[Betong] Betong 2

กลับมาต่อตอนจบของเบตงนะคะ แล้วจะได้ว่างเว้นกับบล็อกไปอีกยาว ๆ ฮาาาาาา

ดองเก่งงงง //เคโกะโดนบ้องหัว 55

ค้างกันไว้กับโพสต์ที่แล้ ที่เราไปอยู่ตรงใต้สุดแดนสยามกันแล้วนะคะ แล้วเราก็ไปต่อที่อุโมงค์ปิยะมิตรค่ะ

Spot name : อุโมงค์ปิยะมิตร / Piyamit Tunnel / 勿洞第一友谊村地道
Location : อ.เบตง จ.ยะลา
Google maps : https://goo.gl/maps/YDaBWnJHZm43jPQ39
Entrance fee
: 40 บาท
Opening hours : 8.00 – 17.00
Visited date : 5 Mar 2022
Facebook : https://www.facebook.com/Piyamittunnelbetong/

อุโมงค์ปิยะมิตรเป็นอุโมงค์ที่อดีตขบวนการคอมมิวนิสต์มลายาเป็นคนขุดขึ้นเพื่อเป็นที่ปฏิบัติการต่อสู้ทางการเมือง ซึ่งภายในอุโมงค์จะมีหลาย ๆ เส้นทาง ใช้หมายเลขแทนแต่ละเส้นทางค่ะ เช่น เส้นทางหมายเลข 1 2 ไรงี้ ซึ่งเส้นทางที่ไกด์แนะนำก็คือเส้นทางเบอร์ 1 มีระยะทางเดินสั้น และออกมาก็เจอกับต้นไม้พันปี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของที่นี่ค่ะ

บริเวณด้านหน้าก่อนเข้าอุโมงค์ก็จะมีจุดต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งก็จะมีอยู่ในแผนที่ด้านหน้าทางเข้าด้วยค่ะ

อย่างเช่น ด้านหน้าจะมีเจ้าแม่กวนอิมอยู่ด้วย

หรืออื่น ๆ ก็เช่นเห็ดหลินจือพันปี รูปปั้นเสือ เตาเผาถ่าน เตาขงเบ้ง อะไรงี้เป็นต้นค่ะ ซึ่งแต่ละสิ่งก็จะมีที่มาที่ไปอยู่ อย่างเตาขงเบ้งเงี้ยะ ก็จะบอกว่าทำไมถึงได้ชื่อเตาแบบนี้อะไรงี้อะนะคะ

ทำใจนิดนึงว่า การจัดแสดงหรือ presentation ของที่นี่ก็จะไม่ได้หรูหราอลังการอะไร ค่อนข้างจะคล้ายนิทรรศการแบบธรรมดาทั่วไปด้วยซ้ำ อาศัยการอ่านและดูวิดีโอที่เค้าเปิดวนให้ชมก่อนการเข้าอุโมงค์ซักนิดไรงี้ ก็จะเข้าใจได้มากขึ้นค่ะ

ก่อนเข้าอุโมงค์ ใกล้ ๆ จะมีห้องจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในยุคนั้นมาจัดแสดงให้ดูจริง ๆ และเยอะมาก ๆ ด้วยค่ะ

จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าในสมัยนั้นคนในขบวนการคอมมิวนิสต์มลายากลุ่มนี้ใช้ภาษาจีนเป็นหลักค่ะ ด้านในข้าวของเครื่องใช้ หรือแม้แต่รายชื่อก็มีแต่ภาษาจีนเลยล่ะค่ะ ค่อนข้างจะล้างความเชื่อของเคโกะอยู่เหมือนกันนะ (เคโกะเข้าใจว่าภาษามลายูคือภาษาหลักของคนมาเลย์ค่ะ) ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นที่มาว่าทำไมเบตงดูเป็นเมืองที่ผสมผสานระหว่างไทยกับจีน (แบบมลายูหรือมาเลย์) เข้าด้วยกันค่ะ

ในวิดีทัศน์ (ภาษาโบราณไปมั้ย 5555) ที่เค้าเปิดวน ๆ ให้ดูก่อนเข้าอุโมงค์เนี่ย ก็จะมีบทสัมภาษณ์ของคนพื้นที่ด้วย ซึ่งบางคนเองก็ยังพูดภาษาจีนเลยค่ะ อาจจะไม่ใช่แมนดารินเป๊ะขนาดนั้น แต่ฟังโดยรวมแล้วเข้าใจได้ค่ะ

เอาล่ะ เข้าอุโมงค์กันดีกว่า ด้านในก็จะมีการขุดเจาะห้อง เป็นห้องทำงาน ห้องส่งสัญญาณไรงี้ค่ะ ระหว่างทางเดินก็จะมีที่นั่ง มีมุมเก็บเสบียง ฯลฯ ไรงี้ด้วย

ก็เดินไปตามทางเบอร์ 1 อะค่ะ ด้านในเค้าก็จะมีป้ายบอกเส้นทางให้อยู่

พอเดินออกจากอุโมงค์มาแล้วเพียงนิดเดียว ก็เจอกับต้นไม้พันปี อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่นี่ค่ะ

เป็นเส้นทางวงกลมอะนะคะ เดินไปตามทางแล้วก็จะวนกลับมาที่เดิมตรงปากทางเข้าไปอุโมงค์ค่ะ

บริเวณด้านหน้าก็จะมีร้านค้าอะไรกรุบกริบนิดหน่อย เลยชิมเฉาก๊วยสักถ้วยนึง เจ้คนขายพูดจีนได้ด้วยค่ะ สั่งอาหมวยที่เป็นคนทำเมนูในร้านเป็นภาษาจีนตลอดเลย เคโกะเลยฉวยโอกาสลองของซะหน่อย ปรากฎว่าเจ้มองหน้างง ๆ นิดนึงแต่เจ้ก็เข้าใจค่ะ 5555

