[Taipei] Moshamanla Main Station

สวัสดีค่ะ วกกลับมาไต้หวันอีกแล้ว ฮาาาาาา

เปิดเริ่มทริปไต้หวันรอบนี้ด้วยที่พักก่อนนะคะ ทริปนี้เคโกะไปกับเพื่อน ๆ ไปแค่ 4 วันเองค่ะ เป็นทริปที่จัดว่าสั้นเลยแหละ เพราะปกติไปทีนึงก็จะหายไปสัปดาห์นึงเลยค่ะ และเพราะไปแค่ 4 วันเอง ก็เลยพักอยู่ที่เดียว ไม่ได้ย้ายที่พักเลยนะคะ

Hotel name : Moshamanla Hotel Main Station
City : Taipei, Taiwan
Location : https://goo.gl/maps/QwTKQ4GXqbE2uKqW7
Booking via : agoda
Room type : Deluxe Triple
Room rate : 7,266.99THB (3 nights)
Check-in date : 15 – 18 February 2020, 3 nights
Website : https://www.diaryoftaipei-mainstation.com/en-gb
Facebook page : https://www.facebook.com/Moshamanla Hotel摩莎曼拉精品旅店-台北車站館-212108835799445/

โรงแรมนี้เวลาเสิร์ชในกูเกิ้ลแม็พแล้วจะโชว์ขึ้นมาเป็นชื่อ Diary of Taipei Hetel ก็ไม่ต้องตกใจไปนะคะ คือที่เดียวกันค่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเปลี่ยนชื่อโรงแรมไปจากชื่อไหนไปชื่อไหนหรือเปล่านะคะ

การเดินทางใช้ MRT ไปที่ Taipei Main Station ค่ะ แล้วเดินออก Exit Z10 ค่ะ แล้วเดินมาอีกนิดหน่อยก็ถึงแล้ว

พนง.โรงแรมพูดอังกฤษได้นะคะ รับฝากกระเป๋าได้ทั้งก่อนและหลังเช็คอินด้วยค่ะ

พวกเราจองไว้แบบไม่รวมอาหารเช้า เค้าก็จะให้มาแค่คีย์การ์ดค่ะ ไม่วายที่จะโฆษณาอาหารเช้าของเค้าด้วยนะว่าถ้าเพิ่มเงินก็จะได้อาหารเช้าด้วย

เปิดประตูเข้าห้องมา ห้องขนาดไม่ได้ใหญ่เวอร์วังค่ะ เป็นห้องขนาด 4 คนแหละ (แต่ทำไมในเว็บว่า 3 คนก็ไม่รู้นะคะ)

ตรงประตูห้องจะมีรองเท้าแตะสลิปเปอร์วางไว้ให้ 4 คู่ค่ะ

แล้วก็เป็นโต๊ะทำงาน ที่บนโต๊ะมีกาน้ำร้อนพร้อมชา และน้ำดื่มวางไว้ให้ 4 ขวด

ถัดไปก็เป็นตู้เสื้อผ้า มีเซฟเล็ก ๆ อยู่ในตู้ และด้านล่างสุดเป็นตู้เย็นไซส์เล็กค่ะ

มาดูเตียงนอนอีกรอบ เป็นเตียง double bed 2 เตียง ได้ 4 คนค่ะ

ผนังห้องตรงข้ามเตียงก็เป็นทีวีแบบติดฝาผนัง ช่องจีนล้วน ๆ ไม่มีอย่างอื่นปนเลยค่ะ 555

แล้วก็เป็นห้องน้ำ ที่เป็นทรงยาวไปตามห้อง แยกส่วนเปียกและส่วนแห้งชัดเจนด้วยประตูกระจกแบบเลื่อนค่ะ

ด้านข้างผนังหลังประตูห้องน้ำ มีไดร์เป่าผมให้ด้วย

แล้วก็ถ้วยตรงอ่างล้างหน้า ก็จะวางพวกแปรงสีฟัน มีดโกนหนวด ฯลฯ ไรงี้ค่ะ วางไว้รวม ๆ กัน แอบนับดูก็ไม่ได้ครบตามจำนวนคนนะ

