[Hua-Hin] Hua-Hin61 and nearby

สวัสดีค่า ยังคงอยู่กับหัวหินอยู่นะคะ ^^” –ก็เหมือนช่วงนี้ไปหัวหินบ่อยแหละ 555

สำหรับโพสต์นี้นะคะ ต้องออกตัวไว้ตรงนี้ก่อนเลยว่าเป็นการไปหัวหินที่ไปตามรอยศิลปินคนโปรดที่เคโกะชื่นชอบมาก ๆ ค่ะ นั่นก็คือออออออ … “เป๊ก ผลิตโชค” ค่าาาา –ยิ้มเขิน ^^”

ก็คือ จริง ๆ เคโกะก็เคยบอกไปแล้วเนอะว่าตัวเองเป็นนุชไรงี้อะค่ะ

Spot name : Hua Hin Beach / หาดหัวหิน
Location : อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
Google maps : https://goo.gl/maps/RJoREa1oZQ68Kaco9
Entrance fee
: free
Opening hours : N/A
Visited date : 9, 28, 30 Oct 2021

ที่ซอยหัวหิน 61 นี้เป็นซอยที่เป็นทางลงหาดหัวหินนะคะ ในซอยก็จะมีร้านค้าต่าง ๆ ขายเป็นทางยาวตลอด 2 ข้างทางค่ะ

สำหรับที่จอดรถ สามารถจอดตามในรูปด้านบนหรือจอดริมทางในซอยช่วงต้นหรือปากซอยบนถนนเพชรเกษมแล้วเดินเข้ามาก็ได้ค่ะ

โดยปกติแล้ว จุดหมายแรกที่เคโกะมักจะแวะเวลามาซอยหัวหิน 61 นี้ก็คือร้านส้มตำไก่ย่างป้าราญค่ะ

เคโกะแวะร้านนี้ 2 รอบค่ะ รอบแรกมีไก่ย่าง 1 ไม้กับน้ำตกหมูค่ะ สามารถนั่งทานหลังร้านได้นะคะ มีโต๊ะให้นั่งทานได้ 3 โต๊ะค่ะ

ส่วนอีกวันนึงที่แวะไปทาน ก็ทานแต่ไก่ย่างอย่างเดียวค่ะ ไก่ย่าง 2 ไม้ เป็นเนื้อสะโพกล้วนกับน่องไก่ค่ะ

โดยส่วนตัวแล้ว เคโกะชอบไก่ย่างและน้ำจิ้มแจ่วที่มาด้วยกันนะคะ ไก่ย่างเป็นส่วนสะโพกที่เค้าเลาะกระดูกออกให้แล้ว ทานง่าย เนื้อนิ่ม ไม่แห้ง มีความ juicy ในเนื้อไก่ย่างดีเลยค่ะ น้ำจิ้มแจ่มจะออกเปรี้ยวนิดหน่อย แต่ไม่แหลมจนเกินไป รสกลมกล่อมดีมากเลยค่ะ

ราคาไม่แรงมากนะคะ ครั้งแรกน่าจะ 110 บาท ส่วนครั้งที่ 2 ก็ประมาณ 100 ค่ะ

จากนั้นเคโกะก็มักจะข้ามไปทานเครื่องดื่มต่อที่ร้าน Coffee Man ค่ะ ตั้งอยู่เยื้อง ๆ กันเลย ซึ่งร้านนี้ก็ไปสองรอบเหมือนกันค่ะ

ครั้งแรกเคโกะสั่งเป็นชาเย็นหวานน้อย ซึ่งออกมาก็เข้มข้นอร่อย หวานน้อยสมใจเลยค่ะ ส่วนครั้งที่สองเคโกะสั่งลาเต้หวานน้อยบ้าง ก็ถูกปาก ถูกจริตดีค่ะ

ร้านเป็น 2 ล็อคค่ะ ล็อคแรกคือเคาน์เตอร์กาแฟไรงี้ ส่วนล็อคที่ติดกันจะเป็นร้านที่นั่งดื่มกาแฟได้ แต่งร้านสไตล์วินเทจเบา ๆ เก๋ไก๋ม้ากกกก

ร้านนี้คุณผลิตเค้ามาแจกลายเซ็นต์ไว้ให้ 2 จุดค่ะ บนกรอบรูปและบนสเก็ตบอร์ด

ส่วนร้านอื่นใกล้ ๆ ละแวกใกล้เคียงก็จะแนวของฝากน่ารัก ๆ ประมาณนี้เลยค่ะ

แล้วก็อย่างที่บอกเนอะว่าซอยนี้เป็นทางเดินลงหาดหัวหินได้ค่ะ และเคโกะก็ได้ไปตามรอยคุณผลิตบนหาดหัวหินอีก 1 ร้าน

ลงหาดมาแล้วเลี้ยวซ้ายเดินตรงไปจนสุด เป็นร้านล็อคที่ 22 หรือ Opalivia ค่ะ เป็นร้านที่ผลิตเคยมานั่งทานอาหารเหมือนกัน

วันที่เคโกะไป อากาศค่อนข้างครื้ม ๆ ค่ะ เลยดูไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่ แต่หาดหัวหินคือเงียบไปมาก ๆ จริง ๆ

เคโกะสั่งทานไป 2 จานค่ะ เป็นไก่ทอดเกลือ (เอ๊ะ หรือน้ำปลาน้าาาา) กับปอเปี๊ยะทอดค่ะ มาร้อน ๆ กรอบอร่อยทั้ง 2 จานเลยค่ะ

เคโกะไม่ค่อยทานอาหารริมหาดแบบนี้บ่อยเท่าไหร่นักนะคะ แต่พอได้มานอนเตียงผ้าใบเล่นแบบนี้ ก็รู้สึกว่าก็ไม่เลวเลยค่ะ ^^

แถมต่ออีกนิดที่ศูนย์อาหารซอยหัวหิน 55 ค่ะ จากซอยหัวหิน 61 ก็พอจะเดินมาได้ ไม่ไกลมากค่ะ

ตรงนี้มีร้านก๋วยจั๊บแม่ปราณีอยู่ ที่ผลิตเคยมาทานด้วยนะ

เคโกะสั่งเป็นเกาเหลาก๋วยจั๊บค่ะ เครื่องแน่น รสชาติโอเคดีเลยค่ะ

ความที่เป็นเหมือนศูนย์อาหารเนอะ ก็คือจะมีรถเข็นร้านอาหารหลาย ๆ ร้านอะค่ะ มาตั้งขายในบริเวณเดียวกัน แล้วก็มีโต๊ะนั่งทานด้านใน คล้าย ๆ กับเต๊นท์ข้าวในย่านออฟฟิศของกทม.อะนะคะ

หันไปหันมา ก็เลยสั่งลอดช่องกับหมูสะเต๊ะร้านใกล้เคียงมาทานคู่กันซะด้วยเลย

ส่วนตัวว่าลอดช่องก็เฉย ๆ ค่ะ หมูสะเต๊ะคือก็ใช้ได้ค่ะ ไม่เลวร้าย

ปิดท้ายโพสต์นี้ด้วยร้านช ชาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับศูนย์อาหารนี้นะคะ

ร้านด้านในตกแต่งน่ารักดี ถ้าไม่รีบกลับไปทำงานต่อ ก็อยากมานั่งเล่นซักพักอยู่นะคะ

เคโกะสั่งชาเขียวพรีเมียมไปมั้งนะ ราคาค่อนข้างแรงเมื่อเทียบกับเมนูอื่น ๆ ในร้านค่ะ แต่ก็ไม่ได้ประทับใจเท่าไหร่ค่ะ

และเช่นเคย มีคลิปในยูทูปเหมือนกันค่ะ เคโกะขอแปะไว้ 2 คลิปเลยนะคะ เพราะก็ทำคลิปตามรอยไว้อยู่ค่ะ แหะๆ

คลิปแรกเป็น 1-day trip ค่ะ ไปเช้าเย็นกลับ

ส่วนอีกคลิปก็จะเป็นตามรอยร้านอาหาร 9 ร้านที่ทานตามผลิตค่ะ (ตามเฉพาะร้านนะคะ ส่วนใหญ่เคโกะจะคิดเมนูเอง ไม่ได้ทานตามทุกสิ่งนะคะ 5555)

ก็จะประมาณนี้ค่ะ ไปหาดหัวหินครั้งนี้ก็เปลี่ยนมุมมองใหม่ ๆ ไปเลยแหละ รู้สึกว่าก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะคะ

ฝากเพจด้วยค่าาา ..
https://web.facebook.com/thisiskeigo

[Phang-Nga] Around Phang-Nga

มาถึงโพสต์สุดท้ายของพังงาแล้วนะคะ ^^”

ในทริปนี้เคโกะจองรถเช่ากับ Budget ไว้ที่สนามบินภูเก็ตค่ะ ตอนที่ไปรับรถ พนง.ก็จะให้เซทนี้มา ใส่ถุงซิปล็อคมาเลย ก็จะมีน้ำขวดเล็ก 1 ขวด (ปกติจะวางให้ในรถ) แล้วก็มี Hand Gel และแอลกอฮอล์ล้างมือค่ะ ซึ่งเคโกะมองว่าดีเลยค่ะ แต่แอบหนักใจนิดนึง เพราะต้องเพิ่มภาระของเหลวขึ้นเครื่องเนี่ยสิ เพราะพกไปเต็มพิกัด 100ml 10 ขวด ครบแล้วค่ะ 5555

รับรถเรียบร้อยแล้วก็ขับมาทางจ.พังงาค่ะ จุดแรกที่แวะก็คือ สะพานไม้เขาปิหลาย ซึ่งเคโกะไม่ลงหมุดในกูเกิ้ลแม็พให้นะ เพราะเค้าปิด และทะลายสะพานไม้ไปแล้วค่ะ เหลือแต่ซากไว้ให้ดู 5555

จริง ๆ ทางเข้าก็ปิดด้วยนะ มีป้ายบอกอยู่ว่าห้ามเข้าค่ะ เลยได้แต่ชะเง้อมองไกล ๆ และถ่ายรูปอัพเดทมาให้ดูว่ามันไม่มีแล้วน้าาาา อย่าหลงไปค่ะ 55555

//ตอนที่หารีวิว ไม่มีใครอัพเดทเลยยยย เลยมาอัพเดทให้น้าาา แหะๆ

ต่อไปก็ไปที่หาดท้ายเหมืองค่ะ อยู่ใกล้ ๆ กันนี่แหละ

Spot name : หาดท้ายเหมือง / Taimuang Beach
Location : อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
Google maps : https://goo.gl/maps/VDvVSzBcdzxKA4tv9
Entrance fee : Free
Opening hours : 24 hrs
Visited date : 3 Oct 2020

วันที่ไป ฟ้าไม่ค่อยเป็นใจนะคะ ฝนตกปรอย ๆ ตลอด แต่หาดก็คือไม่มีคนเลยยยยยยย มีแต่คนแถว ๆ นั้น มีแบบนั่งกินเหล้าแถว ๆ นั้นอยู่แล้วด้วยอะค่ะ 5555

ดูหาดมั่งเนาะ หาดก็จะเงียบ ๆ ค่ะ ตอนแรกก็คิดว่าเพราะฝนตกมั้ย แต่พอไปเรื่อย ๆ ก็รู้ว่าไม่ใช่ คือสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เงียบจริงจังมาก อย่างที่บอกไปแล้วในโพสต์ตอนก่อน ๆ เนาะ

ตัดมาวันที่ 2 หลังจากล่องแพแล้ว ก็ไปเที่ยวในเมืองพังงากันบ้างค่ะ //ตามรอยผลิตก็บอกเค้าไปปปปป 55555

เริ่มที่สะพานเหล็กบุญสูงค่ะ ตรงนี้ก็มีนักท่องเที่ยวเยอะหน่อย เน้นมาถ่ายรูปสะพานเหล็กกับทุ่งกว้าง ๆ ค่ะ

ซึ่งสะพานเหล็กนี้สร้างจากเหล็กขุดแร่ในสมัยก่อน เป็นสัญลักษณ์ของการทำเหมืองแร่ของตะกั่วป่าค่ะ

Spot name : สะพานเหล็กบุญสูง
Location : อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
Google maps : https://goo.gl/maps/BTart9PGCXrdhsCh8
Entrance fee : Free
Opening hours : 24 hrs
Visited date : 4 Oct 2020

ตรงนี้จะไม่มีที่จอดรถจริงจังนะคะ ต้องจอดไหล่ถนนเอาเอง ซึ่งเคโกะก็เห็นจอดเรียงรายกันทั้งสองฝั่งเลยค่ะ แต่ในความคิดเห็นส่วนตัว จอดฝั่งเดียวกันกับสะพานเหล็กจะสะดวกกว่าค่ะ

