไปท่าเรือปากบารา ท่าเรือเดียวกับที่ไปหลีเป๊ะเลยนะคะ ส่วนเรือที่ข้ามไปเกาะบูโหลนนั้น จะมีแค่วันละรอบเท่านั้น อัพเดท ณ วันที่เคโกะไปน้าาา คือ ขาไปประมาณบ่ายโมงค่ะ และขากลับประมาณ 9 โมงเช้า

เพราะฉะนั้น ไฟลท์บินที่เหมาะก็คือ กทม.-หาดใหญ่ ไฟลท์เช้าสุดค่ะ ส่วนหาดใหญ่ – กทม. ก็กะเอาบ่ายแก่ ๆ พอ ซักบ่าย 4 หรือ 5 โมงไรงี้อะนะคะ ไม่ต้องเป็นไฟลท์ดึกสุดแบบหลีเป๊ะค่ะ

ด้วยความที่ข้อมูลของเกาะนี้คือน้อยมากกกค่ะ เคโกะเลยจองไฟลท์เช้าสุดและกลับค่ำ ๆ เลย ก็เลยทำให้มีเวลาเหลือในวันขากลับค่ะ เลยได้เอ้อระเหยที่คาเฟ่ในหาดใหญ่ เลยได้แถมท้ายมาในโพสต์นี้แหละค่ะ

เอาล่ะ เคลียร์เนาะ ^^

เคโกะใช้บริการของ TYC ชุมชนเกาะบูโหลนนะคะ ให้เค้าคิดราคาเหมาเป็นแพกเกจมาเลยตั้งแต่ลงสนามบินค่ะ ก็เลยได้นั่งรถตู้สวย ๆ จากสนามบินไปท่าเรือปากบารา แล้วเคโกะก็รีบเดินไปหาเรือก่อน เหมือนไปเสนอหน้าคอนเฟิร์มอะค่ะ แล้วก็ค่อยกลับมาหาอะไรฆ่าเวลาที่ท่าเรือ ก่อนที่เรือจะออก ซึ่งมีเวลาเยอะพอควรเลยค่ะ

แวะทานข้าวหมกไก่ร้านตรงท่าเรือนั้นแหละ มีอยู่ร้านเดียวค่ะ ขายทุกสิ่ง ทั้งตามสั่ง ข้าวหมก ก๋วยเตี๋ยวด้วยมั้ง

รสชาติเฉย ๆ ค่ะ ธรรมดามาก ๆ

สั่งชาชักมาด้วย เพราะชอบชาชักใต้มาก หาทานที่กทม.ยากเย็นเหลือเกิน มาใต้ทั้งทีก็เลยไม่พลาดค่ะ

แต่เอาเข้าจริง คือรสชาติธรรมดามากอะ ผิดหวังอย่างแรง T.T

จากนั้นก็จะนั่งแช่อยู่จนใกล้เวลาเรือออกก็ไม่ใช่ที่ เลยย้ายไปแช่อีกร้านค่ะ แหะ ๆ

ร้าน Chevalley Cafe ค่ะ อยู่ตรงท่าเรือนั่นแหละ เป็นคาเฟ่เดียวที่ท่าเรือเลยค่ะ ร้านอื่นจะเป็นแบบคล้าย ๆ เคาน์เตอร์ขายกาแฟอะ ดูไม่คาเฟ่จริงจังเท่าไหร่ค่ะ

สั่งน้ำมะม่วงปั่นมา อร่อยดีค่ะ

ร้านแต่งสไตล์โทนขาว ๆ ดูมินิมอลดีค่ะ โล่ง ๆ ดูสบาย ๆ ดี มีเมนูอาหารคาวด้วยนะคะ –คือถ้ารู้ ก็แวะร้านนี้ร้านเดียวจบแล้วอะ น่าจะอร่อยกว่าค่ะ T.T

จากนั้นก็เดินไปลงเรือค่ะ ท่าเรือที่จะไปเกาะหลีเป๊ะจะเป็นท่าเรือที่เค้าทำใหม่ เป็นอาคารใหญ่เวอร์วังมาก มีของฝากขายสองข้างทางก่อนถึงท่าเรือ ซึ่งไม่ใช่ที่เคโกะจะไปค่ะ 5555