ผ้าเช็ดตัววางไว้ให้อย่างละ 4 ผืนค่ะ ทั้งผืนเล็กและผืนใหญ่

ส่วนเปียกด้านในสุดก็จะมีแชมพูและครีมอาบน้ำแบบกดให้ใช้ ฝักบัวก็เป็นแบบน้ำอุ่นปรับเองค่ะ

นอกจากนี้ ชั้นล่างบริเวณล็อบบี้ของโรงแรม ก็มีห้องประชุมและห้องฟิตเนสด้วยค่ะ แต่มีเวลาเข้าใช้บริการอยู่ ซึ่งตรงนี้ไม่มีรายละเอียดนะคะ ^^”

สรุปเลยแล้วกันเนาะ

• สิ่งแรกที่อยากจะบอกคือ ประตูห้องน้ำมีช่องว่างด้านบนนะคะ เผื่อใครกังวลเรื่องกลิ่นในห้องน้ำนะคะ
• ยังอยู่ในห้องน้ำค่ะ ในห้องน้ำเองไม่มีพื้นที่วางของมากพอ เช่น ไม่มีที่วางเสื้อผ้าที่จะเปลี่ยนตอนอาบน้ำ และในห้องอาบน้ำเองก็ไม่มีพื้นที่วางขวดแชมพู ขวดต่าง ๆ ส่วนตัวค่ะ
• ห้องค่อนข้างแคบ มีพื้นที่ว่างตรงปลายเตียงกับผนังห้องประมาณ 1 กระเป๋าเดินทางเปิดกางออกค่ะ คือถ้าเพื่อนจัดกระเป๋าอยู่ก็เดินผ่านไปไม่ได้เลยอะ
• ฝากกระเป๋าไว้ได้ทั้งก่อนและหลังเข้าพักค่ะ ไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย โดยพนง.จะเอาเชือกมามัดกระเป๋าพวกเราไว้ให้เป็นกองเดียวกันค่ะ แล้วจะให้ใบรับกระเป๋ามาเก็บไว้ 1 ใบ พอมาเอาคืนก็แค่ยื่นใบนี้ไปค่ะ
• พนง.โรงแรมโอเคอยู่นะคะ พูดคุยดี คล่องแคล่วดีค่ะ
• มีมินิมาร์ทอยู่ตรงข้ามด้วยค่ะ
• โลเคชั่นจัดว่าดีอยู่นะคะ ใกล้รฟฟ. ใกล้ห้างช้อปปิ้งย่าน Taipei Main Station ด้วย
• ทางออกรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือ Z10 แต่ไม่มีลิฟท์หรือบันไดเลื่อนนะคะ น่าจะซัก Z2 หรือ Z4 อะค่ะ ไม่แน่ใจนะ จะมีลิฟท์ค่ะ

โดยรวมแล้วโรงแรมนี้ก็โอเคอยู่นะคะ ^^

จริง ๆ โรงแรมนี้เคโกะเจอราคาต่ำกว่านี้ด้วยค่ะ คล้าย ๆ flash sale ไรงี้ แต่กว่าที่จะตกลงกับเพื่อน ๆ ได้ ราคาก็เปลี่ยนไปแล้วค่ะ ><” เพราะงั้นก็เทียบราคากันระหว่างหลาย ๆ เอเจนซี่ดี ๆ ก่อนจองด้วยนะคะ

https://web.facebook.com/thisiskeigo/

Nihao @Taipei Hostel

สวัสดีค่ะ โพสต์นี้มาแนะนำโฮสเทลแห่งนึงในไทเปที่คิดว่าคนไทยน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่เคโกะเองเพิ่งได้มีโอกาสไปพักค่ะ