แล้วก็ขอแปะรูปสะพานเหล็กบุญสูงรัว ๆ เลยน้าาา ก็จะประมาณนี้อะค่ะ เป็นสะพานเหล็กยาว ๆ ไปจนข้ามแม่น้ำเลย สองข้างทางก็จะเป็นวิวทุ่งหญ้าธรรมดา ซึ่งสะพานเหล็กนี้รถมอเตอร์ไซค์ผ่านได้ ถ่ายรูปก็ระวังกันด้วยนะคะ

ปิดท้ายตรงนี้ด้วยวิวแม่น้ำจากบนสะพานเหล็กที่ยืนอยู่ค่ะ

จากนั้นเคโกะก็จะไปย่านเมืองเก่าตะกั่วป่า แต่ระหว่างทางก็เจอจวนเจ้าเมืองตะกั่วป่าเข้าซะก่อน เลยหาที่จอดรถแอบ ๆ ไว้แถว ๆ นั้นแล้วไปเดินดูซักนิดนึงค่ะ

Spot name : จวนเจ้าเมืองเก่าตะกั่วป่า / Chao Mueang Takua PA Residence Place
Location : อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
Google maps : https://goo.gl/maps/U3EdWVbeCpWX3APL9
Entrance fee : Free
Opening hours : 24 hrs
Visited date : 4 Oct 2020

เอาตรง ๆ เลย เดาว่าน่าจะเป็นที่ตั้งของจวนเจ้าเมืองตะกั่วป่าเก่าที่ปล่อยรกร้างไว้กลายเป็นลานหญ้ากว้าง ๆ มีร่องรอยซากปรักหักพักนิดหน่อยให้พอเห็นว่าน่าจะมีสิ่งก่อสร้างเก่า ๆ อยู่ค่ะ

จากนั้นก็ไปต่อที่ย่านเมืองเก่าตะกั่วป่า ถนนสายวัฒนธรรม หรือย่านเมืองเก่าค่ะ

Spot name : ถนนสายวัฒนธรรมตะกั่วป่า / ถนนคนเดินตะกั่วป่า
Location : อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา
Google maps : https://goo.gl/maps/7SGYw79DVMfsCXkP7
Entrance fee : Free
Opening hours : Every Sundays 3 – 8 PM
Visited date : 4 Oct 2020

มีความคาดหวังว่าจะมาถึงในช่วงบ่ายแก่ ๆ ค่ะ แล้วเดินดูสตรีทอาร์ทหรือกราฟฟิตี้แถว ๆ นี้ซักหน่อย //ตามรอยอีกแล้วววว 5555 แล้วจากนั้นก็จะไปเดินถนนคนเดินค่ะ

ก่อนที่จะแปะรูปกราฟฟิตี้เก๋ ๆ น่ารัก ๆ ก็เอารูปร้านค้าในย่านนั้นให้ดูก่อนเนอะ คือเค้าก็มีการเพนท์ การตกแต่งหน้าร้านให้ดูน่าสนใจด้วยล่ะค่ะ เก๋ ๆ ดี

แล้วก็เป็นกราฟฟิตี้เก๋ ๆ ที่ก็มาแล้วก็ต้องถ่ายกันซักหน่อย เนอะ

บางรูป ถ้าเป็นนุชก็คงเข้าใจ ว่าไปทำไม 555555555

เคโกะเดินเตร็ดเตร่แถวนั้นอยู่พักใหญ่ ก็ไม่มีวี่แววที่จะมีพ่อค้าแม่ขายมาตั้งแผง หรือเตรียมปิดถนนเพื่อเป็นถนนคนเดินแต่อย่างใด จนสุดท้ายเลยไปถามแม่ค้าแถว ๆ นั้น ก็เลยได้ความว่า งดจัดถนนคนเดินมาตั้งแต่โควิดระบาดแล้วค่ะ แม้ตอนนั้นที่ไปคือสถานการณ์ดีขึ้นมากแล้ว ก็ยังไม่กลับมาจัดอยู่เลย

โหยยย แอบเสียดายอะ พลาดดดดดเลย T.T

แล้ววันนั้นเคโกะก็เลยหาทางเข้าประภาคาร (คือก็ยังซื่อบื้ออยู่ไง –เดินจากที่พักไปได้ค่ะ ใกล้เลยแหละ) เลยไปแป้กอยู่ที่หาดใกล้ ๆ น่าจะเป็นหาดนางรองค่ะ เพราะเคโกะหาทางเข้าประภาคารเขาหลักไม่เจอ T.T

ตรงนี้ที่เคโกะไปนั่งดูทะเลอยู่ จะเป็นบริเวณร้านอาหารซีฟู้ดค่ะ ซึ่งร้านดูใหญ่ แต่ก็เงียบเหงามาก ๆ เข้าใจว่าโดนผลกระทบเลยปิดร้านไปค่ะ

ทางลงหาดเค้าจะเป็นหินก้อนใหญ่ ๆ เลยค่ะ ลงได้แต่ก็ต้องระมัดระวังนิดนึงนะคะ

ปิดท้ายโพสต์นี้ด้วยวิวมุมสูงแถว ๆ เขาหลัก ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นแถว ๆ บ้านกระทิงเขาหลักรีสอร์ทค่ะ เคโกะทิ่มรถเข้าไป เจอคุณรปภ.ของสถานที่ เค้าเลยบอกว่าจอดรถถ่ายรูปได้ แต่ต้องจอดที่ไหล่ถนนแทน สงวนที่จอดรถให้เฉพาะลูกค้าเท่านั้นค่ะ

คือวิวสวยอะ เคโกะขับรถผ่านก็ได้แต่เหล่ดู //คนขับรถก็งี้ ต้องเหล่ ๆ เอา 5555

อยากบอกว่าของจริง สวยกว่ามากกกกค่ะ

มีคนเคยบอกไว้ว่า โควิดทำให้ธรรมชาติฟื้นฟูตัวเองกลับมาสวยงามอย่างที่ควรจะเป็น เคโกะว่า ก็น่าจะใช้ได้กับเขาหลักนะคะ ^^

โพสต์หน้าหลุดพ้นจากพังงาแล้วค่ะ แหะๆ
https://www.facebook.com/thisiskeigo

[Phang-Nga] Samet NangShe

สวัสดีค่ะ ยังวนเวียนอยู่กับพังงากันอยู่นะคะ ^^”

โพสต์นี้จะพาไปชมวิวที่เค้าว่าสวยมากกกกที่พังงา มาแล้วก็ต้องไปค่ะ แต่บอกก่อนเลยว่าเคโกะไปเที่ยวตามที่ต่าง ๆ ของพังงามา ตรงจุดชมวิวตรงนี้คือคนเยอะสุดเลยค่ะ 5555

สำหรับจุดชมวิวเสม็ดนางชีนี้จะมีจุดชมวิวอยู่ 2 จุดด้วยกันค่ะ จุดแรกจะถึงก่อน และขับรถขึ้นไปเองไม่ได้ ต้องจอดไว้ด้านล่าง และจ่ายค่ารถกะบะขึ้นไปชมวิวค่ะ

ส่วนจุดที่สอง สามารถขับรถขึ้นไปเองได้ ไม่ได้ชันเวอร์อะไรมากเหมือนอย่างจุดแรกค่ะ และทางขึ้นจุดชมวิวจะอยู่ไกลกว่าจุดแรกประมาณ 5 กิโลเมตรเท่านั้นค่ะ

Spot name : จุดชมวิวเสม็ดนางชี
Location : อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
Google maps : https://goo.gl/maps/stbcswUrJ6zRcYEH7
Entrance fee : Free
Opening hours : 8AM – 5PM
Visited date : 5 Oct 2020

เคโกะขับรถมาตามกูเกิ้ลแม็พจนมาถึงลานจอดรถด้านล่างที่เค้าให้จอดรถนะคะ แล้วก็จะมีบูธเล็ก ๆ ที่เป็นจุดจำหน่ายตั๋วรถกะบะขึ้นลงจุดชมวิวค่ะ ก็ซื้อตั๋วแล้วรอค่ะ รอไม่นาน รถก็มารับแล้วค่ะ ค่ารถรับส่ง 90 บาท/คน เป็นราคาไป-กลับนะคะ และไม่มีเวลาจำกัดค่ะ จะอยู่นานแค่ไหนก็ได้ เค้ามีรถรับส่งวิ่งเรื่อย ๆ อยู่แล้ว

ทางขึ้นลงนั้นชันมากจริง ๆ ค่ะ เคโกะได้แค่ถ่ายรูปเป็นภาพนิ่งมาให้ดูกันพอสังเขป แต่ถ่ายขากลับลงมานะคะ ขาไปถ่ายไม่ได้เลย ไม่ทันตั้งตัวค่ะ ไม่คิดว่าจะชันเบอร์นี้ ฮาาาาาา

แล้วก็มาถึงจุดชมวิวค่ะ มีมุมถ่ายรูปเยอะมากกกกกก แต่คนก็เยอะเช่นกัน ต้องคอยหามุม หรือสับหลีกถ่ายรูปกันดี ๆ ค่ะ

ปิดท้ายจุดนี้ด้วยวิวสวย ๆ ค่ะ

แล้วจากนั้นก็รอรถกลับลงมาที่ลานจอดรถตรงที่เดิมที่รถส่งขึ้นมาค่ะ

แนะนำว่า รถรับส่งนี้ต้องหาที่เกาะที่เหนี่ยวไว้ให้มั่นค่ะ มันชันมากกกกจริง ๆ

ต่อกันอีกจุดนึงค่ะ

Spot name : จุดชมวิวเสม็ดนางชี อ่าวโต๊ะหลี
Location : อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
Google maps : https://goo.gl/maps/n5bbfeSzWbTQydLXA
Entrance fee : Free
Opening hours : 24 hrs
Visited date : 5 Oct 2020

อย่างที่บอกอะค่ะ อยู่เลยจากจุดแรกไปอีกราว ๆ 5 กิโลเมตร และสามารถขับรถขึ้นไปเองได้เลย ทางชันอยู่บ้าง แต่รถเล็กขึ้นได้ค่ะ

ตรงนี้เค้ามีจุดกางเต็นท์ด้วยล่ะค่ะ ตอนที่เคโกะไปก็มีกลุ่มคนเค้ากางเต็นท์กันอยู่ เพิ่งทานข้าวกัน

บรรยากาศโดยรวม เงียบสงบกว่าจุดแรกเยอะเลยค่ะ ตรงนี้ไม่ค่อยมีคนเลย แต่ถามใจเคโกะนะ เคโกะว่าวิวที่จุดแรกสวยกว่าหน่อยค่ะ แต่ที่อ่าวโต๊ะหลีนี้คนน้อยกว่ามากค่ะ

บางรีวิวเค้าก็ว่าทั้งสองจุดนี้ก็วิวเดียวกัน ก็ไม่เถียงค่ะ เพราะก็ห่างกัน 5 กม.เอง อย่างที่บอก แต่ก็นั่นแหละค่ะ ลองชั่งใจกันดูเนอะว่าอยากได้วิวแบบไหนค่ะ

มาแบบสั้น ๆ สั้นไปหรือเปล่าเนี่ย ฮาาา ^^”
https://www.facebook.com/thisiskeigo

[Phang-Nga] Ocean Breeze Resort

สวัสดีค่ะ วาร์ปโผล่มาพังงาเฉยยยย 5555 เป็นทริปแรกเลยค่ะที่ได้บินหลังจากหยุดเพราะโควิด-19 กันไปหลายเดือนอะนะคะ แอบตื่นเต้นเล็กน้อย เคโกะเลือกไปพังงานะ เพราะภูเก็ตไปมาหลายรอบแล้ว //จริง ๆ คืออยากไปตามรอยผลิตแหละ 555555 #เที่ยวไทยกับผลิต ต้องมาแน้วววว 555555

ที่พักนี้เคโกะไม่ได้ตามรอยน้าาา แต่ที่เที่ยวบางที่ก็ตามรอยอยู่ค่ะ ตามรอยไม่ครบด้วย แอบเสียดายยยย

Hotel name : Ocean Breeze Resort
City : Khao Lak, Phang-nga, Thailand
Location : https://goo.gl/maps/GVX4gnbqrc1axrN46
Booking via : Agoda.com
Room type : Superior Room
Room rate : 2,130.01BHT (ราคารวมนะคะ)
Check-in date : 3-5 October 2020, 2 nights
Facebook page : https://web.facebook.com/Ocean-Breeze-Resort-Khao-Lak-150098725011304/
Website : https://www.oceanbreezekhaolak.com/

