[Pattani-Yala] Pattani – Yala

สวัสดีค่ะ ยังอยู่กับทริปเบตงนะคะ โพสต์นี้เป็นการเที่ยวรายทางระหว่างหาดใหญ่ – เบตงค่ะ ซึ่งเดินทางด้วยรถตู้ของทัวร์ ไปทางจ.ปัตตานีและเข้าจ.ยะลาค่ะ

หลังจากออกจากหาดใหญ่มุ่งหน้าเข้าสู่จ.ปัตตานีแล้ว ก็เดินทางไปอีกไกลพอควรเลยค่ะ กว่าจะมาถึงจุดหมายแรก

Spot name : ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว
Location : อ.เมือง จ.ปัตตานี
Google maps : https://goo.gl/maps/BQGj6uZ5ks6S99vY8
Entrance fee
: free
Opening hours : 6AM – 5PM
Visited date : 4 Mar 2022
Facebook : https://web.facebook.com/Lengchukiang

ที่จอดรถจะอยู่ตรงข้ามกับศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวค่ะ มีอัฒจรรย์เก๋ ๆ ให้ถ่ายรูปด้วย เสียดายที่มีรถตู้มาบัง 555

แล้วใกล้ ๆ กับที่จอดรถก็จะมีศาลเจ้าเล็ก ๆ อยู่ ตรงนี้คือ 天地父母 แปลตรงตัวคือ ฟ้าดินพ่อแม่ หมายความถึง วิญญาณบรรพบุรุษ ทำนองนี้ค่ะ ถือเป็นสิ่งแรกที่ต้องกราบไหว้ก่อน จากนั้นถึงค่อยไปไหว้ทวารบาล ที่ตรงประตูศาลเจ้าอะค่ะ

ส่วนข้าง ๆ ศาลเจ้า ก็จะเป็นพิพิธภัณฑ์ค่ะ น่าเสียดายที่เพราะสถานการณ์โควิด เลยทำให้ถูกปิดไว้ ไม่ให้เข้าชม

จริง ๆ แถว ๆ นี้ มีสตรีทอาร์ทหรือกราฟิตี้ที่สวย ๆ ด้วยนะคะ รวมไปถึงเมืองเก่า ตึกรามบ้านช่องที่ดูเป็นทรงโบราณ เคโกะว่าสวยดี นั่งรถผ่านก็เห็น แต่เสียดายที่ทัวร์ไม่ได้แวะให้เราค่ะ

รูปนี้เป็นลองสอดส่องในซอยศาลเจ้าแม่นี่ล่ะค่ะ ที่เคโกะว่าก็อยู่ไม่ได้ไกล area นี้เท่าไหร่ //แอบไปซูมในแม็พมา คือแถบ ๆ กือดาจีนอ ค่ะ

ส่วนการไหว้เจ้าในศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวนั้น ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรค่ะ เข้าไปด้านในจะมีเคาน์เตอร์ขายธูปหรือพวกสิ่งไหว้เจ้าอยู่แล้ว มีทั้งชุดเล็ก ชุดใหญ่ ก็แล้วแต่ศรัทธาเลยค่ะ

แล้วจากนั้นก็จะมีพนักงานของศาลเจ้าคอยแนะนำให้เราไหว้ตามลำดับค่ะ แต่ก็จะมีป้ายหมายเลขกำกับอยู่แล้วว่าโต๊ะไหนก่อนหลังอะไรงี้ จะวน ๆ ไปรอบศาลเจ้าเลยค่ะ

ในศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวนั้นคือคนเยอะมากเวอร์ ก็ระมัดระวังกันด้วยนะคะ

จากนั้นเราก็ไปต่อที่วัดช้างให้ค่ะ

Spot name : Wat Chang Hai Rat Buranaram / วัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม
Location : อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
Google maps : https://goo.gl/maps/e5Tu9MHbSqoEBQra6
Entrance fee : free
Opening hours : 8AM – 4PM
Visited date : 4 Mar 2022

วัดนี้ก็จะโดดเด่นที่มีพระธาตุเจดีย์ที่สวยงามมาก ๆ และมีความสำคัญคือเป็นวัดที่หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดเป็นเจ้าอาวาสเป็นรูปแรกของวัดแห่งนี้ด้วยค่ะ

มีองค์จำลองขนาดเท่าของจริงอยู่ด้วยนะคะ

ไกด์แนะนำให้เรากราบไหว้กันก่อน แล้วค่อยออกไปด้านหน้าวัดค่ะ จะมีลอดท้องช้างตามความเชื่ออยู่

ใกล้ ๆ กับที่ลอดท้องช้างนี่ล่ะค่ะ จะมีหลวงปู่ทวดขนาดเท่าของจริงประดิษฐานอยู่

แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เคโกะสนใจก็คือ วัดนี้มีสถานีรถไฟอยู่ใกล้ ๆ อยู่หน้าวัดด้วยนะคะ เป็นสถานีรถไฟวัดช้างให้ค่ะ

เคโกะกับพี่ก็ถ่ายรูปเล่นกันแถวรางรถไฟนี้อยู่นานเลย ก็มุมเก๋ ๆ ดีน้าาาา แถมเคโกะยังได้ถ่ายวิดีโอรถไฟออกจากสถานีด้วยค่ะ //ฟีลเวลาเราไปญี่ปุ่นแล้วถ่ายรถไฟออกจากสถานีไรงั้นอะค่ะ แหะๆ

นอกจากนี้ ตรงหน้าวัดก็จะมีร้านค้าต่าง ๆ ในนี้จะมีร้านกล้วยทอดร้านหนึ่งที่ไกด์แนะนำว่าอร่อยมาก ๆ หาทานได้เฉพาะที่นี่เท่านั้นอะไรงี้ค่ะ แต่เคโกะจำไม่ได้แล้วนะว่าคือกล้วยพันธุ์อะไรค่ะ

จากนั้นเราก็ไปทานข้าวกันค่ะ เป็นร้านลุงดำ ก็เข้ามาในจ.ยะลาแล้วล่ะค่ะ

Restaurant name : ครัวลุงดำ
Google maps : https://goo.gl/maps/omQjJHAsfe3mHuWGA
Parking lots
: Yes
Location : อ.เมือง จ.ยะลา
Opening hours : 10.30AM – 8.30PM
Visited date : 4, 6 Mar 2022

เราแวะร้านนี้กัน 2 รอบเลยค่ะ ทั้งขาไปก่อนเข้าเบตง และขากลับ หลังจากที่ออกจากเบตงแล้วค่ะ

ที่จอดรถจะอยู่ในซอยข้างร้านค่ะ และมีทางเข้าด้านหลังด้วย

ความที่ไปเป็นกรุ๊ปทัวร์เนาะ ก็เลยจะกับข้าวอลังการกันหน่อยค่ะ

ส่วนอีกมื้อนึงในวันกลับนั้นก็หน้าตาประมาณนี้

ส่วนตัว ก็รู้สึกว่า อร่อยเป็นบางอย่างค่ะ บางอย่างก็เค็มไป แต่ถ้าเป็นอาหารรสเผ็ดก็จะเผ็ดตามสไตล์อาหารใต้ค่ะ จะหนักเผ็ดเป็นพิเศษ ถ้าทานเผ็ดไม่เก่ง อาจจะต้องขอให้ลดลง อะไรงี้นะคะ

โดยรวม ก็ไม่ได้จัดว่าแย่ค่ะ

จากนั้น ก็ไปพักรถที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งที่อ.ธารโต ในเขตจ.ยะลา ซึ่งเป็นอำเภอที่ติดกับเบตงแล้วค่ะ ไกด์จะบอกเลยว่าเป็นปั๊มสุดท้ายแล้วก่อนที่จะยาวไปเบตงและไม่มีปั๊มให้แวะเข้าห้องน้ำอีก เพราะฉะนั้น ปั๊มนี้ก็จะเป็นอะไรที่คนเยอะ รถเยอะมาก ๆ ค่ะ

ในปั๊มเอง มีจุดถ่ายรูป (?) ด้วยอยู่ 2 จุด ก็คือ ด้านหน้าปั๊ม เป็นรูปปั้นชาวซาไก ซึ่งเข้าใจว่าอาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ค่อนข้างเยอะ

และอีกจุดนึงจะอยู่ด้านในสุดเลยค่ะ เป็นหุ่นไก่เบตงตัวใหญ่ ขาไปก็จัดว่าเป็นไก่เบตงตัวแรกที่เราจะเจอค่ะ

พักผ่อนกันตามอัธยาศัยเสร็จแล้ว ก็ไปต่ออีกจุดนึงก่อนเข้าเบตง

ตรงนี้ตอนแรก เคโกะเข้าใจว่าคือจุดชมวิวเขื่อนบางลาง แต่พอไปดูในแม็พ น่าจะเป็น สะพานโต๊ะกูแช สะพานข้ามทะเลสาบป่าฮาลาบาลา มากกว่าค่ะ ดูเป็นเส้นทางเดียวกันเข้าเบตง ไม่ต้องวนแวะที่ไหนอีก

Spot name : สะพานโต๊ะกูแช สะพานข้ามทะเลสาบป่าฮาลาบาลา / เขื่อนบางลาง
Location : อ.ธารโต จ.ยะลา
Google maps : https://goo.gl/maps/eREzhc6cA1M26mbx6
Entrance fee : free
Opening hours : Always open
Visited date : 4 Mar 2022

ก็คือเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเลยค่ะ ก็จอดริมถนนแล้วลงไปถ่ายรูป ชมวิวกันดื้อ ๆ แบบนั้นเลย

ถามว่าสวยมั้ย ก็คือสวยค่ะ

แต่พอเคโกะไปซูมแม็พดู (อีกแล้ว //มาเขียนบล็อกแล้วซูมแม็พประกอบเยอะเลยค่ะ แหะๆ) ก็รู้สึกว่าระแวกนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่น่าสนใจมาก ๆ ค่ะ น่าเสียดายอีกแล้วที่เราไม่ได้แวะเที่ยวกัน

เคโกะว่ามันควรต้องมาเองจริง ๆ อะ

สำหรับทริปเบตงนี้ก็จะทิ้งไว้ตรงนี้ก่อนนะคะ โพสต์หน้าจะพาเที่ยวเบตงแล้ว ซึ่งรูปเยอะอะ จะ split เป็น 2 ตอนค่ะ
https://web.facebook.com/thisiskeigo

[Nakhon Nayok/Nakhon Ratchasima] Khao Yai

สวัสดีค่ะ มาเคาะโหลดองออกอีกแล้ววว 55555 เป็นทริปปุบปับที่พี่ที่ออฟฟิศชวนไป จริง ๆ คิดเป็นคอนเทนต์อะไรเวอร์วังมากเลยนะ เพราะในทริปมีคนต่างชาติไปด้วย แต่ก็แบบ เอ่อ … สุดท้ายก็ไม่ได้ทำอย่างที่คิดไว้ค่ะ ฮาาาาาา

ก่อนที่จะไปถึงเขาใหญ่ เราก็แวะที่จุดหมายแรกก่อน ก็คือเขื่อนขุนด่านปราการชลค่ะ

Spot name : เขื่อนขุนด่านปราการชล / Khun Dan Prakarnchon Dam
Location : อ.เมือง จ.นครนายก
Google maps : https://goo.gl/maps/5rAeyBnMZckqpT9b8
Entrance fee
: free
Opening hours : 7AM – 5PM
Visited date : 5 Feb 2022
Facebook : https://web.facebook.com/KhunDanPrakarnchonDam/

ขับรถวนไปแปะสติ๊กเกอร์เพื่อคัดกรองกันก่อน รถก็ต้องแปะด้วยค่ะ 55555 เอ็นดู~

แล้วก็วนรถขึ้นไปด้านบนเพื่อลงเรือล่องในเขื่อนค่ะ เรือที่นำเที่ยวในเขื่อนนั้นจะมีสองแบบ คือแบบเหมาลำ ลำนึงประมาณ 7 คนค่ะ ราคาเหมาลำประมาณ 1500 บาท กับอีกแบบนึงคือแบบจอยกรุ๊ป คิดเป็นราคาต่อหัว คนนึงน่าจะประมาณ 200 บาท และมีราคาคนต่างชาติด้วยค่ะ แต่แบบจอยกรุ๊ปก็จะมีเวลารอบเรือด้วยอะนะคะ

ความที่เรามีคนต่างชาติในกรุ๊ป ก็เลยเหมาลำไปค่ะ จากนั้นเค้าก็จะบอกเบอร์เรือมาให้ และให้เราเดินไปรอที่ท่าเรือได้เลย

แล้วก็นั่งเรือออกไปค่ะ เค้าจะพาไปชมน้ำตก 3 แห่งด้วยกัน

สำหรับน้ำตกจุดแรกก็คือ น้ำตกผางามงอนค่ะ จากจุดที่เรือจอดให้ลง ก็เดินเข้าไปอีกประมาณนึง แต่ระหว่างทางนั้นค่อนข้างลำบากอยู่บ้าง มีต้องไต่เชือกด้วยค่ะ ก็ต้องฟิตร่างกายมาประมาณนึงด้วยนะ กำลังแขนขาควรต้องดีค่ะ