เฉาก๊วยถ้วยนี้ราคาประมาณ 20-25 บาทเนี่ยแหละค่ะ เคโกะจำราคาเป๊ะ ๆ ไม่ได้ละ แต่ส่วนตัวเคโกะก็ไม่ได้ว้าวนะคะ

ไปกันต่ออีกที่ค่ะ ตรงนี้คนชอบดอกไม้น่าจะฟินอะ แต่เคโกะก็คือยังไง … ไม่เลยค่ะ ไม่อินกะดอกไม้เลยยยย 5555

Spot name : สวนไม้ดอกเมืองหนาวเบตง (สวนหมื่นบุปผา)
Location : อ.เบตง จ.ยะลา
Google maps : https://goo.gl/maps/QRPqnbypkgPwk5HRA
Entrance fee : 40 บาท
Opening hours : 7.30 – 17.00
Visited date : 5 Mar 2022

สวนดอกไม้นี้ไม่ได้ไกลจากอุโมงค์ปิยะมิตรเท่าไหร่ค่ะ แต่โค้งเยอะพอควร

เคโกะมาถึงสวนนี้เอาจังหวะที่อากาศครื้มฟ้าครื้มฝนค่ะ อยู่ได้แป๊บเดียวฝนก็เทหนักลงมาเลย ขัดจังหวะคุณลุงคุณป้าเค้าถ่ายรูปกันเพลิน ๆ เลยค่ะ 5555

โดยรวมแล้วก็เป็นสวนรวบรวมพันธุ์ไม้ดอกหน้าหนาวหลากหลายชนิดไว้ด้วยกันค่ะ ซึ่งนอกจากสวนดอกไม้แล้วก็ยังมีส่วนที่เป็นที่พักให้เข้าพักค้างคืนได้ด้วย มีร้านอาหารด้วย (เคโกะแอบสนใจร้านอาหารมากกว่านะ เดาว่าน่าจะออกแนวจีน ๆ แน่เลย)

การจัดพื้นที่เค้าทำได้ดีค่ะ สวย มีมุมถ่ายรูปเยอะมาก ใครที่ชอบดอกไม้ ชอบถ่ายรูป ก็น่ามาจัดได้ค่ะ

แถมท้ายด้วยวิวแบบพาโนรามาค่ะ

เจอฝนไล่เข้าไป เราก็ถอยกรูดไม่เป็นขบวนเลยค่ะ แต่ก็ยังไปต่อนะ กับที่หมายสุดท้ายของวันค่ะ ก็คือบ่อน้ำร้อนเบตง อยู่ไม่ไกลกันนักกับสวนดอกไม้ค่ะ

Spot name : บ่อน้ำร้อนเบตง / น้ำพุร้อนเบตง / บ่อน้ำร้อน รีสอร์ทแอนด์สปา
Location : อ.เบตง จ.ยะลา
Google maps : https://goo.gl/maps/n4DPEvHbyZr7qAH68
Entrance fee
: Free
Opening hours : 5.30 – 20.00
Visited date : 5 Mar 2022
Facebook : https://www.facebook.com/Bonamron

ก็เป็นบ่อน้ำร้อนสาธารณะค่ะ แช่เท้าได้ เห็นมีคนลงไปแช่ทั้งตัวด้วย ก็แล้วแต่เนอะ มีห้องอาบน้ำให้ และถ้าจำไม่ผิด มีห้องบ่อน้ำร้อนส่วนตัวด้วยไรงี้ค่ะ รวมถึงมีบริการที่พักค้างคืนด้วย แต่คณะทัวร์ก็คือไปแค่แช่เท้ากันนะคะ

จากนั้นก็ถึงเวลาอาหารเย็นค่าาาา 555 กับข้าวเต็มโต๊ะเช่นเคย

มื้อนี้เป็นมื้อที่ไก่เบตงหายไปแล้ว ไกด์คงรู้ว่าผู้ใหญ่ในกรุ๊ปคือเบื่อกันแล้วมั้งคะ 5555 แต่หลาย ๆ คนในกรุ๊ปบอกว่าเต้าหู้ยัดไส้ไรสักสิ่ง (รูปล่างซ้ายค่ะ) เค้าว่าไม่อร่อยอะ แต่เคโกะเป็นเต้าหู้เลิฟเวอร์ค่ะ เสร็จโจร 55555

จากนั้นเราก็กลับเข้าที่พัก พักผ่อนเอาแรงเตรียมตัวตื่นเช้ามากกกก ในวันสุดท้ายที่เบตงค่ะ

เช้าวันสุดท้ายคือไกด์นัดเช้ามาก ถ้าจำไม่ผิดก็คือตี 3 แล้วไกด์จะให้โรงแรมเตรียมข้าวกล่องไว้ให้ทานหลังจากชมทะเลหมอกเสร็จแล้ว

ล้อหมุนแต่เช้ามืดเพื่อไปดูทะเลหมอกที่อัยเยอร์เวงค่ะ ต้องไปเช้านิดนึง เพราะถ้าสายแล้วคนจะเยอะ แต่เคโกะว่าไปเช้า ๆ อย่างนี้ก็ดีค่ะ ได้ดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วย ซึ่งบอกเลยว่า ทะเลหมอกกับพระอาทิตย์ขึ้นคือสวยงามมากกกกกกก ดีงามมากค่ะ ถ้าถ่างตาตื่นไหว ก็แนะนำนะคะ

