สวัสดีค่ะ โพสต์นี้พราวลี่นำเสนอมาก ๆ เพราะไปแล้วรู้สึกดี รู้สึกชอบมากกกกกกเลยค่ะ แต่ไม่ได้เจาะจงแยกเป็นโพสต์ละสถานที่ไปนะคะ เพราะตั้งใจเอามารวม ๆ กันไว้ ให้พอเห็นเส้นทางการเที่ยวเนอะ เผื่อใครสนใจก็ตามรอยกันไปได้ง่าย ๆ เลยค่ะ ซึ่งเคโกะว่ามันก็เป็นเส้นทางที่ไล่เรียงกันไปตามทางดีแล้วค่ะ
Location : Taitung / 台东 / ไถตง
Direction : TRA to Taitung TRA Station
Transportation : Recommend to drive by yourself or taxi — เรื่องนี้จากปากคนท้องถิ่นเลยค่ะ ไม่แนะนำนั่งรถบัสจริง ๆ นะคะ
โพสต์นี้เราจะมาพูดถึงเมือง Taitung นั่นเองค่ะ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ทางตะวันออกของเกาะไต้หวัน ติดกับเมือง Hualien ไปทางทิศใต้ ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่นิยมไปแค่ Hualien ในฟากเกาะฝั่งนี้ค่ะ แต่เหตุผลหลักเลยที่เคโกะเลือกมาเมืองนี้ เพราะมีเพื่อนอยู่ที่เมืองนี้
ตอนที่บอกเพื่อนก็ไม่ได้นัดแนะอะไร เพราะคิดว่าจะเที่ยวด้วยตัวเอง ก็เห็นมีรถบัสนำเที่ยวอะค่ะ (好行巴士) แต่พอเอาไปบอกเพื่อน เพื่อนก็ตกใจใหญ่เลย แล้วก็บังเอิญว่าเป็นวันที่เพื่อนได้หยุดพอดี ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวจะขับรถพาเที่ยวเอง ^^ ซึ่งก็ได้บอกเค้าไปแล้วนะคะว่า มีรถบัสนี่ เดี๋ยวนั่งบัสก็ได้นะ แต่เค้าก็ไม่แนะนำอย่างแรงเลยค่ะ ซึ่งพอได้ไปที่นั่นแล้วจริง ๆ ก็รู้สึกขอบคุณเค้าเป็นอย่างมากเลยค่ะ
那时间当我导游 非常感谢你啦!真的辛苦你了!你们台东真的感动我了 挺喜欢的。
(ขออนุญาตขอบคุณเค้าเป็นภาษาจีนนิดนึงนะคะ เผื่อมาเห็น แหะๆ)
เริ่มต้นที่สถานีรถไฟกันเลยทีเดียว เคโกะปุเลง ๆ ไปจาก Yilan ผ่าน Hualien ไป (เพราะเคยไปมาแล้ว) นะคะ จนมาถึง TRA Taitung จนได้ ก็เจอเพื่อนยืนรอรับอยู่ที่หน้าสถานีพอดีค่ะ เค้าก็พาไปส่งที่โฮสเทล เช็คอิน เก็บของอะไรให้เรียบร้อย แล้วก็เริ่มออกเดินทาง
จุดแรกที่พาไปก็คือ Duo Liang Tourist Station (多良观车站) ซึ่งแต่เดิมเป็นสถานีรถไฟที่รถไฟจอดจริง ๆ แต่ภายหลังก็ได้ยกเลิกไปค่ะ เป็นเพียงสถานีผ่านเฉย ๆ แต่ความพิเศษของสถานีนี้ก็คือ เป็นสถานีที่อยู่ริมชายหาด สามารถเห็นชายหาดที่ทอดยาวและสวยงามมาก ๆ ค่ะ แล้วก็กลายเป็นจุดชมวิว จุดถ่ายรูปขณะที่รถไฟกำลังวิ่งผ่านสถานีไปค่ะ