Hostel name : Nihao @Taipei Hostel
Website : https://www.nihao.com.tw/
Facebook page : https://www.facebook.com/nihaotaipei/
Location : Taipei Main Station
Check-in date : 28 Dec 2017
No. of night(s) : 5
Total price : 4,336.40BHT (after discount)
Booking via : Traveloka
No. of person : 1
Room type : 6-bed female dormitory room

ได้ยินกิตติศัพท์ของที่โฮสเทลนี้มานานแล้วว่าดีงามเรื่อง location มากมาย พอมาใช้บริการดูก็เข้าใจเลยค่ะ คือ location ดีงามจริง ๆ

เริ่มจาก Taipei Main Station หาทางออก M3 ให้เจอค่ะ ซึ่งเป็นทางออกที่มีป้ายบอกทางชัดเจนเลยนะ หาง่ายมาก ๆ ค่ะ พอเดินออกมาปุ๊บ เลี้ยวซ้าย ตรงไปอีกนิดหน่อยเท่านั้นค่ะ ก็จะถึงแล้ว ซึ่งโฮสเทลนี้จะอยู่ตึก Cosmos Commercial Building ซึ่งเป็นตึกที่ติดกับโรงแรม Cosmos ค่ะ (ระวังเข้าผิดทางด้วยนะคะ) แล้วก็ขึ้นลิฟท์ไปชั้น 11 ซึ่งจะมีสตาฟฟ์อยู่ค่ะ แต่เคโกะจองห้องไว้เป็นห้องรวมผู้หญิงล้วนก็จะอยู่คนละชั้นค่ะ

ตอนที่เข้าไปเช็คอินโชคดีว่าไม่มีใครอยู่ในห้องเลย ถ่ายรูปได้ตามสบายมาก ๆ และก็น่าแปลกตรงที่มีเตียงให้เลือกด้วย เพราะเคโกะคิดว่าช่วงปีใหม่ ห้องพักน่าจะเต็มหมดไรงี้อะค่ะ ก็เลยเลือกเตียงล่าง ไม่ต้องปีนบันไดให้เมื่อย 555

เริ่มจากประตูห้องกันก่อน รูปนี้ถ่ายจากด้านในไปหน้าประตูค่ะ ด้านซ้ายก็จะเป็นมุมแต่งตัว ด้านขวาก็จะเป็นห้องน้ำในตัวซึ่งมี 2 ห้อง แบ่ง ๆ กันใช้กันกับคนร่วมห้องทั้ง 6 คน

เริ่มจากมุมแต่งตัวก่อน มีไดร์เป่าผม กระจกแต่งหน้าอะไรพร้อมสรรพค่ะ

แล้วก็มาห้องน้ำบ้าง มี 2 ห้อง ซึ่งอยู่ในตัวห้องนอนเลย เคโกะว่าก็ดีนะ ไม่ต้องไปแบ่งกับชาวบ้านเค้า และที่ดีอีกอย่างก็คือ ห้องน้ำที่นี่ไม่ให้วางของทิ้งไว้ค่ะ เพราะเค้าจะมาทำความสะอาดและเคลียร์ห้องน้ำให้ทุกวัน

ถัดจากมุมแต่งตัวก็จะเป็นล็อคเกอร์ค่ะ ซึ่งทางโฮสเทลจะมีสายรัดข้อมืออันนึงให้พร้อมกับคีย์การ์ดห้อง เอาสายรัดข้อมือนี้เปิดล็อคเกอร์ค่ะ ก็ดูเก๋ ๆ ดี

มาดูสภาพในห้องบ้าง ห้องขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ก็มี space อยู่พอสมควรให้เรารื้อข้าวของเก็บกวาดลงกระเป๋าเดินทางได้สบาย ๆ ค่ะ

มีอยู่วันนึง รูมเมทสองสาวหมวยเค้าจัดกระเป๋าพร้อมกันทั้งคู่ ก็สามารถกางกระเป๋าจัดของได้พอดีค่ะ

