สวัสดีค่ะ ยังวนเวียนในไต้หวันกันอยู่นะคะ โพสต์นี้จะเป็นที่เที่ยวยอดฮิตที่นักท่องเที่ยวไปกันเยอะ ไม่ได้แหวกแนวอะไรละค่ะ แหะๆ
Spot name : Lotus pond & Dragon Tiger Pagodas
Location : Kaohsiung, Taiwan
Access : Zuoying THSR / Xin Zuoying TRA / Zuoying KMRT and walk around 10 min
Entrance fee : Free
Opening hours : always open
Visited date : 12 March 2018
เคโกะเองจองที่พักไว้แถว ๆ สถานี Zuoying อยู่แล้วอะนะคะ ก็เลยเปิด Google maps แล้วก็เดินตามโลด จากตัวสถานีเองก็จะค่อนข้างไกลนิดนึง เดินประมาณ 2 ท้อใจก็ถึงค่ะ แล้วก็รู้สึกท้อต่อเพราะอาณาบริเวณค่อนข้างกว้างมาก ๆ กว่าจะเดินวนไปครึ่งรอบสระเพื่อไปฝั่งที่มีเจดีย์คู่มังกรเสือก็เดินเหนื่อยอยู่ค่ะ แต่ดูวิวไปพลาง ๆ ก็พอทำให้รู้สึกหายเหนื่อยได้อยู่นะ
เดินมาถึงสระที่กว้างใหญ่ เห็นเจดีย์คู่อยู่ลิบ ๆ นั่นก็แอบท้อนิด ๆ ค่ะ เพราะต้องเดินอ้อมสระน้ำไปหา
ระหว่างเดิน ๆ ไปก็ส่องจากระยะไกล ๆ ไปเรื่อย ๆ ก่อน
วิวสระน้ำกว้าง ๆ แบบนี้ ก็รู้สึกผ่อนคลายได้บ้างอยู่เหมือนกันนะคะ
รอบ ๆ สระน้ำ จะมีแผนที่บอกจุดท่องเที่ยวสำคัญอยู่ค่ะ (ภาษาจีน) ถ้าดูกันให้ดี ๆ แล้ว รอบ ๆ สระนี้จะมีวัดเรียงรายอยู่เต็มไปหมดเลยค่ะ
แบบภาษาอังกฤษก็จะหาอ่านได้ในวิกิฯ นะคะ แต่ก็จะไม่มีรูปให้ดูแบบเข้าใจง่าย ๆ อย่างในรูปข้างบนค่ะ
https://en.wikipedia.org/wiki/Lotus_Pond,_Kaohsiung
เดิน ๆ เข้าไปใกล้อีกนิด จะเจอกับวัดแห่งนึงชื่อว่า Pei Chi Pavilion (北極亭 – เป่ยจี๋ถิง) ที่จะมีรูปปั้นเทพเจ้าเซวียนเทียนช่างตี้อยู่ค่ะ มองเห็นได้แต่ไกลเลย
ไปค่ะ ไปดูกันใกล้ ๆ
ดูใกล้ ๆ รู้สึกว่าน่าเกรงขามมาก ๆ เลยค่ะ
ด้านใต้รูปปั้นจะมีลักษณะเหมือนวัดค่ะ เข้าไปกราบไหว้ได้ มีเครื่องรางให้เช่าบูชาด้วย
จากนั้นเคโกะก็เดินไปต่อค่ะ มีเจดีย์อะไรสวย ๆ อยู่ตรงหน้าอีกจุดหนึ่งแล้วค่ะ
ตรงนี้ค่อยดูเป็นสระบัวหน่อยเนอะ ^^”
ช่วงที่ไป (เดือนมีนาฯ) ดูดอกบัวออกจะไม่ค่อยบานเท่าไหร่ค่ะ ดูแล้ง ๆ เหี่ยว ๆ พอสมควรเลยค่ะ ^^”
เดินใกล้เข้าไปอีกนิด ที่นี่ก็คือ Spring and Autumn Pavilions (春秋閣 – ชุนชิวเก๋อ) ซึ่งศาลาด้านในสุดก็จะมีชื่อว่า 五里亭 (อู๋หลี่ถิง) ค่ะ
ด้านหน้าจะเป็นมังกรตัวใหญ่ยาวที่สามารถเข้าไปเดินภายในตัวมังกรได้ค่ะ