Spot name : สกายวอล์ค อัยเยอร์เวง / Aiyerweng Skywalk
Location : อ.เบตง จ.ยะลา
Google maps : https://goo.gl/maps/6aCLAjhfhYdeVSEVA
Entrance fee : N/A
Opening hours : 5.30 – 16.30
Visited date : 6 Mar 2022

ไปถึงก็ต้องจอดรถไว้ที่ลานจอดรถด้านล่างค่ะ เค้าจะเช็คประวัติการฉีดวัคซีนด้วย แล้วก็นั่งสองแถวขึ้นไป แล้วต่อด้วยมอไซค์อีกที (ทำไมต้องหลายต่อ ฮึ!!) แต่ถ้าใครไม่อยากต่อมอไซค์อีก ก็เดินไปได้นะคะ ไม่ได้ไกลแล้ว

ความที่กรุ๊ปเคโกะเป็น สว. ซะเยอะ (สว. = สูงวัยค่ะ) เค้าเลยขอสองแถวให้ขึ้นไปส่งถึงด้านบนเลย ไม่ต้องแว๊นอีกทอดนึงแล้ว แต่ก็นะ รถสองแถวนั่งไม่หมดค่ะ เคโกะเลยขอความเป็นเด็กให้ตัวเอง ด้วยการแว๊นไปเอง 5555

ประตูเปิดให้เข้าชมได้ตอนตีห้าครึ่ง เราไปถึงก่อนเป็นกรุ๊ปแรก ๆ ค่ะ เสียค่าถุงหุ้มรองเท้าเพิ่มอีกราวคนละ 30 บาท ซึ่งใช้สวมทับรองเท้าเราได้เลย จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะแจกริสท์แบนด์ให้คนละอัน ไว้สำหรับแตะเปิดประตูเข้าออก skywalk ค่ะ ซึ่งเค้าจะปล่อยเป็นรอบ ๆ รอบนึงประมาณ 50 คน อยู่ได้ราว ๆ 15 นาที แล้วเค้าจะมีออดบอกเวลาให้ออก จากนั้นจะวนมาต่อคิวใหม่เพื่อเข้าไปใหม่ก็ได้ค่ะ

นอกจากนี้แล้ว ยังสามารถเดินขึ้นบันไดไปชั้นที่สูงกว่าก็ได้ ซึ่งไม่มีการจำกัดเวลาแล้วค่ะ

แปะรูปชมกันยาว ๆ เลยน้าาา

เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สะใจมากจริง ๆ ค่ะ ทะเลหมอกหนาแน่นมากกกกก

ว่ากันตามตรง อยู่ด้านล่าง วิวก็ยังสวยเลยค่ะ

อยู่กับทะเลหมอกจนหนำใจแล้ว ก็ไปต่อที่จุดหมายสุดท้ายในเบตง ก่อนที่จะกลับไปหาดใหญ่ค่ะ

Spot name : สะพานแตปูซู
Location : อ.เบตง จ.ยะลา
Google maps : https://goo.gl/maps/7XR5yxKYGyGskifEA
Entrance fee
: free
Opening hours : N/A
Visited date : 6 Mar 2022

สะพานแตปูซูนี้อยู่ใกล้ ๆ กับทะเลหมอกอัยเยอร์เวงค่ะ เป็นสะพานไม้ที่สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมทั้งสองฝั่งที่ถูกคั่นด้วยแม่น้ำไว้ด้วยกัน สามารถใช้สัญจรข้ามไปมาได้ทั้งคนและรถวิ่งได้ด้วยค่ะ (รถมอเตอร์ไซค์น้าาา)

แล้วทริปในเบตงก็จบลงตรงนี้ค่ะ

ตอนที่เคโกะมาหาข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องตำแหน่งที่ตั้งของแต่ละที่ไรงี้ ก็เลยเห็นว่าจริง ๆ แล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกตั้งหลายที่ที่เคโกะรู้สึกว่าน่าสนใจนะคะ ก็อย่างว่าแหละ น่าเสียดายที่ไปกับกรุ๊ปทัวร์ค่ะ เลยทำให้เราไปอยากไปไม่ได้เนอะ

สุดท้าย คลิปในยูทูปค่ะ เขียนบล็อกซะหลายตอน แต่คลิปมาคลิปเดียว ฮาาาา

ยาวนิด เพราะตอนท้ายมีพูดคุย (เรียกว่า พูดอยู่ฝ่ายเดียวเถอะ!!) เกี่ยวกับทริปนี้ทั้งทริปค่ะ

แล้วเจอกันในโพสต์ถัดไป ทริปถัดไปค่ะ
https://web.facebook.com/thisiskeigo

[Betong] Betong 1

สวัสดีค่ะ เคโกะหายไปกับอะไรหลายอย่างจนดองบล็อกเอาไว้อีกแล้ว 5555 //น่าจะชินแล้วหรือเปล่าคะ แหะๆ

กลับมาต่อทริปเบตงกันให้จบนะคะ อีกแค่ 2 ตอนเอง ซึ่งจริง ๆ แล้วก็คือมีแค่เบตงแหละที่ยังเหลืออยู่ แต่ความที่รูปเยอะมาก เลยขอตัดเป็น 2 ตอนอะนะคะ

เราจะเริ่มกันที่ป้ายเบตง ด่านแรกของการเข้าเมืองเบตงค่ะ

Spot name : โอเคเบตง – OK Betong
Location : อ.เบตง จ.ยะลา
Google maps : https://goo.gl/maps/oJ2spq3zCa5pAjQf8
Entrance fee
: free
Opening hours : 7.00 – 22.00
Visited date : 4 Mar 2022

จริง ๆ แล้วเคโกะรู้สึกเหมือนเป็นสถานที่โอเพ่นมากกว่า แต่ในกูเกิ้ลแม็พคือมีเวลาปิดเปิดด้วย ก็ตามกูเกิ้ลไปก่อนละกันนะคะ แหะๆ

ก็เป็นจุดถ่ายรูปแหละ ไม่ได้มีอะไรมากนักค่ะ

ถ่ายรูปกันเสร็จแล้วก็เข้าไปในตัวเมืองเบตง เข้าที่พักแล้วก็หมดกิจกรรมของวันนี้แล้วล่ะค่ะ (ห้ะ!!)