รูปบนนี่คือปีนขึ้นมาประมาณนึงแล้วหันกลับไปนะคะ ก็วิวสวยดีอยู่

แต่น่าเสียดายที่ว่า พอเรามาถึงน้ำตกแล้วอะ เป็นช่วงที่น้ำแห้งค่ะ คือน้ำตกไม่มีน้ำเลยยยยยย T.T

แต่ก็ยังวนเวียนหามุมถ่ายรูปกันได้อยู่พักใหญ่ แล้วจึงเดินกลับไปขึ้นเรือ ไปต่อยังน้ำตกแห่งที่สองค่ะ

น้ำตกจุดที่สองนี้มีชื่อว่า น้ำตกคลองคราม ส่วนตัวให้เป็นน้ำตกที่เดินง่ายที่สุดใน 3 จุดตรงนี้เลยค่ะ

ลงเรือแล้วหันกลับมาก็จะประมาณนี้

เดินง่าย เดินไปไม่ไกลมากก็จะเจอกับน้ำตกแล้วค่ะ

แล้วก็ไปต่อที่น้ำตกจุดที่สามค่ะ

น้ำตกแห่งที่สามชื่อว่า น้ำตกช่องลม ค่ะ เดินจากจุดที่ลงเรือมาค่อนข้างไกลและเดินยากพอสมควรเลย บางจุดมีไต่เชือก มีปีนป่ายเยอะพอสมควรเลยค่ะ แต่ว่าเคโกะก็รู้สึกว่าสวยที่สุดใน 3 แห่งนี้เลยนะคะ

ช่วงต้น ๆ ยังพอเดินง่ายอยู่ เหมือนให้ตายใจ ฮาาา

นอกจากไต่เชือกแล้ว ก็มีสะพานไม้ให้เดินด้วย ซึ่งเราจะไปทางอื่นก็ได้ แต่ก็จัดว่าทางวิบากเลยค่ะ

พอเดินลุย ๆ ปีนป่ายกันมาเรื่อย ๆ จนถึงน้ำตกแล้ว ก็หายเหนื่อยได้นิดนึงล่ะค่ะ ก็สวยอยู่ ขนาดมาช่วงแล้งน้ำนะคะเนี่ย

น้ำตกจะอยู่ทางขวามือในรูปนะคะ วัดแสงแย่แล้วทำให้น้ำตกขาวโพลนเวอร์ไปเลย T.T

เสร็จแล้วก็เดินกลับมาลงเรือ เค้าก็จะพากลับมาส่งที่เดิมค่ะ ใช้เวลาเบ็ดเสร็จประมาณ 2-3 ชม.ได้ค่ะ

รูปเขื่อนอีกซักรูปนะคะ

จากนั้นเราก็ออกไปหาข้าวทานกัน ซึ่งระหว่างทางก่อนเข้ามาถึงเขื่อนขุนด่านฯ เนี่ย เราเจอกับร้านอาหารเต็มสองข้างทางเลยล่ะค่ะ ก็เลยขับออกไปตรงช่วงนั้น แล้วสุ่ม ๆ ไปซักร้านนึง ก็ได้เป็นร้านส้มตำไก่ย่างสไตล์อีสานมา

โดยรวมแล้วคืออร่อยดีเลยนะคะ ไม่รู้ว่าพวกเราหิวมากด้วยรึเปล่า 55555

ข้อเสียคือมีแมลงวันอยู่บ้างค่ะ

สนนราคาอาหารรวม 840 บาท สำหรับ 4 คน ก็ถือว่าโอเคอยู่น้าาาาา

จากนั้นเราก็ดิ่งไปที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ค่ะ ไปจุดกางเต็นท์ คืนนี้เราจะนอนเต็นท์กัน อิอิ

วันที่ไป เขาใหญ่เปิดจุดกางเต็นท์เพียงแค่จุดเดียว คือตรงลำตะคองค่ะ

Spot name : สถานที่กางเต็นท์ลำตะคอง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ / Khao Yai National Park
Location : อ.เมือง จ.นครนายก
Google maps : https://goo.gl/maps/DArLuapap3DxdYco9
Entrance fee
: 40 บาท/คน, รถยนต์ 50 บาท
Opening hours : 6AM – 6PM
Visited date : 5-6 Feb 2022
Facebook : https://web.facebook.com/KhaoYaiNationalPark1962
Website
: https://www.khaoyainationalpark.com/

พอจะเข้าเขตลานกางเต็นท์ก็จะมีเต็นท์ของเจ้าหน้าที่เป็นจุดตรวจคัดกรองค่ะ นอกจากฉีดวัคซีนครบตามที่กำหนดแล้วก็ต้องมีผล ATK เป็น negative ใน 72 ชม.ด้วย หรือซื้อเพื่อตรวจตรงนั้นก็ได้ค่ะ กรุ๊ปเคโกะก็ซื้อตรวจกันไปสวย ๆ ผ่านยกแก๊งค์ค่ะ

ที่ทำการของเจ้าหน้าที่มีอุปกรณ์ให้เช่าครบทุกอย่างเลยค่ะ สามารถติดต่อเพื่อทำการขอเช่าได้เลย เค้าก็จะขอบัตรประชาชนไว้ แล้วจะคืนให้ตอนที่เราเอาของมาคืนค่ะ

ณ วันที่ไป เค้าไม่ให้เช่าเตาเพื่อทำอาหารใด ๆ ทั้งสิ้นนะคะ รวมถึงไม่อนุญาตให้ประกอบอาหารในพื้นที่กางเต็นท์ด้วยค่ะ

แต่เคโกะก็เดินผ่านเต็นท์คนอื่น เห็นเค้าก็มีเตาส่วนตัวมาทำอาหารเองอยู่นะ ?

พอเย็นหน่อย ก็เจอน้องกวางออกมาทักทายค่ะ กรี๊ดกร๊าดกันไป ไม่เคยเจอแบบกระชั้นชิดแบบนี้มาก่อนเลย (มีใกล้กว่าในรูปนี้ด้วยนะ แต่ถ่ายไม่ทันค่ะ ใกล้ชนิดเดินมาข้าง ๆ เต็นท์เลยอะ)

เช้าวันถัดมา ตื่นเช้า แต่ก็ไม่ได้ออกมาเดินดูคุณพระอาทิตย์ขึ้นกะเค้าหรอกนะคะ อากาศดีจะตาย~ ช่างเหมาะกับการนอนที่สุด~ ฮาาา

ณ วันที่ไปนะคะ เช้าวันนั้นอากาศอยู่ที่ 18-19 องศาเท่านั้นค่ะ เย็นสบ๊ายยยย~

ก่อนที่จะไปไหนต่อ หลังจากที่พวกเราเก็บของ เก็บเต็นท์กันหมดแล้ว ก็แวะจิบกาแฟยามเช้ากันสักครู่และอ้อยอิ่ง ถ่ายรูปเล่นแถว ๆ นั้นอีกพักหนึ่งค่ะ

จากนั้นก็ล้อหมุน กระดึ๊บไปอีกนิดที่น้ำตกเหวสุวัตค่ะ เป็นน้ำตกที่สวยของเขาใหญ่ และเดินลงไปน้ำตกง่าย ไม่ได้ลำบากและไม่ไกลนักค่ะ

ซึ่งเอาจริง ๆ อะ ก็สามารถมองเห็นน้ำตกได้ตั้งแต่อยู่ด้านบนเลยค่ะ

ทางเดินเป็นขั้นบันไดพร้อมราวจับ เดินง่าย เดินลงไปเรื่อย ๆ ค่ะ แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว

ก็ต้องบอกย้ำอีกรอบเนอะว่าไม่ใช่ฤดูน้ำหลากค่ะ ก็เลยจะออกแล้ง ๆ น้ำน้อย ๆ หน่อยน้า

จากนั้นเคโกะก็ปีนป่ายก้อนหินไปเรื่อย ๆ จนลึกเข้าไปด้านในค่ะ ได้มุมนี้มา

เดินวนถ่ายรูปเล่นกันพักใหญ่มาก ๆ กว่าจะออกจากน้ำตกมากันได้ และก่อนที่จะออกจากเขาใหญ่ ก็แวะอ่างเก็บน้ำสายศรอีกที่นึงค่ะ ก็จะเป็นวิวอ่างเก็บน้ำ ทุ่งหญ้าไรงี้ ดูสงบ ๆ สบายตาดีค่ะ

Spot name : อ่างเก็บน้ำสายศร อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ / Khao Yai National Park
Location : อ.เมือง จ.นครนายก
Google maps : https://goo.gl/maps/gZaAhw4WehDo6mdf9
Entrance fee
: 40 บาท/คน, รถยนต์ 50 บาท
Opening hours : 6AM – 6PM
Visited date : 6 Feb 2022
Facebook : https://web.facebook.com/KhaoYaiNationalPark1962
Website : https://www.khaoyainationalpark.com/

(ค่าเข้าอุทยานนั้นจ่ายครั้งเดียวแล้วอยู่เที่ยวได้ทั้งอุทยานเลยนะคะ)

จากนั้นเราก็ออกไปหาข้าวกินกันค่ะ แล้วก็ไปต่อที่ไร่องุ่นปิดท้ายทริป ก่อนกลับเข้ากรุงเทพฯค่ะ

Spot name : Granmonte Vineyard and Winery / ไร่องุ่นกราน-มอนเต้
Location : อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
Google maps : https://g.page/granmonte?share
Entrance fee
: free
Opening hours : 7.30AM – 8PM
Visited date : 6 Feb 2022
Facebook : https://web.facebook.com/granmonte
Website
: http://www.granmonte.com/

จอดรถแล้ว สิ่งที่เตะตาก็คือมีช่องจอดรถชาร์จไฟฟ้าด้วยค่ะ

ทางไร่มีบริการรถพาทัวร์ไร่องุ่นด้วยนะ ซึ่งตอนที่ไปเนี่ย นอกจากพาทัวร์แล้ว ยังให้ตัดเก็บสด ๆ ได้ด้วย แต่ไม่ใช่องุ่นพันธุ์กินสดนะคะ เป็นพันธุ์ที่เอาไว้หมักไวน์เฉพาะ ซึ่งพวกเราก็ตกลงกันแล้วก็เลยว่าจะไม่ไปค่ะ เดินเล่นอยู่ต้นองุ่นด้านหน้าก็พอ ก็มีให้เดินถ่ายรูปเล่นแล้วค่ะ

ด้านหน้าร้านอาหาร ร้านค้าก็จะเป็นแปลงองุ่นที่เข้าได้ฟรีค่ะ มีพร็อพเก๋ ๆ ให้เราถ่ายรูปเล่นได้ด้วยล่ะ

แล้วก็มีร้านค้า ร้านอาหารด้วยค่ะ ในร้านค้าเองมีไวน์บางชนิดที่ขอชิมได้ด้วยนะคะ

เคโกะชิมขนมที่เป็นของฝากแล้วไม่ค่อยถูกใจเท่าไหร่ เลยถลาไปที่คาเฟ่ ได้ชาเขียวและคุกกี้ช็อคโกแลตมา ซึ่งคุกกี้นั้นเคโกะว่าอร่อยทีเดียวค่ะ รสไม่หวานกำลังดีค่ะ

ทั้งสองอย่างนี้ราคา 260 บาท แอบสูงไปนิดอยู่นะ

ทริปนี้ก็จะประมาณนี้ค่ะ เป็นการพักผ่อนต่างจังหวัดใกล้ ๆ กทม.ที่ไปกลับเสาร์อาทิตย์แบบไม่ได้เหนื่อยอะไรมากนักอะนะคะ

ทวงทริปที่ดองไว้ได้ทุกช่องทางนะคะ เคโกะก็ขยันเกิ๊น แตกออกไปแทบจะทุกแพลตฟอร์มแล้วค่ะ 55555 ทำเหมือนยอด follower หลักล้านงั้นแหละ 555555

แปะ ๆ ไปให้หมดดดด 555555
Facebook : https://web.facebook.com/thisiskeigo
Weblog : https://thisiskeigo.wordpress.com/
Instagram : https://www.instagram.com/this.is.keigo/
Twitter: https://twitter.com/thisiskeigo_tw
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCk9vjPH68aeBe5snkIaClYg

[Chiang Rai] In town, Chiang Rai

สวัสดีค่ะ ในตัวเมืองเชียงรายที่เด่น ๆ เคโกะก็ไปมาแล้วซะเยอะอะนะคะ เพราะงั้นในโพสต์นี้ก็เลยจะไปที่ที่ยังไม่เคยไปค่ะ แล้วก็พอดีกับว่ามีน้องที่ออฟฟิศเก่าแนะนำร้านอาหารมาให้ เลยไปชิมดูด้วยค่ะ

เริ่มต้นที่ร้านอาหารก่อนละกันเนอะ เคโกะกลับเข้าเมืองจากดอยช้าง มาถึงโรงแรมที่พักก็บ่ายแก่ ๆ แล้วล่ะค่ะ ก็เลยเก็บของให้เรียบร้อย แล้วก็ออกไปทานมื้อเย็นเลย

