[Nantou] Formosan Aboriginal Culture Village

สวัสดีค่ะ มาต่อกันแล้วนะคะ หลังจากที่ตัดฉับไปในโพสต์ที่แล้วอย่างไร้เยื่อใย ^^”

กลับไปทวนเรื่องราวแสนยาวของความถึกและอึดในโพสต์ที่แล้วได้ที่นี่ค่ะ

Spot name : Formosan Aboriginal Culture Village / หมู่บ้านวัฒนธรรม 9 ชนเผ่า / 九族文化村
Location : Nantou, Taiwan
Google maps : https://goo.gl/maps/hQDYXDaWFKasRdZp8
Entrance fee : 850NTD
Opening hours : 9.30-17.00 on weekdays and 9.30-17.30 on weekends
Visited date : 9 Dec 2019
Website : https://www.nine.com.tw/index.aspx

เมื่อนั่งกระเช้าข้ามมาจนถึงปากทางของทางเข้าธีมพาร์คแล้ว จะมีทางเข้าธีมพาร์คอยู่ ซึ่งเราต้องโชว์บัตรเข้าให้พนักงานดู เค้าจะแสตมป์ที่มือเราไว้ (ไม่ใช่หมึกค่ะ ต้องเอาไปส่อง blue light ถึงจะเห็น คล้าย ๆ กับลายเซ็นต์เราบนบุ๊คแบงค์น่ะค่ะ) แล้วจึงเข้าไปในธีมพาร์คได้

เคโกะมีข้อมูลไม่เยอะมากกับที่นี่ และอ่านรีวิวของคนอื่นมานิดเดียวค่ะ ซึ่งเค้าแนะนำว่าให้นั่งกระเช้าต่อไปยังที่ไกลที่สุดก่อน แล้วค่อยกลับมาปากทางเข้าธีมพาร์คนี้ เคโกะก็ทำตามนั้นค่ะ

ด้านในธีมพาร์คแบ่งเป็น 3 โซนใหญ่ ๆ คือช่วงต้น กลางและปลาย (แบ่งเองง่ายดีมั้ยคะ 5555) ช่วงด้านปลายที่เคโกะนั่งกระเช้าไปลงนั้น จะเป็นสวนสนุกเลยค่ะ มีเครื่องเล่นหลากหลายประเภทให้เล่น

มีเครื่องเล่นน่าสนุกน่าหวาดเสียวดีด้วย แต่ยังบิ้วท์ความกล้าในการเล่นคนเดียวยังไม่เสร็จค่ะ ฮาาาา เลยขอผ่านไปก่อน ไปเล่นอะไรที่มันดูเด็ก ๆ หน่อยแล้วกัน

ส่วนโซนกลาง เคโกะแนะนำว่าไม่ควรพลาดค่ะ จะเป็นธีมสวนน้ำเลยแหละ ระหว่างทางเดินไปก็จะเจอการแสดง การละเล่นของชนเผ่าตามธีมของธีมพาร์คนี้ค่ะที่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นหมู่บ้านวัฒนธรรมของชนเผ่าทั้ง 9

เป็นชนเผ่ากลุ่มแรกที่เจอค่ะ ชนเผ่า Saixia (赛夏族) ซึ่งเค้านำเครื่องดนตรีพื้นบ้านมาโชว์ค่ะ แล้วให้เด็ก ๆ ไปร่วมสนุก

ลักษณะจะเป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านที่ใช้การสะพายไว้ด้านหลัง แบบเป้สะพายหลัง แล้วเขย่าให้เกิดเสียงค่ะ แต่ให้เด็ก ๆ ไปเล่น สายสะพายจะยาวเกินไปค่ะ

มีแบบเป็นคลิปด้วยนะคะ

แล้วก็เดินเข้าไปที่โซนกลางที่ว่าเป็นแนวสวนน้ำค่ะ ตรงนี้จะเป็นเครื่องเล่นที่เปียก มีเปียกมากกับเปียกน้อยค่ะ