แต่เคโกะก็คุยกับพี่ที่ไปด้วยกันว่าเราออกไปเดินเล่นระแวกนี้กันเถอะ ก็เลยออกมาเดินเล่นข้างนอกกันเองค่ะ ซึ่งโรงแรมก็อยู่ในตัวเมืองเบตงเลย ใกล้ ๆ กับวงเวียนหอนาฬิกาไรงี้ด้วยค่ะ

Spot name : หอนาฬิกาเบตง, ตู้ไปรษณีย์เบตง
Location : อ.เบตง จ.ยะลา
Google maps : https://goo.gl/maps/SaxjkzETakRWzGeJ9
Entrance fee
: free
Opening hours : always open
Visited date : 4-5 Mar 2022

พอตอนกลางคืนเค้าก็จะเปิดไฟ สวยไปอีกแบบค่ะ

ใกล้ ๆ กับวงเวียนหอนาฬิกา จะมีตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอยู่ด้วย คนถ่ายรูปเยอะอยู่ค่ะ เคโกะถ่ายกับตู้จนลืมถ่ายตู้เดี่ยว ๆ ก็เลยต้องเดินไปถ่ายอีกวันในตอนค่ำ เวลาเลยดูไม่ต่อเนื่องกันกับรูปบนนะคะ

ตอนที่เคโกะไปถ่ายรูปกับตู้ไปรษณีย์เล่น เจอทีมงานช่อง 3 เค้ามาเก็บภาพแถว ๆ นั้นด้วย ไม่รู้ว่าถ่ายทำรายการอะไรหรือเปล่า ใครเจอแล้วเห็นเคโกะติดไป แจ้งด้วยน้าาา จะไปตามดู T.T

หลังจากมื้อเย็นแล้ว ไกด์เล่าว่ามีร้านโรตีที่อร่อยมาก ๆ อยู่ใกล้ ๆ กับวงเวียนนาฬิกานี่แหละค่ะ แต่คิวยาวมากกกกกก ไกด์เลยอาสาไปสั่งไว้ให้แล้วจะรอรับให้ไรงี้ ซึ่งพี่ที่ไปด้วยกันก็สั่งมาชิมดู ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นแบบลาวาเนยสดไรสักสิ่งค่ะ ถ่ายรูปกันมืด ๆ แถว ๆ นั้น เลยได้มาประมาณนี้ แต่รสชาติเคโกะก็ว่าแปลกใหม่ดีค่ะ อาจจะไม่ได้ว้าวอะไรขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้ธรรมดาอยู่นะ ไม่ใช่รสชาติที่เจอทั่วไปค่ะ ถ้าไปก็ลองชิมกันดูได้ เผื่อเวลารอคิวไว้เท่านั้นค่ะ

จากนั้นก็เดินเล่นไปเรื่อย ๆ มาถึงพิพิธภัณฑ์เบตงค่ะ เรามาเย็นไปหน่อย มีเวลาเข้าชมนิดเดียว แล้วมีนัดกับคณะทัวร์เพื่อที่จะออกไปกินข้าวเย็นด้วย ก็เลยขอผ่านไปก่อน ได้แต่เดินเล่น ถ่ายรูปเล่นอยู่ด้านหน้าค่ะ

Spot name : พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง
Location : อ.เบตง จ.ยะลา
Google maps : https://goo.gl/maps/U5Mf5Pyc4niG5Agi7
Entrance fee
: free
Opening hours : 8.30 – 12.00, 13.00 – 16.30, closed on Monday
Visited date : 4 Mar 2022
Website : https://www.museumthailand.com/en/museum/Betong-Museum

ทางขึ้นเค้าจะเป็นเนิน ๆ พอเดินกลับก็เลยเห็นเป็นมุมสูงประมาณนี้เลยค่ะ มีกราฟิตี้ให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ เลยด้วย เป็นเมืองที่ดูอาร์ต ๆ ดีค่ะ

แล้วเราก็เดินกลับมาที่โรงแรม เพื่อออกไปทานอาหารเย็นกับทัวร์ เค้าจองร้านเอาไว้ให้พวกเรา พร้อมกับอาหารขึ้นชื่อของที่นี่ค่ะ

สิ่งแรกที่จะต้องเจอก็คือไก่เบตงค่ะ แล้วก็มารู้ทีหลังว่าไอ้ลูกชิ้นกับผัดผักไรสักสิ่งนั่นก็เป็นจานขึ้นชื่อเหมือนกัน

ส่วนตัวสำหรับไก่เบตง เคโกะว่าก็อร่อยดีนะคะ จะไม่เหมือนข้าวมันไก่ในกทม.อะ แต่ก็ไม่เหมือนข้าวมันไก่สิงคโปร์ด้วย ออกแนวผสมผสานกันระหว่างไทยกับสิงคโปร์มากกว่าค่ะ ตัวน้ำราดจะเข้มข้นกว่าของสิงคโปร์ แล้วก็มีพวกกระเทียมเจียวไรงี้เสริมเข้ามา ในขณะที่ของสิงคโปร์เค้าจะไม่มี อะไรงี้ค่ะ