Restaurant name : Ma-Long-Der / มาลองเต๊อะ
Google maps : https://goo.gl/maps/aJyh2FKEHyRGTcAj6
Parking lots : Yes
Location : อ.เมือง จ.เชียงราย
Opening hours : 8.30AM – 5PM, closed on Monday
Visited date : 25 Dec 2020
Website : https://web.facebook.com/MalongderCEI/

มาถึงหน้าร้านก็แอบเด๋อ ๆ นิดหน่อย เพราะรู้สึกว่าร้านดูใหญ่เกินตัวไปล่ะค่ะ แต่ก็มาแล้ว มั่นหน้าไว้~ 555

นั่งโต๊ะปุ๊บ พนง.ก็เอาเมนูมาให้ค่ะ คงคอนเซ็ปท์ร้านจริง ๆ เข้ากับร้านมากเลยค่ะ

ร้านก็จะเป็นอาหารเมืองนะคะ สั่งอาหารแล้ว เค้าก็ยก Welcome drink มาเสิร์ฟให้เป็นน้ำใบเตยอัญชัน หน้าตาน่ารักแบบนี้เลยค่ะ

เคโกะชอบการนำเสนอของร้านนะ ใช้เป็นขันใบเล็กแทนแก้วน้ำ ได้ฟีลย้อนยุคหน่อย ๆ ดีค่ะ

จากนั้นก็จะนำเซ็ทจานช้อนส้อมมาเสิร์ฟให้ค่ะ แพคมาน่ารัก ๆ แบบนี้เลย เป็นเรื่องเล็กน้อยแต่เคโกะกลับรู้สึกว่านำเสนอได้น่ารัก น่าสนใจดีค่ะ แล้วก็แหวกแนวจากแบบทั่ว ๆ ไปที่มักจะใช้เป็นถุงพลาสติกอะไรแบบนั้น ซึ่งใจเคโกะจะค่อนไปทางการใช้วัสดุที่ย่อยสลายตามธรรมชาติแบบนี้มากกว่าค่ะ

แกะกระดาษที่ห่อ ก็จะประมาณนี้ค่ะ

แล้วอาหารที่สั่งไปก็มาค่ะ มาไล่เลี่ยกันเลย

จานแรกเป็นเซ็ทขันโตกเซ็ทเล็กค่ะ ขนาดจะประมาณ 1-2 คนนะคะ แต่เคโกะก็หม่ำคนเดียวหมดแหละ 5555

ขันโตกเล็กจะประกอบไปด้วย น้ำพริกอ่อง, แกงฮังเล, แกงตูนกุ้งฝอย, ไข่ต้ม, แหนม, หมูยอ, ไส้อั่ว และผักต้มที่ไว้กินแนมกับสิ่งต่าง ๆ ในเซ็ทค่ะ และยังมีผลไม้, ข้าวเหนียวซึ่งห่อใบตองมาอย่างสวยงามอีกด้วย

แกะห่อข้าวเหนียวให้ดูนะคะ เป็นข้าวเหนียวดำ+อัญชันค่ะ สวยงามน่าทานมากเลย

กับข้าวแต่ละอย่างในขันโตกก็จะเป็นพอร์ชั่นเล็ก ๆ อะค่ะ ทานสองสามคำก็หมดแล้วไรงี้ แต่ส่วนตัวว่าอร่อยนะคะ อร่อยทุกอย่างเลย

จานต่อไป ไม่มีในเมนูค่ะ แต่เคโกะเห็นในหน้าเพจ เลยถามพนักงานดูว่ายังมีมั้ย พนง.ว่ามีก็จัดไปค่ะ กับตำสตรอเบอรี่

ตำสตรอเบอรี่นั้น เคโกะชอบความสตรอเบอรี่เยอะมากกกกค่ะ มาเป็นลูก ๆ เลย ท็อปด้วยปลากรอบและข้าวโอ๊ต ส่วนตัวรู้สึกว่าออกเค็มไปนิดหน่อยค่ะ ไม่ค่อยเข้ากับสตรอเบอรี่เท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้แย่นะคะ

อาหารมื้อนี้เบ็ดเสร็จ 535 บาทค่ะ

มาดูบรรยากาศร้านบ้าง

นอกจากร้านอาหารแล้ว เค้ามีห้องจัดแสดงงานศิลปะด้วยนะคะ มีภาพเขียนและของที่ระลึกอะไรต่าง ๆ เยอะแยะทีเดียวค่ะ ซึ่งแกลอรีแสดงงานศิลปะนี้เข้าได้ฟรีเลยค่ะ เดินเข้าไปชมงานตั้งแต่ด้านหน้าจนมาทะลุออกด้านหลัง ก็จะมาโผล่ด้านในร้านอาหารอีกทีค่ะ ก็มาเดินเล่นเพลิน ๆ ระหว่างรออาหารได้ค่ะ

แต่ในจังหวะที่เคโกะจะเดินออกจากร้านนั้นเอง น้องพนักงานก็เชิญชวนไปดูมุมของฝากที่ตั้งอยู่ภายในร้าน ก็เลยช้อปปิ้งต่อได้อีก – -“

ตัวที่อยากนำเสนอก็คือ พายสับปะรดภูแลค่ะ

เป็นพายสับปะรดที่ด้านในคือสับปะรดภูแลทั้งลูกค่ะ 1 กล่องก็คือ 1 ชิ้นนะคะ ข้างกล่องจะมีอธิบายวิธีอุ่นเพื่อทานแบบร้อน ๆ ด้วยค่ะ

เคโกะแกะด้านในให้ดูนะ

ส่วนรสชาตินั้น อร่อยค่ะ คอสับปะรดควรจัดเลยค่ะ ^^

ก่อนจะออกจากร้าน (ได้ซะที) ทางร้านก็มอบของเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ด้วย เห็นการ์ดที่แนบมาแล้วก็ได้แต่เสียดายค่ะ ที่ไม่ได้ไปดูสีสันดอยตุงค่ะ ก็แอบสนใจอยู่เหมือนกัน แต่ตารางเวลาคือไม่ได้แล้วอ่าาา โปรแกรมแน่นมากกก

ส่วนด้านหลังของการ์ดก็คือ mask นะคะ มีมาให้ 1 ชิ้นค่ะ

ออกจากร้านอาหารแล้ว มาต่อกันที่วัดค่ะ

วัดแรกที่แวะในตัวเมืองก็คือวัดห้วยปลากั้งค่ะ

Spot name : Wat Huay Pla Kang / วัดห้วยปลากั้ง
Location : อ.เมือง จ.เชียงราย
Google maps : https://goo.gl/maps/9Jp6md86rFwyfASt6
Entrance fee : Free
Opening hours : 7AM – 9.30PM
Visited date : 26 Dec 2020

วัดนี้ก็เป็นวัดที่เด่นตรงที่มีการผสมผสานกันระหว่างศิลปะจีนกับล้านนาค่ะ มีเจ้าแม่กวนอิมที่ใหญ่มากกกกกด้วยค่ะ

ที่จอดรถเค้ากว้างขวางมาก ณ วันที่ไปมีจนท.คอยโบกรถอำนวยความสะดวกให้ด้วยค่ะ

หันเข้าหาวัดแล้วหมุนไปทางด้านซ้ายมือ ก็จะเห็นองค์เจ้าแม่กวนอิมค่ะ

แล้วก็เข้าไปไหว้พระด้านในกันค่ะ

เคโกะเอ็นดูคำเตือนเค้าที่แปะอยู่ขั้นบันไดนะ ถึงกับต้องหยุดคิดเลยอะว่ารองเท้าแพงนี่คือต้องราคาไหนถึงเรียกว่าแพง ? รองเท้าเคโกะแพงมั้ย ? 5555

ซึ่งถุงใส่รองเท้าเนี่ย เค้ามีบริการให้นะคะอยู่เชิงบันไดนี่แหละ เป็นถุงผ้าอย่างดีเชียวค่ะ

ดูงานศิลปะเค้าสิคะ สวย ละเมียดละไมมากกก ลายเส้นอ่อนช้อยมากค่ะ

ไหว้พระแล้วก็แหงนดูเพดานซักนิดค่ะ สวยงามมาก ๆ

เสร็จแล้วก็หันไปทางขวาค่ะ จะมีเจดีย์สูง ๆ อยู่

ด้านในก็สามารถเข้าไปเดินชมได้ค่ะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะมีทั้งหมด 9 ชั้นนะคะ ซึ่งชั้นบน ๆ ก็จะแคบตามทรงอาคารค่ะ

แต่ละชั้นก็จะมีเจ้าแม่กวนอิมที่แกะสลักจากไม้จันทน์หอมในปางต่าง ๆ ด้วยค่ะ

เคโกะก็เดินขึ้นไปถึงชั้นบนสุดเลยค่ะ ชั้นบน ๆ ก็จะมีพระพุทธรูปอยู่ด้วย แล้วก็อย่างที่บอกคือค่อนข้างแคบ โดยเฉพาะชั้นบนสุดค่ะ

เดินกลับลงมา มองไปทางเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ ก็จะเห็นกำแพงยาว ๆ อยู่ใกล้ ๆ เค้าว่าเป็นกำแพงเมืองไทยค่ะ 555 ออกแนวคล้ายกำแพงเมืองจีนเนอะ

จากบริเวณนี้ไปถึงเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่นั้น ค่อนข้างไกลค่ะ ทางวัดก็มีรถชัทเทิลบัสบริการด้วย ซึ่งถ้ามีคนขึ้นรถเค้าก็ออกรถเลยค่ะ ไม่ได้มีเวลาฟิกซ์หรือต้องรอคนเต็มคันอะไรแบบนั้นนะคะ

ด้านในสามารถเข้าไปชมได้ค่ะ ซึ่งจะมีลิฟท์บริการอยู่ ส่วนที่เข้าชมนั้นจะอยู่ชั้นบนค่ะ ค่าโดยสารลิฟท์ก็จะ 20 บาทค่ะ เคโกะถามเค้าเล่น ๆ ว่าเดินขึ้นไปเองได้มั้ย เค้าว่าไม่อนุญาตให้เดินขึ้นค่ะ ต้องจ่ายค่าลิฟท์และขึ้นลิฟท์ไปเท่านั้น

ด้านบนที่ให้เข้าชมก็จะเป็นงานแกะสลักประติมากรรมฝาผนังที่ต้องบอกว่าสวยงามและอลังการมากค่ะ

แล้วก็มีประตูมังกรด้วยค่ะ คนมาถ่ายรูปจุดนี้เยอะเลย

ปิดท้ายวัดนี้ด้วยมุมด้านข้างของเจดีย์ 9 ชั้นกับมังกรค่ะ

จากนั้นก็ขอมูฟไปต่อที่วัดแห่งที่ 2 ค่ะ วัดนี้ก็สวยงามไม่แพ้กันเลย

Spot name : Wat Rong Suea Ten (Blue Temple) / วัดร่องเสือเต้น
Location : อ.เมือง จ.เชียงราย
Google maps : https://goo.gl/maps/QHNu2Nct9JAUaBRFA
Entrance fee : Free
Opening hours : 7AM – 8PM
Visited date : 26 Dec 2020
Website : https://web.facebook.com/RSTBlueTemple

แค่พุ่งเข้าไปในเขตวัดและจอดรถก็เจอกับความอลังการและสวยงามของวัดแห่งนี้แล้วค่ะ

เริ่มตั้งแต่ประตูวัดเลยนะคะ

แล้วก็ตรงที่จอดรถค่ะ วัดนี้จะมีที่จอดรถไม่ได้เยอะมากค่ะ สามารถจอดได้ตรงบริเวณที่เคโกะจอดนี้ แล้วก็ถัดเข้าไปด้านในอีกค่ะ หรือไม่ก็ด้านหน้าวัดก็ได้ค่ะ

ด้านหน้าอุโบสถค่ะ มีน้ำพุงาม ๆ ด้วย ถ้าสังเกตให้ดี น้ำในบ่อน้ำพุก็เป็นสีน้ำเงินเหมือนกับวัดเช่นกันค่ะ

แล้วก็อุโบสถ ก็ยังคงเป็นสีน้ำเงินค่ะ เป็นสีน้ำเงินทั้งหลังเลย

เข้าไปไหว้พระด้านในกันค่ะ

ด้านในจะมีป้ายบอกว่า ห้ามยืนถ่ายรูปในระยะใกล้ค่ะ ถอยออกไปห่าง ๆ ก็ถ่ายได้ เคโกะก็เลยซูมมาให้นะคะ ไม่ใช่ระยะใกล้ชิดน้าาาา

ภาพวาดฝาผนังก็งามไม่แพ้กันเลยค่ะ

ด้านข้างวัดก็จะมีร้านค้าอะไรอยู่ประมาณนึง เคโกะก็เดินเล่นรอบ ๆ อุโบสถจนไปถึงด้านหลังค่ะ หามุมแปลก ๆ ถ่ายรูป แหะๆ

ก็จะมีประมาณนี้ค่ะ ได้ไปในตัวเมืองไม่ได้เยอะที่มากนัก และก็ยังเหลืออีกที่นึงค่ะ ซึ่งจะขอยกไปเป็นโพสต์หน้านะคะ
https://web.facebook.com/thisiskeigo