ด้วยความที่ใจเย็นเกิน กว่าจะจองก็จะเดินทางอยู่แล้วอะ เลยไม่ได้ใช้สิทธิ์เราเที่ยวด้วยกันเลยค่ะ T.T

เคโกะบินลงภูเก็ต แล้วเช่ารถขับไปพังงานะคะ แวะเที่ยวไปรายทางเรื่อย ๆ จนถึงรีสอร์ทค่ะ ก็จะเย็น ๆ หน่อยแล้ว รีสอร์ทแอบหายากนิดนึง แต่ไม่ได้ยากจนเกินไปค่ะ กูเกิ้ลแม็พคือตรงเป๊ะเวอร์วังมากกกก ที่จอดรถมีประมาณนึงค่ะ ไม่ได้เยอะมาก แต่จอดเพิ่มเติมด้านหน้ารีสอร์ทริมถนนได้ไรงี้

เคโกะไม่แน่ใจเรื่องราคาห้องพักในราคาปกติน้าาา แต่สำหรับส่วนตัวแล้ว คือที่พักอยู่เขาหลักอะ เขาหลักที่ได้ชื่อว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะมาก ๆ ค่ะ (มีคนพื้นที่เล่าให้ฟังว่าปกติแล้วนักท่องเที่ยวต่างชาติแทบจะ 100% เลย .. หูววววว) เลยคิดว่าไม่น่าจะราคานี้ค่ะ แต่ได้ราคานี้มาอาจจะเพราะมีการลดราคาช่วงหลังโควิดเนอะ และต่างชาติยังเข้าไทยมาไม่ได้ค่ะ (โควิดรอบแรกนะคะ กว่าเคโกะจะเขียนลงบล็อก ก็รอบสองแล้วอะ T.T)

ที่พักตกแต่งสไตล์โทนขาว-ฟ้าค่ะ แนว ๆ ทะเล ๆ ให้ความรู้สึกริมทะเลจริง ๆ ซึ่งชอบมากกกกก ที่พักก็จะเป็นทรงคล้าย ๆ บ้านพักหลัง ๆ ค่ะ สองชั้นบ้าง ไรงี้ ก็จะมีบันไดเวียนขึ้นไปชั้น 2 และมีการตกแต่งใช้พุ่มไม้หลบมุม บังสายตากันระหว่างห้อง เลยทำให้รู้สึกว่าเป็นส่วนตัวดีค่ะ

เปิดประตูห้องเข้ามาก็เจอเตียงนอนใหญ่นุ่มเลย

ชอบการสรรหาโคมไฟมาวางข้างเตียงค่ะ คุมโทน คุมธีมห้องได้ดีมากอะ น่ารักกกก

เตียงอึกมุมนึงนะคะ ถ่ายจากในห้องออกมาน้าาา จะเห็นประตูห้อง (สีฟ้าๆ) ด้วยค่ะ ห้องไม่ได้เล็กอะ แต่ก็ไม่ได้ใหญ่เวอร์อะไรค่ะ ส่วนตัวว่าก็กำลังดีค่ะ

ปลายเตียงเป็นเคาน์เตอร์ยาว สไตล์ปูนเปลือย สีขาว ๆ ดูมินิมอลดี ทำเป็นทุกอย่างเลยทั้งโต๊ะทำงานและโต๊ะวางทีวีค่ะ

ชอบพรมหน้าเตียงมาก ช่างสรรหาอะ น่าร้ากกกกค่ะ ได้ฟีลแบบชายหาด ๆ ไรงี้ เพราะสีไปแมทช์กับผ้าคลุมปลายเตียงที่เป็นสีฟ้า ฟีลทะเลพอดีค่ะ

แล้วก็ด้านในสุด เค้าทำเป็นชั้น ๆ ค่ะ วางตู้เย็น มินิบาร์ไว้ตรงนี้ แอบหลืบไปนิด แต่ก็ไม่ได้อะไรค่ะ คิดว่าถ้าสลับออกมาไว้ด้านนอก เคโกะว่าก็ดูแหม่ง ๆ อยู่ดี ก็อยู่ตรงนี้ก็โอเคแล้วแหละ

อีกด้านนึงของห้อง ก็จะเป็นเดย์เบดค่ะ ซึ่งเป็นเดย์เบดที่น่ากลิ้งเกลือกเล่นที่สุด ใหญ่แบบนอนกลิ้งได้จริงอะ

แล้วก็ด้านหน้าห้องน้ำ ก็จะเป็นตู้เสื้อผ้าบิ้วท์อินขนาดใหญ่ เหมือนกั้นผนังห้องด้านนึงไปเลยอะค่ะ เลยทำให้รู้สึกใหญ่มาก ซึ่งด้านในก็จะมีตู้เซฟใบย่อมให้ใช้ มีตะกร้าเสื้อผ้า เสื้อคลุมฯลฯ ไรงี้วางอยู่

เคโกะเจอน้องกบ (น่าจะใช่นะ ^^”) ตัวนึงโดดเหย็ง ๆ ด้วยค่ะ รีบปิดแทบไม่ทัน โอยยยยย ตกใจจจจค่ะ 5555 น้อลหลบฝนเหรอลูกกกกกกก 5555 (วันที่ไปฝนตกค่ะ)

แล้วก็มาที่ห้องน้ำบ้างค่ะ เป็นทรงยาว ๆ เลยนะคะ

ส่วนแห้งจะอยู่ด้านนอกสุด แล้วส่วนเปียกจะอยู่ในสุด (ก็ปกติมะ ชั้นจะบอกเพื่ออออ 5555) มีประตูกระจกกั้นส่วนเปียกแห้งได้ดีค่ะ น้ำไม่กระเซ็นออกมา

ส่วนแห้งก็จะประมาณนี้ค่ะ มีข้าวของอุปกรณ์ให้ใช้ครบครันมาก

ซูมให้ดูตรงชั้นวางหน้ากระจกค่ะ จะเห็นว่ามีไดร์เป่าผมไว้ตรงข้างประตูด้วยนะ

แล้วก็ผ้าขนหนูจะวางพาด ๆ ไว้ให้อีกด้านนึงค่ะ

เคโกะมองห้องอาบน้ำแล้วก็งงนิดนึง คือทำบล็อกตรงกลางขึ้นมาเหมือนเก้าอี้นั่งไว้ทำไมเหรอคะ? งงจริง 555

ขวดแชมพูและครีมอาบน้ำวางไว้ให้เป็นขวดปั๊มในห้องน้ำเลยค่ะ ใช้ดีมากกกกกก ถึงกับต้องถ่ายรูปมาแล้วไปเสิร์ชหาดูบ้าง แล้วก็ตกใจแบบ เห้ยยย ไม่ธรรมดาอะ แอบแพงอยู่นะ แต่เคโกะไม่รู้จักแบรนด์นี้ค่ะ ก็เพิ่งรู้จักนี่แหละ ><“

แล้วก็งานเตียง พออีกวันนึง คุณแม่บ้านจัดห้องให้ใหม่ ก็เจอน้องช้างนั่งต้อนรับอยู่บนเตียงค่ะ น่าร้ากกกกกกก เพิ่มความตื่นเต้นดีค่ะว่าคุณแม่บ้านจะจัดผ้าขนหนูเป็นตัวอะไรไว้ให้ ^^

แล้วแบบ เอาใบไม้ใบเล็ก ๆ มาวางให้เป็นตาช้างอะ เห้ยย จริงจังมากกกก

อ้อ ในห้องมี welcome fruits วางไว้ให้ในห้องด้วยนะคะ น่ารักอีกแล้วววว แล้วคือมาแบบแช่เย็นอะ ไม่ได้วางทิ้ง ๆ ไว้ไรงี้ค่ะ คือดีย์~

ภายในรีสอร์ทก็จะหน้าตาประมาณนี้ เคโกะถ่ายไว้ได้รูปเดียวเอง 555

เดินเข้าไปด้านในสุดจะเป็นสระว่ายน้ำค่ะ ติดกันเป็นบาร์ริมทะเล เดาว่าช่วงที่นักท่องเที่ยวครึกครื้น บาร์นี้น่าจะแน่นแน่เลย อิอิ

อีกมุมนึงค่ะ ติดทะเลจริงจริ๊งงง และติดกับทางขึ้น-ลงหาดด้วยค่ะ

ตรงข้ามกับบาร์นี้ก็จะเป็นห้องพักแบบ pool villa ค่ะ คือมีสระว่ายน้ำส่วนตัวให้เลย ตอนที่ไปมีคนมาพักด้วยนะ แอบอิจฉาเล็กน้อย 555

แล้วก็มาดูสระว่ายน้ำบ้างนะคะ

มุมสูงค่ะ ถ่ายจากห้องอาหาร ซึ่งอยู่ชั้นสอง ของตึกที่อยู่ติดกับสระว่ายน้ำนี่แหละ

สระว่ายน้ำที่นี่เค้าจะมีความลึก 3 ระดับ ด้านไกลสุด (ติดทะเลที่สุด) จะเป็นสระเด็กค่ะ มีจากุซชี่ตรงนี้ด้วย รวมถึงมีความลึกของสระตื้นที่สุด แล้วก็ช่วงกลางก็จะลึกขึ้น น่าจะประมาณ 1.70m นะคะ และด้านใกล้ตัวสุดก็จะลึกประมาณ 2 เมตรค่ะ ถ้าจำไม่ผิดนะ

ซึ่งจริง ๆ แล้วอะ สระว่ายน้ำไม่ได้ยาวขนาดนั้นค่ะ แต่เค้าก็ยังอุตส่าห์แบ่งให้มีความลึก 3 ช่วง และตอนเช้า ๆ มีพนักงานมาทำความสะอาด เก็บใบไม้ออกจากสระด้วย คือถือว่าดีเลยค่ะ

ด้านหน้าของ pool villa มีเตียงผ้าใบรับลมทะเลชิลล์ ๆ ด้วย เคโกะยังไม่ได้ไปนั่งรับลมเลยอะ ได้แต่เดินเล่นริมหาดค่ะ 555

วิวริมหาดนั้นคือดีค่ะ มองไปทางซ้ายจะเห็นหอประภาคารที่เป็นซิกเนเจอร์ของเขาหลักเลยค่ะ เสียดายที่เคโกะคิดช้าไปหน่อย มัวแต่วนหาทางเข้าด้วยรถ เลยลืมคิดไปว่า เดินจากรีสอร์ทไปก็ได้นี่นา เลยอดเก็บแสงยามเย็นพระอาทิตย์ตกดินที่ประภาคารนี้เลยค่ะ

ซึ่งเย็น ๆ น้ำลดค่ะ เราสามารถเดินไปที่ประภาคารและเดินขึ้นชมวิวด้านบนได้เลยนะ

ปิดท้ายที่อาหารเช้าค่ะ

ห้องอาหารก็จะประมาณนี้ จัดห้องธีมดูไทย ๆ นิดนึง

ด้านหน้าก่อนทางเดินไลน์อาหารก็จะมีชา-กาแฟบริการตัวเองค่ะ

ไลน์อาหารก็จะประมาณนี้ จำพวกสลัดผัก, ซีเรียล, น้ำผลไม้, เบเกอรี, สเตชั่นไข่ ประมาณนี้ค่ะ

ความที่เคโกะยังอยู่ไดเอ็ดโหมดอยู่ ก็เลยทานยากมากกกก 5555 เลยตักทานได้ประมาณนี้ค่ะ รูปละวันนะคะ

ครัวซองต์วันแรกนั่น คือก็ทานแค่ครึ่งชิ้นค่ะ แค่อยากลองดูเฉย ๆ ว่ารีสอร์ทที่อยู่ในทำเลที่มีแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวกันนั้น เค้าทำออกมาได้อร่อยมั้ย ไรงี้ค่ะ

วันที่สอง เคโกะเจอพนง. เดาว่าเป็นผู้จัดการห้องอาหารค่ะ เข้ามาทักถามไถ่ว่าอาหารเป็นไงบ้างไรงี้ เป็นคนต่างชาติด้วยนะ ><” ดีนะ เคโกะเปลี่ยนภาษาได้ไวเลยพอจะโต้ตอบกันได้ค่ะ ไม่งั้นเหวอแย่เลย 5555

แล้วพอเช็คอิน พนง.ที่ล็อบบี้ก็ถามอีกว่าอาหารเช้าเป็นไงบ้าง เคโกะก็ฟีดแบ็คไปตามตรงนะว่าอาหารไม่ค่อยหลากหลายเท่าไหร่ แต่เป็นเพราะเคโกะทานยากด้วยแหละ — ณ จุดนี้ก็ต้องยอมรับแล้วค่ะว่าทานยากจริง ๆ 555555