ถามว่าเคโกะชอบแบบไหนมากกว่า ก็ตอบยากค่ะ ก็กินได้หมด #สายกินเนื้อสัตว์ 5555

ส่วนวันถัดมา ที่แรกที่ไปก็คือสำนักสงฆ์จันทรัตนารามค่ะ

Spot name : สำนักสงฆ์จันทรัตนาราม
Location : อ.เบตง จ.ยะลา
Google maps : https://goo.gl/maps/UD1N7GE1ULEFkx66A
Entrance fee
: free
Opening hours : N/A
Visited date : 5 Mar 2022

ถ้าเข้าใจไม่ผิด ที่นี่จะไม่ได้อยู่ในโปรแกรมทัวร์ แต่เค้าจัดมาให้ชดเชยกับเฉาก๊วยโบราณที่ไม่ได้ไปค่ะ เข้าใจว่างั้นนะ

ที่นี่ดูจะยังสร้างกันไม่เรียบร้อยดีอยู่เลยมั้งคะ แต่จุดเด่นก็คือมีเจ้าแม่กวนอิมไม้สักทององค์ใหญ่ค่ะ

เคโกะไม่ค่อยอินกับวัดเท่าไหร่นะคะ แถมแต่งตัวไม่ค่อยเรียบร้อยด้วย (แหะๆ) ก็เข้าไปไหว้นิดหน่อย แล้วก็วน ๆ ดูรูปปั้นแกะสลักจากไม้ที่อยู่รอบ ๆ อุโบสถ เป็นพระจีนทั้งหมดเลยค่ะ ทั้งที่อยู่ในวรรณกรรมแล้วก็ที่เราคนไทยรู้จักกันดีไรงี้อะนะคะ แล้วก็ออก

จากนั้นเราก็ไปต่อที่สนามบินเบตงค่ะ ซึ่ง ณ วันที่เราไปกัน สนามบินยังไม่เปิดให้บริการนะคะ เป็นแหล่งท่องเที่ยว ถ่ายรูปเช็คอินเก๋ ๆ กันไปก่อน 555

Spot name : ท่าอากาศยาน​นานาชาติเบตง
Location : อ.เบตง จ.ยะลา
Google maps : https://goo.gl/maps/sdRZN9GwhHR9s6VX9
Entrance fee
: free
Opening hours : N/A
Visited date : 5 Mar 2022
Facebook : https://www.facebook.com/profile.php?id=100069069404917

สิ่งที่เป็นจุดเด่นของสนามบินนี้เลยก็คือเสาไม้ไผ่ที่อยู่ด้านหน้าของอาคารผู้โดยสารค่ะ ไปรีเสิร์ชมา เบตงมาจากภาษามลายู แปลว่า ไม้ไผ่ค่ะ เป็นที่มาของสัญลักษณ์เมืองเบตงด้วย ก็เลยใช้ไม้ไผ่มาก่อเป็นเสาที่ว่านี่ล่ะค่ะ

แต่ว่า พวกเราก็ได้แต่ถ่ายรูปอยู่ด้านหน้านะคะ ด้านในยังเข้าไม่ได้เด้อ

ไปต่อกันที่วัดอีกซักวัดค่ะ เป็นวัดที่ใหญ่มาก ตอนที่เคโกะทำคลิปลงยูทูปถึงกะมึนอะ ว่าชั้นจะต้องเรียงลำดับยังไงก่อนนนน 5555

พอมาเตรียมรูปเขียนบล็อกนี้ก็มึนอยู่ดีค่ะ ชั้นจะเอารูปไหนมาลงงงง 555

Spot name : วัดพุทธาธิวาส
Location : อ.เบตง จ.ยะลา
Google maps : https://goo.gl/maps/DrnR36rqDuof5XBAA
Entrance fee : free
Opening hours : 7.00 – 18.00
Visited date : 5 Mar 2022

จุดที่รถตู้จอด เข้าใจว่าน่าจะเป็นด้านหลังมั้งนะคะ ลงจากรถตู้มา เดินมาอีกนิดหน่อยก็เจอต้นไม้ต้นนี้ เป็นต้นจำปีที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ ทรงปลูกไว้ค่ะ

วัดพุทธาธิวาสเป็นพระอารามหลวงขนาดใหญ่เลยค่ะ องค์พระธาตุเจดีย์ใหญ่มาก ด้านบนมีพระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ด้วย (พยายามถ่ายมานะ แต่คนเยอะ แล้วแสงไม่เยอะพอค่ะ เบลอไปเลย 555)

ความที่วัดตั้งอยู่บนเนินเขา พอเดินมาด้านหน้าที่ติดกับถนนใหญ่ ก็จะเหมือนเดินลงเขามาด้วย เลยมีมุมสูงอะไรแบบนี้ให้มองค่ะ ด้านหน้าก็คือวิวตัวเมืองเลย แล้วก็จะเห็นด้วยว่า พื้นที่วัดจะมีพื้นที่ที่ใหญ่มากจริง ๆ ค่ะ

แล้วนอกจากนี้ก็ยังมีวิหารหลวงปู่เหยียบน้ำทะเลจืด วิหารพระครูพิศิษฐ์อรรถการอยู่ในบริเวณใกล้เคียงด้วยค่ะ (ก็คือเดินลงมาจากพระธาตุเจดีย์นั่นล่ะ)

เดินไล่เรียงมาเรื่อย ๆ จนมาสิ้นสุดที่พระพุทธะรรมกายมงคลปยุรเกศานนท์สุพพิธาน เป็นพระพุทธรูปสำริดองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยค่ะ

มาถึงตรงนี้ คณะทัวร์ก็เริ่มเหนื่อยและเพลียแดดกันละ แต่ยังไม่จบค่ะ เรายังไปต่อกันอีก ไปตะลุยสตรีทอาร์ทในเมืองเบตงกัน