[Nakorn Pathom] The Three Little Pigs Farm

สวัสดีค่าาา ก่อนจะไปจมอยู่กับทริปเชียงรายที่น่าจะยาว มาแวะพักที่นครปฐมกันก่อนน้าาาา ทริปนี้เป็น 1-day trip ค่ะ เน้นไปพบปะพี่ ๆ เม้าท์มอยกันตามประสาสาว ๆ มากกว่า แหะ ๆ

Restaurant name : The Three Little Pigs Farm
Google maps : https://g.page/3littlepigsfarm?share
Parking lots : Yes
Location : อ.สามพราน จ.นครปฐม
Opening hours : 9AM – 9PM
Visited date : 04 Nov 2020
Website : https://web.facebook.com/3littlepigsfarm/

เป็นร้านที่มีพื้นที่ติดลำคลองไรงี้ค่ะ แล้วก็มีพื้นที่เลี้ยงสัตว์ พายเรืออะไรด้วย เน้นบรรยากาศชิลล์ ๆ อะนะคะ

มาดูสิ่งที่สั่งไปกันดีกว่า มีกันทั้งหมด 3 สาวนะคะ

แก้วแรก น่าจะเป็นโซดามะนาวมั้งนะ ของเคโกะเอง

สั่งอาหารกันไปหลายจานอยู่ มาพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

ในรูปบนน่าจะเป็นยำส้มโอ, คอหมูย่างจิ้มแจ่วและเป็นน้ำพริกอะไรสักสิ่ง –ลืมแล้ว ฮาาาา

แล้วจานต่อไปน่าจะเป็นทอดมันข้าวโพดมั้ยนะ ขออภัยจริง ๆ ค่ะ เคโกะไม่ได้จดรายการอาหารไว้ แงงงงง

ตอนแรกคือสั่งมาแค่ 4 จานนี้แหละ แล้วทาน ๆ กันไป เออ อยากกินพิซซ่าาาา เอ้า จัดไปค่ะ เค้ามีแบบฮาล์ฟ-ฮาล์ฟด้วย จำหน้าไม่ได้ละว่าหน้าอะไรบ้าง น่าจะเป็นซีฟู้ดกับเบคอนอะไรสักสิ่งน้าาา 55555 –จำอะไรไม่ได้แต่กล้าลงรีวิว 5555555

ตบท้ายที่ของหวานเลยดีกว่าค่ะ ไปแบบไว ๆ ฮาาาา

จานแรกเป็นขนมปังสังขยา สังขยาคือหวานอะ เคโกะว่าหวานนำไปหน่อยนะ แต่ขนมปังปิ้ง ทำมาสไตล์โทสต์ที่หั่นเป็นแท่ง ๆ ก็กรอบอร่อยดีค่ะ

ปิดท้ายที่โทสต์ช็อคโกแลตค่ะ จานนี้คือดีเลย ช็อคโกแลตเข้มกำลังดีค่ะ โทสต์ทำมาโอเค ไม่ใช่ขนมปังแผ่นมาประกบ ๆ ง่าย ๆ อะไรแบบนั้นค่ะ

ก็เป็นร้านที่นั่งชิลล์ ๆ เม้าท์มอยกับเพื่อน ๆ ได้สบาย ๆ ค่ะ ร้านเป็นแบบเอาท์ดอร์ มีดนตรีสดด้วย (ก็แปลกใจอยู่เพราะปกติจะเจอดนตรีสดเฉพาะช่วงเย็นเนาะ ไม่คิดว่าจะมีร้านที่มีดนตรีสดตอนกลางวันด้วยค่ะ) เพลงก็สไตล์เบา ๆ ฟังง่าย ๆ สบาย ๆ ค่ะ

อ้อ ร้านเอาท์ดอร์นี่ก็ไม่ได้ร้อนนะคะ อาจจะเพราะอยู่ริมน้ำด้วยล่ะค่ะ

เจอกับทริปเชียงรายโพสต์หน้าน้าาาา มีหลายตอนอยู่ค่ะ ฝากตามด้วยนะค้าาา
https://web.facebook.com/thisiskeigo

[Chanthaburi] Chantaboon

สวัสดีค่ะ โพสต์นี้จะยาว ๆ นิดนึงเนอะ พอดีเคโกะมีไกด์คนพื้นที่ไปด้วยค่ะ เป็นรุ่นน้องที่น่ารักของเคโกะเอง น้องมีวิ่งตอนเช้าแล้วก็ยังลากน้องไปทรมานต่อด้วยการเดินเที่ยวริมน้ำจันทบูรด้วย แต่น้องก็ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ต่าง ๆ ของกินแถวนั้นได้เยอะมาก ๆ เลยค่ะ

ขอบคุณน้องออมและน้องสาวมา ณ ที่นี้ด้วยนะค้าาาา ไว้จะไปกวนใหม่น้าาา 55555

Spot name : ชุมชนริมน้ำจันทบูร
Location : อ.เมือง จ.จันทบุรี
Google maps : https://goo.gl/maps/ZhnK8QEMDTHVkYi26
Entrance fee : Free
Opening hours : 24 hrs
Visited date : 25 Oct 2020

ไม่มีที่จอดรถนะคะ เคโกะไปจ๊ะเอ๋เอาวันที่เค้ามีแข่งวิ่งกันพอดี จะไปจอดที่โบสถ์ก็ไม่ได้ค่ะ เลยต้องไปจอดที่ลานจอดของโบสถ์ที่อยู่ห่างออกไป แล้วนั่งรถชัทเทิลบัสรับส่งเอา (ถ้าจำไม่ผิดจะ 20 บาทเป็นราคาไป-กลับค่ะ)

ในรถชัทเทิลบัสมีแปะตารางเข้าชมภายในอาสนวิหารฯด้วยค่ะ

ซึ่งเคโกะก็นัดน้องไว้ที่โบสถ์มารีอา หรือชื่อเต็ม ๆ คือ อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมลจันทบุรี นี่แหละค่ะ เป็นโบสถ์ที่สวยมาก ๆ ใครไปใครมาก็ต้องมาถ่ายรูปที่โบสถ์แห่งนี้ล่ะค่ะ แต่ส่วนตัวเคโกะเคยมาแล้วหนนึง เลยข้าม ๆ ไปนะคะ

พอเจอน้องแล้วเราก็ออกเดินกันค่ะ ซึ่งโบสถ์อยู่ใกล้กับชุมชมริมน้ำจันทบูรมาก ๆ เลย เดินทะลุไปนิดเดียวก็เจอเลยค่ะ

ชุมชนริมน้ำก็ต้องมีรูปแม่น้ำประกอบสินะ 555

ข้ามฝั่งมาก็จะมีป้ายต้อนรับ ป้ายแนะนำความเป็นมาของชุมชนริมน้ำจันทบูรนี้ค่ะ

โดยสังเขปก็คือเป็นชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำจันทบุรี ที่มีชาวจีนและชาวญวนอพยพมาอาศัยอยู่ตั้งแต่ช่วงรัตนโกสินทร์ตอนต้นค่ะ

มีงานกราฟฟิตี้เก๋ ๆ ให้เก็บรูปกันด้วย เห็นว่าเป็นฉากนึงในโฆษณาที่ดังมาก ๆ ชิ้นนึงเลยค่ะ –ก็ลืมแล้วว่าโฆษณาอะไร – -“

ลักษณะก็จะเป็นบ้านเรือทรงโบราณอะค่ะ อาจจะมีการบูรณะอะไรบ้าง แต่ก็ยังคงโครงสร้างเดิมไว้อยู่ค่ะ

จุดแรกที่จะแวะชมก็คือ บ้านเรียนรู้ชุมชนค่ะ แต่เผอิญว่ามาเจอเอาวันที่เค้าปิดซะงั้น 55555

เดินต่อไปค่ะ เจอร้านเสน่ห์จันท์ ร้านดังเหมือนกันน้าาาา แต่ไม่รู้เพราะมีงานวิ่งหรือเปล่านะ ร้านปิดอีกแล้วค่ะ 5555

แล้วก็เดินมาเรื่อย ๆ เจอโรงแรมนึงที่สามารถเข้าไปชมด้านในได้ค่ะ เค้าจัดเหมือนเป็นพิพิธภัณฑ์ย่อม ๆ ไว้ให้ศึกษาด้วย

ด้านในมีคาเฟ่ด้วยค่ะ ตกแต่งเก๋ ๆ สไตล์ vintage และ antique เบา ๆ ให้เข้ากับสถานที่

ชั้นบนก็มีจัดแสดงตกแต่งของเก่าประวัติความเป็นมาหลายสิ่งอยู่ น่าสนใจดีนะคะ

แล้วก็จะมีลักษณะแนวนี้อยู่หลายที่เหมือนกันค่ะ เดี๋ยวก็จะเจออีกที่นึงนะ

เดินกันต่อไปก็มีศาลเจ้าอยู่ที่นึงค่ะ ยังคงเก็บโครงสร้างแบบดั้งเดิมไว้ การจัดวาง การตกแต่งอะไรก็คือของเก่าเลยอะ

รูปนี้ถ่ายย้อนออกมาหน้าถนนค่ะ

เดินขึ้นมาชั้นบนมีเจ้าตั้งอยู่

ซึ่งเท่าที่เดินมา น่าจะประมาณ 1/3 ของถนนเส้นนี้ เคโกะก็สัมผัสได้ถึงความเป็นจีนที่ค่อนข้างหนาแน่นอยู่ค่ะ ยังเปรย ๆ กับน้องอยู่เลยว่าใส่กี่เพ้ามาถ่ายรูป น่าจะเข้ากับสถานที่ดี

นอกจากร้านค้า โรงแรม ศาลเจ้าและบ้านเรือนสไตล์ย้อนยุคแล้ว ก็ยังมีกราฟฟิตี้ที่ร่วมสมัยเข้าไปปะปนด้วยค่ะ แต่ก็ไม่ได้ดูขัดแย้งเลย

เดินต่อมาเจอท่าแม่ผ่อง

ก็เลยเดินไปที่ท่าน้ำซักหน่อยค่ะ

แล้วน้องก็พาลัดเลาะตรอกซอกซอยไป เจอป้ายตรอกมีคุณกระต่ายเกาะป้ายอยู่ น่ารักดีค่ะ

เดินลัดเลาะออกมาเจอศาลเจ้าใหม่ที่ดูใหญ่พอสมควรค่ะ ช่วงที่เคโกะไปเป็นช่วงเทศกาลกินเจอยู่อะนะคะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นวันสุดท้ายที่จะมีจัดงานส่งเจ้าขึ้นสวรรค์อะไรทำนองนี้น่ะค่ะ เคโกะก็ห่างเหินการกินเจมาหลายปีแล้วล่ะ ก็มีลืม ๆ ไปแล้วนะคะ แหะ ๆ

แต่สิ่งที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับเคโกะก็คือ มีการแสดงงิ้วด้วยค่ะ

ว่ากันไปตามตรงแล้ว งิ้วน่ะก็ไม่เท่าไหร่ แต่สิ่งที่ตื่นตาตื่นใจกว่าก็คือน้ำตาลปั้นที่อยู่ด้านหน้าเวทีงิ้วนี่แหละค่ะ เคโกะไม่ได้เห็นนานมาก ๆ แล้วล่ะ

สมัยเด็ก ๆ เคโกะจะคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้ดีพอสมควรเลยนะคะ เพราะจะโดนลากไปงานสมาคมตระกูลหนึ่งในกทม.ทุกปี เค้ามีจัดงานสักการะบรรพบุรุษทุกฤดูหนาวอะค่ะ ก็จะมีการแสดงงิ้ว 3 วัน 3 คืนอะไรทำนองนี้แหละนะ แล้วหน้าเวทีก็จะมีน้ำตาลปั้นแบบนี้ค่ะ ซึ่งตอนเด็ก ๆ อะ ไม่มีสตางค์พกติดตัวอะไรเยอะ ก็จะได้แต่ยืนมองเค้าปั้นน้ำตาลค่ะ เป็นภาพที่ชินตาทุกปีในวัยเด็กอะนะ

ซึ่งเอาจริง ๆ นะ เคโกะก็ยังไม่เคยซื้อทานเลยค่ะ ><”

แต่ถามใจเคโกะตอนนี้ว่าอยากซื้อชิมไหม ก็ไม่นะ ไม่กินหวานอ่าาาาา 555

เอาล่ะ เราก็เดินชมย่านชุมชนกันต่อไปค่ะ ^^”

หลาย ๆ ร้านมีการปรับตกแต่งให้ดูโมเดิร์นและทันสมัยมากขึ้น มีคาเฟ่น่ารัก ๆ เพียบ นี่น่าจะเป็น 1 ในนั้นค่ะ คนเยอะมากกกก

แล้วก็มาเจอกับอีกโรงแรมนึงมั้งนะ ชั้นล่างเปิดให้เข้าชมได้ค่ะ เค้ามีของเก่ามาจัดโชว์ให้ดูค่ะ