สรุปเลยดีกว่านะคะ

  • พนง. น่ารักดีค่ะ ต้อนรับดี อัธยาศัยดีทุกคนเลย ถามขอข้อมูลนู่นนี่ เค้าก็แนะนำให้อย่างเต็มใจค่ะ
  • มีไวไฟให้ใช้ เร็วดีอยู่ค่ะ
  • มีอาหารเช้าบริการด้วย แม้เคโกะจะทานยากก็ตาม แต่ก็มีอะ แล้วก็ไม่ได้ไก่กาอะไร
  • ห้องพักเป็นสัดเป็นส่วนดีค่ะ ห้องใหญ่ พักสบายมาก ตกแต่งน่ารักดี แล้วก็มีราวตากผ้าเปียกไว้ด้านหน้าห้องด้วยนะคะ มีมุมนั่งเล่นด้านนอกห้องด้วย แต่เคโกะไม่ได้ถ่ายมาค่ะ
  • ห้องพักคือดีมากกกก มีของใช้จำเป็นบริการไว้ครบค่ะ แล้วก็คือสภาพดี คุณภาพดีค่ะ
  • ใกล้ประภาคารมาก เดินไปได้ค่ะ
  • ที่จอดรถน้อยไปนิด แต่คิดว่าอาจจะไม่เน้นจุดนี้ คนต่างชาติมาเที่ยวมักจะขี่มอเตอร์ไซค์กันมั้งอะนะ

โดยรวมแล้วคือดีค่ะ ประทับใจมาก ๆ เลย แนะนำเลยค่ะ ^^

ฝากเพจด้วยน้าาาา
https://web.facebook.com/thisiskeigo

Khanom 2019

สวัสดีค่ะ แอบติดใจขนอมจากที่เคยไปมาแล้วเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ก็เลยจัดไปอีกรอบค่ะ ^^

แต่คราวนี้ไม่ได้อยู่แต่ในขนอมตลอดทั้ง 3 วัน 2 คืนนะ แล้วจะขอแบ่งทริปนี้ลงเป็น 3 โพสต์ค่ะ ^^

จุดแรกที่แวะในขนอมก็คือ บ่อน้ำผุดธรรมชาติค่ะ ไปเห็นจากทวิตเตอร์ของนุชด้วยกันนี่แหละ ก็เลยลองตามไปดูบ้าง

Spot name : น้ำบ่อผุดธรรมชาติ
Location : อ.ขนอม นครศรีธรรมราช
Google maps : https://goo.gl/maps/vPEMCfz8PWFEhJvE6
Entrance fee : Free
Opening hours : N/A
Visited date : 5 Oct 19

ทางเข้าเป็นทางดินธรรมดา ๆ ยังไม่มีลาดยางค่ะ ที่จอดรถก็จอดได้ตามสะดวกเลย ^^” ส่วนเคโกะจอดที่ลานจอดตรงข้ามกับทางเข้าบ่อน้ำผุด ซึ่งมีหลุมใหญ่อยู่ด้วย ต้องขับระวัง ๆ นิดนึงด้วยค่ะ

ทางเข้าบ่อน้ำผุดก็จะประมาณนี้

เดินเข้าไปไม่กี่ก้าวก็จะเจอบ่อน้ำผุดแล้วค่ะ ตอนที่เคโกะไปก็มีครอบครัวใหญ่ครอบครัวนึงเค้ามาอยู่ก่อนหน้าแล้ว มีเด็ก ๆ เล่นน้ำกันอยู่ 2 คน แล้วเค้าเห็นเคโกะมาคนเดียว ก็เลยชวนคุยนู่นนี่นั่นค่ะ

ลักษณะก็จะเป็นบ่อน้ำขนาดไม่ใหญ่มากแหละ เข้าใจว่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากการผุดน้ำขึ้นจากพื้นดิน จนกลายเป็นบ่อน้ำค่ะ ซึ่งก็ยังพอจะมองเห็นจุดที่มีน้ำผุดขึ้นมาอยู่นะคะ น้อง ๆ ที่เล่นน้ำอยู่ ก็ยังชี้ให้ดูเลยค่ะว่าจะอยู่ตรงกลางบ่อ ซึ่งต้องลงน้ำไปดูอะ เคโกะขอผ่านค่ะ ไม่สะดวกน้อออ

แต่ก็ยังมีอีกจุดนึงที่สามารถดูจากบนฝั่งได้ค่ะ พ่อแม่ของเด็ก ๆ ชี้ให้ดูกัน ซึ่งก็เป็นตาน้ำผุดเล็ก ๆ มาก ๆ ค่ะ

สิ่งที่ดีงามเลยก็คือ น้ำใสมากกกกกกกกกกกกกก ใสจนมองเห็นพื้นดินที่อยู่ใต้น้ำเลยค่ะ

แต่ข้อเสียก็มีนะ เคโกะมองว่าค่อนข้างทรุดโทรมแล้วอะ ดูขาดความใส่ใจ และดูเหมือนมีร่องรอยความคึกคักของนักท่องเที่ยวหลงเหลืออยู่ ก่อนที่จะเงียบเหงาแบบนี้ค่ะ

จากนั้นก็ขับรถไปที่พักค่ะ ซึ่งเคโกะก็พักที่เดิมเลย คือที่ Leeloo Cabana Khanom ค่ะ ก็มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย ซึ่งเคโกะจะอัพเดทไว้ในโพสต์อันเดิมนะคะ เพราะไม่ได้เปลี่ยนไปมากอะ ^^ ตั้งใจจองห้องหมายเลข 7 อันเป็นการตามรอยอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ทว่า พอไปถึง คุณเจ้าของ (คิดว่าใช่ค่ะ เพราะเป็นคนต่างชาติ ตรงกับข้อมูลที่ได้มาว่าเจ้าของเป็นคนต่างชาตินะ) ก็บอกว่าจองห้องเบอร์ 7 มาแต่ให้ไม่ได้นะ เพราะปลวกลงพอดีค่ะ ก็เลยได้ห้องเดิม ห้องเบอร์ 6 แทน T.T

คงไม่มาแก้มือแล้วนะคะ แหะๆ เว้นแต่มีคนลากมาด้วยอะค่ะ ..

มาดูวิวริมทะเลที่รีสอร์ทกันดีกว่า วิวดี เงียบสงบเหมือนเคย แต่เพิ่มเติมคือมีคนพลุกพล่านขึ้นเยอะจากรีสอร์ทข้าง ๆ ทั้งสองฝั่งค่ะ

เช้าวันต่อมา ตั้งใจออกเรือไปดูโลมาสีชมพู แต่เคโกะก็จำเวลาผิด ออกสายไปหน่อย.. ก็ไม่เท่าไหร่ค่ะ สายไปซักราว ๆ 2 ชม. เอ๊งงงง …

ช่วงเวลาที่เหมาะสมก็คือช่วงเช้า ๆ ประมาณ 7 โมงนะคะ อย่าสายเหมือนเคโกะนะ ><“

คราวนี้เคโกะมาที่ท่าเรือแหลมประทับค่ะ เป็นท่าเรือที่ยอดฮิตมากในการมาเช่าเรือเพื่อออกไปดูโลมาสีชมพูนะคะ

Spot name : ท่าเรือแหลมประทับ
Location : อ.ขนอม นครศรีธรรมราช
Google maps : https://goo.gl/maps/M7Fi5pr4PBMWpdgF6
Entrance fee : Free
Opening hours : เวลาที่เหมาะสมคือช่วงเช้าๆ ประมาณ 7 โมงค่ะ
Visited date : 6 Oct 19

มีที่จอดรถนิดหน่อยพอกรุบกริบ แต่จอดฟรีค่ะ แล้วเดินไปตามทางที่มีป้ายบอกชัดเจนว่าเป็นทางไปลงท่าเรือค่ะ แล้วพอถึงบริเวณท่าเรือก็จะเจอกับอนุสาวรีย์โลมาแบบนี้เลยค่ะ

เคโกะไปถึงก็สัมผัสได้ถึงความเงียบเหงา (อีกแล้ว 555) แล้วก็มีพนง.มาต้อนรับ ถามว่ากี่คน เคโกะก็ต้องตอบไปอย่างมั่นใจค่ะว่า “คนเดียวค่ะ” เพราะเค้าจะตะโกนต่อกันไปเพื่อให้คนเรือเค้าจัดเตรียมเรือค่ะ

ระหว่างรอคนเรือเค้าจัดเตรียมเรือ ก็เลยถ่ายรูปไปพลาง ๆ ทะเลดูค่อนข้างเงียบสงบดีค่ะ น้ำนิ่งเลยแหละ

เรือที่นี่มีเยอะเพียงพอบริการนักท่องเที่ยวค่ะ เป็นลักษณะให้เช่าเหมาลำ ลำละ 1000 บาทค่ะ เรือลำนึงก็จะบรรจุคนได้ประมาณ 6-7 คนค่ะ

แล้วเคโกะก็หันไปชวนคนเรือคุยบ้าง เค้าเล่าให้ฟังว่ามาช่วงนี้กำลังเหมาะเลย เพราะเพิ่งมีลูกโลมากำลังเล่นซนอยู่ 2 ตัวค่ะ เลยทำให้มีโอกาสเจอโลมาได้ง่ายขึ้น เพราะเค้าซนเนาะ พ่อแม่ก็ต้องคอยวิ่งไล่ประกบไรงี้ค่ะ ฮาาา

เค้าบอกด้วยว่ามีออกไปหลายลำแล้ว ก็เลยทำให้เคโกะเอะใจขึ้นมา แล้วถึงได้รู้สึกตัวว่า มาสายไปแล้วค่ะ 5555 (รู้สึกตัวช้าจริง ๆ – -“)

เอาล่ะ แต่เรือเคโกะมีแค่เคโกะคนเดียวไง น้ำหนักเบา ซิ่งง่าย ไปโลดค่าาา

เรือออกได้แป๊บเดียว ก็ตามเรือลำก่อนหน้าหลาย ๆ ลำที่เค้าวนหาโลมากันอยู่ก่อนแล้ว ก็วน ๆ กันอยู่ซักพัก เราก็ได้เจอกับโลมาค่ะ

เค้าก็พยายามวนเรือเข้าไปให้ใกล้ ๆ ให้เราได้เก็บภาพและได้เห็นอย่างเต็มที่อะนะคะ

อีกซักรูปเนอะ

มีถ่ายวิดีโอมาด้วยนะ ซึ่ง … ก็ยังไม่รู้ว่าจะว่างทำวิดีโอให้ดูกันเมื่อไหร่ค่ะ (ปีที่แล้วเคโกะก็พูดเงี้ยะ ผ่านไปปีนึง ก็ยังนอนแน่นิ่งในคอมอยู่เหมือนเดิมค่ะ ฮาาาาา)

เอาไว้ให้เคโกะว่างทำแล้วจะแปะบนเพจแจ้งให้ทราบกันนะคะ //ฝากติดตามเพจด้วยค่าาา แหะๆ

คนเรือวนให้ดูโลมาอยู่พักใหญ่ จนโลมาว่ายน้ำหนีหายไปจนไม่คิดว่าจะเจอแล้ว เค้าก็พาเคโกะไปที่เขาหินพับผ้าค่ะ

ลักษณะของหินพับผ้าก็คือ มีความเรียงเป็นชั้น ๆ คล้ายกับผ้าที่พับไว้เป็นตั้ง ๆ อะค่ะ

ก็เป็นลักษณะที่เกิดตามธรรมชาตินะคะ คราวนี้ต่างจากคราวที่แล้วที่คนเรือไม่ได้พาขึ้นไปเดินเล่นค่ะ ซึ่งคนเรือเมื่อปีที่แล้วเค้าก็เคยบอกไว้แล้วว่าปกติจะไม่มีใครพาไปเดินบนเขาพับผ้ากันค่ะ มีเค้าคนเดียว (ฮาาาา)

แล้วก็ผ่านกระชังเลี้ยงปลาที่อยู่กลางทะเล ซึ่งจากบริเวณนี้ ถ้าเรามองไปอีกฝั่งตรงข้าม (กระชังปลานี้อยู่ซ้ายมือ ก็มองไปทางขวามืออะค่ะ) ก็จะพอมองเห็นท่าเรือดอนสักที่ไปเกาะสมุย ซึ่งเป็นเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานีค่ะ

แล้วเราก็จะมุ่งหน้าไปยังจุดถัดไปคือหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเล เกาะนุ้ยค่ะ

คนเรือก็จะเทียบเรือให้เราลง ซึ่งก็ลงไปคนเดียวนะคะ เค้าไม่ได้ตามมาด้วยนะคะ

เดินขึ้นไปตามขั้นบันไดเพื่อกราบไหว้หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลได้ค่ะ มีธูปเทียนให้พร้อมเลย