ด้านในก็จะเป็นรูปวาดบอกเล่าเรื่องราวศาสนาในแบบความเชื่อของคนจีนที่นี่ค่ะ
เดินไปศาลาด้านในสุด วิวดี บรรยากาศดีมากเลยทีเดียวค่ะ
จากศาลาอู๋หลี่ถิงก็จะมองเห็นเจดีย์คู่ได้ชัดขึ้น สะท้อนเงากับน้ำนิ่งในสระ ก็ดูสวยเก๋ไปอีกแบบค่ะ
วิวฝั่งตรงข้ามบ้าง ซึ่งก็จะเป็นทิศที่เคโกะเดินมาถึงสระบัวแห่งนี้ล่ะค่ะ
ดูแล้วรู้สึกมั้ยอะว่ามันไกลมากจริง ๆ ><~
พักถ่ายรูป พักเหนื่อยกันพอสมควรแล้วก็เดินต่อไปที่พระเอกของงานนี้ค่ะ
ที่นี่ก็คือเจดีย์คู่ หรือ Dragon and Tiger Pagodas (龍虎塔 – หลงหูถ่า) ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวเยอะมาก ๆ ค่ะ ด้านหน้าของเจดีย์ ฝั่งตรงข้ามถนนด้านหน้านั้นมีร้านขายของที่ระลึกเรียงรายหลายร้านเลยล่ะค่ะ
ตรงนี้เราก็สามารถเดินลอดหัวมังกรแล้วไปออกทางปากเสือของอีกฝั่งนึงได้ค่ะ
รูปนี้เคโกะถ่ายจากด้านหลังของมังกรและเสือออกมาด้านหน้านะคะ
จากนั้นก็ออกจากบริเวณนี้ค่ะ
เคโกะมองดูแผนที่เส้นทางในป้ายแสดงจุดท่องเที่ยวสำคัญที่ตั้งอยู่รอบ ๆ สระแล้วก็สังเกตเห็นว่ามีบ้านเก่าของหลากหลายตระกูลให้ไปเดินเยี่ยมชมกันด้วยล่ะค่ะ ไหน ๆ ก็มาแล้ว ก็เลยว่าจะไปลองเดินดูซะหน่อย แต่ครั้นจะเดินให้ครบทุกตระกูล ก็ไม่ไหวนะ (555) เลยขอเลือกเอาตระกูลของตัวเองค่ะ
บ้านเก่าตระกูลหลินค่ะ
เดินออกมาจากสระบัวได้สักหน่อย ก็จะเจอโมเดลจำลองถนนสายประวัติศาสตร์ของเขตจั่วอิงค่ะ ซึ่งก็รวมเอาบ้านเก่าตระกูลต่าง ๆ นั่นไว้ด้วยนั่นแหละค่ะ
พยายามถ่ายรูปท็อปวิวให้พอมองเห็นภาพอะนะ ><
เอาล่ะ เดินไปหาบ้านตระกูลหลินกันดีกว่าค่ะ
ไปถึงก็สตั๊นท์ไปสามวิฯ มีคนไปเดินดูเหมือนเคโกะด้วย เคโกะก็เลยแน่ใจขึ้นมาว่านี่แหละคืออดีตบ้านตระกูลหลินจริง ๆ ><
เริ่มจากกระเบื้องโบราณบนพื้นถนนก่อน
แล้วก็บ้านเก่า .. เหลือแค่นี้เองเหรอเนี่ยยย…
อีกมุมนึงค่ะ ถ่ายจากด้านในออกมาหน้าถนน
แล้วหลังจากนั้นก็เลยเดินกลับออกไปอีกทางหนึ่ง เพื่อขึ้นรถเมล์ไปที่อื่นต่อ ซึ่งระหว่างทางก็ผ่านบ้านตระกูลอื่นอีกตระกูลนึง (จำไม่ได้แล้วว่าแซ่อะไรค่ะ) แต่ดูสภาพดีกว่าของตระกูลหลินมาก ๆ เลย ><
มีคนบอกว่า มาเกาสงแล้วไม่มาเดินชมเจดีย์คู่มังกรเสือ ก็เหมือนมาไม่ถึงเกาสงค่ะ ^^”
ก็ดูเป็นอะไรที่ A Must ต้องมาอะนะคะ แต่ถ้าสายบุญมา น่าจะถูกใจค่ะ วัดเยอะมาก ๆ จริง ๆ
แปะเพจปิดท้ายเช่นเคยค่ะ ^^
https://www.facebook.com/thisiskeigo/