ระหว่างทาง น้องก็ชี้ให้ดูร้านขนมเทียนเจ้าเก่า เคโกะก็เลยปราดเข้าไปซื้อมาชิมดู เค้าจัดใส่เป็นถุง ๆ ไว้ให้ค่ะ น่าจะถุงละ 20 บาทนะ แต่ขนมเทียนเค้าจะเป็นลูกเล็ก ๆ แบบ 1 คำหมดค่ะ

เป็นขนมเทียนที่ลูกเล็กมากจริง ๆ ค่ะ เข้าใจแหละว่าคงทำลูกเล็ก ๆ ขายเพื่อให้นักท่องเที่ยวซื้อชิมกันถ้วนหน้าในกลุ่มไรงี้อะนะคะ

จุดเด่นเค้าคือตัวแป้งที่เป็นเนื้อใส มองเห็นไส้ถั่วด้านในได้ แต่ถ้าถามใจเคโกะนะ เคโกะว่าเฉย ๆ มาก ๆ ค่ะ เคยเจอที่อร่อยกว่านี้อะ และรสชาติคือยังไม่เข้มข้นเท่าไหร่ คิดว่ารสอ่อนไปหน่อยค่ะ

เดินกันต่อไปก็เจอกับร้านไอศครีมตราจรวดค่ะ น้องเล่าว่าเป็นร้านดั้งเดิมและร้านเดียวที่ยังมีอยู่

สารภาพตามตรงว่าเคโกะไม่รู้จักไอศครีมตราจรวดค่ะ ><” เกิดไม่ทัน แง้~ //ผิด

มีป้ายอธิบายความเป็นมาของร้านด้วยค่ะ

ไหน ๆ ก็มาแล้ว เลยเข้าไปซื้อชิมซักอันนึง น้องแนะนำรสยอดฮิตที่ว่าอร่อยมาให้ค่ะ ก็จัดไป

สำหรับความรู้สึกส่วนตัวของเคโกะเลยนะ คือยังไม่ถูกจริตค่ะ ได้รสหวานนำ หวานแบบหวานเลยอะ แล้วเคโกะไม่กินหวานไง ก็เลยรู้สึกว่าธรรมดามากค่ะ ><“

เดินต่อไปจนสุดถนนก็จะเป็นสภาวัฒนธรรมประมาณนี้

ซึ่งด้านในก็มีของที่ระลึกขายและมีแผ่นพับแนะนำสถานที่และการท่องเที่ยวด้วยค่ะ

แล้วเราก็เดินย้อนกลับมาทางเดิม เจอตรอกนึงมีร้านขายของที่ระลึกแบบน่ารัก ๆ และร้านก็น่ารักด้วย แวะถ่ายรูปกันไปอีก 555

เดินซะเยอะ แวะชิมน้ำมะปี๊ดกันซักหน่อยค่ะ มะปี๊ดของจันทบุรีก็คือส้มจี๊ดนั่นเองล่ะค่ะ

จริง ๆ แล้วของกินทั้งของกินเล่นและอาหารจานหลักอะไรงี้ มีค่อนข้างเยอะและหลากหลายพอสมควรบนถนนสายนี้เลยนะคะ แต่ด้วยความที่น้องกินเจ แต่เคโกะไม่กินเจ เลยทานด้วยกันไม่ได้ค่ะ ก็ดูไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ด้วย หากเคโกะจะไปนั่งชิมนู่นนี่และปล่อยให้น้องคอยไรงี้ ก็เลยไม่ได้ชิมอะไรมากมายนักอะนะคะ

ก่อนจะกลับออกจากชุมชนริมน้ำนี้ เคโกะก็เลยซื้อขนมไข่กรอบไปชิมที่บ้านด้วย

ก็เป็นไอเท็มที่ขายกันแทบทุกร้านอะค่ะ เลยคาดหวังไปว่าต้องอร่อยนะ แต่เอาเข้าจริง ก็คือขนมไข่ที่หน้ากรอบ ๆ และทำให้ติดกันเป็นแพอะค่ะ – -“

ปิดท้ายทริปแบบมีไกด์นำด้วยศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชค่ะ ซึ่งเดินไปได้นะ แบบเหนื่อยมาก ๆ ค่ะ ฮาาาา… เคโกะเลยขอขับรถไปดีกว่า ซึ่งบริเวณศาลพระเจ้าตากนั้นมีที่จอดรถอย่างจำกัดค่ะ แต่เราสามารถเอารถเข้าไปจอดในค่ายตากสินที่อยู่ติดกันได้นะคะ

ซึ่งในค่ายเองก็มีห้องประดิษฐานพระเจ้าตากที่หลอมด้วยทองแดงไว้ด้วยล่ะค่ะ

ส่วนของศาลสมเด็จพระเจ้าตากฯนั้น คนเยอะมากกกกกกกค่ะ และตัวอาคารเองก็ทำเป็นทรงหมวกที่สมเด็จพระเจ้าตากสินนิยมสวมใส่ประจำด้วยล่ะค่ะ

ก็กราบไหว้พระเจ้าตากกันเรียบร้อยแล้ว เคโกะกับน้องก็เลยแยกกันตรงนี้ล่ะค่ะ

จบทริปสั้นที่จันทบุรีแล้ว เดี๋ยวไปต่อทริปมหากาพย์ (ห้ะ อีกแล้ว?) ที่เชียงรายนะคะ ^^”
https://www.facebook.com/thisiskeigo

[Chanthaburi] Chanthaburi

สวัสดีค่ะ เผลอแป๊บ ๆ เคโกะก็ดองบล็อกไว้อีกแล้วนะคะ 555555 //ยิ้มเขิน

ทริปจันทบุรีนี้เคโกะมีเวลาค่อนข้างน้อย อาจจะไปได้ไม่ครบทุกที่นัก และเพราะเคยไปมาแล้วหนนึง (มั้ง) ด้วยแหละค่ะ

เริ่มเลยเนอะ

ออกจากกทม. ที่แรกที่ไปก่อนเลยก็คือวัดปากน้ำเขมหนูค่ะ ที่นี่เค้าเด่นเรื่องโบสถ์สีน้ำเงิน และอยู่ริมน้ำด้วย

Spot name : วัดปากน้ำเขมหนู / Wat Paknam Khaem Nu
Location : อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
Google maps : https://goo.gl/maps/EMUpwpL1RH6kFUcTA
Entrance fee : Free
Opening hours : 5AM-8PM
Visited date : 24 Oct 2020

ที่จอดรถเยอะมากกกและคนก็เยอะมากกกเช่นกันค่ะ แต่เท่าที่ดูคือก็ยังสร้างไม่เสร็จดีนะคะ

ด้านในก็สีฟ้าค่ะ คือสีฟ้าล้วนนนนเลย สวยอ่าาาา

ด้านข้างก็มีคนมาถ่ายรูปเยอะมาก ๆ เช่นกันค่ะ คือมุมไหน ๆ ก็มีคนถ่ายรูปทุกมุมเลยอะ

อีกมุมนึงบ้าง

โดยรวมก็เป็นวัดที่ผู้คนมาถ่ายรูปกันเยอะมากค่ะ

ต่อไปจริง ๆ เคโกะแพลนว่าจะไปลานหินสีชมพูด้วยนะ แต่ช่วงเวลาดูจะไม่ค่อยเหมาะนักค่ะ ก็เลยตัดออก แล้วไปเจดีย์บ้านหัวแหลมแทน

Spot name : เจดีย์บ้านหัวแหลม / จุดชมวิวเจดีย์บ้านหัวแหลม / Jaedee Klang Nam Viewpoint Baan Hua Laem
Location : อ.นายายอาม จ.จันทบุรี
Google maps : https://goo.gl/maps/66X65ixSdsgiZ2z16
Entrance fee : Free
Opening hours : N/A
Visited date : 24 Oct 2020

ตรงนี้กับจุดชมวิวเนินนางพญาใกล้กันค่ะ ก็สามารถจอดรถไว้ที่เดิมแล้วเดินไปเดินมาเอาได้เลยนะคะ

เคโกะได้มุมจอดรถคือดีเลยอะ ริมทะเลเลยค่ะ ซึ่งเดินลงหาดได้เลยด้วยนะ เห็นมีเด็ก ๆ แถวนั้นเล่นน้ำกันอยู่บ้างค่ะ

จากลานจอดรถตรงนี้ มีรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างวิ่งรับส่งไปจุดชมวิวเจดีย์บ้านหัวแหลมด้วยค่ะ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะคนละ 10-20 บาท (ค่าจอดรถ 20 บาท –แต่เคโกะไม่เสียอะค่ะ ไม่รู้ทำไม แง้ววว ><~)

เอาจริง ๆ เคโกะว่าไม่ได้ไกลมากค่ะ เดินได้อยู่นะ เคโกะเดินไปค่ะ เดินไปแบบชิลล์ ๆ ก็ราว ๆ 10 นาทีได้ แต่ถ้าขี้เกียจก็นั่งรถอย่างที่บอกก็ได้เช่นกันค่ะ

เดินมาถึงทางเข้า ด้านหน้าก็จะมีจุดขายธูปเทียนของไหว้สักการะอะไรอยู่ตรงนี้ทั้งหมดค่ะ ด้านในคือก็จะไม่มีแล้ว

แล้วก็เดินไปตามทางซึ่งเป็นสะพานไม้ มีราวเชือกกั้นพอสังเขปค่ะ (รูปนี้คือถ่ายย้อนออกมานะคะ)

ก็เดินมาเรื่อย ๆ จนสุดทางก็จะเจอกับพระพุทธรูปปางต่าง ๆ ตรงนี้ค่ะ

ไกล ๆ ด้านหลังก็คือเจดีย์กลางน้ำค่ะ เคโกะซูมไปให้ดูนะคะ

จากนั้นก็เดินกลับออกมาทางเดิมค่ะ แล้วเดินเลยลานจอดรถขึ้นเนินไปหน่อยนึงก็จะเจอกับจุดชมวิวเนินนางพญาแล้วล่ะค่ะ

Spot name : จุดชมวิวเนินพญา / Noen Nangphaya viewpoint
Location : อ.นายายอาม จ.จันทบุรี
Google maps : https://goo.gl/maps/4tQSTvTCDpieu7Lx8
Entrance fee : Free
Opening hours : Mon-Fri 9AM-5PM, Sat-Sun open 24 hrs
Visited date : 24 Oct 2020

ตรงนี้ก็เป็นอีกจุดนึงที่คนเยอะมากกกกกกกกกค่ะ พอขึ้นที่สูงไปก็จะเห็นวิวทะเลทั้งอ่าวแบบนี้เลยค่ะ

แล้วจุดไฮไลท์ที่คนนิยมถ่ายรูปก็คือมุมนี้ ซึ่งถึงกับต่อคิวกันถ่ายรูปเลยอะ ><

แล้วก็ใกล้ ๆ กันมีป้ายบอกไปจุดชมวิว (ที่เคโกะลืมชื่อแล้ว 5555 และไม่ตรงกับป้ายที่ถ่ายติดมานะคะ เสิร์ชในกูเกิ้ลแล้วไปโผล่อีกที่เฉยเลย) แต่ตรงนี้เคโกะขับรถวนขึ้นไปค่ะ อยู่ไม่ไกลกันมาก มีป้ายบอกทางให้อยู่ค่ะ

แต่เป็นจุดที่ไม่มีคนเลยยยยยยยย 5555

จุดเด่นของตรงนี้คือพระยืนองค์ใหญ่ที่หันหน้าออกทะเลค่ะ แต่วิวทะเลนั้นกลับไม่ค่อยเห็นเพราะมีต้นไม้บังซะเยอะ และไม่ได้สวยมากเท่าไหร่ค่ะ

ต่อกันที่ร้านอาหารบ้างนะคะ

วันแรกเคโกะแวะร้านปูจ๋า ท่าแฉลบค่ะ วางแผนไม่ค่อยดี แต่อยากทานร้านนี้เลยต้องวนรถไป ๆ มา ๆ เลย แหะ ๆ

Restaurant name : ร้านอาหารปูจ๋า ท่าแฉลบ / Pu Cha Seafood Tha chalaeb
Google maps : https://goo.gl/maps/zSpBL9fHaTE7x3pN9
Parking lots : Yes
Location : อ.เมือง จ.จันทบุรี
Opening hours : 10AM – 9PM
Visited date : 24 Oct 2020
Website : https://web.facebook.com/pojathacharap

เคโกะไปทานคนเดียว เลยสั่งแค่ 2 จานก็พอนะคะ แค่นี้ก็คือแน่นท้องมากแล้วอะ ><“

จานแรกเป็นปลากะพงผัดพริกไทยดำค่ะ

อีกจานน่าจะเป็นน้ำพริกปูไข่นะคะ

ถ้าจดราคามาไม่ผิด 2 จานนี้รวม 385 บาทค่ะ ซึ่งอร่อยทั้ง 2 จานเลยนะคะ แต่ก็ไม่ต้องแปลกใจนะคะว่าทำไมไม่มีข้าว 5555 ไม่ได้รับข้าวค่ะ ทานเปล่า ๆ เลย ><“