ทางเดินด้านล่างจะเป็นบ่อน้ำจืดเล็ก ๆ ที่เค้าเล่ากันว่าหลวงปู่ทวดมาเหยียบแล้วเกิดเป็นบ่อน้ำจืดอย่างอัศจรรย์เมื่อหลวงปู่มาที่เกาะนี้แล้วไม่มีน้ำจืดให้ใช้ค่ะ

ตอนที่ไปน้ำขึ้นพอดี เข้าไม่ได้ค่ะ ก็ต้องผ่านไป แต่เคโกะไม่ซีเรียสแหละ เพราะเคยมาแล้วค่ะ

แล้วก็กลับเข้าฝั่ง เป็นอันจบทริปออกเรือไปดูโลมาแล้วค่ะ

กลับมาถึงท่าเรือโดยสวัสดิภาพ แล้วก็จ่ายเงินค่าเรือให้กับคนเรือได้โดยตรงเลย แล้วก็กลับค่ะ

ระหว่างทางที่ออกไปจากท่าเรือนั้นจะมีทางช่วงนึงบนเขา ซึ่งวิวสวยม้ากกกกก คราวนี้เคโกะไม่พลาดแล้วแหละ หยุดรถแล้วถ่ายรูปซะเลยค่ะ ไหน ๆ ถนนก็ว้างว่างงงงง

แล้วก็กลับเข้าตัวเมืองขนอมค่ะ ซึ่งก็ยังมีเวลาเยอะอยู่เลยกว่าจะเย็น ก็เลยหาร้านกาแฟนั่งชิลล์ ๆ และอ่านหนังสือที่ติดไปด้วยค่ะ

หาในกูเกิ้ลแม็พจนได้ร้านนี้ค่ะ

Restaurant name : Frankies Coffee
Google maps : https://goo.gl/maps/9vSSFwJVpP66Y1wR8
Parking lots : yes
Location : อ.ขนอม นครศรีธรรมราช
Opening hours : 8.30AM – 5PM
Visited date : 6 Oct 19

ร้านเป็นร้านไม่ใหญ่มากค่ะ เข้าใจว่าเป็นบริเวณด้านหน้าทางเข้าขนอมบีชเรสิเดนท์นะคะ

ร้านตกแต่งแบบโล่ง ๆ ดี ไม่มีแอร์ แต่ก็ไม่ได้ร้อนอะไรค่ะ เพราะเปิดโล่งไปหมดเลย ส่วนที่จอดรถก็จอดได้ที่ด้านหน้าร้านเลยค่ะ

เคโกะเลือกมานั่งแอบมุม ดูวิวภายนอกเพลิน ๆ (เอ๊ะ ไหนว่าจะมาอ่านหนังสือ ?)

เคโกะสั่งชาเย็น กับแซนด์วิชทูน่าไปมั้งคะ รวมราคาประมาณ 150 บาทค่ะ

ชาเย็นเป็นชาเย็นที่รสเหมือนในกรุงเทพเลย คือไม่อร่อยค่ะ ชาเจือจางมาก ออกหวานและไม่มีกลิ่นชาเลย ไม่ผ่านอย่างรุนแรงค่ะ

ตัวแซนด์วิชก็กริลล์ขนมปังมาได้กรอบดี ผักแน่นไส้แน่นดีอยู่

โดยรวมก็ยังไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่อะค่ะ กับร้านนี้ 😦

เช้าวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับกทม. ก็ไปทานอาหารเช้าที่ร้านที่หมายตาไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วค่ะ ซึ่งครั้งนั้นพลาดไปเพราะไปตรงกับวันหยุดเค้าพอดี

Restaurant name : ขนอมติ่มซำ
Google maps : https://goo.gl/maps/4ELtTnNmvFZ3xpaC8
Parking lots : yes
Location : อ.ขนอม นครศรีธรรมราช
Opening hours : 6.30 – 11.30AM
Visited date : 7 Oct 19

ที่จอดรถจะอยู่ข้าง ๆ ร้านเลยค่ะ กว้างขวางดีอยู่ แล้วก็เดินไปสั่งที่เคาน์เตอร์ได้เลย รวมถึงหยิบติ่มซำต่าง ๆ ที่อยู่ในตู้ ส่งให้พนง. ไปอุ่นร้อนให้ได้ค่ะ

เคโกะสั่งโจ๊กไปเพิ่มอีกชามด้วยล่ะ

โจ๊กหมูเค้าจะวางผักชี, ขิงซอย และกระเทียมเป็นกระจุก ๆ ไว้ให้แบบในรูปเลยนะคะ เคโกะว่าก็สะดวกดีกับคนที่ไม่ทานอะไรบางอย่างค่ะ ก็ตักออกได้เนอะ

มีชาร้อนเสิร์ฟให้ทุกโต๊ะฟรีด้วยค่ะ ซึ่งชาฟรีแต่ก็หอมชาอะ อร่อยเลย

ติ่มซำที่สั่งไปทั้งหมด 6 เข่งก็มาวางเรียงให้ตรงหน้าค่ะ

ติ่มซำดูเพลน ๆ ดูทั่ว ๆ ไป ที่ไหน ๆ ก็มี แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายค่ะ เทียบกับราคาแล้วเคโกะถือว่าโอเคนะ

ปิดท้ายที่ชาเย็น ที่ชอบมาก ๆ ค่ะ เป็นชาเย็นแบบชาใต้ หอมชา ชาเข้มข้นมาก และไม่หวานเกินไปด้วย อร่อยมากจริง ๆ หาทานได้ยากในกทม.ด้วยค่ะ ใครเจอบอกพิกัดเคโกะหน่อยนะคะ ^^”

สนนราคารวมประมาณ 163 บาทค่ะ ราคารับได้อยู่นะ ถือว่าราคาดีเลยแหละกับรสชาติ ปริมาณไรงีด้วยค่ะ

ใครมาขนอม เคโกะแนะนำร้านนี้เลยนะคะ อย่าพลาด ๆ ^^

ฝากติดตามอีกสองโพสต์ในทริปนี้ด้วยนะคะ ไม่นานเกินรอค่ะ เพราะอยากเคลียร์ทริปตัวเองในปีนี้ให้หมดก่อนที่ทริปใหญ่ประจำปีของเคโกะจะมาถึง และน่าจะเป็นมหากาพย์รีวิวอีกเช่นเคย 5555 (ถ้าติดตามกันมานานแล้วก็น่าจะเดาได้ค่ะว่าทริปไปไหน อิอิ)

ฝากเพจด้วยค้าาาา //ยิ้มหวานนน
https://www.facebook.com/thisiskeigo/

Khanom (3D2N)

สวัสดีค่ะ ลัดคิวมาอีกแล้วตามประสานุช (555) โพสต์นี้บอกก่อนเลยว่าจะยาวนิดนึงนะคะ เพราะตั้งใจโพสต์เดียวให้จบทริปขนอมเลย ซึ่งเคโกะใช้เวลากับทริปขนอมนี้ไป 3 วัน 2 คืนค่ะ

แต่เดิมตั้งใจแค่ไปนอนดูทะเลเฉยๆ เพราะอย่างที่บอกไปแล้วในโพสต์ก่อนว่ามีเรื่องไม่สบายใจอยู่ค่ะ แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เลยไปเสิร์ช ๆ ดูว่ามีอะไรน่าเที่ยวบ้าง ก็เลยเจอว่ามีที่น่าเที่ยวเยอะอยู่ ซึ่งนอกจากที่เคโกะไปแล้ว ก็ยังมีพวกน้ำตกต่าง ๆ อีกนะคะ ซึ่งเคโกะขี้เกียจไปน้ำตกอะค่ะ ไม่ค่อยอินกับน้ำตกนะ (555) เพราะงั้น นอกจากในโพสต์นี้แล้ว จะมีน้ำตกต่าง ๆ และถ้ำอะไรอีกซักสิ่งด้วยค่ะ (ถ้ำนี่ เคโกะก็ไม่ค่อยอินเหมือนกัน 555)

เริ่มเลยค่ะ เดี๋ยวจะยาว แล้วจะขี้เกียจอ่านเนาะ 555

Location : Khanom, Nakorn Si Thammarat
Visited date : 28-30 May 2018
No of person(s) : 1
Transportation : AirAsia (DMK – NST – DMK) + self-drive, rented car

เคโกะบินไปลงสนามบินนครศรีธรรมราชด้วยสายการบินแอร์เอเชีย และรับรถที่ทำการจองไว้ล่วงหน้าผ่านเว็บของ Thai Rent A Car นะคะ ได้ Nissan Almera มา สีขาวคันเล็กกะทัดรัดเหมาะกับผู้หญิงเดินทางคนเดียวเลย

ไปถึงเวลาเที่ยง ๆ บ่าย ๆ แล้ว ก็จะหิวมากค่ะ แต่การขับรถคนเดียว มองทางไปด้วย หาร้านข้าวกินไปด้วย เป็นอะไรที่ลำบากมากพอดูเลย T.T

แต่สุดท้ายก็เลี้ยวเข้าร้าน “ขนมจีนครูพร” ขนมจีนน้ำยาปูนิ่มค่ะ ซึ่งจะอยู่ทางผ่านไปขนอมนั่นแหละ ถ้ามาจากสนามบินอย่างเคโกะก็ใช้เส้นทางมุ่งขึ้นทางทิศเหนือ (มุ่งเข้ากรุงเทพ — ไกลไป เอาสุราษฎร์ธานีพอเนอะ 555) ค่ะ จะอยู่ฝั่งซ้ายมือเลย แวะง่ายมาก ๆ และมีป้ายชวนชิมตลอดด้วย (ก็เป็นเหตุผลที่เลือกร้านนี้แหละนะ ^^”)

Locationhttps://goo.gl/e6nH8h

ทางร้านมีที่จอดรถให้ค่ะ จอดหน้าร้านได้ประมาณ 3 คัน และข้าง ๆ อีกเพียบค่ะ มีร้านกาแฟด้วย แต่เคโกะไม่ได้ชิมค่ะ

ขนมจีนของร้านจะเป็นเซ็ท ๆ เหมาะกับมาทานกันหลาย ๆ คนมากกว่า แต่เคโกะมาคนเดียว ทางร้านก็มีแบบจานเดี่ยวให้เลือกด้วยค่ะ เคโกะก็เลยเลือกขนมจีนน้ำยาปูนิ่มไป และเลือกของกินเล่นเป็นลูกชิ้นปลาลวกจิ้มค่ะ น้ำดื่มบริการตัวเองฟรีนะคะ

01

มาเที่ยวทางภาคใต้ สิ่งนึงที่คนชอบกินผักน่าจะชอบก็คือ ผักเคียงเค้าจะให้มาเยอะมากกกกกกกกกกกกกค่ะ

ส่วนรสชาตินั้น เคโกะถือว่าโอเคค่ะ ส่วนตัวไม่ใช่คนชอบทานน้ำยาที่ผสมกะทิเท่าไหร่ แต่พอได้ลองแล้วก็รู้สึกรสชาติจัดจ้านดีค่ะ ทานกับผักเคียงแล้วอร่อยมาก ส่วนลูกชิ้นปลาลวกจิ้มนั้นทำมาได้ดีเลยค่ะ

สนนราคารวม 95 บาทค่ะ

อิ่มแล้วก็เดินทางกันต่อได้ จุดแรกที่เคโกะจะแวะก็คือสวนปลาตอดค่ะ เอาจริง ๆ นะ เคโกะเองก็ไม่เคยเข้าร้านแนวฟิชสปามาก่อนเลยค่ะ นี่ครั้งแรกเลย ><

เคโกะไปที่สวนปลาตอด บ้านสวนสุวรรณค่ะ ค่ารักษาสถานที่ 20 บาท/คน มีที่จอดรถให้ด้วย และสามารถสั่งอาหารเครื่องดื่มมานั่งทานพักผ่อนสบาย ๆ ไปด้วยได้ค่ะ

Locationhttps://goo.gl/maps/7ZwHgZsovXx

ถ้าเราจะไปนั่งให้ปลาตอด พนง.เค้าจะเตรียมเสื่อและยากันยุงให้

DSC_7331

เคโกะไปนั่งแจมกับคุณพี่ผู้หญิงสองคนที่แวะมานั่งเม้าท์มอยกันเล่น เลยได้รู้ว่าที่บ้านสวนสุวรรณนี้เพิ่งเปิดใหม่ค่ะ อยู่ไม่ไกลจากสวนตาสวรรค์ที่โด่งดังเท่าไหร่ค่ะ ที่นี่ก็จะเงียบ ๆ สงบ ๆ กว่านะ