เครื่องเล่นที่เปียกน้อย ๆ ก็จะแนวน่ารัก ๆ ประมาณนี้

ส่วนที่เคโกะว่ามันส์ สนุกและไม่น่าพลาดก็คือเครื่องเล่นตัวนี้ค่ะ เป็นรถวิ่งไปตามราง ขึ้นที่สูงแล้วทิ้งตัวลงน้ำ แล้ว splash~ เปียกโชกกกกค่ะ

ในร้านขายของที่ระลึกใกล้ ๆ เครื่องเล่นตัวนี้จะมีเสื้อกันฝนครบชุด (เสื้อ + ถุงหุ้มรองเท้า) และล็อคเกอร์บริการเลยค่ะ

ค่าล็อคเกอร์ 20NTD และเสื้อกันฝน 45NTD ค่ะ

เครื่องเล่นตัวนี้เป็นเครื่องเล่นที่เคโกะยอมเล่นคนเดียวอะ 5555 บ้าไปแล้ววววว ><~

แอบได้ยินเด็กผู้ชายด้านหลังเคโกะสองคนเม้าท์เคโกะว่า พี่สาวคนนี้มาเล่นคนเดียวด้วยอ้ะ … ถ้าจะสงสารพี่ ก็มาเล่นกะพี่เถอะจ้ะน้อง~ T.T

สนุกมากค่ะตัวนี้ ไม่ควรพลาดเลย ^^

จากนั้นเคโกะก็เดินย้อนกลับขึ้นไปโซนต้นนะคะ ซึ่งโซนต้นนี้จะเป็นการแสดงของชนเผ่าต่าง ๆ ค่ะ ทั้งการจัดแสดงกลางแจ้ง มีโชว์ด้วย (ไม่ทันซักโชว์ค่ะ 555) รวมไปถึง DIY และขายของที่ระลึกของชนเผ่าต่าง ๆ

เคโกะเดินผ่านชนเผ่า Taiya (泰雅族) มีคลาส DIY ถักสร้อยข้อมือแบบพื้นเมืองของเค้าด้วย

พอถามเค้าว่าใช้เวลานานไหม เค้าว่าใช้เวลาไม่นานค่ะ เป็นแบบถักง่าย ๆ ประมาณ 15-20 นาทีก็เสร็จแล้ว ง่ายมาก ๆ และราคาเพียง 50NTD เท่านั้นเอง จะได้อุปกรณ์ไปครบเลย และสอนวิธีทำให้ด้วย

เคโกะแพ้ทางแนวนี้อยู่แล้วนะคะ พอดูเวลาแล้วก็พอมีอยู่เลยตกลงใจนั่งทำค่ะ

เสร็จแล้วก็จะได้ประมาณนี้

แต่ก็กลายเป็นว่าใช้เวลาไปมากกว่าที่คิดไว้ เหลือเวลาไม่เยอะแล้วค่ะ เพราะเคโกะต้องวิ่งไปขึ้นกระเช้าให้ทันก่อน 16.30 ซึ่งเป็นเวลากระเช้าปิดนะคะ

เอาล่ะ เดินถึกก็ไม่พอค่ะ งานนี้เดินแกมวิ่งต้องมาแล้วค่ะ T.T

ยังไม่วายเก็บภาพบรรยากาศระหว่างทางของการจัดแสดงวัฒนธรรมแต่ละชนเผ่ามาให้ดูด้วย

คือถ้าเคยไปมิวเซียมที่จัดแสดงความเป็นมาของชนเผ่าต่าง ๆ ในไต้หวันหรือชนเผ่าอะบอริจินของไต้หวันแล้ว ก็จะพอเข้าใจอยู่บ้างค่ะ

โดยรวม ๆ ก็จะเป็นการจำลองวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชนเผ่าแต่ละชนเผ่ามาแสดงให้ดูค่ะ