ความที่สตรีทอาร์ทหรือกราฟิตี้ในเมืองเบตงมีเยอะมากกกกก เคโกะเลยขอไม่ปักหมุดไว้แล้วกันนะคะ ^^”

แปะยาว ๆ ไปเลยน้าาา

แล้วเราก็มาสิ้นสุดกันที่รูปปั้นไก่เบตงค่ะ ตรงบริเวณสมาคมพ่อค้าจังหวัดยะลา (เบตง) ค่ะ

Spot name : รูปปั้นไก่เบตง
Location : อ.เบตง จ.ยะลา
Google maps : https://goo.gl/maps/Qsay7qBfXWVgwJS87
Entrance fee
: free
Opening hours : always open
Visited date : 5 Mar 2022

นอกจากรูปปั้นไก่เบตงแล้ว ก็มีพวกกราฟิตี้/สตรีทอาร์ทด้วย มีรูปปั้นไดโนเสาร์ด้วยค่ะ ถ่ายเล่นได้เพลิน ๆ ดี

แล้วก็ได้เวลาข้าวเที่ยงแล้วค่ะ เป็นร้านอาหารร้านนึง ที่ไม่ได้ถ่ายชื่อร้านมา ฮาาาา

จัดมาเป็นเซ็ทเต็มโต๊ะเช่นเคย มีไก่เบตงขึ้นเสิร์ฟอีกแล้ว แต่ผู้ใหญ่ร่วมทัวร์หลายคนก็บ่นกันบ้างแล้วว่าเบื่อไก่เบตงแล้วค่ะ เสร็จสายกินเนื้อสัตว์แบบเคโกะไปนะคะ 5555

แต่ร้านนี้ ลุง ๆ ป้า ๆ ในกรุ๊ปลงความเห็นว่าไก่เบตงอร่อยกว่าร้านเมื่อคืนค่ะ ส่วนใหญ่ค่อนข้างจะเทไปในแนวว่าร้านเมื่อคืนไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่นัก แต่ส่วนตัวเคโกะเองก็ว่าไม่ได้แย่ค่ะ

ทานอิ่มแล้วไปต่อกันอีกซักจุด ก่อนที่จะขออนุญาตตัดตอนในโพสต์นี้ไว้ก่อนนะคะ

Spot name : ใต้สุดแดนสยาม / ด่านศุลกากรเบตง / ด่านพรมแดนเบตง
Location : อ.เบตง จ.ยะลา
Google maps : https://goo.gl/maps/33gnZS6MNAqiHjw19
Entrance fee
: free
Opening hours : 7.00 – 22.00
Visited date : 5 Mar 2022

เคโกะไม่รู้นะคะว่าถ้าเป็นสถานการณ์ปกติแล้วจะยังสามารถเข้า-ออกได้แบบนี้ไหม //แอบคิดว่าก็ได้แหละ แค่คนเยอะหน่อย

เพราะตรงนั้นอะมันคือด่านตรวจคนเข้าเมืองไทย (เบตง) – มาเลเซียเลยค่ะ

ความที่เป็นด่านตรวจเนอะ เคโกะเลยไม่กล้าถ่ายรูปมาเยอะ เอาเฉพาะที่เป็นจุดถ่ายรูปกันจริง ๆ พอค่ะ แหะๆ

ตรงนั้นก็จะมีป้ายที่บอกว่าเป็นจุดใต้สุดแดนสยาม แล้วเราก็จะเห็นประตูข้ามพรมแดนไทย-มาเลย์ด้วย ซึ่งถึงแม้ว่าประตูจะเปิดอยู่ แต่ก็ข้ามไปไม่ได้นะคะ

แล้วก็จะขอตัดตอนไว้ตรงนี้ค่ะ ไปต่อตอนที่ 2 น้าาาาา
https://web.facebook.com/thisiskeigo

[Songkhla+Betong] Hotel

สวัสดีค่ะ ทริปดอง ๆ มาอีกทริปแล้วค่ะ ทั้ง ๆ ที่ก็ไปมาเมื่อเดือนมีนาแล้วนะ แถมก็ว่าง ๆ อยู่ด้วยค่ะ แต่ก็ยังจะดองไว้ซะงั้น 5555

โพสต์นี้ขอมัดรวมโรงแรม 2 ที่เข้าด้วยกันเลยนะคะ เพราะเป็นทริปเดียวกันค่ะ เคโกะไปกับกรุ๊ปทัวร์ บินลงหาดใหญ่ พัก 1 คืน แล้วนั่งรถไปเบตง อยู่ที่เบตงอีก 2 คืนค่ะ

เริ่มจากโรงแรมแรกที่หาดใหญ่กันก่อนเลยนะคะ

Hotel name : Golden Crown Grand Hotel
City : อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
Location : https://goo.gl/maps/dNhbfYoNxrtKbU2P7
Booking via
: Tour
Room type : N/A (Twin bedroom)
Room rate : N/A
Check-in date : 3 – 4 Mar 2022, 1 night
Facebook page : https://web.facebook.com/GoldenCrownGrand/
Website
: https://www.goldencrowngrandhotel.com/index.html

จุดเด่นของที่นี่ก็คือ ใกล้ตลาดกิมหยงมาก ๆ ค่ะ เดินไปซัก 5 นาทีอะไรงี้ค่ะ สะดวกมาก เหมาะกับสายช้อปปิ้งเลยค่ะ แต่ตัวโรงแรมนั้นออกจะดูเก่าไปหน่อยค่ะ

เคโกะรับคีย์การ์ดมาจากไกด์แล้วก็เข้าห้องพร้อมกับพี่ที่ไปด้วยกันนะคะ เปิดประตูเข้าไปก็จะมีตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งที่ไม่มีเก้าอี้อยู่ทางซ้ายมือเลยค่ะ