แต่เราไม่ได้ลงไปดูวิวกันที่สถานีหรอกนะคะ จะมีจุดชมวิวอยู่บนเขาอะค่ะ เดิน ๆ ขึ้นไปกันนิดนึง ซึ่งจะมีร้านค้าเล็ก ๆ สองสามร้านตั้งอยู่ใกล้ ๆ ด้วย แต่ถ้าเดินขึ้นไปอีกก็ได้ค่ะ ทางเดินดีมากทีเดียว แต่จะค่อนข้างชันเล็กน้อย
วิวมุมสูงนั้นทำเอาเคโกะถึงกับร้อง “ว้าววววว” ออกมาเลยค่ะ คือ มันสวยมากจริง ๆ ทะเลเป็นสีฟ้าใสเลย ชอบมากจริง ๆ ค่ะ แค่วันแรกเองก็ตกหลุมรักเมืองเงียบ ๆ อย่างเมืองไถตงนี้เข้าไปซะเต็มเปาแล้ว ^^
จากนั้นเพื่อนก็พาลงไปรอยังจุดถ่ายรูป + จุดชมวิวค่ะ เพราะใกล้เวลาที่รถไฟจะผ่านสถานีแล้ว (มีป้ายเวลาแปะอยู่ด้านหลังจุดถ่ายรูปนี้ด้วยค่ะ — ภาษาจีนล้วน ๆ นะคะ ^^” )
รถไฟที่นี่ตรงเวลามากกกกกก มีเวลาให้ประมาณ 2-3 วินาทีเท่านั้นค่ะ พลาดแล้วพลาดเลย ต้องรอรถไฟขบวนหน้าเลยนะคะ เพราะฉะนั้น เซ็ทกล้องให้พร้อมรอแต่เนิ่น ๆ ได้เลยค่ะ
จากนั้นก็กลับเข้าเมืองค่ะ เดี๋ยวเค้าจะพาไปกินข้าว แล้วก็เดินเล่นกัน
ร้านข้าวที่เค้าพาไปนั้น เคโกะก็อธิบายไม่ถูกละ >< น่าจะอยู่ใกล้ ๆ กับสวนสาธารณะในเมืองที่มีตลาดนัดขายของทำมืออะค่ะ (ตรงนี้ก็ลืมอีก 555) เป็นร้านอาหารเจค่ะ เค้าบอกว่าเป็นร้านของญาติเค้าเอง และรสชาติอร่อยมากกกกกกก
ลงให้ดูพอเป็นตัวอย่างนะคะ
จานแรกเป็นคล้าย ๆ ออเดิร์ฟ ดูธรรมดามาก แต่อร่อยค่ะ
อีกจานเป็นเกี๊ยวซ่าเจ ทอดมาได้กรอบ เป็นแพกลมสวยงามเลย ไม่อมน้ำมัน และอร่อยมากกกก
ค่าเสียหายมื้อนั้น … เพื่อนเลี้ยงค่ะ ^^” 谢谢那顿饭 很好吃~
จากนั้นก็เดินไปสวนที่ว่าค่ะ มีงานอาร์ต ๆ มาตั้งโต๊ะขายเหมือนกัน รวมไปถึงมีร้านค้ามาเปิดบูธขายด้วย และก็มีลานเบียร์ขนาดย่อมด้วย ก็เสพงานศิลป์ไปจิบเครื่องดื่มไปด้วย ดูเพลิดเพลินดีนะคะ ^^”
จากนั้นก็ไปต่อกันที่ตลาดกลางคืนค่ะ Taitung Night Market ซึ่งก็เป็นตลาดเล็ก ๆ แหละ ไม่ค่อยมีร้านค้าเยอะอย่างที่อื่น ๆ เค้า ก็เดินดูบรรยากาศ ชิมขนมอีกนิดหน่อยไรงี้อะค่ะ
ชิมขนมคล้าย ๆ ชูครีม แต่ลูกเล็กกว่าเยอะค่ะ ราคาน่าคบมาก 10-20NTD เท่านั้นเอง เคโกะเลือกช็อคโกแลตมาชิม 1 ลูก 15NTD ค่ะ
ซึ่งที่นี่เพื่อนก็ดีนะคะ เค้าก็บอกว่า อยากชิมอะไรก็ชิมเลย แต่ถ้าให้เค้าแนะนำ เค้าก็ไม่รู้จะแนะนำอะไร ส่วนตัวเค้าเองก็มากินบ่อยแล้ว ให้เลือกที่เคโกะอยากชิมดีกว่า