บางจุดก็มีการแสดงโชว์ด้วย แต่เวลากระชั้นไป๊ ไม่พอและไม่ทันโชว์ใด ๆ เลยค่ะ T.T

พอดูรวม ๆ ทั้งธีมพาร์คอย่างนี้แล้ว ก็ไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมส่วนใหญ่คนที่มาเที่ยว จะเป็นกลุ่มครอบครัวนะคะ เค้าจะค่อนข้างมีการปลูกฝังและให้เด็ก ๆ เรียนรู้วัฒนธรรมความเป็นมาของประเทศค่ะ ผ่านการนำเสนอที่เข้าใจง่าย และเข้าถึงง่าย และเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นคนชนเผ่าใด มีวิถีชีวิตอย่างไร ประมาณนี้ค่ะ

นอกจากนี้แล้ว ที่นี่ยังเป็นที่ชมซากุระไต้หวันที่ขึ้นชื่อมาก ๆ ที่นึงด้วยค่ะ แต่เคโกะไปนอกฤดูก็จะมีแต่ต้นไม้โกร๋น ๆ นะคะ ฮาาาา

เดินแกมวิ่งขึ้นเนินลงเนินจนมาถึงสถานี ropeway ทัน 16.30 จนได้ค่ะ แล้วก็เลยต้องกลับแล้ว

จริง ๆ แล้วธีมพาร์คนี้ปิดราว ๆ 17.00-17.30 ขึ้นอยู่กับวันนะคะ แต่ว่ากระเช้าปิด 16.30 ไง ก็เลยต้องรีบออกค่ะ

ขาออก พนง.จะสแกนที่เราโดนสแตมป์มือตอนขาเข้าด้วยนะคะ นี่ก็เลยเข้าใจว่าทำไมสแตมป์แล้วไม่มีหมึก อ้ออ ใช้แบบที่อธิบายไปตอนต้นแล้วนั่นเองค่ะ

โดยรวมแล้ว เคโกะว่าเป็นสถานที่เป็นธีมพาร์คที่น่าสนใจมาก ๆ ที่นึงเลยค่ะ มีทั้งเครื่องเล่น มีทั้งเรื่องราววัฒนธรรมชนเผ่าพื้นเมืองให้ศึกษากัน เหมาะกับการไปเป็นครอบครัว และเพื่อนฝูงไปเฮฮากันเป็นแก๊งค์ค่ะ

ถ้ามีโอกาส ก็อยากมีเพื่อนไปเล่นเครื่องเล่นด้วยกันนะคะ น่าจะสนุกกว่ากรี๊ดคนเดียวอะ 555555
https://www.facebook.com/thisiskeigo/

Universal Studio Japan

สวัสดีค่ะ โพสต์นี้เป็นจุดบอดของทริปญี่ปุ่นของเคโกะเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเลยล่ะค่ะ ^^”

จุดบอดที่ว่าก็คือ เป็นวันเดียวในทริปที่ฝนตกค่ะ แล้วเราก็ต้องจำเพาะมาสวนสนุกเอาวันที่ฝนตกเนี่ยนะ อากาศหนาวไม่พอ ฝนตกด้วย ก็ยิ่งทำให้หนาวค่ะ ตัวเคโกะเองมีรองเท้าบูทที่กันน้ำกันลมได้ก็เลยสบายไป ส่วนเพื่อน ๆ ในกลุ่มที่ไปด้วยกันนั้นใส่รองเท้าผ้าใบหมดค่ะ น้ำฝนซึมเข้าได้ง่าย และทำให้เท้าเย็นกันไปตาม ๆ กัน .. เพราะงั้นเรื่องรองเท้าก็สำคัญนะคะ ไปต่างประเทศในฤดูหนาวก็ใส่ใจเรื่องรองเท้ากันด้วยนะคะ ^^”

Spot Name : USJ / Universal Studio Japan
Website : https://www.usj.co.jp/e/
Location : Osaka
Transportation : take train to Universal City station
Visited date : 22 Jan 2018
Pass used : USJ Day Pass (7,600 Yen) + USJ Express-4 (~1,900 BHT)
Booking via : klook