เดินเลยจากท่าลงเรือไปหลีเป๊ะนิดนึงนะคะ อยู่สุดทาง ทางขวามือเลยค่ะ จะมีป้ายบอกอยู่แบบนี้

ก็เป็นท่าเทียบเรือแหละ เทียบแบบง่าย ๆ เลยค่ะ กระโดดลงเรือเอาเองน้าา ^^”

พอมองย้อนไปก็จะเห็นท่าเทียบเรือไปเกาะหลีเป๊ะนะคะ อย่างที่บอกเค้าจะดูอลังนิดนึงนะ

ของหลีเป๊ะเค้าเป็นสปีดโบ๊ทเนอะ แต่ของเคโกะเป็นเรือหางยาวค่ะ แถ่ดๆๆๆๆๆ ไปนะ 5555

นั่งเรือไปเพลิน ๆ เคโกะเป็นนักท่องเที่ยวคนเดียวในเรือแหละ ที่เหลือคือชาวบ้านบนเกาะค่ะที่เค้าขึ้นฝั่งไปเลือกตั้ง ไปเจอช่วงเลือกตั้งพอดี ^^”

ก็มีคุณป้าที่นั่งข้าง ๆ ชวนคุยมาเรื่อย ๆ แล้วเคโกะก็มาเจออีกตอนที่ไปเดินเล่น คุณป้ามาดูแลรีสอร์ทหลังจากที่รกร้างไว้นานค่ะ แล้วถัดมาอีกวัน ก็เจอกันอีก คุณป้ากลับฝั่งแล้ว — 555 คือเกาะเล็กแหละ เดินไปเดินมาก็เจอกันหมดค่ะ

นั่งเรือมาเรื่อย ๆ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะราว ๆ 45 นาทีค่ะ ก็จะมาถึงเกาะบูโหลนแล้ว เท่าที่รู้ก็จะขึ้นเกาะที่หาดทรายขาวนี้หาดเดียวค่ะ

ลงเรือแล้วก็เจอคุณคนดูแลรีสอร์ทมารอรับค่ะ เคโกะก็เลยเข้าห้องเก็บของก่อน แล้วค่อยออกไปเดินเล่นรอบเกาะค่ะ

แปะแผนที่รอบเกาะนิดนึงนะ

แล้วก็เริ่มเดินเล่นจากหาดหน้าห้องพักไปค่ะ เจอใครมาเสียบลูกตะกร้อไว้แถวนี้ ที่เก็บลูกตะกร้อเหรอคะ 55555

เดิน ๆ ไปอีกนิด เจอปูลมวิ่งวุ่นไปหมด เดินบนหาดแบบนี้ ไม่ได้เจอปูลมนานแล้วนะคะ เลยทำให้รู้สึกว่าทะเลที่นี่ยังมีความธรรมชาติอยู่มากเลยล่ะค่ะ

เคโกะเลือกเดินลัดเลาะไปทางโรงเรียนนะคะ เป็นโรงเรียนเดียวที่อยู่บนเกาะแหละ อาคารสีชมพูสดใสทีเดียวค่ะ

แล้วก็เดินไปตามทางซีเมนต์ค่ะ เค้าว่าเป็นถนนเส้นเดียวบนเกาะ เดินตามไปเรื่อย ๆ ไม่มีหลงค่ะ มีแต่หาไม่เจอ แบบเคโกะ 5555

คือถนนก็เส้นเดียวไง แต่ทำไมมม ยังโก๊ะๆ เดินหลงไปมา หาไม่เจอ ไปหาดนู่นนี่ไม่เจอไรงี้ 5555 –แต่สุดท้ายก็เดินหาเจอนะ 555

เดินไปเรื่อย ๆ ก็จะไปโผล่ที่อ่าวพังกาน้อยค่ะ

น่าจะเป็นช่วงน้ำลดค่ะ เคโกะก็เดินปีนป่ายไปเรื่อย 5555

แล้วก็เดินกลับไปทางเดิม แต่เดินไปอีกแยกนึง (ดูตามแผนที่เกาะอะค่ะ) ก็จะไปโผล่ที่อ่าวพังกาใหญ่

