สวัสดีค่ะ โพสต์นี้พาออกนอกเมืองกันนะคะ
พูดถึงจังหวัดเหมียวลี่ (Miaoli – 苗栗) แล้วก็คงเป็นเพียงทางผ่านเพื่อไปเมืองอื่น ๆ เช่น Taichung, Tainan อะไรงี้นะคะ ซึ่งก็เป็นจังหวัดที่ไม่ค่อยมีอะไรเที่ยวจริง ๆ อ่ะแหละ (555) แต่ก็จะลองพาไปดูกันค่ะ ว่าใน 1 วันของเคโกะไปเมืองนี้ได้อะไรบ้าง
แพลนจริง ๆ ค่อนข้างจะแน่นและยาวเหยียด (ไหนว่าไม่มีที่เที่ยวไงเจ๊?) เอาเข้าจริง ไม่ได้ครบตามแพลนค่ะ คิดว่าน่าจะต้องมาใหม่แหละ เพราะที่พลาดไปนั้นดูจะค่อนข้างเป็นแลนด์มาร์คของเมืองนี้อยู่อะค่ะ
มา เริ่มกันเลยเนอะ
Location : Miaoli, Nanzhuang route
Transportation : Taiwan Haoxing bus (台湾好行) No.5805A
Visited date : 29 Dec 2017
เคโกะเริ่มต้นการเดินทางไป Miaoli ด้วยรถไฟ TRA ไปลงที่สถานี Zhunan ซึ่งเป็นเขตนึงในจังหวัดนี้อะนะคะ ออกมาจากสถานีแล้วก็จะเห็นป้ายบอกทางไปจุดจอดรถบัส 好行 หรือรถบัสที่ประจำเส้นทาง ผ่านจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ไรงี้อ่ะค่ะ เคโกะจะใช้บริการรถบัสนี้ในเส้นทาง Nanzhuang route ค่ะ สายเบอร์รถก็คือ 5805A ค่ะ
เดินตามป้ายมาเรื่อย ๆ ผ่าน 7-11 ทางซ้ายมือ ป้ายรถเมล์จะอยู่เยื้อง ๆ กับ 7-11 นี้ค่ะ ทางด้านขวามือ จะมีป้ายนี้ตั้งเด่น แอบหลังต้นไม้นิด ๆ อยู่
![IMG_3615](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/img_3615.jpg?w=869)
มีเวลาและเส้นทางบอกเรียบร้อย ซึ่งก็ควรจะดาวน์โหลดเวลาแต่ละป้ายรถให้ดีค่ะ (ดาวน์โหลดได้จากเว็บรถบัสนะคะ)
link รายละเอียดรถบัส (ภาษาจีน แต่เปลี่ยนภาษาที่เมนูด้านบนได้ค่ะ) :: https://en.taiwantrip.com.tw/line/5
ตารางเวลารถบัส (ภาษาจีนเช่นกัน เปลี่ยนภาษาที่ลิ้งค์บนแล้ว ตารางนี้ก็จะมีภาษาอังกฤษเพิ่มให้ค่ะ) :: https://www.taiwantrip.com.tw/upload/1514891435nxLv9.pdf
ตอนที่เคโกะไปรอรถบัสก็เจอกับกรุ๊ปที่มารอรถบัสนี้เช่นกันกลุ่มใหญ่เลย แอบเหลือบเห็นในมือพวกเค้ามีตั๋วแบบ 1-day pass อยู่ ซึ่งเคโกะอ่านเจอว่าซื้อบนรถได้ แต่ก็เห็นว่าเค้าซื้อมาได้ในราคาที่ถูกกว่าค่ะ ก็เลยถามเค้าว่าซื้อบัตรนี้จากไหน เค้าก็ใจดี บอกให้ว่าซื้อที่ตู้อัตโนมัติใน 7-11 ค่ะ เคโกะดูเวลาแล้วยังพอมีเวลาอยู่ก่อนที่รถจะมา ก็เลยรีบวิ่งไปซื้อตั๋วบ้าง
ตู้ขายตั๋วก็เป็นปัญหากับเคโกะอีกเช่นเคย เนื่องจากเป็นภาษาจีนล้วนค่ะ แม้จะอ่านพอได้บ้าง แต่ที่อ่านได้นั้นเป็นจีนตัวย่อค่ะ T.T บวกกับเวลากระชั้นชิด เลยรีบขอร้องให้พนักงานมาช่วยกดตั๋วให้ และรีบจ่ายเงินราคา 135NTD และรีบวิ่งไปรอรถบัสค่ะ
![IMG_3616](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/img_3616.jpg?w=869)