ปิดท้ายที่คาเฟ่ที่เคโกะแวะเป็นที่สุดท้ายก่อนตีรถกลับกรุงเทพค่ะ

Restaurant name : Bunny Boom
Google maps : https://goo.gl/maps/Q7JV7ErG8ey5Jiix6
Parking lots : No (จอดรถไหล่ทางได้)
Location : อ.เมือง จ.จันทบุรี
Opening hours : 8AM – 7PM
Visited date : 25 Oct 2020
Website : https://web.facebook.com/bunnyboomChantaburi

ร้านนี้เคโกะอ่านรีวิวมา เค้าแนะนำเป็นชะมวงชีสโทสต์, ขนมปังหมูชะมวง และไอศกรีมผลไม้ต่าง ๆ นะคะ ซึ่งเคโกะดู ๆ แล้วคาร์บจะเยอะไปแล้วววววว เลยเลือกเอาที่อยากทานค่ะ — แต่ที่สั่งมาทานนี่คาร์บและแฟทก็ไม่น้อยอะเธอ 555555

จริง ๆ แล้วร้านนี้เป็นร้านที่อยู่ด้านหน้าของโรงแรม Blue Rabit ค่ะ แต่เคโกะไม่แน่ใจนะว่าเข้าไปจอดในโรงแรมได้มั้ย เห็นจอด ๆ กันอยู่ริมถนนด้านหน้าคาเฟ่กันหมดเลยค่ะ

ร้านจัดตกแต่งน่ารัก มีกิมมิคเป็นคุณกระต่ายตามชื่อร้านและชื่อโรงแรมเลยล่ะค่ะ

เคโกะเลือกนั่งที่เคาน์เตอร์ยาวริมหน้าต่างกับคุณกระต่ายนะคะ

เมนูที่สั่งมาก็จะมี Chocolate Banana Cake (95BHT) ค่ะ ช็อคโกแลตเข้มข้นดีค่ะ

เครื่องดื่มเป็น Smoothies Somjeed Jelly Yogurt ค่ะ (85BHT) เอาส้มจี๊ดมาทำเป็นเครื่องดื่มสมูธตี้ผสมโยเกิร์ตก็ดูแปลกแหวกแนวดีค่ะ เลยลองสั่งมาชิมดู ก็ออกเปรี้ยว ๆ แต่ไม่ได้เปรี้ยวแหลมนำอะค่ะ ทานกับโยเกิร์ตแล้วคือเข้ากันดีเลยค่ะ

ตอนที่ไปมีโปรโมชั่นสั่งเครื่องดื่มและเค้กคู่กัน ลดค่าเค้ก 20% ด้วยค่ะ

แล้วก็สั่งเพิ่มอีกอย่างคือชะมวงชีสโทสต์ (95BHT) ค่ะ

ก็คือเอาหมูชะมวงที่เป็นเมนูขึ้นชื่อของจันทบุรีมาวางบนขนมปังโทสต์และโปะด้วยชีสล่ะค่ะ ก็สร้างสรรค์ดี เพิ่มความแปลกใหม่ให้กับหมูชะมวงดีค่ะ ส่วนรสชาติก็โอเคอยู่นะคะ ติดอยู่ที่ซอสมะเขือเทศที่ราดบนหน้ามา เคโกะว่าไม่ค่อยเข้ากันเท่าไหร่ค่ะ ^^” แต่ก็ไม่ได้ขัดมากอะนะคะ

โดยรวมแล้ว ร้านนี้คือดีค่ะ อร่อยยยย

เดี๋ยวโพสต์หน้าจะมาต่อทริปจันทบุรีอีกตอนนึงก็จะจบทริปนี้แล้วนะคะ จะพยายามไม่ดองบล็อกค่ะ แหะ ๆ
https://web.facebook.com/thisiskeigo

[Phang-Nga] Around Phang-Nga

มาถึงโพสต์สุดท้ายของพังงาแล้วนะคะ ^^”

ในทริปนี้เคโกะจองรถเช่ากับ Budget ไว้ที่สนามบินภูเก็ตค่ะ ตอนที่ไปรับรถ พนง.ก็จะให้เซทนี้มา ใส่ถุงซิปล็อคมาเลย ก็จะมีน้ำขวดเล็ก 1 ขวด (ปกติจะวางให้ในรถ) แล้วก็มี Hand Gel และแอลกอฮอล์ล้างมือค่ะ ซึ่งเคโกะมองว่าดีเลยค่ะ แต่แอบหนักใจนิดนึง เพราะต้องเพิ่มภาระของเหลวขึ้นเครื่องเนี่ยสิ เพราะพกไปเต็มพิกัด 100ml 10 ขวด ครบแล้วค่ะ 5555

รับรถเรียบร้อยแล้วก็ขับมาทางจ.พังงาค่ะ จุดแรกที่แวะก็คือ สะพานไม้เขาปิหลาย ซึ่งเคโกะไม่ลงหมุดในกูเกิ้ลแม็พให้นะ เพราะเค้าปิด และทะลายสะพานไม้ไปแล้วค่ะ เหลือแต่ซากไว้ให้ดู 5555

จริง ๆ ทางเข้าก็ปิดด้วยนะ มีป้ายบอกอยู่ว่าห้ามเข้าค่ะ เลยได้แต่ชะเง้อมองไกล ๆ และถ่ายรูปอัพเดทมาให้ดูว่ามันไม่มีแล้วน้าาาา อย่าหลงไปค่ะ 55555

//ตอนที่หารีวิว ไม่มีใครอัพเดทเลยยยย เลยมาอัพเดทให้น้าาา แหะๆ

ต่อไปก็ไปที่หาดท้ายเหมืองค่ะ อยู่ใกล้ ๆ กันนี่แหละ

Spot name : หาดท้ายเหมือง / Taimuang Beach
Location : อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
Google maps : https://goo.gl/maps/VDvVSzBcdzxKA4tv9
Entrance fee : Free
Opening hours : 24 hrs
Visited date : 3 Oct 2020

วันที่ไป ฟ้าไม่ค่อยเป็นใจนะคะ ฝนตกปรอย ๆ ตลอด แต่หาดก็คือไม่มีคนเลยยยยยยย มีแต่คนแถว ๆ นั้น มีแบบนั่งกินเหล้าแถว ๆ นั้นอยู่แล้วด้วยอะค่ะ 5555

ดูหาดมั่งเนาะ หาดก็จะเงียบ ๆ ค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าเพราะฝนตกมั้ย แต่พอไปเรื่อย ๆ ก็รู้ว่าไม่ใช่ คือสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เงียบจริงจังมาก อย่างที่บอกไปแล้วในโพสต์ตอนก่อน ๆ เนาะ

ตัดมาวันที่ 2 หลังจากล่องแพแล้ว ก็ไปเที่ยวในเมืองพังงากันบ้างค่ะ //ตามรอยผลิตก็บอกเค้าไปปปปป 55555

เริ่มที่สะพานเหล็กบุญสูงค่ะ ตรงนี้ก็มีนักท่องเที่ยวเยอะหน่อย เน้นมาถ่ายรูปสะพานเหล็กกับทุ่งกว้าง ๆ ค่ะ

ซึ่งสะพานเหล็กนี้สร้างจากเหล็กขุดแร่ในสมัยก่อน เป็นสัญลักษณ์ของการทำเหมืองแร่ของตะกั่วป่าค่ะ

Spot name : สะพานเหล็กบุญสูง
Location : อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
Google maps : https://goo.gl/maps/BTart9PGCXrdhsCh8
Entrance fee : Free
Opening hours : 24 hrs
Visited date : 4 Oct 2020

ตรงนี้จะไม่มีที่จอดรถจริงจังนะคะ ต้องจอดไหล่ถนนเอาเอง ซึ่งเคโกะก็เห็นจอดเรียงรายกันทั้งสองฝั่งเลยค่ะ แต่ในความคิดเห็นส่วนตัว จอดฝั่งเดียวกันกับสะพานเหล็กจะสะดวกกว่าค่ะ

แล้วก็ขอแปะรูปสะพานเหล็กบุญสูงรัว ๆ เลยน้าาา ก็จะประมาณนี้อะค่ะ เป็นสะพานเหล็กยาว ๆ ไปจนข้ามแม่น้ำเลย สองข้างทางก็จะเป็นวิวทุ่งหญ้าธรรมดา ซึ่งสะพานเหล็กนี้รถมอเตอร์ไซค์ผ่านได้ ถ่ายรูปก็ระวังกันด้วยนะคะ

ปิดท้ายตรงนี้ด้วยวิวแม่น้ำจากบนสะพานเหล็กที่ยืนอยู่ค่ะ

จากนั้นเคโกะก็จะไปย่านเมืองเก่าตะกั่วป่า แต่ระหว่างทางก็เจอจวนเจ้าเมืองตะกั่วป่าเข้าซะก่อน เลยหาที่จอดรถแอบ ๆ ไว้แถว ๆ นั้นแล้วไปเดินดูซักนิดนึงค่ะ

Spot name : จวนเจ้าเมืองเก่าตะกั่วป่า / Chao Mueang Takua PA Residence Place
Location : อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
Google maps : https://goo.gl/maps/U3EdWVbeCpWX3APL9
Entrance fee : Free
Opening hours : 24 hrs
Visited date : 4 Oct 2020

เอาตรง ๆ เลย เดาว่าน่าจะเป็นที่ตั้งของจวนเจ้าเมืองตะกั่วป่าเก่าที่ปล่อยรกร้างไว้กลายเป็นลานหญ้ากว้าง ๆ มีร่องรอยซากปรักหักพักนิดหน่อยให้พอเห็นว่าน่าจะมีสิ่งก่อสร้างเก่า ๆ อยู่ค่ะ

จากนั้นก็ไปต่อที่ย่านเมืองเก่าตะกั่วป่า ถนนสายวัฒนธรรม หรือย่านเมืองเก่าค่ะ

Spot name : ถนนสายวัฒนธรรมตะกั่วป่า / ถนนคนเดินตะกั่วป่า
Location : อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
Google maps : https://goo.gl/maps/7SGYw79DVMfsCXkP7
Entrance fee : Free
Opening hours : Every Sundays 3 – 8 PM
Visited date : 4 Oct 2020

มีความคาดหวังว่าจะมาถึงในช่วงบ่ายแก่ ๆ ค่ะ แล้วเดินดูสตรีทอาร์ทหรือกราฟฟิตี้แถว ๆ นี้ซักหน่อย //ตามรอยอีกแล้วววว 5555 แล้วจากนั้นก็จะไปเดินถนนคนเดินค่ะ

ก่อนที่จะแปะรูปกราฟฟิตี้เก๋ ๆ น่ารัก ๆ ก็เอารูปร้านค้าในย่านนั้นให้ดูก่อนเนอะ คือเค้าก็มีการเพนท์ การตกแต่งหน้าร้านให้ดูน่าสนใจด้วยล่ะค่ะ เก๋ ๆ ดี

แล้วก็เป็นกราฟฟิตี้เก๋ ๆ ที่ก็มาแล้วก็ต้องถ่ายกันซักหน่อย เนอะ

บางรูป ถ้าเป็นนุชก็คงเข้าใจ ว่าไปทำไม 555555555

เคโกะเดินเตร็ดเตร่แถวนั้นอยู่พักใหญ่ ก็ไม่มีวี่แววที่จะมีพ่อค้าแม่ขายมาตั้งแผง หรือเตรียมปิดถนนเพื่อเป็นถนนคนเดินแต่อย่างใด จนสุดท้ายเลยไปถามแม่ค้าแถว ๆ นั้น ก็เลยได้ความว่า งดจัดถนนคนเดินมาตั้งแต่โควิดระบาดแล้วค่ะ แม้ตอนนั้นที่ไปคือสถานการณ์ดีขึ้นมากแล้ว ก็ยังไม่กลับมาจัดอยู่เลย

โหยยย แอบเสียดายอะ พลาดดดดดเลย T.T

แล้ววันนั้นเคโกะก็เลยหาทางเข้าประภาคาร (คือก็ยังซื่อบื้ออยู่ไง –เดินจากที่พักไปได้ค่ะ ใกล้เลยแหละ) เลยไปแป้กอยู่ที่หาดใกล้ ๆ น่าจะเป็นหาดนางรองค่ะ เพราะเคโกะหาทางเข้าประภาคารเขาหลักไม่เจอ T.T

ตรงนี้ที่เคโกะไปนั่งดูทะเลอยู่ จะเป็นบริเวณร้านอาหารซีฟู้ดค่ะ ซึ่งร้านดูใหญ่ แต่ก็เงียบเหงามาก ๆ เข้าใจว่าโดนผลกระทบเลยปิดร้านไปค่ะ

ทางลงหาดเค้าจะเป็นหินก้อนใหญ่ ๆ เลยค่ะ ลงได้แต่ก็ต้องระมัดระวังนิดนึงนะคะ

ปิดท้ายโพสต์นี้ด้วยวิวมุมสูงแถว ๆ เขาหลัก ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นแถว ๆ บ้านกระทิงเขาหลักรีสอร์ทค่ะ เคโกะทิ่มรถเข้าไป เจอคุณรปภ.ของสถานที่ เค้าเลยบอกว่าจอดรถถ่ายรูปได้ แต่ต้องจอดที่ไหล่ถนนแทน สงวนที่จอดรถให้เฉพาะลูกค้าเท่านั้นค่ะ