ตรงอ่าวนี้แหละที่เคโกะเจอกับคุณป้าที่คุยกันมาในเรือค่ะ รีสอร์ทของคุณป้าอยู่อ่าวนี้

เดินดูทะเล ดูวิว ถ่ายรูปไปมาจนพอใจ ก็เลยเดินกลับ แค่เดินกลับก็ไม่วายเดินหลง ๆ อีก จนน้องคนนึงแถว ๆ นั้นเค้าทำหน้าคำถามใส่เคโกะ จนเคโกะต้องถามทางเค้าเลยรีบชี้มือบอกทางให้เลยค่ะ 55555

แต่ขากลับ เคโกะเดินวนไปทางแหลมสนนะคะ วนรอบใหญ่นี้ดนึง แต่หาดทรายขาว วิวสวยมากกกกค่ะ

เคโกะมานึกได้ตอนเดินขากลับมา เลยจับระยะทางกับเวลาดูแต่ขากลับ แต่ก็เดินแบบเอื่อย ๆ นะคะ เดินชิลล์ ๆ เดินไป หยุดถ่ายรูปไรงี้ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 2 กิโลค่ะ กับ 40 นาที 555555 เดินเอื่อย เดินชิลล์สุดดด

ก็เป็นเกาะเล็ก ๆ แหละ เดินรอบเกาะได้ค่ะ แต่ควรทายากันยุง กันแมลงไปด้วยน้าาา เคโกะไม่ได้เอาไปค่ะ แล้วก็เป็นคนความรู้สึกช้า มารู้ตัวอีกทีคือมีน้องนักเรียนที่เคโกะเดินผ่าน เค้าชี้บอกให้เคโกะรู้ค่ะว่ายุงกัดขาอยู่ พอก้มลงไปดูเท่านั้นแหละ โหยยยยย เต็มขาเลยค่าาาาา 55555

มื้อเย็นวันนั้น เคโกะฝากท้องไว้ที่รีสอร์ทค่ะ เป็นกะเพราไก่ไข่เจียว น่าจะ 150 บาทค่ะ

รสชาติก็กลาง ๆ นะคะ แบบทั่ว ๆ ไปแต่ดีที่ผัดกะเพราก็คือผัดกะเพราค่ะ ไม่ได้ใส่ถั่วฝักยาวและผักอื่น ๆ เพิ่มมาให้ 5555

ตัดฉับไปที่วันขากลับเลยนะคะ (เพราะโพสต์หน้า เคโกะจะเล่าเรื่องไปดำน้ำไงงง) เรือขากลับจะออกตอน 9 โมง ที่หาดหน้าที่พัก เหมือนขามาค่ะ

วันกลับล่ะอากาศแจ่มใสเชียวว เกลียดดด

เรือมารออยู่แล้วค่ะ รอบนี้เป็นผู้โดยสารกิตติมศักดิ์นิดนึง มีอยู่คนเดียวเหมือนเหมาลำเลยค่ะ 5555

ลาแล้วค่าาาเกาะบูโหลน

รูปบนนี่เห็นเลยเนอะว่าน้ำใสกิ๊งมากจริง ๆ ค่ะ

พอมาถึงฝั่งท่าเรือปากบารา ก็เดินกลับไปที่ออฟฟิศรถตู้ที่เค้ามาส่งในวันที่มาถึงอะนะคะ ซึ่งเคโกะได้รอบสายแหละ น่าจะ 11 โมงค่ะ แต่เคโกะมีเวลาเหลือเฟือ เลยไม่ค่อยซีเรียสอะไร นั่งเล่นมือถือรอไปเพลิน ๆ ก็ได้เวลากลับ