DSC_7335.jpg

เงียบสงบมากจริง ๆ

เคโกะนั่งให้ปลาจั๊กจี้เท้าได้พักเดียว ก็ออกค่ะ 5555 พยายามนิ่งยังไงก็ไม่ชินกับการที่มีปลามาจั๊กกะจี้ฝ่าเท้าซะทีอะค่ะ T^T .. คงไม่ใช่ทางของเราน่ะนะ 555

ต่อไปที่ขนอมแคนยอนค่ะ ซึ่งมันเป็นความโก๊ะของเคโกะและ Google Maps เลยค่ะ เพราะจริง ๆ แล้วมันอยู่ใกล้ ๆ กับบ้านสวนสุวรรณเลย แต่แค่เคโกะออกมาถึงถนนใหญ่ แล้วเลี้ยวขวาปุ๊บ ชีวิตก็เปลี่ยนเลยค่ะ เพราะ Google Maps route เส้นทางให้ใหม่ อ้อมโลกไปเพื่อวนกลับมาที่เดิม .. แบบแค่เลี้ยวซ้ายไปอีกหน่อยอะ ก็ถึงแล้ว … ทำไมไม่บอกให้กลับรถล่ะ ห๊าาาาาา -*-

Locationhttps://goo.gl/maps/b37uSFfmvy32

DSC_7336

ตรงนี้จะต้องค่อนข้างใช้ความสังเกตพอสมควรค่ะ ไม่มีป้ายใด ๆ บอกเลยยยยยย ขับรถผ่านไปแล้ว 1 รอบ (ตอนที่ไปบ้านสวนสุวรรณนั่นแหละ) ก็ไม่ได้สังเกตเห็นแต่อย่างใดค่ะ ความรู้สึกก็แบบ เหมือนเขาลูกนึง เหมือนหน้าผาไรสักสิ่งไรงี้อะค่ะ

จอดรถได้ที่ฝั่งตรงข้ามค่ะ มีเวิ้ง ๆ ลาน ๆ ให้จอดรถได้ซัก 4-5 คันค่ะ ข้ามถนนไปมาก็ระวังกันด้วยนะคะ เพราะเป็นทางโค้งค่ะ

DSC_7339

เราเข้าไปเดินเล่น แอคท่าถ่ายรูป portrait สวย ๆ ได้เลยค่ะ ถามเคโกะว่าสวยมั้ย .. ก็สวยค่ะ โอเคอยู่ แต่ถ้าไม่ผ่านทางนี้ ก็ไม่ได้จำเป็นต้องดิ้นรนมานะคะ T^T มันไม่ได้ดูแกรนด์ ดูยิ่งใหญ่แบบที่อื่น ๆ อะ

DSC_7342.jpg

อีกซักรูปปิดท้ายกับขนอมแคนยอนค่ะ วนรถไกลมาก ขอถ่ายรูปให้คุ้มนี้ดดด ^^”

DSC_7343

จากนั้นเคโกะก็พอใจแล้วค่ะ กลับเข้าที่พักไปเช็คอินดีกว่า (เคโกะโพสต์ไปแล้วนะคะ คลิกดูที่นี่ได้เลยค่ะ)

วันรุ่งขึ้น ตั้งใจออกเช้า ๆ หน่อยเพื่อไปนั่งเรือออกไปดูโลมาสีชมพู (พนง.รีสอร์ทแนะนำว่าให้ไปช่วงเช้าค่ะ) แต่ปรากฏว่าฝนตกหนักมากกกกกกกกก T^T ทำอะไรไม่ได้อีก ก็ต้องนอนอยู่ห้อง อ่านหนังสือ เขี่ยหน้าจอโทรศัพท์รอฝนซาแล้วก็ค่อยออกไปตะลุยต่อค่ะ

กว่าจะออกไปได้ ก็เกือบ ๆ เที่ยงแล้วก็เลยมองหาอะไรกินระหว่างทางไปด้วย ก็เลยได้ร้านบังชามาค่ะ ซึ่งเป็นร้านที่หมายตาไว้อยู่แล้ว แต่ในกูเกิ้ลลงเวลาเปิด-ปิดที่เป็นตอนเย็นค่ะ ซึ่งจริง ๆ เค้าเปิดตั้งแต่สาย ๆ แล้วนะคะ

Locationhttps://goo.gl/maps/vEsPSdALB9H2

02

เคโกะสั่งชาเย็นกับโรตีมะตะบะไป รอนานพอควร แต่โรตีมะตะบะที่ได้มาอร่อยมาก ๆ ค่ะ ส่วนชาเย็นนั้นเคโกะเฉย ๆ อะ

สนนราคารวม 60 บาทค่ะ

ในเมื่อฝนตก ทำแผนเที่ยวของเคโกะรวนไปหมดเลย ก็เลยเริ่มต้นที่เจดีย์ประการังค่ะ แต่แผนก็รวนไปอีกเพราะว่าวันที่เคโกะไป เป็นวันวิสาขบูชา ชาวบ้านและนักเรียนโรงเรียนใกล้เคียงก็มาทำบุญที่วัดกันเพียบค่ะ แม้ว่าเคโกะจะไปถึงช่วงเที่ยง ๆ แล้วก็ตาม ผู้คนก็ยังหนาตาอยู่ น่าจะอยู่ในช่วงทะยอยกันกลับหลังเสร็จงานบุญค่ะ ^^”

Locationhttps://goo.gl/maps/UbUqwmH979n

ในรีวิว เค้าขึ้นไปด้านบนกันได้ แต่เคโกะไม่กล้าขึ้นไปค่ะ ไม่มีใครขึ้นเลย ก็เลยถ่ายรูปอยู่แต่ด้านล่างค่ะ

IMG_6026.jpg

เหมือนจะเป็นการก่อกองทรายเข้าวัดเลยนะคะเนี่ย ^^”

IMG_6024

เสียเวลาอยู่ตรงนี้น้อยกว่าขับรถมาถึงอีกค่ะ T^T แล้วก็ไปต่อที่สะพานไม้ อ่าวเตล็ด

ระหว่างทางขับรถมาที่อ่าวเตล็ด ก็เจออุโมงค์ต้นไม้นี้เข้าโดยบังเอิญ สวยดี จนอดหยุดรถถ่ายรูปจากในรถไม่ได้ค่ะ (ด้านหลังไม่มีรถตามนะคะ แต่เคโกะก็จอดถ่ายแค่แชะเดียวแหละ แล้วก็ขับรถต่อค่ะ)

IMG_6027

ขับมาเรื่อย ๆ พอใกล้ ๆ ถึงก็จะมีป้ายบอกทางไปอ่าวเตล็ดค่ะ ตามป้ายโลดดด แล้วก็มาจอดรถไว้ด้านหน้าทางเข้าได้เลยค่ะ

DSC_7361

เดินไปอีกนิด ก็จะเห็นสะพานไม้ยาว ๆ ยื่นลงไปในทะเลทางซ้ายมือค่ะ ทางขวามือ (หรือตรงหน้านั่นแหละ) ก็จะเป็นร้านขายของเล็ก ๆ เลยร้านขายของตรงนี้ไปก็มีหลวงพ่อแดง ประดิษฐานในถ้ำให้กราบไหว้กันด้วยค่ะ เดี๋ยวเคโกะกลับมาตรงนี้นะคะ พาไปดูวิวทะเลอ่าวเตล็ดกันก่อนค่ะ

Locationhttps://goo.gl/maps/Lmb7zSiVNex

DSC_7364

ก็เป็นสะพานไม้ที่ดูแข็งแรงพอสมควร ยื่นลงไปในทะเลค่ะ สามารถชมวิวทะเลได้แบบ 360 องศาเลย คือถ้าชอบทะเล รักทะเล ไม่ควรพลาด ณ จุดนี้มาก ๆ ค่ะ น้ำใสกิ๊งงงงงเลย

DSC_7367

เดินมาจนสุดปลายทางสะพานไม้ ก็จะเป็นจุดขึ้นลงเรือค่ะ ซึ่งชาวเรือเค้าก็จะจอดเรือไว้แถว ๆ นั้นแหละ

DSC_7380

มาดูแบบพาโนรามากันบ้าง

IMG_6031

เป็นอ่าวที่เงียบ ๆ สงบ ๆ ดีค่ะ

ระหว่างที่เคโกะยืนถ่ายรูป ๆ หมุนไปหมุนมา (หามุมถ่ายรูปนะคะ ไม่ได้หามุมเซลฟี่แต่อย่างใด ฮาาาา) ก็มีคนเรือชวนไปนั่งเรือชมโลมาสีชมพู ดูนู่นดูนี่ ไรงี้ค่ะ เคโกะก็ถึงกับตาวาวเลยอะ เพราะทำใจไปแล้วอะค่ะว่ายังไงก็คงต้องสลับโปรแกรมไปนั่งเรือดูโลมาพรุ่งนี้เช้า ก่อนกลับกรุงเทพฯแทน แต่ถ้าเค้าชวนมางี้ ก็เลยสนใจขึ้นมาค่ะ

ถามไถ่ไปมา ว่ายังดูโลมาได้อีกเหรอ เค้าก็ยืนยันว่าได้ ถ้าไม่ได้เค้าก็จะวนไปหาโลมาให้ค่ะ

ราคาเหมาลำคือ 1000 บาทถ้วนค่ะ หลักๆก็จะพาชมโลมาสีชมพู, เขาพับผ้า และหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เกาะนุ้ย รวม 3 จุดค่ะ

ป้ะ ลุยยยย~

** เดี๋ยวถ้าว่าง ๆ แล้ว เคโกะจะทำเป็นคลิปลง youtube ด้วยล่ะค่ะ ถ่ายรูป + คลิปมาพอควรเลย ^^” ถ้าเสร็จแล้วจะอัพไว้แล้วจะแปะบอกหน้าเพจนะคะ

เขาพับผ้า ก็คือเขาที่มีลักษณะเหมือนหินซ้อนทับกันเป็นชั้น ๆ คล้ายผ้าพับซ้อนกันไปมาค่ะ เป็นลักษณะที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ

DSC_7389

อีกซักมุม

DSC_7403

คนเรือบอกว่าปกติแล้วเรือลำอื่นที่พาเที่ยว จะแค่พาดูรอบ ๆ เท่านั้น ไม่พาขึ้นเกาะไปเดิน ซึ่งขึ้นไปเดินเล่น ถ่ายรูปเล่นได้ค่ะ (รูปที่ถ่ายบนเขาพับผ้านั่น เป็นรูป profile ในเฟซบุ๊คส่วนตัวของเคโกะไปแล้วค่ะ 555)

แวะเกาะอีกซักเกาะนั่งเล่นอีกเกาะนึงค่ะ

IMG_6050

จากนั้นเราก็ไปไหว้หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเล เกาะนุ้ยกันค่ะ

IMG_6052

บ่อน้ำจืดที่ว่าค่ะ

IMG_6054

คนเรือเล่าให้ฟังว่ามีตำนานอยู่ คือ หลวงปู่และพระอีกหลายรูปที่โดยสารเรือมาจนถึงเกาะนี้ ก็แวะพัก แต่หาน้ำจืดไม่ได้ หลวงปู่ก็เลยอธิษฐานแล้วก้าวลงไป เกิดเป็นน้ำจืดขึ้นมาค่ะ

คร่าว ๆ ก็ประมาณนี้ล่ะนะคะ

เคโกะก็พาซื่อไปแอบชิมด้วยนะ รสชาติจะไม่ได้จืดแบบน้ำเปล่า หรือน้ำจืดซะทีเดียวอะค่ะ ออกกร่อย ๆ หน่อยน่ะนะ ^^”

แล้วก็ขึ้นไปกราบไหว้หลวงปู่ด้านบน ชมวิวด้านบนซักนิดค่ะ

DSC_7399

จากนั้นก็นั่งเรือต่อ วนๆ หาโลมาสีชมพูนี่แหละ

IMG_6059

ซึ่งสุดท้ายเราก็เจอค่ะ เจอตัวนึงโดดดึ๋ง ๆ ขึ้นมาให้เคโกะเชยชมอยู่สองตุ้บ ยังถ่ายรูปไม่ทันเลย 555 แล้วก็หายไป ไม่เจออีก

แต่ถึงจะถ่ายรูปไม่ได้ เคโกะก็โอเคนะคะ คือไม่ได้คาดหวังว่าออกเรือมารอบบ่ายจะเจอโลมาสีชมพูค่ะ เพราะเค้าก็ว่ากันว่าตอนเช้าจะมีโอกาสเจอสูงกว่า แต่ได้เจอโดยบังเอิญแบบนี้ก็ถือว่าโชคดีแล้วค่ะ ^^