ข้อดีอีกอย่างของที่นี่คือ บันไดขึ้นเตียงบน ไม่ได้เป็นแบบให้ปีนป่ายอย่างที่เคโกะเจอในบางที่ ซึ่งที่นี่ดูเดินสบายกว่ามากค่ะ และยังมีพื้นที่วางของด้านข้างเตียงด้วย (สำหรับเตียงชั้นบน) แต่พื้นที่วางของด้านข้างตรงนี้ก็กลายเป็นอุปสรรคให้คนที่นอนเตียงล่างค่ะ เพราะหัวจะโขกประจำ (กว่าเคโกะจะชิน ก็โดนโขกไปจนน่วมค่ะ 555)

มาดูเฉพาะเตียงกันบ้าง เค้าก็ปูผ้าปูที่นอน ใส่ปลอกหมอนให้เสร็จสรรพ เราไม่ต้องทำอะไรเองเลย สบายดีค่ะ

ด้านข้างเตียงที่ติดผนัง ก็จะมีชั้นเล็ก ๆ ให้เราวางของได้นิดหน่อย พร้อมด้วยปลั๊กไฟ และโคมไฟส่วนตัวค่ะ

ส่วนปลายเตียง มีพื้นที่ให้เก็บของซ่อนแอบนิดหน่อย และบนผนังปลายเท้าก็จะมีที่แขวนผ้าไว้นิด ๆ หน่อย ๆ ก็พอแขวนผ้า แขวนเสื้ออะไรได้อยู่บ้างค่ะ

ในส่วนของล็อบบี้นั้น ก็ขึ้นไปนั่งเล่น ทานอาหารได้ค่ะ เคโกะก็ขึ้นไปทุกเช้านะ ไปเติมน้ำดื่มไว้พกออกไปข้างนอกในแต่ละวันค่ะ ^^”

ก็ตามสไตล์โฮสเทลทั่ว ๆ ไปนะคะ มีเครื่องไม้เครื่องมืออะไรให้ทำอาหารหรือใช้ทานข้าวได้แบบง่าย ๆ แต่ก็ใช้เสร็จแล้วก็ล้างคืนด้วยล่ะค่ะ

มีเตาอบเล็ก ๆ พอจะอุ่นขนมปังอะไรงี้ได้อยู่นะ

แอบถ่ายล็อบบี้มาในวันที่มีขนมกินเป็นอาหารเช้าค่ะ

ปิดท้ายด้วยกิมมิคเล็ก ๆ ของทางโฮสเทลที่เค้าประดับตกแต่งให้สถานที่ดูน่ารัก ๆ ค่ะ

 

มาสรุปด้วยความคิดเห็นส่วนตัวกันค่ะ

• ยกให้ location คือเรื่องดีงามค่ะ ใกล้รถไฟฟ้ามาก ๆ อย่างวันที่เคโกะไปเคาน์ดาวน์ก็ไปช้อปปิ้งมา ถุงช้อปปิ้งเยอะมาก ก็สามารถเดินกลับมาวางของไว้ก่อน แล้วค่อยออกไปใหม่ได้โดยที่ไม่เสียเวลาเดินไปเดินมามากนักค่ะ
• อีกเรื่องที่ชอบก็คือ มีห้องน้ำในตัวเลย ไม่ต้องออกไปแชร์กับคนอื่น ๆ ห้องอื่น ๆ ไรงี้ แถมยังมีการทำความสะอาดห้องน้ำให้ทุกวันด้วย รู้สึกสะอาดมากค่ะ
• ทางโฮสเทลมีกล่องพลาสติกใบนึงให้ยืมใช้ระหว่างที่เข้าพัก สำหรับใส่ของเดินเข้าห้องน้ำ จำพวกขวด ๆ ทั้งหลายล่ะค่ะ เคโกะว่ามันสะดวกดีนะ สะดวกกว่าใช้ถุง ๆ แล้วไปแขวน ๆ ในห้องน้ำอะค่ะ
• แต่ละเตียงมีม่านปิดให้ ดูเป็นส่วนตัวดีมาก และม่านค่อนข้างหนาทึบ แสงเล็ดลอดเข้าไปได้น้อยค่ะ
• สตาฟฟ์ที่นี่พูดอังกฤษได้ดีมากค่ะ
• สิ่งที่ไม่โอเคก็คือ สำหรับคนเตียงล่าง หัวจะโขกเอากับพื้นที่ที่ยื่นมาของเตียงบนเสมอเลยค่ะ ตามที่เคโกะได้พูดถึงไปแล้วข้างต้นเลย