เพราะเคโกะจองไฟลท์ไว้ค่ำ เลยมีเวลาเยอะ เลยขอให้รถตู้ไปส่งที่ตลาดกิมหยงค่ะ (คือนึกได้แค่นี้จริง ๆ สำหรับตัวเมืองหาดใหญ่ 5555) เลยแวะช้อปนิดหน่อย ก่อนพุ่งไปคาเฟ่ ด้วยการเดินค่ะ 55555 –จริง ๆ เค้ามีรถสองแถว มีมอไซต์นะ แต่ทำไมไม่นั่งก็ไม่รู้ ฮาาา

ซึ่งเคโกะดีลไว้ก่อนล่วงหน้าแล้วนะคะว่าจะลงที่ตลาดกิมหยง ไม่ใช่ว่าเพิ่งแจ้งปุบปับน้าาา

คาเฟ่ที่ว่านี้อยู่ใกล้ ๆ กับขนส่ง (ขนส่งหลังโรบินสันนะคะ เค้ามี 2 ที่น้าาา) ค่ะ คือดีเลยแหละ ไปสนามบินสะดวกมาก ๆ ค่ะ

Restaurant name : Namkee cafe / น่ำกี่คาเฟ่
Google maps : https://goo.gl/maps/KWjix8aFCaqufdt39
Parking lots : No (จอดริมทางได้)
Location : อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
Opening hours : 8.30 – 18.00, closed Thursday
Visited date : 21 Dec 2020
Website : https://www.facebook.com/Namkee-cafe-265873534126744/

ตั้งใจจะไปนั่งแช่ชิมชา แต่เจอเค้กน่ารัก ก็เลยสั่งมาทานซะงั้น 5555

น่าจะเป็นเบอรี่ลิ้นจี่มูสเค้ก มั้งคะ คู่กับชาโฮจิฉะหวานน้อย

อร่อยทั้งสองอย่างเลยนะคะ

และร้านก็คนแน่นมาก ๆ ค่ะ ยังดีที่เหลือโต๊ะเล็ก ๆ ให้เคโกะนั่งด้วย ><~ ไปนั่งในร้านแล้วได้ฟีลเหมือนอยู่กทม.ค่ะ มีคนมานั่งคุยงาน ติวกันเกือบทุกโต๊ะ 55555

ไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศร้านมา เพราะคนเยอะอย่างว่าน่ะค่ะ แต่เค้าตกแต่งสไตล์จีนโมเดิร์นหน่อย ทานกันอิ่มแล้วก็ถ่ายรูปเล่นกันเยอะเลยค่ะ

เสร็จแล้ว เคโกะก็เดินไปที่ขนส่งที่อยู่ใกล้ ๆ กันนี่แหละค่ะ แล้วนั่งรถบัสยิงยาวเข้าสนามบิน จะเร็วกว่านั่งรถสองแถวนะคะ แต่ก็แพงกว่าแหละ 5555

เป็นอันว่าทริปจบลงแบบนี้ค่ะ ถือว่าประทับใจดี เดี๋ยวมาต่ออีกโพสต์นึง เรื่องดำน้ำวันที่ 2 นะคะ ^^
https://www.facebook.com/thisiskeigo

[Bulon Island] Pansand Resort

สวัสดีค่ะ แอบลัดคิวเอาทริปนี้มาเล่าสู่กันฟังก่อน เพราะรับปากเค้าไว้ว่าจะถ่ายรูปมาเยอะ ๆ ก็เลยเอามาแปะลงรีวิวด้วย ส่วนทริปก่อน ๆ หน้าทริปนี้ ก็รอไปก่อนนะคะ แหะๆ

ทริปเกาะบูโหลนจะเป็นยังไง ขอมาเริ่มที่ที่พักก่อนละกันนะคะ

Resort name : Pansand Resort
City : Bulon Leh Island, Satun, Thailand
Booking via : TYC https://web.facebook.com/tycbulon
Room type : Libong Beachfront
Room rate : 2,000BHT/night
Check-in date : 19-21 December 2020, 2 nights
Facebook page : https://web.facebook.com/Pansand-Resort-เกาะบูโหลน-เล-2257054067855669/
Website : http://www.pansand-resort.com/index.php