บอกได้คำเดียวว่า โลมาสีชมพูน่าร้ากกกกมากจริงๆ ค่ะ ❤

เคโกะกรี๊ดกร๊าด แล้วก็บ่นว่าน่าร้ากกกก จนคนเรือแซวเลยค่ะ 555

ขากลับ คนเรือเค้าก็ชวน ๆ คุย คุยไปคุยมา เค้าก็บอกค่ะว่าก็เดาไว้อยู่เหมือนกันว่าเคโกะน่าจะมีเรื่องไม่สบายใจอยู่ ก็เลยพยายามชวนคุย พาไปดูนู่นนี่นั่นไรงี้ให้สบายใจและรู้สึกสนุก เคโกะเองก็อึ้งไปเลยนะที่ได้ยินแบบนั้นอะค่ะ คือ เราก็ไม่คิดไงว่าเค้าจะดูออก .. ดูออกได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรือคะเนี่ย T^T

แล้วเค้าก็พาไปดูกระชังปลาที่เลี้ยงกลางทะเลอีกที่นึงเป็นการตบท้ายค่ะ

IMG_6066

ไฮไลท์ที่พามาดูคือปลาดุกทะเลค่ะ ตัวใหญ่ม้ากกกกกกกกกกกก

จากนั้นก็พาไปหม่ำข้าวก่อนจะพากลับมาส่งที่อ่าวเตล็ดดังเดิมค่ะ แล้วก็ยังมีน้ำใจเดินไปไหว้หลวงพ่อแดง ถ้ำติสโสคูหาเทวาธรรมที่อยู่บริเวณนั้นด้วยค่ะ เป็นทางเดินขึ้นเขาเตี้ยๆไป ไม่กี่ก้าว ก่อนที่จะเข้าไปในถ้ำค่ะ ภายในถ้ำมีไฟส่องสว่างอยู่นะคะ ไม่ต้องกลัวมืดเนาะ

เรียบร้อยแล้วก็กลับค่ะ ถือเป็นทริปออกเรือที่ประทับใจมาก ๆ อีกครั้งนึงค่ะ

จริง ๆ แล้วการเหมาเรือชมโลมาสีชมพูนั้น ที่แนะนำ ๆ กันจะเป็นท่าเรือแหลมประทับนะคะ ไม่ใช่ที่อ่าวเตล็ดค่ะ ^^”

ไหน ๆ ก็ได้นั่งเรือไปละ เคโกะก็เลยวนรถไปแหลมประทับดูลาดเลาเผื่อไว้ให้คนอื่น ๆ ที่มาอ่านนะคะ

Locationhttps://goo.gl/maps/1h3L3r25A3A2

ท่าเรือแหลมประทับกับอ่าวเตล็ด จริง ๆ ก็ไม่ได้ไกลกันเท่าไหร่ค่ะ ถือเป็นระแวก ๆ เดียวกันนะ ระหว่างทางที่ไปแหลมประทับ ช่วงใกล้ๆ ถึงแล้วน่ะค่ะ วิวทะเลสวยมากกกกกกกจริง ๆ (แต่เคโกะหยุดถ่ายรูปไม่ได้อะ เป็นทางบนเขา ทางโค้งค่ะ T^T เสียดายเบาๆ)

มีที่จอดรถก่อนถึงทางลงท่าเรือ มีทั้งแบบเสียสตางค์และฟรีค่ะ เคโกะหลงเข้าไปจอดที่จอดฟรีมาแหละ ซึ่งเป็นตอนเย็นแล้วค่ะ ชาวบ้านแถวนั้นก็มองเคโกะแบบงง ๆ เล็กน้อย อารมณ์แบบ มาท่าเรืออะไรเวลานี้เนี่ย 555

DSC_7406

ก็จะเป็นท่าเรือที่มีเรือจอดเยอะๆ ค่ะ ถ้ามาช่วงเช้าน่าจะคึกคักน่าดูเลย เคโกะมาตอนเย็นแล้ว ก็เลยเงียบเหงาไปนะคะ

เก็บรูปมาให้เป็นแนวทางมาเนาะ

DSC_7410

จากนั้นก็กลับที่พักค่ะ

วันสุดท้าย เคโกะออกมาช่วงเช้า ตั้งใจมาทานติ่มซำที่ร้านแถว ๆ นั้นแหละค่ะ (เสิร์ชเจอในกูเกิ้ล) แต่ปรากฏว่าร้านปิดพอดี T^T

ก็กลับเลยค่ะ ไปดูวิวกันต่อที่เนินเทวดาค่ะ ทางไปโอเคอยู่ มีป้ายบอกตลอดทางเลยค่ะ แต่กูเกิ้ลแม็พเจอแต่ทางเข้านะคะ หมุดที่ปักไว้ ไม่ได้ไปถึงยอดเขาอะ มาได้ถึงใกล้ ๆ ก็ต้องคอยหาป้ายชี้ทางวนขึ้นเขาเองค่ะ – -”

Location : https://goo.gl/maps/dM2ktouWdNA2

ทางขึ้นเป็นทางขึ้นเขาที่ชันมาก ๆ ค่ะ ใช้เกียร์ต่ำเลยค่ะ ขึ้นมาตามทางจนกระทั่งถึงด้านบน ก็ปรากฏว่า ปิดซะงั้น!! คืออะไร๊~

IMG_6088

เอาจริงๆ งงมาก ณ จุดนั้น คือไม่คิดมาก่อนค่ะว่าจุดชมวิวมีเวลาเปิด-ปิดด้วยอะ – -”

ดูวิวรถกับเบื้องหลังที่จอดรถอยู่หน้าประตูที่ปิดเนี่ยละกันนะคะ ถือว่าขึ้นมาสูงใช้ได้เลย

IMG_6089

เคโกะวนไปวนมา ก็พอเห็นช่องทางแอบเข้าไป ><” (ขอโทษค้าาาาาา) ก็เลยเดินเข้าไปเงียบ ๆ ค่ะ

DSC_7415

เดินเข้ามาจนได้ แหะๆ

DSC_7420

ใกล้ ๆ กันมีเนินนางฟ้าด้วย แต่ทางไปเนินนางฟ้าก็มีประตูกั้นและล็อคกุญแจอีกค่ะ คราวนี้หาทางข้ามไปไม่ได้แล้วอะ ก็เลยยอมแพ้ค่ะ ><~

แต่เอาจริง ๆ นะ โดยส่วนตัวแล้วอะ เคโกะว่าวิวไม่ได้สวยขนาดนั้นค่ะ มันมีต้นไม้บังสายตาอยู่อะค่ะ ไม่ได้อิ่มเอมกับวิวทะเลเท่าไหร่เลย

รู้สึกไม่ค่อยคุ้มกับการขับรถปีนเขาสุดชันขึ้นมาเลยค่ะ ^^”

แปะรูปเวลาเปิด-ปิดประกอบนะคะ เคโกะไม่ได้มาผิดเวลาด้วยนะ บอกเลยยย

IMG_6090

ทางขึ้น-ลงจะผ่านโรงแรมเนอวานานะคะ แปะให้ดูประกอบ เผื่อจะโยนหมุดกูเกิ้ลแม็พมาที่นี่แทนค่ะ

IMG_6093

ถ่ายรูปตอนขาลงจากเนินเทวดาค่ะ ทางชันใช้ได้เลย

เพราะผิดแผนอีกแล้ว ก็เลยว่าจะขับรถไปอ่าวท้องหยีต่อค่ะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ก็อยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่

เอาจริง ๆ นะ ไปถึงแล้วรู้สึกก้ำกึ่งมากค่ะว่าคิดผิดหรือคิดถูกเนี่ยที่มา

ยังไงก็ตาม เคโกะก็ลุยมาถึงอ่าวท้องหยีละ

Locationhttps://goo.gl/maps/uhy3cP1DNeB2

IMG_6094

จอดรถตามสะดวกค่ะ อย่าจอดใต้ต้นมะพร้าวก็พอ เพราะลูกมะพร้าวอาจจะตกใส่รถได้ค่ะ ^^” (โดนบอกให้เลื่อนรถมาแล้ว เพราะไปจอดใต้ต้นมะพร้าวพอดี ไอ้เราก็กะว่าอาศัยร่มเงาหน่อยค่ะ ไรงี้ 55)

การมาถึงอ่าวท้องหยีนั้น จะว่าลำบากก็ลำบาก จะว่าง่ายก็ง่ายค่ะ ถนนที่มาเป็นถนนแคบ ๆ เส้นทางเดียวเท่านั้น ไม่มีทางอื่น ๆ มาอีก (เว้นทางเรือไปเนอะ)  ซึ่งระหว่างทางนั้น คดเคี้ยว แคบ และชันเป็นบางช่วงด้วยค่ะ

เคโกะมาถึงแล้วเพิ่งนึกออกอะว่าพนง.ที่รีสอร์ทก็บอกว่าสวย แต่ไม่แนะนำให้มาคนเดียวค่ะ เพราะมันมืด และแคบ (เค้าคงคิดว่ามาตอนเย็น ที่ไปเช็คอินที่พักน่ะนะ)

แต่วิวทะเลนั้นนนน สวยมากกกกกกกกกค่ะ เงียบและสงบอีกแล้ว

DSC_7427

คือถ้าใครมองหาทะเลสวย ๆ น้ำใส ๆ สงบ ๆ เงียบ ๆ นะ เคโกะว่าทะเลที่ขนอมเนี่ย ตอบโจทย์มาก ๆ ค่ะ 

อยากโผกอดผลิตมาก ณ จุดนั้น คือ ดีใจที่ได้ทำความรู้จักผลิตแล้วก็ตัดสินใจตามรอยมาที่ขนอมนี่ ได้ค้นพบว่าทะเลขนอมสวยมากแค่ไหน ซึ่งมันสวยมากจริง ๆ ค่ะ 

เดินเล่นตามหาดเรื่อยเปื่อย พักผ่อนสักหน่อย ก่อนจะต้องไปขับรถวน ๆ บนเขาทางแคบ ๆ เพื่อกลับออกไปจากอ่าวท้องหยีค่ะ

DSC_7428

เวลาเหลือไปอีก ขับรถวนต่อไปค่ะ แต่คราวนี้เคโกะกลับเข้าเมืองนครฯแล้วนะคะ ไปหาร้านอาหารใต้ที่น่าจะอร่อยทานบ้างค่ะ ^^”

หลับหูหลับตาเลือกร้านนายหนังมา อยู่ในเมืองนครฯค่ะ มีที่จอดรถให้อยู่หลังร้าน เดินทะลุจากด้านหลังร้านมาที่ร้านได้เลยค่ะ

Locationhttps://goo.gl/maps/xVndy67JN9x

มาคนเดียว แล้วไงล่ะ หิวมาก ๆ ค่ะ เพราะข้าวเช้าก็ยังไม่ได้กินไง ก็เลยจัดเต็ม 3 เมนูเล้ยยยย (555) มีห่อหมกไข่เจียว, ยำไข่ปลากระบอก และใบเหลียงผัดไข่ค่ะ

03

รสชาติโดยรวม อร่อยมากค่ะ โดยเฉพาะห่อหมกไข่เจียว เก๋ ๆ ดีค่ะ ก็ดูเป็นไข่เจียวอะนะ แต่รสชาติคือห่อหมกเต็มๆ ค่ะ

สนนราคารวม 335 บาท

เวลายังเหลือก่อนไปสนามบินเพื่อขึ้นเครื่องกลับค่ะ วนต่อไปที่ถนนท่าช้างค่ะ มีร้านขายเครื่องถม เครื่องเงินเพียบเลย ซึ่งเคโกะเห็นน้องคนนึงในเฟซบุ๊คเค้ามาคีรีวง และแวะซื้อเครื่องเงินอะค่ะ ก็เลยนึกออก แล้วก็เลยมาบ้าง (55)

จอดรถได้ที่บริเวณด้านหน้าสนามกีฬาค่ะ เคโกะเดินเข้าออกหลายร้านอยู่ ซึ่งแต่ละร้านก็ต้อนรับดีนะคะ ดูได้ ไม่ซื้อก็ไม่ว่าอะไรค่ะ จนไปจบที่ร้านศรีนคร ร้านสุดท้ายที่เข้าไปดูเลยค่ะ

Locationhttps://goo.gl/maps/mG2R9fLTxDq

ได้แหวนเกลี้ยง ๆ 1 วง + ต่างหู 2 คู่แบบเล็ก ๆ ค่ะ สนนราคารวม 420 บาท เคโกะโอเคกับราคานี้นะ ^^”

ยังค่ะ ยังไม่จบ ไปต่อกันที่ร้านเกลอเฮาส์ (Glur House) ต่อค่ะ เป็นร้านคาเฟ่ชิค ๆ สไตล์คนกทม.เลยแหละ จอดรถได้ตามไหล่ทางริมถนน จอดชิด ๆ ค่ะ ร้านจะอยู่ตรงข้ามกับสถานีตำรวจภูธรจังหวัดเลยนะคะ คนเยอะใช้ได้เลยแหละ