คำนวณราคาแล้ว ถือว่าคุ้มมาก ๆ ค่ะ ขนาดแค่นั่งรถไปกลับเดินถนนคนเดินเล่น ๆ ก็คุ้มค่ะ (ในไฟล์ตารางเวลามีตารางค่าโดยสารให้คำนวณด้วยค่ะ)
ระหว่างนั่งรถไป ก็นั่งเสิร์ชหาที่แวะรายทางอีกสักจุด แล้วก็ตัดสินใจจะลงที่ Toufen Backyard Garden ซึ่งเปิด ๆ กูเกิ้ลดูแล้วก็รู้สึกว่าพอใช้ได้ น่าจะพอมีอะไรให้เดินเล่น ชมวิวได้ แต่ปรากฏว่าเลยป้ายค่ะ T.T แล้วกรุ๊ปที่เคโกะซื้อตั๋วตามเค้าก็ลงป้าย Lion’s Head Mountain Historic Trail ซึ่งจริง ๆ เคโกะก็สนใจอยู่แล้ว แต่เนื่องจากวันที่ไปสุขภาพไม่ค่อยอำนวยค่ะ เลยกะจะไม่ไป แต่เลยป้ายที่อยากลงแล้วไง แล้วกรุ๊ปที่ตามเค้ามาก็แห่กันลงหมดเลย ก็เลยลงตามเค้าไปค่ะ T.T
โถ .. เคโกะ ไม่ได้อยากมาปีนเขา ดวงก็พาให้มาปีนเขาซะงั้นอ่ะ ปีนเขาซะทุกรอบเลย (555)
ป้ายที่ลง ดูวังเวงมาก เป็นบ้านร้าง ๆ ค่ะ (ถ่ายจากฝั่งตรงข้าม)
![DSC_5272](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/dsc_5272.jpg?w=869)
ข้ามถนนมาก็เป็นปากทางเส้นทาง trail เลย
![DSC_5274](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/dsc_5274.jpg?w=869)
ป้ายชื่อบอกชัดว่าเป็นเขาหัวสิงโต (Lion’s Head Mountain) ค่ะ
ทางเดินก็เป็นบันไดขั้น ๆ เดิน ๆ ไปเรื่อย ๆ ค่ะ แรก ๆ ดูเหมือนเดินง่าย เดินสบาย ๆ ค่ะ
![DSC_5276](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/dsc_5276.jpg?w=869)
ข้างหน้าคือกรุ๊ปที่ลงรถตามเค้ามา
ข้างทางก็มีรูปปั้นอะไรบางอย่างดูน่าสนใจดี แวะถ่ายรูปนิดหน่อย ทิ้งช่วงกลุ่มคนที่แอบตามเค้ามาสักหน่อยค่ะ 555
![DSC_5280](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/dsc_5280.jpg?w=869)
เดินไปตามทางเรื่อย ๆ ก็มีทางแยกนิดหน่อย เค้างง ๆ กัน ว่าไปทางไหนดี ไอ้เราก็งงไปด้วย ทำไก๋หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถกูเกิ้ลแมพดูเส้นทางค่ะ จนเค้าไปถูกทาง ก็เดินตามเค้าต่อ ^^”
![DSC_5287](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/dsc_5287.jpg?w=869)
เดิน ๆ ขึ้นมาจนถึงด้านบนแล้ว จะเจอกับลานจอดรถของวัดแห่งหนึ่งโล่ง ๆ เลยค่ะ ซึ่งเคโกะก็คลาดกับกลุ่มข้างหน้าไปแล้วเรียบร้อย T.T .. ก็แค่โอ้เอ้หยุดถ่ายรูป แล้วก็แวะเข้าห้องน้ำอีกทีเท่านั้นเอ๊งงงงง
มองไปรอบ ๆ ลานจอดรถของวัดแล้วก็จะเห็นมีวัดเรียงรายอยู่ ไม่รวมกับที่ยืนอยู่นะคะ
![DSC_5290](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/dsc_5290.jpg?w=869)
มองไปมองมา หาคนกลุ่มนั้นไม่เจอแล้ว เจอแต่แผนที่ก็รีบโผไปหาเลยค่ะ เผื่อจะช่วยอะไรได้บ้าง
![IMG_3619](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/img_3619.jpg?w=869)