เคโกะใช้บริการเหมา ๆ แพกเกจกับ TYC นะคะ เค้าเป็นกลุ่มคนที่ช่วยเหลือชุมชนเกาะบูโหลน สนับสนุนเงินการศึกษาให้เด็ก ๆ รร.บ้านเกาะบูโหลนค่ะ ซึ่งเค้าก็แนะนำห้องพักที่เค้าว่าวิวดีที่สุดมาให้แหละ มาดูกันค่ะ

ตอนที่เคโกะไปพัก มีแขกต่างชาติอยู่อีกห้องนึง แล้วเค้าก็อยู่อีกแค่คืนเดียวเอง แล้วก็เคโกะค่ะ รีสอร์ทก็เลยดูเงียบ ๆ เหงา ๆ เอาซะมาก ๆ เลย

ลักษณะห้องพักก็จะเป็นบ้านหลัง ๆ เลยค่ะ ห่าง ๆ กันพอสมควร ค่อนข้างเป็นส่วนตัวดีค่ะ

เปิดประตูห้องเข้ามาก็เป็นเตียงที่เหมือนจะเป็นเตียงเดี่ยว 2 เตียงชิดกันให้เป็น double bed นะคะ

แม้จะเป็นรีสอร์ทบนเกาะ แต่ก็มีผ้าเช็ดตัวให้ 2 ไซส์เลยค่ะ วางไว้ให้ที่ปลายเตียง

ถัดมาก็จะเป็นประตูไปห้องน้ำ และราวตากผ้า ซึ่งเคโกะแอบยกราวตากผ้าออกไปนอกห้องเพื่อตากชุดที่ไปดำน้ำเปียก ๆ กลับมาค่ะ แล้วก็ลมแรงจนปลิวตกไปเหอะ 5555

ถัดมาก็จะเป็นโต๊ะเก้าอี้นั่งเล่นในห้อง ก็เป็นที่ฝังตัวของเคโกะเวลาที่ชาร์จแบตมือถือไปเล่นมือถือไปด้วยอะนะคะ 5555

กระเถิบมาอีกนิด ก็จะเป็นเคาน์เตอร์เปิดโล่งแบบนี้ ทำเป็นราวแขวนเสื้อผ้า มีเซฟใบเล็กให้ใช้ มีวางขวดน้ำ ชากาแฟไว้ให้ตรงนี้ด้วยค่ะ

ซูมให้ดูใกล้ ๆ นิดนึง เค้าก็จะมีไว้ให้ประมาณนี้ คือสบู่ แชมพูที่ต้องใช้ในห้องน้ำก็วางรวม ๆ ไว้ตรงนี้นะ ในห้องน้ำไม่มีวางไว้ให้ค่ะ

ส่วนในห้องน้ำก็จะหน้าตาประมาณนี้ค่ะ เป็นแบบง่าย ๆ ไม่มีแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นด้วยนะ

สำหรับตัวเคโกะเอง รู้สึกน้ำจากก๊อกน้ำที่อ่างล้างหน้านั้นเบาไปค่ะ ไหลช้าด้วย แต่จุดอื่น ๆ คือน้ำไหลแรงปกติเลย

ที่แขวนเสื้อผ้าในห้องน้ำก็น้อย เคโกะอาศัยสุม ๆ เอาตรงเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าที่ไม่เปียกค่ะ 5555

ส่วนหน้าห้องก็จะมีโต๊ะเก้าอี้นั่งเล่นชมวิวด้วย ถามว่านั่งมั้ย ก็ไม่อะ 55555 ไปนั่งเล่นจุดอื่น ได้ฟีลทะเลกว่าค่ะ

มาเดินเล่นภายในรีสอร์ทบ้าง ทางเดินก็จะประมาณนี้ ห้องพักเป็นบ้านหลัง ๆ อย่างที่บอกค่ะ

ส่วนล็อบบี้ของรีสอร์ท ที่เคโกะก็ไม่ได้เดินมาเช็คอิน-เช็คเอาท์ตรงนี้ 5555

คือลงเรือมา คุณคนดูแลเค้าก็เดินมาหา เอากุญแจห้องมาให้ พอจะคืน เคโกะก็ไปคืนที่ห้องอาหาร เพราะเค้าจะอยู่ตรงนั้นอะค่ะ 555