ก่อนมา เคโกะก็แอบภาวนาบวกกับหวั่นใจหน่อย ๆ เพราะพยากรณ์อากาศในวันที่ไปนั้นไม่ดีเอาซะเลยค่ะ ตั้งใจจะไปตั้งแต่เช้าตอนที่ประตูสวนสนุกเปิด แต่พวกเราก็ออกสายอีกตามเคย นั่งรถไฟไปจนถึงสถานีปลายทาง ออกมาก็พบกับสีสันสไตล์ตะวันตกที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจค่ะ

DSC_6006

ซุ้มประตูทางเข้าอันเป็นเอกลักษณ์ มีอย่างนี้ทุกที่

DSC_6009

แล้วก็ลูกโลกอันเป็นสัญลักษณ์ของ Universal Studio ค่ะ

DSC_6012

จากนั้นเราก็เอาคูปองหรือวอเชอร์ที่ได้จากการจองตั๋วผ่านเว็บ klook ซึ่งจะมี QR Code อยู่ทั้งหมดตามจำนวนคนที่เราซื้อตั๋ว ก็ใช้ได้ 1 คน/ 1 ใบค่ะ แนะนำกันต่อ ๆ มาว่าให้ปริ้นท์แบบคม ๆ ชัด ๆ (Laser Printer คือดีสุดค่ะ) แล้วก็ให้สแกนที่ประตูตรวจตั๋วเพื่อผ่านเข้าด้านในได้เลย

เข้ามาด้านใน ช่วงแรก ๆ ก็แอบเหมือนที่ USS (Singapore) อยู่นะคะ

DSC_6016

ช่วงเช้าอากาศดีพอใช้ได้ทีเดียว แต่กลับไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไหร่ – -”

DSC_6020

ในตั๋ว Express Pass ของเราที่จะเข้าโซนของ Harry Potter นั้นคือเป็นช่วงบ่ายค่ะ ช่วงเช้าเราก็เลยเตร็ดเตร่กันอยู่โซนอื่น ๆ ไปก่อน

แต่แล้วพยากรณ์อากาศก็แม่นจริงจริ๊งงงงง

พอตกบ่ายที่เราต้องเข้าโซนแฮร์รี่พอตเตอร์ ฝนก็เทเลยค่ะ T^T

คือแบบ สงสารเพื่อนอะ เพื่อนเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเรื่องนี้เลยค่ะ แล้วตั้งหน้าตั้งตารอมาเยี่ยมชมโซนนี้มาก ๆ T^T

ด้านหน้าของโซน Harry Potter ก็จะมีรถที่ตามท้องเรื่องคือรอน วีสลีย์กับแฮร์รี่ถือวิสาสะขโมยรถของพ่อมาขับเพื่อมาโรงเรียนนะคะ

IMG_4125

เข้าไปด้านใน ก็จะเจอกับรถไฟขบวนพิเศษไปฮอร์กวอร์ตค่ะ

IMG_4127

ร้านฮันนี่ดุ๊คส์ก็มี ด้านในก็จะขายขนมตามท้องเรื่องเลยล่ะค่ะ

IMG_4129

ลานกว้างตรงกลางก็มีบูธขายบัตเตอร์เบียร์ เพื่อนก็ไปซื้อมาชิมกัน โดยส่วนตัวเคโกะว่ามันออกหวาน ๆ เลี่ยน ๆ ไปหน่อยอะค่ะ ถ้าชอบหวาน ๆ รสคาราเมล ๆ หน่อย ก็น่าจะโอเคนะ

IMG_4132

เดินไปเดินมาเจอมุมที่เค้าถ่ายวิวปราสาทด้วย

เห็นเม็ดฝนที่ตกกระหน่ำอย่างชัดเจนเลย T.T

IMG_4134

แล้วก็กบช็อคโกแลตก็มาค่ะ แพกเกจหน้าตาประมาณนี้

IMG_4149

ในร้านขายของที่ระลึก ก็จะมีไม้กายสิทธิ์จำหน่ายที่เป็นของตัวละครต่าง ๆ ในเรื่องด้วยล่ะค่ะ