โดยรวมแล้ว จัดว่าดีงามมาก ๆ ค่ะ ติดอันดับโฮสเทลในดวงใจได้ไม่ยากเลยค่ะ 

แล้วมาเจอกันในโพสต์ถัดไปนะคะ

Oxygen Hostel Ximending, Taipei

สวัสดีค่ะ โพสต์นี้ขอมาแนะนำโฮสเทลอีกที่นึงในไต้หวัน ซึ่งตอนที่จองเนี่ยก็เล็งที่ใกล้ ๆ ซีเหมิน (Ximen) และก็ไม่ไกลจาก Taipei Main Station จนเกินไป คือกะเดินไปได้ทั้ง 2 สถานีเลยว่างั้น (แอบโลภมาก 555) แล้วก็มาเจอที่นี่ค่ะ

Hostel Name : Oxygen Hostel
Facebook : https://www.facebook.com/oxygenhostel/
Location : Taipei, nearest MRT station is NTU Hospital exit 4
Check-in Date : 31 Mar – 4 Apr 2017, 4 nights
Number of person(s) : 1
Room Type : Female dorm 8-bed (มั้งคะ ไม่แน่ใจว่า 6 หรือ 8 อะค่ะ ^^”)
Price : deposite 10% (10.45USD) + cash on arrival (1700NTD)
Booking via : hostelworld.com

หลังจากที่ได้พักที่โฮสเทลนี้แล้ว ก็มีความรู้สึกว่าที่นี่โลเคชั่นโอเคมากกกกก เพราะสามารถเดินไปรถไฟฟ้าได้ถึง 3 สถานีเลยคือ NTU Hospital (สถานีนี้ใกล้สุดค่ะ โฮสเทลเองก็แนะนำให้มาลงสถานีนี้แล้วค่อยเดินมาต่ออีกหน่อย), Ximen (น่าจะ exit 6 แล้วเดินยาว ๆ มาอะค่ะ เลี้ยวซ้ายทีนึงก็เจอเลย) และ สถานี Taipei Main Station (เดินทะลุสวน 228 เอา แล้วไปโผล่ด้านหลังของห้าง Shinkong Mitsukoshi ค่ะ)

คือด้วยความที่สามารถเดินไปได้ถึง 3 สถานี เคโกะเลยมองว่ามันดีงามกับแผนการเดินทางของเคโกะมาก ๆ ค่ะ รวม ๆ กันก็รถไฟฟ้า 3 สายแล้วอะ (น้ำเงิน, เขียว และแดง) ซึ่งทำให้ไปเที่ยวได้สบาย ไม่ต้องเปลี่ยนขบวนบ่อย ๆ อะค่ะ เคโกะว่างั้นนะ

อวยซะเยอะเลย แหะๆ มาดูกันค่ะ

เริ่มต้นที่ด้านหน้าของโฮสเทล จะเห็นมุมเล็ก ๆ เป็นโลโก้ของร้านสตาร์บั๊คนะคะ เพราะที่นี่ติดกับสตาร์บั๊คเลย แล้วสตาร์บั๊คเองก็อยู่ตรงหัวมุมพอดี คิดว่าค่อนข้างจะทำให้แลนด์มาร์คที่โอเคอยู่ค่ะ ไรงี้เนาะ