ดูจากแผนที่แล้วก็ถึงได้รู้ว่าวัดที่ยืนอยู่คือวัด Chuanhuatang Temple (劝化堂)
จริง ๆ แล้ว เคโกะว่าเส้นทาง trail ที่นี่ออกแนวเส้นทางสายบุญมากกว่าค่ะ จุดตัวหนังสือแดง ๆ แต่ละจุดในแผนที่นั้นเป็นวัดหมดเลยค่ะ นับไปนับมา มีวัดไม่ต่ำกว่า 10 แห่งค่ะ ถ้าไปหมด เคโกะว่าคงหมดวันแน่ ๆ T.T ก็เลยเอาวัดหัวสิงโต หรือวัด Chuanhuatang Temple ที่อยู่นี่ก็พอค่ะ ซึ่งหลังจากเดิน ๆ รอบ ๆ แล้ว เป็นวัดที่ใหญ่ สวยและแปลกตามากจริง ๆ ค่ะ
เดินต่อไปเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นทางเดินซีเมนต์ธรรมดาละ ไม่ใช่ขั้นบันไดค่ะ ก็จะเจอกับทางเข้าวัด มีรูปปั้นสิงโตตั้งอยู่อย่างโดดเด่น
![DSC_5297](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/dsc_5297.jpg?w=869)
มีการทำถ้ำให้เดินลอดเข้าไปได้ด้วย (ไม่แน่ใจนะคะว่าถ้ำจำลองหรือถ้ำจริง ๆ) ซึ่งด้านในก็มีไฟส่องทางอยู่บ้างค่ะ ไม่ได้มืดแบบไม่เห็นทางเลย
![DSC_5303](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/dsc_5303.jpg?w=869)
ที่ว่าแปลกตาก็คือถ้ำ ๆ พวกนี้แหละค่ะ ขนาดทางเดินก็ยังอุตส่าห์จำลองให้เป็นถ้ำเลยอะ
![DSC_5315](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/dsc_5315.jpg?w=869)
แล้วก็มีหน้าผาน้ำตกจำลองพร้อมด้วยรูปปั้นนกกระยาง (ใช่ไหมคะ ^^”) หยุดถ่ายรูปอยู่ที่นี่นานอยู่เหมือนกัน สวยและแปลกตาอย่างที่บอกค่ะ
![DSC_5319](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/dsc_5319.jpg?w=869)
เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเขาเลย ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บนหน้าผาค่ะ เพราะพอมองออกไปก็จะเห็นเพียงหลังคาวัดและยอดต้นไม้ด้านล่างเท่านั้นเอง
![DSC_5338](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/dsc_5338.jpg?w=869)
ด้านหลังวัด มีทางเดินทะลุออกไปเส้นทาง trail ต่อได้อีกค่ะ เคโกะก็เดินต่อนะ ^^”
แต่ช่วงหลังนี้เป็นทางเดินที่ดูไม่ค่อยง่ายแล้วล่ะค่ะ แต่ก็ไม่ได้ทุลักทุเลนะ
![DSC_5354](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/dsc_5354.jpg?w=869)
มีวิวธรรมชาติ ๆ บนยอดเขาให้พักสายตาดูบ้าง จะได้พักไปด้วย
![DSC_5362](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/dsc_5362.jpg?w=869)
เดินออกมาเรื่อย ๆ แล้วก็เจอต้นที่มีใบไม้แดงอยู่ต้นนึงค่ะ เดาว่าที่นี่น่าจะมีหลายต้น เพราะเคโกะเดินเจอใบไม้แดงร่วงเต็มพื้นตลอดทางเลย นี่น่าจะเป็นต้นที่ยังเหลืออยู่ต้นสุดท้ายละมั้งคะ ^^”
![DSC_5363](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/dsc_5363.jpg?w=869)