เคโกะก็งง ๆ อยู่ หน้าตาเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง แต่ไม่มีเก้าอี้ให้ คือต้องยืนแต่งหน้าเหรอคะ 5555

ส่วนทางขวามือก็จะเป็นห้องน้ำค่ะ เดี๋ยวเราค่อยมาดูกันทีหลังนะคะ

พอเดินผ่านตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง (ที่ไม่มีเก้าอี้) มาแล้วก็จะเจอกับเตียงนอนค่ะ เราได้ห้องแบบ twins ก็คือเป็นเตียงเดี่ยวสองเตียงค่ะ

ส่วนตัวก็โอเคนะกับเป็นเตียง twins แบบนี้อะค่ะ คือ ก็เหมาะกับใครที่ไม่ได้มากับคนในครอบครัวเนอะ ไรงี้ค่ะ

ซึ่งดูจากห้อง จากเตียง การตกแต่งอะไรต่าง ๆ แล้ว ก็ให้ฟีลโรงแรมเก่าสมัยก่อนไรงี้เลยค่ะ

ส่วนอีกฟากนึงของห้อง มีโซฟาสีแดงเขียวที่ดูงุนงง ดูไม่ค่อยเข้ากับห้องเท่าไหร่วางอยู่ ก็เป็นที่เคโกะมานั่งกินหนมอะไรตรงนี้ก่อนเข้านอนค่ะ ฮาาา

ส่วนตรงข้ามปลายเตียง ก็จะเป็นโต๊ะทำงาน ทีวี และตู้เย็นมินิบาร์ค่ะ

ยังดีที่โต๊ะทำงานมีเก้าอี้ให้ ไม่เหมือนโต๊ะเครื่องแป้ง เอ๊ะ หรือเค้าให้ยกเก้าอี้จากโต๊ะทำงานไปไว้ตรงโต๊ะเครื่องแป้งกันน้าาา

ส่วนในห้องน้ำนั้น ก็มีอ่างอาบน้ำด้วยค่ะอยู่ติดกับอ่างล้างหน้าเลย

แต่นอกจากอ่างอาบน้ำแล้ว ก็มีที่อาบน้ำส่วนเปียก เป็นชาวเวอร์แคบ ๆ ให้ด้วยค่ะ ซึ่งก็มีม่านกั้นกันน้ำกระเซ็นให้ด้วย เคโกะว่าก็โอเคอยู่น้าาา

ส่วน amenities ที่ให้มาก็จะวางอยู่ข้าง ๆ อ่างล้างหน้าค่ะ ก็ตามพื้นฐานของโรงแรมทั่วไปเนาะ

ก็ประมาณนี้ล่ะค่ะ สำหรับส่วนตัวแล้ว :-

  • ใกล้ตลาดกิมหยงชนิดเดินไปได้ค่ะ สะดวกและเหมาะกับขาช้อปปิ้งที่ตลาดกิมหยงค่ะ
  • มีไวไฟบริการด้วยค่ะ
  • ตัวโรงแรมและห้องพักค่อนข้างเก่า ลิฟท์เก่าและแคบค่ะ มีแค่ 2 ตัวด้วย ค่อนข้างช้า ในช่วงเวลาพีค ๆ น่าจะต้องรอนานนิดนึงค่ะ
  • ยังคาใจอยู่กับโต๊ะเครื่องแป้งค่ะ เก้าอี้หายไปไหน ? หรือต้องยกเก้าอี้ที่โต๊ะทำงานมาใช้ หรือให้ยืนแต่งหน้าคะ 555

นอกจากเรื่องทำเลที่ยอดเยี่ยมแล้ว ที่เหลือเคโกะก็เฉย ๆ ค่ะ

ไปต่อที่โรงแรมที่สองในเบตงเลยนะคะ ไกด์บอกมาว่าเป็นโรงแรมเก่าแก่ที่มีชื่อที่สุดในเบตงค่ะ

Hotel name : Grand Mandarin Betong Hotel / โรงแรมแกรนด์แมนดารินเบตง
City : อ.เบตง จ.ยะลา
Location : https://goo.gl/maps/V3RpsGgF6XfMiXLy8
Booking via
: Tour
Room type : N/A (Twin bedroom)
Room rate : N/A
Check-in date : 4 – 6 Mar 2022, 2 night
Facebook page : https://web.facebook.com/grandmandarinbetong/
Website
: http://www.mandarinbetong.co.th/

ก็ดูเป็นโรงแรมที่ใหญ่ค่ะ และดูเหมือนเป็นโรงแรมที่ทัวร์นิยมใช้บริการด้วย เพราะเจอกรุ๊ปทัวร์มาพักที่นี่กันหลายกรุ๊ปเลยล่ะค่ะ

ส่วนตัวก็ยังรู้สึกว่าเป็นโรงแรมที่เก่าแก่จริงค่ะ ยังสัมผัสได้ถึงความเก่าไรงี้อยู่นะคะ

ห้องพักที่ได้ก็เป็นห้องแบบเตียง twins เช่นเดิมค่ะ

อีกฟากนึงของห้อง เป็นโซฟานั่งเล่นอีกแล้ว พร้อมม่านหน้าต่างที่ทึบแสงค่ะ ปิดทีคือมืดเลย

บริเวณหัวเตียงมีโทรศัพท์ภายใน และมีเครื่องควบคุมแบบนี้อยู่ ซึ่งเข้าใจว่ามีแต่โรงแรมสมัยก่อนเท่านั้นนะคะที่จะนิยมใช้กัน เดี๋ยวนี้ไม่มีใช้กันแล้วค่ะ