ตอนที่เคโกะไปถึง แอบตกใจเหมือนกันว่าชั้นมาผิดที่หรือเปล่าเนี่ย 555 เพราะเปิดประตูเข้าไปก็เจอกับบาร์เหล้าเลยค่ะ คือ ชั้นล่างเนี่ยเค้าเปิดเป็นบาร์อะค่ะ ชั้นบน ๆ ถึงจะเป็นที่พัก และชั้น 5 เป็นห้องนั่งเล่น ห้องกินข้าว ห้องซักผ้า ไรงี้อะค่ะ

พอเช็คอิน เค้าจะให้คูปองมา 2 ใบ ซึ่งน่าจะเป็นโปรโมชั่นของช่วงที่ไปพักอะนะ ใบแรกจะเป็นเบียร์ฟรี 1 แก้วค่ะ จะรับตอนไหนก็ได้ในระหว่างที่ยังพักอยู่ เคโกะไปรับมาชิมเอาคืนสุดท้าย ก่อนวันเช็คเอาท์ค่ะ

รู้สึกจะเป็น craft beer นะ สมคำร่ำลือค่ะว่าเบียร์ไต้หวันนั้นอร่อยมาก ก็อร่อยจริง ๆ รสชาติเบา ไม่ขม กินง่าย ลื่นคอดีค่ะ ขนาดไม่ชอบกินเบียร์ ยังรู้สึกเลยว่าอร่อยอะ

ส่วนคูปองอีกใบ เป็นส่วนลดค่ะ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะ 50 NTD นะ ไม่แน่ใจค่ะ สามารถนำไปเป็นส่วนลดเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เท่าที่ถามก็คือ เบียร์และคอกเทลค่ะ ก็เลยจัดคอกเทลมาแก้วนึง ให้บาร์เทนเดอร์แนะนำให้ พอบอกว่าเอาแบบไม่หวาน ๆ ก็จัด Margarita มาให้ค่ะ ^^”

Margarita รสชาติกลมกล่อม เปรี้ยวนำอย่างที่อยากได้ รสของแอลกอฮอล์เบา ๆ ดีค่ะ อร่อยเลย

เอาล่ะ กลับมาที่เรื่องที่พักกันต่อเนอะ ^^”

หลังจากเช็คอินแล้ว เค้าจะให้คีย์การ์ดมา 1 ใบ ซึ่งเคโกะชอบมากเลยนะ คือ มันใช้เปิดประตูทุกสิ่งเลยค่ะ ไล่ไปตั้งแต่ใช้ลิฟท์ไปห้องพักที่อยู่ชั้น 3, เข้าห้องนอนรวม และไปถึงเปิด-ปิดล็อคเกอร์ในห้องด้วย คือ มันดูโมเดิร์นดีอ่ะ แถมมีสายคล้องคอให้ด้วย แม้จะดูออกแนวบัตรพนง.ออฟฟิศ แต่เคโกะว่าแบบนี้แหละดูเหมาะสม ทันสมัย สะดวก และพกพาง่ายดีค่ะ

ด้านหลังจะมีวิธีใช้คีย์การ์ด .. ซึ่งก็ไม่ได้อ่านค่ะ 555 และมีเบอร์ห้อง+เตียงติดอยู่เล็ก ๆ ด้วย

เอาล่ะ เข้าลิฟท์กันเลยค่ะ ก็เอาคีย์การ์ดไปแตะทีนึง เพื่อให้กดเบอร์ชั้นได้ค่ะ

ในส่วนของในห้องนั้น เคโกะไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาเลย เพราะมีคนอยู่ในห้องตลอด เกรงใจเค้าอะค่ะ แหะๆ ก็เป็นเตียง 2 ชั้นแบบโฮสเทลทั่วไป มีล็อคเกอร์อยู่มุมห้องติดกับประตูเข้าห้องค่ะ ซึ่งก็ใช้คีย์การ์ดเปิดและปิดล็อคเกอร์อย่างที่บอกไปแล้ว