ทางเดินตรงหน้าก็เดินต่อไปได้อีก แต่เคโกะก็ไม่รู้ว่าไปไหนแล้วนะ แล้วก็เจอกรุ๊ปครอบครัวมาเดินบริเวณนี้เหมือนกันค่ะ ตั้งใจจะไปถามทางสักหน่อย เลยไปเนียน ๆ ช่วยเค้าถ่ายรูป เลยได้พูดคุยกันนิดหน่อย ก็เลยรู้ว่าเป็นคนฮ่องกง พาครอบครัวมาซินจู๋แล้วเลยมาเที่ยวที่นี่ค่ะ … หมดกันคนถามทาง T.T
เคโกะเสียเวลาไปกับเขาลูกนี้เยอะอยู่เหมือนกัน และยังมีอีกหลายที่ที่อยากไป ก็เลยกลับค่ะ ก็เดินกลับมาทางเดิมเป๊ะ ๆ เลยนะคะ มารอรถบัสที่ป้ายรถบัสป้ายเดิมที่ดูเวิ้งว้างนั่นแหละค่ะ T.T
รอรถบัสนานอยู่เหมือนกัน เดาว่ารถเที่ยวที่เคโกะตั้งใจจะไปน่าจะเพิ่งผ่านไปไม่นานค่ะ เลยต้องรอรอบถัดไป แล้วอากาศก็หนาวด้วยนะ T^T
พอรถมาก็รีบขึ้น แล้วไปลงที่ป้ายสุดท้ายเลยค่ะ คือ Nanzhuang Visitor Center ค่ะ จะดูคึกคักมาก ๆ เพราะเป็นทั้งตลาดสดและถนนคนเดินค่ะ
ลงรถปุ๊บก็เจอแผนที่บอกทางไปที่เค้าแนะนำเลย
![IMG_3645](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/img_3645.jpg?w=869)
เดินย้อนมานิดหน่อย ก็จะเจอกับทางเข้าถนนคนเดินค่ะ
![DSC_5376](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/dsc_5376.jpg?w=869)
ด้านหน้าก็มีแลนด์มาร์คที่คนนั่งพัก นั่งกินอาหาร นั่งรอรถ ฯลฯ กันอยู่เยอะทีเดียว
![IMG_3655](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/img_3655.jpg?w=869)
สองข้างทางก็จะเป็นร้านค้าขายนู่นนี่นั่นค่ะ ก็เดินไปเรื่อย ๆ ก็เจอกับร้านนึงมีสไปเดอร์แมนอยู่บนหลังคาด้วยอะ มีอะไรแปลก ๆ อีกละ
![DSC_5378](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/dsc_5378.jpg?w=869)
ฝั่งตรงข้ามมีบ้านคุณนกฮูก และไปรษณีย์เก่าค่ะ
![DSC_5382](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/dsc_5382.jpg?w=869)
เห็นเค้าว่าเป็นที่ทำการไปรษณีย์เก่าถึง 100 ปีเลยนะ
![DSC_5383](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/dsc_5383.jpg?w=869)
แล้วก็มาหาอะไรกินบ้างดีกว่าค่ะ
เคโกะเตะตากับร้านนี้ หน้าตาเป็นเส้นลูกชิ้นปลายาว ๆ ชุบแป้งทอดค่ะ พอถามลุงถ่ายรูปได้มั้ย ลุงพยักหน้ารับแบบเต็มใจมาก พร้อมทั้งบอกจุดให้ยืนถ่ายรูปและโพสต์ท่าเสร็จสรรพเลยค่ะ
![IMG_3650](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/img_3650.jpg?w=869)
ร้านลุงจะมีหลาย ๆ แบบ เราบอกได้ว่าเอาอะไร ไม่เอาอะไร และขนาดเท่าไหร่ (เป็นราคา) ค่ะ นอกจากนี้ลุงยังให้เซลฟี่กับลุง โดยลุงจัดท่าให้ด้วย คือ น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกค่ะ
ได้มา 1 ถ้วย รสชาติอร่อยดีค่ะ เนื้อเหมือนลูกชิ้นปลาเด้ง ๆ หนึบหนับ ๆ หน่อยนะ สนนราคา 100NTD ค่ะ
![IMG_3652](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/img_3652.jpg?w=869)