เดินเข้าไปอีกนิด ก็จะเป็นพื้นที่เขียว ๆ ดูร่มรื่นดีค่ะ ห้องพักโซนนี้น่าจะถูกกว่าน้าาาา ไม่แน่ใจนะคะ แต่ไม่มีวิวทะเลแน่ ๆ ค่ะ

แล้วก็ห้องอาหารของรีสอร์ท ใหญ่เหมือนกันน้าาาา

แต่เคโกะก็ไม่ได้นั่งทานตรงนี้อีกอะค่ะ 5555 ไปทานที่ศาลาริมหาดแทน นั่งมองทะเลไปทานอาหารไป ชิลลลล์~

แล้วก็วิวทะเลจากที่พักค่ะ เป็นวิวจากหน้าห้องพักเคโกะเอง แล้วก็ถัดไปอีกหน่อยนึง

คือหาดทรายขาว เนียน ละเอียด นุ่มมากกกกค่ะ แล้วทะเลก็ใส น้ำทะเลสีฟ้า ใสกิ๊งเลย

ปิดท้ายที่อาหารเช้าของรีสอร์ทค่ะ เคโกะรับแบบ ABF นะคะ เค้าจัดมาให้แบบจัดเต็มมาก ๆ –แต่นมกล่องนั้นไม่เกี่ยวนะคะ เคโกะถือติดมาเอง

พอวันสุดท้ายก่อนจะกลับ เคโกะก็เลยขอลดปริมาณลงค่ะ เหลือเท่านี้ ก็ยังอิ่มจุกอยู่ดี ><~

โดยสรุปเลยนะคะ

  • พนง.ที่ดูแลคือน่ารักมากค่ะ เคโกะโดนยุงกัดขาลายจากการไปเดินรอบเกาะ เค้าก็เอายาหม่องกับยากันยุงมาให้ยืมใช้ด้วยล่ะ
  • เคโกะจำไม่ได้ว่ามีไวไฟบริการหรือเปล่านะคะ แต่ไม่ได้ใช้อะ 5555
  • มีอาหารเช้าแบบจัดเต็มมาก ๆ ค่ะ
  • วันที่สองหลังจากที่เคโกะไปดำน้ำกลับมา ก็ตกใจที่พบว่าขยะที่ทิ้งในห้องไว้นั้น กระจายอยู่หน้าห้องหมดเลยค่ะ คล้ายกับว่าเค้าเข้ามาทำความสะอาดห้องให้ปกติแหละ แต่โยนขยะที่ควรจะอยู่ในถังขยะออกมาให้พ้น ๆ ห้องอะค่ะ แบบชิ้นส่วนกระจัดกระจายมาก กรี๊ดดดด รับไม่ได้จริง ๆ ค่ะในจุดนี้ ><“
  • ที่พักมีไฟใช้เป็นเวลานะคะ เข้าใจว่าเค้าปั่นไฟใช้เองค่ะ ก็เลยจะเป็นเวลา ถ้าจำไม่ผิด ก็น่าจะเย็น ๆ – 5 ทุ่มไรงี้ค่ะ แล้วก็ตอนเช้ามืดอีกรอบ
  • ห้องพักไม่มีแอร์นะคะ มีแต่พัดลมน้าาา แต่ช่วงที่เคโกะไป ก็ไม่ได้ร้อนค่ะ ดึก ๆ หนาวซะอีก
  • ที่พักมียุง มีแมลงบ้างนิดหน่อย แต่ไม่เยอะมากค่ะ
  • ห้องน้ำไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นน้าาา แล้วก็น้ำที่อ่างล้างหน้าไหลเบาค่ะ

เหมาะกับการมานอนริมทะเลชิลล์ ๆ แบบไม่อะไรมาก ผสมลำบากนิด ๆ ได้ค่ะ

ไปเม้าท์มอยกันที่เพจได้นะคะ อัพเดทบ้างไม่อัพเดทบ้างแต่ยังอยู่น้าาา 555
https://web.facebook.com/thisiskeigo