สั่งเมนูใหม่ของทางร้านค่ะ (จำไม่ได้แล้วว่าอะไร – -“) แต่ราคาแอบแรงค่ะ แก้วนี้ 95 บาท

04

จิบชาไป ไถหน้าจอมือถือไป ได้เวลากลับแล้วก็รีบบึ่งรถไปสนามบินค่ะ เป็นอันจบทริปอย่างสวยงาม ^^

ติดตามโพสต์หน้ากันต่อไปด้วยนะคะ จะแว้บกลับไปต่อทริปญี่ปุ่นละ ^^”

สุดท้าย ฝากเพจไว้ให้ติดตามกันด้วยนะคะ ^^”
https://www.facebook.com/thisiskeigo/

Leeloo Cabana, Khanom

สวัสดีค่ะ แอบลัดคิวแซงหน้ามาลงอย่างว่องไวตามประสานุชที่ดี 555

**นุช คือ คำเรียกแฟนคลับของคุณเป๊ก ผลิตโชคนะคะ

Resort name : Leeloo Cabana
Location : Khanom, Nakorn Si Thammarat
Access : Khanom Beach, near ตาลคู่รีสอร์ท
Night(s) : 2 nights, 28 – 30 May 2018
Person : 1
Room type : Bangalow – Beach Front
Room rate : 800/night/room
Booking via : agoda.com

เคโกะเช่ารถขับไปจากสนามบินนครศรีธรรมราชนะคะ ก็ขับขึ้นไปทางทิศเหนือแหละ เพราะอ.ขนอมอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดค่ะ ซึ่งก็เปิดกูเกิ้ลแม็พมาค่ะ (555)

ทางเข้ารีสอร์ทจะดูเล็ก ๆ ไม่โดดเด่นเลย ให้จำไว้ว่าอยู่ใกล้ ๆ กับโรงแรมตาลคู่ หรือตาลคู่รีสอร์ทค่ะ จะมีทางเข้าและป้ายเล็ก ๆ บอกอยู่ (ว่าจะถ่ายรูปมา แต่มัวแต่กังวลเรื่องถนนที่ไม่ดีเลย หลุมใหญ่มาก และขับรถอยู่เลยไม่ได้ถ่ายมาค่ะ ^^”)

ที่จอดรถ จอดได้ที่ด้านหน้ารีสอร์ทเลย อย่าเด๋อไปจอดด้านข้างนะคะ นั่นมันที่ของรีสอร์ทข้างๆ ค่ะ — พลาดไปจอดมาแล้ว โดนไล่เลย 555

IMG_6003

เช็คอิน จ่ายค่าห้อง (บุ๊คผ่านอะโกด้า แค่กันวงเงินไว้เฉยๆ แต่ไม่ได้ชำระจริง ต้องมาจ่ายที่รีสอร์ทเองค่ะ) เคโกะจองไว้ 2 คืน ก็ 1600 บาทถ้วน แล้วก็รับกุญแจเข้าห้องได้เลย

หลังจากที่พูดคุยเช็คอินกับพนง.เรียบร้อยแล้ว พนง.ก็เริ่มเข้าเรื่อง ..

พนง. – นี่มาตามหาห้องเบอร์ 7 ด้วยหรือเปล่าคะ
เคโกะ – //สตั๊นท์ไปแป๊บนึง ก็ใช่ค่ะ (ยิ้มเขินๆ) มากันเยอะเลยเหรอคะ
พนง. – ก็มากันเรื่อย ๆ ค่ะ นี่ก็เพิ่งเช็คเอาท์ไปเมื่อเช้า มาจากชลบุรีเลย (โห นุช เธอสุดยอดจริงๆ)
เคโกะ – โหหห
พนง. – แต่ห้องเบอร์ 7 ตอนนี้ไม่ว่างอะค่ะ ฝรั่งมาเช่าอยู่ยาว เดือนนึงเลย
เคโกะ – ค่ะ
พนง. – จริง ๆ ระบุห้องได้นะคะ แต่ห้องจะว่างหรือเปล่าอีกเรื่อง แต่ก็ระบุมาก่อนได้ค่ะ คนก่อนก็โทรมาหาเจ้าของ ขอห้องเบอร์ 7 แต่ก็อดไปเพราะไม่ว่าง

คุยกันอีกนิดหน่อยแล้วก็แยกย้ายค่ะ 555

** ห้องเบอร์ 7 คือ ห้องที่ผลิตมาพักในตอนนั้นนะคะ — เผื่อ non-นุชมาอ่านเนาะ

หน้าบ้านพัก ก็จะสไตล์นี้เหมือนกันทุกหลังล่ะค่ะ

IMG_6083

พนง.ก็คงรู้ล่ะค่ะว่าคนไทยจองมาที่นี่ น่าจะเป็นนุชกัน เลยบอกว่า ไม่ได้ห้องเบอร์ 7 แต่ให้ห้องเบอร์ 6 นะคะ ห้องติด ๆ กันเลย

IMG_6081

หน้าต่างเค้าจะเปิดไว้ให้แบบนี้ สไตล์กระต๊อบไม้ไผ่ในละครเลย ก็เปิดปิดได้ค่ะ

บ้านเป็นไม้ไผ่ทั้งหลัง ดูเป็นธรรมชาติดีมาก ๆ ค่ะ เข้ามาในห้องก็คือเป็นเตียงเลย ด้านข้างขวามีชั้น 2 ชั้น ให้วางของค่ะ

ในห้องแอบมืดไปหน่อย ไฟไม่ค่อยสว่างนักค่ะ สว่างแค่จุดเดียวคือหัวเตียงเท่านั้นเลย

IMG_6005

ห้องเป็นห้องพัดลมเพดาน ไม่มีแอร์ค่ะ ตอนแรกก็แอบกังวลว่าจะร้อนไหม แต่พอกลางคืน ถึงเวลานอนจริง ๆ ก็ไม่ร้อนนะคะ ออกหนาวด้วยซ้ำ จากที่ไม่ได้ห่มผ้า ต้องดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมเลยอะ

[update as of Oct 19]

มีการกางมุ้งไว้ให้ด้วยอะค่ะ ซึ่งพอกางมุ้งนอนก็ไม่ได้รู้สึกร้อนหรืออะไรนะคะ ก็อากาศเย็น ๆ สบาย ๆ เหมือนเคยค่ะ

ห้องน้ำก็คือบานประตูที่ติด ๆ อยู่หัวเตียงนั่นแหละค่ะ เป็นสเต็ปบันไดก้าวลงไป เคโกะยืนถ่ายรูปอยู่หน้าประตูเน้อ ไม่ได้ลงไปด้านล่างค่ะ

IMG_6007

มีสบู่ก้อนเล็ก ขวดแชมพูและสบู่เหลวให้ที่หน้ากระจกนั่นแหละ ส่วนผ้าเช็ดตัวก็มีให้ค่ะ อยู่ปลายเตียง

ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นนะคะ น้ำจะเย็น ๆ หน่อย แนะนำว่าถ้าขี้หนาวให้รีบอาบน้ำค่ะ ยิ่งดึก น้ำก็ยิ่งเย็น

IMG_6006

[update as of Oct 19]

มีเครื่องทำน้ำอุ่นติดให้แล้วนะคะ มีที่วางของเล็ก ๆ ตรงฝักบัวให้ด้วย ดีงามเลยยยย ^^

แล้วก็บริเวณห้องอาหาร (ก็บาร์ที่ผลิตเค้ามานั่งไลฟ์ขนอมในตำนานนั่นแหละ >< ) รวมถึงเป็นที่เช็คอินด้วยค่ะ

IMG_6008

ไปดูวิวทะเลบ้างค่ะ มีเก้าอี้ให้นั่งเล่นด้วยนะ

เอียงซ้ายยยย

IMG_6009

เอียงขวาาาาา

IMG_6010
สีทรายเพี้ยนเยอะเลย สีทรายจริง ๆ จะตามรูปบนกับรูปล่างค่ะ สีอ่อน ละมุนเท้ามาก ๆ

เคโกะมาที่นี่ ว่ากันตามตรงคือมีเรื่องไม่สบายใจอยู่ค่ะ (ตามที่ทวิตไปในทวิตเตอร์ ^^”) และเวลาที่ไม่สบายใจก็เลือกที่จะมาทะเล ซึ่งทะเลใกล้ ๆ กรุงเทพ เคโกะก็ไปมาซ้ำ ๆ จนเบื่อแล้วค่ะ (555) ครั้งนี้ก็เลยเลือกที่จะตามรอยผลิตมาถึงที่ขนอมนี่เลย

เชื่อมั้ย เคโกะเห็นทะเลปุ๊บนะ คือ น้ำตาไหลออกมาเองเลยอะค่ะ แล้วที่แปลกมากก็คือ แถว ๆ นั้นจะมีสุนัขอยู่สองสามตัววิ่งเล่นกันอยู่ มีอยู่ตัวนึงเข้ามาคลอเคลียเคโกะเองเลยอะ ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วเคโกะไม่ค่อยมีสุนัขเข้าใกล้ค่ะ ส่วนตัวเองก็ไม่ค่อยถูกกับสุนัขนัก แต่กับตัวนี้คือ ยื่นมือให้ มันก็เลียมือ เลียขาเลยค่ะ เหมือนพยายามปลอบเคโกะอยู่เลยค่ะ น่ารักมาก ๆ

พอไม่ให้มันเลีย มันก็มานั่งอยู่ใกล้ ๆ เหมือนนั่งเฝ้าเลย ^^”

IMG_6011

มาสรุปปิดท้ายกับที่พักแห่งนี้ค่ะ

  • อาหารเช้าไม่รวมในค่าห้อง รีสอร์ทติดทะเล มีเก้าอี้นั่งเล่นดูทะเลได้ ทะเลเงียบสงบดี อาจจะมีเสียงจอแจจากรีสอร์ทข้าง ๆ นิดหน่อยค่ะ มีไวไฟ ความเร็วดีอยู่
  • ห้องพักไม่มีแอร์ ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ถ้าติดสองอย่างนี้ก็ทำใจไว้ก่อนล่วงหน้าเลยค่ะ
  • 7-11 ที่ใกล้ที่สุด อยู่ห่างออกไปราว ๆ 1.5 กิโลเมตร ระแวกใกล้เคียงไม่มีร้านค้าอะไรมากมาย และไกลสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ พอสมควร หากมารถสาธารณะ (เช่น รถตู้ ให้มาส่งที่รีสอร์ทอะไรงี้) น่าจะลำบากอยู่ค่ะ แนะนำเป็นเช่ารถขับมาจะสะดวกกว่า
  • พนง.น่ารัก อัธยาศัยดีค่ะ เช็คอินแล้วก็แนะนำที่ท่องเที่ยวให้ด้วย ให้แผนที่มาด้วยค่ะ
  • มีแมลงอยู่บ้าง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับฤดูค่ะ ตอนที่เคโกะไป มีแมลงอยู่พอควร คืนที่สองระทึกได้อีก มีหนูออกมาวิ่งเล่นด้วยค่าาา ><~ ดีนะ คุมสติอยู่ ไม่งั้นกรี๊ดแตกแน่ ๆ เคโกะไม่ชอบหนูเลยค่ะ ฮืออออ T^T ก็เอาเป็นว่าพกยากันยุง ยากันแมลงอะไรงี้ไปด้วยดีกว่าค่ะ

โดยรวมๆ แล้วเคโกะว่าเป็นรีสอร์ทดูธรรมชาติ ๆ และธรรมดา ๆ เรียบง่ายดีค่ะ ไม่รู้จะแนะนำยังไงดี เอาเป็นว่าถ้านุชเชสอินกับไลฟ์ขนอม ก็มาเถอะค่ะ 5555

สำหรับ non-นุช ก็ถ้าชอบความเรียบง่ายและทะเลสวย ๆ ก็แนะนำค่ะ ทะเลที่นี่สวยมากจริง ๆ น้ำใสมาก ๆ เลยค่ะ และทะเลยังสะอาดอยู่ ขยะก็มีนะ แต่น้อยอยู่มากกกค่ะ

ขอบคุณผลิตที่แนะนำรีสอร์ทนี้ให้รู้จักผ่านไลฟ์ขนอมเมื่อตอนนู้น และยังรอนุชให้ดูไลฟ์ (ย้อนหลัง) อยู่จนนุชคนนี้อยากตามรอยมาบ้าง ^^

ถ้าขยัน โพสต์หน้าจะมาเล่าเรื่องเที่ยวในขนอมต่อนะ 

ฝากเพจด้วยค่าาาา .. https://www.facebook.com/thisiskeigo/