ผังห้องก็จะแนว ๆ โรงแรมสมัยดั้งเดิมอะนะคะ ตรงข้ามปลายเตียงก็จะเป็นโต๊ะทำงาน ทีวี ไรงี้ค่ะ

ติด ๆ กัน ขยับไปทางหน้าห้องก็จะเป็นมินิบาร์และตู้เสื้อผ้าค่ะ เคโกะแง้มประตูตู้เสื้อผ้าให้ดูด้านในด้วยนะคะ มีไม้แขวนเสื้อไว้ให้ใช้ด้วยค่ะ

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ปลั๊กบางจุดก็จะเป็นปลั๊กสามขาแบบที่ใช้กันในมาเลย์เซียและสิงคโปร์ค่ะ //เห็นแล้วคิดถึงสิงคโปร์มากเลย T.T

ตรงข้ามกับตู้เสื้อผ้าก็คือห้องน้ำนั่นเองค่ะ เป็นห้องน้ำที่มีขนาดใหญ่มากกกก และมีอ่างอาบน้ำให้ใช้อีกเช่นเคยค่ะ และก็อีกเช่นกันที่นอกจากอ่างอาบน้ำแล้ว ก็มีที่อาบน้ำแบบชาวเวอร์ด้วยเช่นกัน แต่ม่านกั้นนั้น เคโกะกลับรู้สึกว่าไม่ค่อยพอดีนักค่ะ กันได้ไม่ 100% เลย

ก็คือ เข้าห้องน้ำมา อ่างอาบน้ำอยู่ซ้ายมือค่ะ ตรงหน้าเป็นอ่างล้างหน้า ทางขวามือก็จะเป็นที่อาบน้ำแบบชาวเวอร์ยืนอาบ มีม่านกั้นไรงี้ และโถสุขภัณฑ์ค่ะ

ส่วน amenities ก็จัดใส่กระจาดมาให้ วางไว้อยู่ที่เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าเลยค่ะ

แต่ในส่วนห้องน้ำนี้ เคโกะเจอเรื่องอึ้งไปนิดหน่อยเหมือนกัน ก็คือตอนที่เข้าห้องมา เคโกะก็เดินไปใช้ห้องน้ำค่ะ ปรากฎว่าน้ำในโถชักโครก (ก่อนเคโกะใช้งาน และพี่คนที่ไปด้วยกัน ยังไม่ได้ใช้นะคะ) เป็นน้ำสีขุ่น คล้ายมีคนใช้แต่ไม่ flush อะค่ะ ><~ แอบสยองเล็กน้อย แต่ก็คิดว่าเป็นเพราะโควิด เลยทำให้ห้องพักไม่ค่อยได้ใช้งานหรือเปล่านะ ไรงี้ ซึ่งเคโกะก็กด flush ไป ก็ปกติค่ะ

ส่วนอาหารเช้านั้น เป็นไลน์บุฟเฟ่ต์ค่ะ มีอาหารหลากหลายชนิดให้เลือกตักทานเลย

แต่ก็แน่นอนว่า สำหรับเคโกะผู้ซึ่งกลายเป็นคนทานยากไปแล้ว (555) ก็ตักทานได้ประมาณนี้ค่ะ ไม่ได้อิ่มหรอกนะ ทาน ๆ ไปอย่างนั้นแหละค่ะ T.T

ส่วนบะหมี่เบตงก็ตักมาชิมสองคำให้พอรู้รสชาติเฉย ๆ ไม่ได้อยากทานเท่าไหร่ค่ะ

โดยสรุปส่วนตัวแล้วกับที่นี่นะคะ :-

  • เป็นโรงแรมเก่าแก่ ที่ก็ยังคงเก่าอยู่ค่ะ การตกแต่งอะไรหลาย ๆ อย่างในโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นห้องพักหรือส่วนกลาง เช่นห้องอาหารไรงี้ก็ดี เข้าไปใช้แล้วได้ฟีลโรงแรมยุคก่อนค่ะ
  • มี morning call ด้วยค่ะ เข้าใจว่าไกด์คงจัดการให้ ก็จะโทรมาปลุกเราตอนเช้าไรงี้ ฟีลโรงแรมสมัยก่อนมาก ๆ เลยค่ะ ><~ ไม่ได้เจอนานมากแล้ว
  • เคโกะแอบติดใจนิดหน่อยตรงห้องน้ำค่ะ ถ้าจำไม่ผิด เหมือนตรงที่อาบน้ำจะแคบ ๆ ไปหน่อย แล้วน้ำฝักบัวก็แปลก ๆ ด้วย รวมไปถึงม่านที่กั้นกันน้ำกระเซ็นก็ไม่ค่อยเต็มหรือป้องกันน้ำกระเซ็นได้สักเท่าไหร่ค่ะ ก็ยังคงกระเซ็นเปียกส่วนแห้งอยู่ดี
  • อาหารเช้าหลากหลายจริงค่ะ //ส่วนตัวทานยาก หลากหลายแล้วก็ทานอะไรไม่ค่อยได้อยู่ดีค่ะ T.T
  • โลเคชั่นหรือทำเลดีมากเลยนะคะ ใกล้วงเวียนหอนาฬิกาและตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกค่ะ เดินนิดเดียวก็ถึงเลย จัดว่าสะดวกค่ะ รอบ ๆ ก็มีร้านค้า ร้านอาหาร มินิมาร์ทต่าง ๆ ด้วย

ส่วนตัวก็รู้สึกว่าเฉย ๆ ค่ะ ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ได้ประทับใจว้าวอะไรเท่าไหร่ค่ะ

แล้วจะรีบกลับมาโพสต์ทริปนี้ต่อนะคะ
https://web.facebook.com/thisiskeigo