ที่ชอบอีกอย่างก็คือเตียงนอน เป็นช่อง ๆ แบบโรงแรมแคปซูลที่เคยเห็นรูปที่ญี่ปุ่นเลย เคโกะว่ามันทำให้เป็นส่วนตัว และเงียบสงบดีนะ แต่อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนกลัวที่แคบค่ะ และปลายเท้าจะมีผ้าม่านปิดให้ด้วย ดูเป็นส่วนตัวสุด ๆ เลยค่ะ

ภายในส่วนที่นอนของเรา จะมีสวิตซ์ไฟ ปลั๊กไฟแบบ universal ค่ะ และมีไม้แขวนเสื้อพร้อมทั้งที่แขวน 2 อันให้ด้วย ชอบมาก เพราะเคโกะไม่เคยพกไปเลย 5555

ไปดูห้องน้ำกันค่ะ ห้องน้ำมีอยู่ประมาณ 2 ห้อง ห้องส้วมประมาณ 3 ห้อง และห้องน้ำ+ห้องแต่งตัว 1 ห้อง ซึ่งเป็นห้องใหญ่ ๆ เลยค่ะ ต่างจากห้องน้ำอีก 2 ห้องที่เหลือ ที่จะแคบ ๆ กว่า

ห้องอาบน้ำ+ห้องแต่งตัวค่ะ ชั้นวางของเยอะเลยเชียว

บริเวณด้านหน้าห้องน้ำ จะเป็นอ่างล้างหน้าอยู่ 2 อ่างค่ะ ติด ๆ กันจะเป็นห้องแต่งตัว ซึ่งเคโกะว่าน่าจะถูกใจสาว ๆ นะ

โต๊ะแต่งหน้า ที่ตอนเช้ากับตอนค่ำมักจะไม่ค่อยว่างเอาซะเลย

นอกจากนี้ด้านหน้าห้องแต่งตัว ยังมีชั้นวางของซึ่งมีของใช้ต่าง ๆ ที่หยิบไปใช้ได้ฟรีเลย ส่วนตะกร้าใบใหญ่ที่วาง ๆ อยู่บนชั้นนั้น ก็สามารถหยิบไปใส่ข้าวของที่ใช้ในห้องอาบน้ำได้ค่ะ ใช้เสร็จก็มาวางคืนที่เดิม ไรงี้ ซึ่งในห้องอาบน้ำจะมีชั้นวางของให้ด้วยอะค่ะ ดีงามมาก ดูใส่ใจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ดีค่ะ

เคโกะว่าถ้าไม่ใช้ตะกร้า ก็ได้อยู่นะ แต่วางสุม ๆ อยู่บนชั้นวางของในห้องอาบน้ำ (มีแค่ชั้นเดียวค่ะ สำหรับห้องเล็ก) ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอ รวมไปถึงน้ำอาจจะกระเซ็นมาเปียกข้าวของ หรือเสื้อผ้าที่เราวางสุม ๆ ไว้ก็ได้ค่ะ จับใส่ตะกร้าให้หมดงี้ ไม่เปียกแน่นอน ^^

มีแม้กระทั่งผ้าอนามัยอ่ะ ^^”

จากนั้นก็ขึ้นไปดูในส่วนของห้องนั่งเล่น + ที่กินข้าวเช้า ที่บริเวณชั้น 5 กันค่ะ ซึ่งลิฟท์ไปได้แค่ชั้น 4 แล้วก็เดินขึ้นบันไดไปอีก 1 ชั้นค่ะ

เข้าไปก็จะเป็นห้องโล่ง ๆ มีโต๊ะ+ที่นั่งกับพื้น ดูสบาย ๆ เหมือนอยู่บ้านอยู่นะ

ด้านในทางขวามือก็จะเป็นมุมอาหารเช้าค่ะ ก็มีแค่ชากาแฟ และขนมปังปิ้งค่ะ .. บางทีก็สงสัยนะ เค้ากินกันแค่นี้จริง ๆ เหรอ อิ่มเหรอนั่น T.T