คือวิวสวยอะ เคโกะขับรถผ่านก็ได้แต่เหล่ดู //คนขับรถก็งี้ ต้องเหล่ ๆ เอา 5555

อยากบอกว่าของจริง สวยกว่ามากกกกค่ะ

มีคนเคยบอกไว้ว่า โควิดทำให้ธรรมชาติฟื้นฟูตัวเองกลับมาสวยงามอย่างที่ควรจะเป็น เคโกะว่า ก็น่าจะใช้ได้กับเขาหลักนะคะ ^^

โพสต์หน้าหลุดพ้นจากพังงาแล้วค่ะ แหะๆ
https://www.facebook.com/thisiskeigo

[Phang-Nga] Samet NangShe

สวัสดีค่ะ ยังวนเวียนอยู่กับพังงากันอยู่นะคะ ^^”

โพสต์นี้จะพาไปชมวิวที่เค้าว่าสวยมากกกกที่พังงา มาแล้วก็ต้องไปค่ะ แต่บอกก่อนเลยว่าเคโกะไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆ ของพังงามา ตรงจุดชมวิวตรงนี้คือคนเยอะสุดเลยค่ะ 5555

สำหรับจุดชมวิวเสม็ดนางชีนี้จะมีจุดชมวิวอยู่ 2 จุดด้วยกันค่ะ จุดแรกจะถึงก่อน และขับรถขึ้นไปเองไม่ได้ ต้องจอดไว้ด้านล่าง และจ่ายค่ารถกะบะขึ้นไปชมวิวค่ะ

ส่วนจุดที่สอง สามารถขับรถขึ้นไปเองได้ ไม่ได้ชันเวอร์อะไรมากเหมือนอย่างจุดแรกค่ะ และทางขึ้นจุดชมวิวจะอยู่ไกลกว่าจุดแรกประมาณ 5 กิโลเมตรเท่านั้นค่ะ

Spot name : จุดชมวิวเสม็ดนางชี
Location : อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
Google maps : https://goo.gl/maps/stbcswUrJ6zRcYEH7
Entrance fee : Free
Opening hours : 8AM – 5PM
Visited date : 5 Oct 2020

เคโกะขับรถมาตามกูเกิ้ลแม็พจนมาถึงลานจอดรถด้านล่างที่เค้าให้จอดรถนะคะ แล้วก็จะมีบูธเล็ก ๆ ที่เป็นจุดจำหน่ายตั๋วรถกะบะขึ้นลงจุดชมวิวค่ะ ก็ซื้อตั๋วแล้วรอค่ะ รอไม่นาน รถก็มารับแล้วค่ะ ค่ารถรับส่ง 90 บาท/คน เป็นราคาไป-กลับนะคะ และไม่มีเวลาจำกัดค่ะ จะอยู่นานแค่ไหนก็ได้ เค้ามีรถรับส่งวิ่งเรื่อย ๆ อยู่แล้ว

ทางขึ้นลงนั้นชันมากจริง ๆ ค่ะ เคโกะได้แค่ถ่ายรูปเป็นภาพนิ่งมาให้ดูกันพอสังเขป แต่ถ่ายขากลับลงมานะคะ ขาไปถ่ายไม่ได้เลย ไม่ทันตั้งตัวค่ะ ไม่คิดว่าจะชันเบอร์นี้ ฮาาาาาา

แล้วก็มาถึงจุดชมวิวค่ะ มีมุมถ่ายรูปเยอะมากกกกกก แต่คนก็เยอะเช่นกัน ต้องคอยหามุม หรือสับหลีกถ่ายรูปกันดี ๆ ค่ะ

ปิดท้ายจุดนี้ด้วยวิวสวย ๆ ค่ะ

แล้วจากนั้นก็รอรถกลับลงมาที่ลานจอดรถตรงที่เดิมที่รถส่งขึ้นมาค่ะ

แนะนำว่า รถรับส่งนี้ต้องหาที่เกาะที่เหนี่ยวไว้ให้มั่นค่ะ มันชันมากกกกจริง ๆ

ต่อกันอีกจุดนึงค่ะ

Spot name : จุดชมวิวเสม็ดนางชี อ่าวโต๊ะหลี
Location : อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
Google maps : https://goo.gl/maps/n5bbfeSzWbTQydLXA
Entrance fee : Free
Opening hours : 24 hrs
Visited date : 5 Oct 2020

อย่างที่บอกอะค่ะ อยู่เลยจากจุดแรกไปอีกราว ๆ 5 กิโลเมตร และสามารถขับรถขึ้นไปเองได้เลย ทางชันอยู่บ้าง แต่รถเล็กขึ้นได้ค่ะ

ตรงนี้เค้ามีจุดกางเต็นท์ด้วยล่ะค่ะ ตอนที่เคโกะไปก็มีกลุ่มคนเค้ากางเต็นท์กันอยู่ เพิ่งทานข้าวกัน

บรรยากาศโดยรวม เงียบสงบกว่าจุดแรกเยอะเลยค่ะ ตรงนี้ไม่ค่อยมีคนเลย แต่ถามใจเคโกะนะ เคโกะว่าวิวที่จุดแรกสวยกว่าหน่อยค่ะ แต่ที่อ่าวโต๊ะหลีนี้คนน้อยกว่ามากค่ะ

บางรีวิวเค้าก็ว่าทั้งสองจุดนี้ก็วิวเดียวกัน ก็ไม่เถียงค่ะ เพราะก็ห่างกัน 5 กม.เอง อย่างที่บอก แต่ก็นั่นแหละค่ะ ลองชั่งใจกันดูเนอะว่าอยากได้วิวแบบไหนค่ะ

มาแบบสั้น ๆ สั้นไปหรือเปล่าเนี่ย ฮาาา ^^”
https://www.facebook.com/thisiskeigo

[Phang-Nga] Temples

สวัสดีค่ะ เหมือนเริ่มห่าง ๆ หาย ๆ เนอะ ^^”

โพสต์นี้พากลับมาพังงาต่อค่ะ ลืมกันไปแล้วยังว่าเคโกะมีไปพังงามาด้วยยยย ดองนานจนจะครึ่งปีแล้วมั้งเนี่ย T.T

ในโพสต์นี้จะเป็นวัด 2 วัดที่ไปมาในทริปนี้นะคะ คือเค้าว่าวัดสวยแหละ ก็เลยไปซะหน่อย

เริ่มกันที่วัดแรกเลยค่ะ

Spot name : วัดท่าไทร / วัดเทสก์ธรรมนาวา
Location : อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
Google maps : https://goo.gl/maps/AzJ6H1Hwh6jcnk7a9
Entrance fee : Free
Opening hours : N/A
Visited date : 3 Oct 2020

เป็นวัดที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลังเลยค่ะ อยู่ริมทะเลด้วย คือสวยและวิวดีสุด ๆ ไปเลย

อีกซักมุมนะคะ

ด้านหน้าค่ะ

เดินเข้าไปกราบพระกันค่ะ องค์พระก็งามมากเช่นกัน

เดินไปชมวิวที่ริมทะเลบ้างนะคะ ทะเลเงียบสงบมากเลย

เคโกะแวะวัดนี้เป็นที่แรกหลังจากขับรถออกจากสนามบินและเข้าเขตจังหวัดพังงาเลยค่ะ ซึ่งแปลกใจมากว่าทำไมเงียบบบบบมากจริง ๆ ซึ่งพออยู่เที่ยว ๆ ไป ก็เลยรู้ว่าเงียบมากกกกก เพราะโควิดและนักท่องเที่ยวเดิมส่วนใหญ่คือนักท่องเที่ยวต่างชาติอะนะคะ

ปิดท้ายที่วัดนี้ด้วยวัดจากมุมมองริมทะเลบ้างค่ะ

ต่อกันที่วัดที่ 2 เลยค่ะ ซึ่งเป็นวัดที่เคโกะแวะวันสุดท้ายขากลับไปสนามบินอะนะคะ

Spot name : วัดสุวรรณคูหา / วัดถ้ำ / Wat Suwan Khuha
Location : อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
Google maps : https://goo.gl/maps/aBMFCNrue5KP25be6
Entrance fee : Free
Opening hours : N/A
Visited date : 5 Oct 2020

ก็เป็นอีกวัดนึงค่ะที่คนโล่งมากกกก เรียกได้ว่าไม่มีคนเลยจะดีกว่าค่ะ

จอดรถแล้วก็เดินตามทางเข้าวัด ดูแล้วมีเค้าว่าเคยมีร้านค้าอยู่แต่ก็มีร้านเปิดอยู่แค่ 2 ร้านเองค่ะ

ระหว่างทางเดินไปก็เป็นหน้าผาสูงใหญ่ ได้ฟีลว่าเดี๋ยวได้เข้าถ้ำแน่ ๆ ค่ะ 555

ก่อนเข้าวัดที่อยู่ในถ้ำ ก็จะมีต้นโพธิ์ที่เค้าว่ามีอายุร้อยปีอยู่ด้านหน้าก่อน เป็นต้นที่ใหญ่มาก ๆ ค่ะ

แล้วก็เจอกับปากทางเข้าค่ะ

วันนั้นเคโกะนุ่งกางเกงขาสั้นไป ก็จะมีเจ้าหน้าที่ที่นั่งอยู่ด้านหน้าจะบอกให้นุ่งผ้าถุงทับด้วยค่ะ งดใส่ขาสั้นเนอะ

ด้านในก็จะมีพระพุทธรูปหลายรูปเลยค่ะ

เดินลึกเข้าไปด้านในก็จะมีถ้ำให้เดินเข้าไปด้วยค่ะ

ก็จะมีรูปปั้นของฤๅษีท่านนึงอยู่ แอบหลอนนิด ๆ เหมือนกันนะคะ แหะๆ

เดินลึกเข้าไปอีกหน่อยก็จะมีประมาณนี้อยู่ จะเดินลึกเข้าไปอีกก็ได้ค่ะ แต่เคโกะว่ามืดไปอะ เลยหยุดแค่นี้พอ

เดินย้อนกลับออกมาเลยได้เจอกับพระปรมาภิไธยของหลาย ๆ รัชกาลเลย

แล้วพอจะเดินออก ก็เจอกับสถูปของต้นตระกูล ณ ตะกั่วทุ่งด้วยค่ะ เป็นวัดที่สำคัญมากจริง ๆ เลยนะคะเนี่ย

ก็เป็นสองวัดที่เคโกะว่าน่าสนใจค่ะ และพอได้ไปแล้วก็รู้สึกว่าน่าสนใจมากจริง ๆ ด้วยค่ะ

จบแบบห้วน ๆ ละกันเนอะ
https://web.facebook.com/thisiskeigo

[Bulon Island] Snorkeling 1-day trip

สวัสดีค่าาา มาเล่าเรื่องดำน้ำต่อละนะคะ

และก็เหมือนเดิมน้า อย่างที่บอกไว้แล้วในโพสต์ก่อน ๆ ค่ะว่าทริปนี้เคโกะใช้บริการจาก TYC ชุมชนเกาะบูโหลนหมดเลย ซึ่งว่ากันตามตรง หลังจากทริปนี้แล้วเคโกะมีทริปอีก 2-3 ทริป ค่อนข้างติด ๆ กัน เลยทำให้ลืมทริปนี้ไปเลยอะ คือจำได้ไงว่าไปเที่ยวนะ แต่ไปไหนบ้าง คือไม่มีแพลนใด ๆ เป็นทริปที่ไม่มีการวางแผนอะไรเลยค่ะ ชิลล์มากกก 5555

เอาล่ะ เรื่องทริปดำน้ำนะคะ ก็จะไปดำกันวันที่ 2 ซึ่งตอนเย็นของวันแรกก็จะมีคนเรือโทรมาคอนเฟิร์มกับเราก่อนเป็นปกติแหละเนอะ และด้วยความที่เคโกะไปคนเดียวอะ และก็เป็นช่วงที่ไม่มีนักท่องเที่ยวค่ะ เลยจอยกรุ๊ปไม่ได้ ก็เลยเหมาลำไปเลยจ้าาาาา สนนราคาอยู่ที่ 1500 บาทนะคะ

พี่คนเรือแจ้งเคโกะว่าจะมาเลทนิดหน่อย เพราะขอไปเลือกตั้งก่อน (555 จำได้ไหมคะ โพสต์ที่แล้ว เคโกะพูดถึงแล้วอะว่าไปช่วงที่เค้าเลือกตั้งกันพอดีค่ะ และคนต่างจังหวัดนี่เค้ารักษาสิทธิ์เค้ามากเลยนะ) แต่ก็ประจวบเหมาะที่วันที่จะไปดำน้ำนั้น อากาศไม่ค่อยดีค่ะ ครื้มฟ้าครื้มฝนแต่เช้า ไปสายอีกนิด ก็โอเคค่ะ ฟ้าน่าจะแจ่มใสขึ้น ^^”