จากนั้นก็ไปสั่งเผือกทอดกินอีก 1 ถ้วยค่ะ เป็นร้านด้านซ้ายมือ ถ่ายไกล ๆ หน่อยนะเพราะไม่ได้ขอเค้าถ่ายรูปค่ะ แหะๆ
![IMG_3654.jpg](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/img_3654.jpg?w=869)
ร้านนี้สั่งง่ายค่ะ แค่บอกว่าเอาไซส์เล็กหรือใหญ่ก็พอ เดี๋ยวเค้าจะตัดเป็นคำ ๆ ใส่ถ้วยให้เรา แล้วให้เราปรุงน้ำจิ้มที่ตั้งอยู่ด้านหน้าเองตามใจชอบ
ถ้วยนี้ราคา 70NTD .. แต่รสชาติไม่ผ่านค่ะ รู้สึกเหมือนแป้งเยอะเกินไป ไม่ได้รสสัมผัสของเผือกเลย ไม่ถูกจริตอย่างแรงเลยล่ะค่ะ ><~
![IMG_3653](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/img_3653.jpg?w=869)
ทานเสร็จก็กลับไปรอรถเพื่อไปที่สถานีรถไฟ Zhunan เหมือนขามาค่ะ ตรงนี้เป็นป้ายใหญ่ เลยมีป้ายไฟกระพริบบอกเวลารถมาถึงป้ายด้วย
![IMG_3656](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/img_3656.jpg?w=869)
กลับมาถึงสถานี Zhunan แล้ว จริง ๆ เคโกะจะต้องนั่งรถไฟ Local line เพื่อไปที่สถานี Miaoli ตามแผนเดิมคือ ไม่ได้ไปเขาหัวสิงโต และมาเหมียวลี่เพื่อนั่งรถบัสไปเก็บสตรอเบอรี่ ก่อนกลับมานั่งรถไปดูสะพานขาดและสถานี Shengxing ค่ะ ซึ่งเป็นจุดแลนด์มาร์คที่นิยมมาถ่ายรูปกัน แต่พอเคโกะไปปีนเขาหัวสิงโต ก็เลยรวนไปหมดเลย (555)
เวลานั้นก็จัดว่าเย็นแล้วแหละสำหรับฤดูหนาวค่ะ แต่ก็คิดเอาเองว่าน่าจะพอไปสะพานขาดและ Shengxing ได้ ซึ่งทั้ง 2 ที่นั้นไม่มีรถเมล์ไปนะคะ เคโกะก็เลยจัดหนัก โบกแท็กซี่ไปเลยค่ะ T.T
กว่าจะถึงก็มืดแล้วอะ แล้วทั้ง 2 ที่ก็ไม่มีการจัดไฟเพื่อความสวยงามในการถ่ายรูปยามค่ำคืนใด ๆ เลยนะคะ แต่ว่าตัวสถานที่เองเปิดตลอด 24 ชม.ค่ะ
![DSC_5388](https://thisiskeigo.wordpress.com/wp-content/uploads/2018/04/dsc_5388.jpg?w=869)
คนขับรถเองก็บ่น ๆ แกมเป็นห่วงเหมือนกันว่าจะมาทำไมเย็น ๆ ต้องไปตอนเช้าสิ อะไรงี้ แต่ก็สัมผัสได้ค่ะว่าน่ารัก อัธยาศัยดี แล้วก็ขับรถดีมาก ๆ ด้วย
สุดท้ายก็เลยพับแผนทั้งหมด ให้คนขับรถไปส่งที่สถานี Miaoli เพื่อนั่งรถไฟกลับ Taipei ค่ะ โดยคนขับรถก็คงรู้อะว่ารถไฟที่เคโกะจองตั๋วไว้แล้วนั้นน่าจะอีกนานกว่าจะออกค่ะ ก็เลยไปส่งให้ที่ด้านหลังของสถานีรถไฟ ซึ่งมีตลาดกลางคืนอยู่ เดินเล่นฆ่าเวลาได้ หาของกินรองท้องได้ดีเลยค่ะ (ไม่มีรูปค่ะ แหะๆ)
โดยสรุปก็เป็นจังหวัดที่ดูไม่น่าจะมีอะไร แต่ก็มีอะไรค่ะ ต้องกลับมาเก็บตกที่พลาด ๆ ไปอีกรอบด้วยล่ะค่ะ ^^”
โพสต์หน้า น่าจะยังวนเวียนอยู่กับทริปไต้หวันช่วงปีใหม่อีกซักโพสต์นึงก่อนที่จะโยกข้ามไปญี่ปุ่นบ้างนะคะ
ระหว่างหาย ๆ ไป แวะไปทักทายกันได้ที่เพจค่ะ :: https://www.facebook.com/thisiskeigo/