ส่วนภาชนะต่าง ๆ เช่น จาน, แก้ว, ช้อนส้อม ไรงี้ ใช้เสร็จแล้วก็ล้างคืนให้เค้าด้วย ตามมารยาทโฮสเทลทั่วไปค่ะ ซึ่งที่นี่จะมีอ่างล้างจานให้อยู่ด้านนอกค่ะ

มีทีวีให้ดู มีตู้เย็นให้ฝากแช่ของ ซึ่งก็เช่นเคย เขียนชื่อแปะไว้แสดงความเป็นเจ้าของค่ะ

 

บทสรุปกับ Oxygen Hostel แห่งนี้ค่ะ

• location ดีงามมาก อย่างที่บอกไปแล้ว ว่าใกล้รถไฟฟ้าถึง 3 สถานีเลย แต่ก็นั่นแหละ มันไม่ได้ใกล้แบบออกจากสถานีรถไฟฟ้าแล้วเจอเลยอะค่ะ ก็ต้องเดินอีกหน่อยเนอะ ก็อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบเดินนักค่ะ
• มีไวไฟให้ใช้ ซึ่งก็ไม่ได้เร็วมากมายอะไร และเคโกะเองก็ใช้เน็ตจากมือถือตัวเองเป็นหลักค่ะ (ก็มันเร็วกว่านี่นาาาาา ><” )
• มีอาหารเช้าให้ด้วย แต่ก็อาจจะไม่พอสำหรับคนเน้นกินอาหารเช้าแบบเคโกะค่ะ 55
• สตาฟฟ์พูดอังกฤษได้ดีค่ะ และอธิบายกติกาการเข้าพักให้ฟังได้ชัดเจนดี
• สามารถฝากกระเป๋าไว้ได้ เคโกะเอากระเป๋ามาฝากหลังเช็คเอาท์ค่ะ พนง.จะติดแท็กไว้ที่กระเป๋าให้แล้วเอาส่วนเบอร์แท็กที่ตรงกันมาให้เราเก็บไว้ เวลามารับคืนก็แค่ยื่นแท็กกระเป๋าไปค่ะ
• ที่นอนเป็นสัดส่วนดี มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก แถมไม่ต้องปูที่นอนเอง ใส่ปลอกหมอนเอง หรือแม้แต่เก็บผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนใส่ตะกร้าผ้าอย่างโฮสเทลที่อื่น ๆ ด้วยค่ะ (แอบขี้เกียจอะนะ 55)
• มีห้องแต่งตัวให้สาว ๆ ด้วย สะดวกดีค่ะ
• มีของใช้ฟรีเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างจำพวกสำลีเช็ดหน้า กระดาษเช็ดหน้า (อธิบายไม่ถูกอีก – -” ) มีแม้กระทั่งแผ่นอนามัย และผ้าอนามัยไว้ให้ใช้ด้วยค่ะ รวมไปถึงพวกตะกร้าที่เอาไว้ใส่ของถือเข้าห้องน้ำไรงี้อีก ดูใส่ใจรายละเอียดดีค่ะ
• เคโกะชอบคีย์การ์ดค่ะ มันรวมเอาทุกสิ่งจบที่คีย์การ์ดใบเดียวเลย ไม่ต้องพกกุญแจ ไม่ต้องจำรหัสล็อกเกอร์ให้รกสมอง ทันสมัยและสะดวกมาก ๆ ค่ะ

 

ก็ถือว่าเป็นโฮสเทลอีกที่นึงที่ชอบมากกกกกกค่ะ คราวหน้าถ้าเคโกะไม่ขี้เกียจหาที่ใหม่นะ ก็คงจบที่นี่แหละค่ะ ^^

เดี๋ยวอีกซักวันสองวันนะ เคโกะจะไปรวบรวมให้ที่เพจค่ะว่ามีรีวิวที่พัก ที่เที่ยวที่ไหน อะไรยังไงบ้าง ติดตามกันด้วยนะคะ ^^”