แล้วก็เริ่มออกไปดำน้ำค่ะ เหมือนแขกวีไอพีอะ คนเดียวเหมาลำาาาา 5555

การดำน้ำนี้เราจะได้ดำคนละที่กับเวลาไปเกาะหลีเป๊ะนะคะ เพราะงั้นจะไม่ซ้ำกันน้าาา

โดยทั่ว ๆ ไปแล้วจุดที่ดำน้ำก็จะมี เกาะบุโหลนเล, เกาะบุโหลนดอน, เกาะบุโหลนไม้ไผ่ และหินขาวค่ะ

แต่หมู่เกาะบุโหลนนั้นจะมีเพิ่มอีก 2 เกาะคือ เกาะบุโหลนรังและเกาะบุโหลนไก่ ซึ่งทั้งคู่เป็นเกาะที่มีแต่หิน ไม่มีหาดทรายและไม่มีแนวปะการังค่ะ

นี่คือหินขาวค่ะ หินขาวไม่ใช่เกาะนะคะ เป็นแท่งหินที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาค่ะ มีลักษณะสีขาว ๆ หน่อย ก็เลยเรียกว่าหินขาว ตรงนี้เค้าว่าเป็นจุดดำน้ำที่สวยมากที่นึง มีปะการังเจ็ดสี หรือแนวปะการังอ่อนหลากสีให้ชมค่ะ แต่ข้อเสียก็คือตรงนี้จะมีคลื่นลมค่อนข้างแรง — โดยส่วนตัวคิดว่าคล้าย ๆ ร่องน้ำจาบัง ของเกาะหลีเป๊ะค่ะ เด่นที่ปะการังอ่อนหลากสี และคลื่นลมแรงเช่นกัน

แล้วช่วงที่เคโกะไป เป็นช่วงที่ฝนตกด้วย อากาศไม่แจ่มใสด้วย คลื่นลมแรงมาก น้ำขุ่นค่ะ เลยทำให้มองไม่ค่อยชัดเลย แต่ถ้าสามารถดำลงไปใต้น้ำได้คือดีค่ะ แต่เคโกะสลัดเสื้อชูชีพไม่ได้ไง ว่ายน้ำไม่แข็งค่ะ ><~ อุแงงงง เลยได้แต่มองแบบมัว ๆ ไปแทน ฮรึกกกก

ไปต่อที่จุดอื่นค่ะ เคโกะบรรยายได้ไม่ละเอียดนะคะว่ารูปไหนคือเกาะไหน ถ่าย ๆ ไปก่อนอะ เกาะไหนลืมแล้ว 55555

มีอยู่จุดนึงคือน้ำใสพอสมควรค่ะ หลังจากผิดหวังจากหินขาวอะ เคโกะก็เลยเอามือถือจุ่มน้ำลงไปถ่ายรูปใต้น้ำมา มีน้องนีโม่ด้วย เห็นกันมั้ยคะ น้องตัวเล็ก ๆ นิดเดียวเองน้าาา ><

(มือถือกันน้ำได้ค่ะ — แต่ไม่ควรหาทำอะ เอาจริง 55555)

กล้องมือถือได้แค่นี้ล่ะค่ะ น้ำขุ่นประมาณนึงด้วย (แต่นี่คือใสสุดแล้ว 5555) รูปก็เลยหมอง ๆ ไปหน่อยนะคะ ><“

แล้วจากนั้นคนเรือก็พาไปที่คล้าย ๆ เกาะไข่ของหลีเป๊ะ คือมีลักษณะเป็นช่องทะลุหินตรงกลางเป็นวง ๆ แบบนี้อะค่ะ

ตอนแรกคือจะลงไปเฉย ๆ เพราะตรงนี้ไม่มีอะไรให้ดำน้ำดูเลย แค่มาถ่ายรูปเฉย ๆ เลยค่ะ ซึ่งจริง ๆ แล้วคือได้แค่ถ่ายรูปจากบนเรือ เพราะน้ำลง เรือเข้าจอดไม่ได้ค่ะ แต่พอคนเรือเห็นเคโกะเอามือถือจุ่มน้ำไปถ่ายรูปใต้น้ำมา ก็เลยชวนมานี่ แล้วให้เอามือถือติดมาด้วย

นึกออกไหมคะ คือเรือเข้ามาจอดใกล้ ๆ ไม่ได้อะ ต้องห่างออกไปแล้วว่ายน้ำเข้าฝั่งมาอะค่ะ ><~

เคโกะก็บ้าจี้นะ คือไหน ๆ น้องมือถือก็เปียกไปแล้วง่ะ ก็เปียกต่ออีกนิดก็ไม่เป็นไรมั้งงง … ก็เลยถือติดตัวว่ายน้ำมาขึ้นฝั่งเกาะนี้ด้วยค่ะ

ชายหาดเค้าเป็นหิน ๆ หมดเลย น่าจะเป็น 1 ใน 2 เกาะที่เคโกะบอกข้างต้นอะค่ะว่าไม่มีจุดดำน้ำ และไม่มีชายหาด

หันไปอีกทางนึง ก็มีช่องทะลุหินเหมือนกัน แต่ไม่กลมเท่ารูปบนนั่น และคนเรือก็ชี้รากไม้ให้ดูค่ะ เค้าบอกว่าลายรากไม้สวยดี ก็เลยถ่าย ๆ มาให้ดูกันด้วย

กลับมาที่ช่องทะลุหินเหมือนเกาะไข่หรือเกาะทะลุอีกรอบค่ะ ตรงนี้น่าจะเป็นด้านหลังที่เดินลอดช่องไปแล้ว และหันย้อนกลับมานะคะ

เรือลำที่เห็น ก็เรือที่พาเคโกะมานั่นแหละ จอดไกลมั้ย 55555

อีกรูปค่ะ เป็นด้านหน้าบ้าง

จริง ๆ มีรูปอีกเยอะ คือไหน ๆ ก็เอามือถือจุ่มน้ำว่ายน้ำมาแล้วไง ถ่ายให้คุ้มมมม (ถ่ายยังไงให้คุ้มไม่มีทางคุ้มเลย 5555)

แต่สวยจริงค่ะ คือถ้ามาถูกจังหวะ น้ำขึ้นแล้วเรือเทียบฝั่งได้คือดี จะได้ไม่ต้องว่ายน้ำขึ้นเกาะเองนะ แล้วก็ไม่ต้องหาเรื่องเอามือถือหรือกล้องไปจุ่มน้ำด้วยค่ะ เว้นแต่มีอุปกรณ์ป้องกัน — ซึ่งเคโกะไม่มีน้าาา เอามือถือจุ่มลงน้ำดื้อ ๆ เลยค่ะ ><~

//ได้ข่าวว่าเธอเพิ่งถอยมือถือมาใหม่ด้วย ใจถึงมาก 55555

อยู่ตรงนี้อยู่พักใหญ่ ๆ แล้วก็ไปต่อที่เกาะบุโหลนไม้ไผ่ เพื่อพักทานข้าวเที่ยง ซึ่งเกาะนี้ก็เป็นที่ตั้งที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติด้วยค่ะ มีจุดกางเต็นท์ มีห้องน้ำด้วยนะ

ข้าวเที่ยงของเคโกะ คนเรือเตรียมให้ใส่กล่องมาอย่างดี ซึ่งเคโกะมองว่าดีค่ะ จะได้ไม่ทิ้งขว้างเป็นขยะให้บนเกาะอะนะคะ

และความที่ไดเอ็ตอยู่ เลยรีเควสท์ของเมนูปลาและไข่ต้มเพิ่มโปรตีน เลยได้แบบนี้มา ^^”

ถามว่าอร่อยมั้ย คือดีอยู่นะคะ

ที่ดีสุดคือน้ำดื่ม //ตามประสานุช 5555

ทานอิ่มแล้วก็ไปเดินเล่นบนเกาะค่ะ

มาเจอป้ายหน่วยพิทักษ์นี่เข้า ก็เลยถึงบางอ้อว่า ตรงนี้คืออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรานั่นเอง เคยได้ยินแต่ชื่อค่ะ ชื่อเก๋ดี แอบติดหูมาหน่อย ๆ แหะ ๆ

ปกติแล้วจะมีเจ้าหน้าที่อยู่ แต่อย่างที่บอกค่ะ เป็นช่วงเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่ไม่อยู่บนเกาะเลย อยู่แต่นุ้งแมวววว ^^”

น้องแมวน่ารักและเป็นมิตรมากค่ะ เคโกะเข้าไปทักทายด้วย น้องก็เล่นด้วยนะ เหมือนเหงา เหมือนไม่เจอคนมานานอะ 5555 แล้วก็วิ่งวน วิ่งตามต้อย ๆ ตามแจเลยค่ะ น่าร้ากกกก 5555

ตรงนี้มีจุดชมวิวให้เดินนิดหน่อยด้วยค่ะ

วิวด้านบนก็จะประมาณนี้ มองมุมสูงแล้วเห็นแนวน้ำลึกน้ำตื้นชัดเจน ซึ่งถ้าดูใกล้ ๆ จะมีทุ่นลอยน้ำกั้นเขตไว้อยู่ค่ะ คือดำน้ำได้เฉพาะภายในทุ่นเท่านั้นค่ะ

เดินชมวิวเสร็จกลับลงมา น้องแมวก็มารออยู่ค่ะ ก็ไม่ยอมเดินขึ้นไปด้วยกันนี่นะ 5555

เดินเลียบเล่นชายหาด หาดทรายขาวนุ่มละเอียดมากค่ะ เหมือนที่เกาะบูโหลนเล ที่รีสอร์ทเลย

แล้วก็ดำน้ำเล่นต่ออีกพักใหญ่ ก่อนที่จะได้เวลากลับ

ความที่มาคนเดียวเนาะ มันก็จะมาไวเคลมไวค่ะ 5555 คนเรือเลยแถมให้อีกนิด ด้วยการพาไปดูถ้ำค้างคาว ถ้าเข้าใจไม่ผิด น่าจะอยู่ท้ายเกาะบุโหลนเล เกาะที่ตั้งรีสอร์ทเนี่ยแหละ

แล้วก็จอดเรือให้ใกล้ ๆ ค่ะ

คือใกล้ได้แค่นี้เอง ที่เหลือคือ จงว่ายน้ำเข้าไปดูซะ 5555

คนเรือปล่อยให้เคโกะว่ายไปดูคนเดียวด้วยนะ กรี๊ดดดด เด็กสาว (?) อย่างชั้น ก็กลัวค้างคาวเป็นเหมือนกันนะ ><~

ก็ข้างในถ้ำ ลักษณะก็จะเป็นถ้ำแคบ ๆ ที่เพดานสูง ๆ หน่อย ส่วนค้างคาวเองก็จะเกาะอยู่บนเพดานตามสไตล์เค้า ตัวจะเล็ก ๆ ค่ะ น่าจะเป็นค้างคาวแม่ไก่มั้ยนะ ส่งเสียงกรีดร้องอยู่ให้พอได้ยินค่ะ มีค้างคาวไม่ได้เยอะมาก แต่อาจจะเพราะไม่ได้เข้าไปลึกด้านในด้วยค่ะ

ทั้งสองถ้ำก็จะคล้าย ๆ กันเลยนะคะ

แล้วเคโกะก็เล่นน้ำอยู่ตรงนี้แหละ อีกพักนึง ก่อนที่จะกลับที่พัก เป็นอันจบทริปดำน้ำแล้วค่ะ

โดยรวมกับการดำน้ำสน็อคเกิ้ลบริเวณหมู่เกาะบุโหลนนะคะ เคโกะว่าดี จะดียิ่งขึ้นถ้าดำน้ำตัวเปล่าใส่ฟินได้เป็น เพราะถ้าเจอช่วงที่น้ำขุ่นแล้ว สน็อคเกิ้ลแบบใส่เสื้อชูชีพคือแย่เลยค่ะ วิสัยทัศน์แย่มากเลย มองไม่ค่อยชัดค่ะ แต่ความเป็นธรรมชาตินั้น เคโกะให้คะแนนที่นี่เยอะเลยนะ ดูค่อนข้างจะอุดมสมบูรณ์เลยล่ะค่ะ

ดำน้ำไม่เป็นมาได้มั้ย เคโกะว่าได้นะ แอบเห็นห่วงยางและเชือกอยู่ในเรือ แบบเวลาไปดำน้ำที่อื่น ๆ อะค่ะ เค้ามักจะให้เกาะห่วงยาง แล้วก็ลาก ๆ ไปดูอะนะ แต่สำหรับเคโกะกับที่นี่แล้ว คนเรือถามแล้วค่ะว่าว่ายน้ำได้ใช่มั้ย ก็เลยไม่ได้ใช้นะคะ ปล่อยให้ว่ายเอง มีพาไปดูตรงนั้นตรงนี้บ้าง แต่ไม่ได้ใช้ห่วงยางลากไปค่ะ

และที่สำคัญ ควรหาเพื่อนมากันหลาย ๆ คนนะคะ จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าเหมาเรือออกมาดำน้ำคนเดียว อ่วมค่ะ 55555

จบทริปเกาะบูโหลนเนอะ สงสัยตรงไหนเม้นท์สอบถามได้หรือไม่ก็อินบ็อกซ์ไปที่เพจนะค้าาาา
https://www.facebook.com/thisiskeigo