เดินผ่านร้านผลไม้ มีน้อยหน่าด้วย ซึ่งน้อยหน่าบ้านเค้าจะลูกใหญ่ยักษ์มากค่ะ เค้าบอกว่ามีแต่ในเมืองไถตงที่เดียวนะ (พอไปเจอที่ไทเป เค้าก็บอกว่ามันไม่เหมือนกัน .. อ่าวววว) ก็เลยซื้อมาชิม ทั้ง ๆ ที่ในไทยเองเคโกะก็ไม่ได้กินนานมากแล้วค่ะ แต่โดยสรุปก็คือ น้อยหน่าบ้านเค้าลูกใหญ่ เนื้อแน่นและหวานกว่ามากค่ะ กล่องละ 50NTD กินคนเดียวไม่หมดค่ะเพราะกินข้าวอิ่มมาแล้ว เลยต้องให้เพื่อนช่วยกินด้วย ^^”
ปิดท้ายตลาดกลางคืนด้วยขนมหน้าตาแบบนี้ เค้าเรียกว่า 车轮饼 (เชอหลุนปิ่ง) ค่ะ รสชาติเฉย ๆ มากกกกก ไม่อร่อยจริง แต่คนมุงหน้าร้านเยอะค่ะ วิธีสั่งก็คือ เขียนลงในใบรายการ แล้วเอาไปยื่นให้เค้า จ่ายเงินแล้วรอคิวค่ะ เค้าจะขานเบอร์คิวเรา เลือกมาแบบเพลน ๆ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะไส้ถั่วแดง เลยราคาถูกค่ะ 12NTD เอง
จากนั้นเพื่อนก็ขับรถกลับไปส่งที่โฮสเทล และนัดหมายเวลาในวันรุ่งขึ้น ซึ่งในวันถัดไป เค้าจะมีเพื่อนมาอีกคน มาร่วมทริปด้วยกัน (ก็บังเอิญเป็นวันหยุดของเพื่อนเค้าอีกนั่นแหละ)
เช้าวันถัดมา เพื่อนก็มารับตรงเวลาค่ะ (คนไต้หวันเป็นคนตรงต่อเวลาจริง ๆ นะ ><) แล้วก็ขับรถเข้าไปร้านอาหารเช้าค่ะ เป็นอาหารเช้าสไตล์ไต้หวันล่ะนะ ร้านนี้อยากแนะนำมากนะ แต่บอกพิกัดไม่ถูกคร้าาาา T.T เพื่อนบอกว่า พามาร้านนี้เพราะอร่อยและราคาย่อมเยาค่ะ
เคโกะไม่ได้สั่งอะไรเลยนะ ให้เพื่อนสั่งให้โลดค่ะ (มากับเจ้าถิ่นก็งี้แหละ ฮ่าๆ — เอาจริง ๆ คือ ขี้เกียจคิดเมนูค่ะ และเคโกะบอกกับเพื่อนไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่า เคโกะอ่อนแอเรื่องการอ่านเมนูอาหารมากนะ ศัพท์น้อยค่ะ แหะๆ)
ก็ลงเป็นตัวอย่างอีกเช่นเคย เพราะเพื่อนสั่งมาเยอะมากจริง ๆ
จานนี้เป็นขนมผักกาดผัดไข่ ซึ่งเคโกะหากินไม่ค่อยได้แล้วในกทม. และมาเจอที่นี่ แบบน้ำตาจะไหลอ่ะ มันอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกค่ะ นอกจากแม่ทำให้ทานแล้ว ก็นี่แหละ อร่อยสูสีกันเลย
เกี๊ยวทอดอีกละ แต่ไม่เจแล้วค่ะ อร่อยอีกเช่นกัน .. คือเรียกได้ว่าอร่อยทุกอย่างอะ 555
นั่งกินกันไป คุยและทำความรู้จักเพื่อนใหม่อีกคนไปจนอิ่ม ก็ได้เวลาออกเดินทางค่ะ เพื่อนใหม่อีกคนนั้นพูดอังกฤษพอได้บ้าง แต่ด้วยความที่เค้าเป็นคนพูดเก่ง สามารถหาหัวข้อสนทนาได้เรื่อย ๆ เลยทำให้เปิด Google translate กันสนุกมือเลยค่ะ 555
จุดหมายแรกในวันนี้ก็คือ Xiao Yeliu / 小野柳 / เสี่ยวเหย๋หลิ่ว (ที่คนไทยออกเสียงเพี้ยนไปว่า เย่หลิว นั่นล่ะค่ะ)