IMG_4151

เดินเล่นในโซนแฮร์รี่พอตเตอร์จนหนำใจ (กับฝน) แล้ว เราก็พากันมาเดินต่อในโซนอื่น ๆ กันต่อค่ะ อยู่กันจนค่ำเลย ฝนก็หยุดพอดี … อะไรก๊านนนนนนน T.T

ได้เวลากลับแล้วค่ะ

DSC_6022

ปิดท้ายด้วยร้านอาหารในสถานี Shin-Osaka ละกันเนอะ เพื่อนเป็นคนเลือกร้านค่ะ ก็เลือกเอาร้านแนว ๆ เทปัน คือกะทะร้อน ตรงกลางโต๊ะจะมีกะทะร้อนให้เราผัด ๆ แต่จริง ๆ แล้วอาหารปรุงเสร็จมาแล้วค่ะ แค่เอามาอุ่นให้ร้อน ๆ เฉย ๆ

เซ็ทอัพบนโต๊ะ พร้อมด้วยชื่อร้านนะคะ

ร้าน “เมสเสะ” (めっせ) 

IMG_4154

จานแรกมาไวมาก รู้สึกจะเป็นเบค่อนค่ะ

IMG_4155

แล้วก็เมนูอะไรสักอย่างที่ลืมชื่อไปแล้ว แต่อยู่ในเมนูแนะนำด้วย จะเป็นคล้ายๆ โอโคโนมิยากิ แต่เป็นต้นหอมผัดทั้งจานเลยค่ะ แปลก ๆ ดี ถ้าคนไม่ชอบทานผัก ข้ามได้เลยค่ะ

IMG_4156

ต่อมาเป็นโซบะผัดค่ะ

IMG_4157

ปิดท้ายด้วยโอโคโนมิยากิ หรือที่คนไทยจะเรียกกันว่าพิซซ่าญี่ปุ่นค่ะ

IMG_4158

อาหารโดยรวมกับร้านนี้ ก็ถือว่าโอเคทีเดียว มีเมนูภาษาอังกฤษให้เลือกด้วย (น่าจะต้องขอจากพนักงานค่ะ ดีฟอลท์เป็นญี่ปุ่น) แต่บรรยากาศในร้านจะเน้นไปทางดื่มและพูดคุยกันมากกว่า เสียงจะค่อนข้างดังตามประสาหนุ่มสาวมาเฮฮากินดื่มกันค่ะ และในร้านค่อนข้างร้อน เพราะเป็นอาหารกะทะร้อนเนอะ

ส่วน USJ นั้น ถ้าเป็นแฟนหนังหรือนิยายเรื่อง Harry Potter แล้ว เคโกะก็แนะนำให้มาดูสักครั้งค่ะ ส่วนเครื่องเล่นต่าง ๆ นั้น เคโกะว่าค่อนข้างจะเน้นไปในทาง 3/4 มิติมากไปหน่อย คือ เรานั่งอยู่กับที่แล้วก็ทำความรู้สึกให้เหมือนเราได้ผจญภัยไปในที่ต่าง ๆ ตามแต่ธีมแต่ละเครื่องเล่นกำหนดไว้ ซึ่งเป็นการจำลองอะค่ะ ไม่ได้สัมผัสอย่างนั้นจริง ๆ ก็เลยรู้สึกขาดความสมจริงไปหน่อย

เครื่องเล่นที่เคโกะคิดว่าดี น่าเข้าไปเล่นก็คือ Harry Potter and The Forbidden Journey ส่วนเครื่องเล่นกลางแจ้ง ไม่ได้เล่นเลยค่ะ เพราะฝนตกและอากาศหนาวมาก ไม่มีใครเล่นด้วยเลย T^T

โดยส่วนตัว ถ้ามีโอกาสมาอีกรอบ ก็อยากมาเก็บตกพวกเครื่องเล่นต่าง ๆ ที่พลาด ๆ ไปค่ะ ^^”

แล้วติดตามกันต่อในโพสต์หน้านะคะ ระหว่างนี้แวะพูดคุยกันได้ที่เพจค่ะ ^^