คือเอาจริง ๆ นะ ตอนที่ไปเหย๋หลิ่ว เคโกะก็ไม่ได้อินอะไรขนาดนั้นนะ ก็แค่หิน ๆ ป่ะ (555) แต่ก็แค่อยากรู้ค่ะว่าทำไมที่นี่เรียกเป็นเสี่ยวเหย๋หลิ่ว (หมายถึง เหย๋หลิ่วน้อย ประมาณนั้น) ก็เลยให้เพื่อนพามาดูหน่อย
ขับรถมาไม่เสียค่าเข้า แต่เสียค่าจอดรถ 50NTD ค่ะ (ราคา weekday ถ้าเป็นวันหยุดจะอีกเรทนึง)
จอดรถแล้วก็เดิน ๆ ไป อืมมม … ก็เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติน้ำเซาะหน้าผาจนเป็นรูปทรงแปลก ๆ มั้ยอ่ะ
เดินไปจนสุดก็จะเป็นเหมือนชายหาดหินพอดี ไม่เหมือนกับที่เหย๋หลิ่วที่จะมีเชือกกั้นไม่ให้คนพลัดตกลงไป และเดินมาจนสุดแตะน้ำทะเลอย่างนี้ไม่ได้ค่ะ
เช้าวันนั้นก็มีผู้คนไปเดินเที่ยวบ้างอยู่เหมือนกัน
แล้วก็เดินกลับมาพักเหนื่อยในศาลาจุดชมวิวระยะไกล ก็ได้ภาพกว้าง ๆ มาอยู่นะ ก็จะประมาณนี้ล่ะค่ะ
เดินเที่ยวกันพอประมาณ แล้วก็ไปต่อค่ะ
ต่อกันที่ Jialulan / 加路兰 ตรงนี้แต่เดิมไม่ได้มีอะไรเลย แล้วก็มีคนไปทำให้กลายเป็น spot tourist ขึ้นมา สังเกตง่าย ๆ ว่ามีกรุ๊ปทัวร์ไปลงเยอะค่ะ เดินถ่ายรูปกันสนุกไป แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าเดินเล่น ชมวิวและถ่ายรูปค่ะ
วิวหน้าผาตรงนี้ก็สวยดีเหมือนกัน แอบมองฟ้าไกล ๆ ก็หวั่นใจ กลัวจะเจอฝน ทั้ง ๆ ที่ก่อนมาก็ทำใจไว้แล้วว่าพยากรณ์อากาศว่าฝนตกทั้งวันค่ะ แต่มาเจอแดดตอนเช้าก็ดีใจ ภาวนาให้แดดออกทั้งวันอ่ะนะคะ
spot tourist อีกซักรูปค่ะ มีคนเอาไอ้นี่มาตั้งไว้นี่แหละ กลายเป็นจุดท่องเที่ยวไปเลย 55
ตรงนี้ เคโกะยืนถ่ายรูป ๆ อยู่ดี ๆ ก็เจอเจ้คนจีนจากไหนก็ไม่ทราบค่ะ มากวักมือเรียกให้ถ่ายรูปให้เจ้หน่อย แล้วก็โพสต์ท่าอย่างเมามันมาก ถามย้ำตลอดว่าท่าไหนดี ท่านี้ดีหรือยัง ไรงี้อะค่ะ จนกระทั่งเจ้พอใจ เคโกะก็สงสัยอยากถามเจ้เหมือนกันนะคะว่าเจ้จะรู้ตัวไหมว่าคุยกับคนที่ไม่ใช่คนจีนอะค่าาาา ><”
นั่งเล่นชมวิวเรื่อยเปื่อย พูดคุยกันอีกพักนึง แล้วก็ไปต่อค่ะ
จุดต่อไป เคโกะจำชื่อไม่ได้แล้วอะ แต่เพื่อนบอกว่า เดิมเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ค่ะ แต่ว่าไม่มีคนมาพักแล้ว ก็เลยปล่อยให้ร้างไว้อย่างนั้น เป็นโรงแรมที่ติดหาด และหาดมีทรายสวย นิ่ม เดินเล่นได้สบายมากค่ะ
ไปเดินบีชชชชเล่นซักแป๊บนึงนะ
แล้วก็กลับมาขึ้นรถ เดินทางต่อไปพักที่กินข้าวเที่ยงค่ะ
ขออนุญาตตัดตอนตรงนี้ ยกไว้โพสต์หน้ากับอีกตอนนึงของเมืองน่ารัก ๆ ทะเลสวย ๆ อย่าง Taitung นะคะ ติดตามกันด้วยน้าาาาา ^^