[Hua-Hin] 3 temples

สวัสดีค่าาาาา~ ช่วงนี้เหมือนมีเรื่องให้ไปหัวหินบ่อย ๆ ล่าสุดก็เลยย้ายบ้านไปอยู่หัวหิน (ชั่วคราว) ซะเลยค่ะ 5555 เลยได้แวะไป 3 วัดในหัวหินมาฝากกันนะคะ

จะว่าไป ทั้ง 3 วัดนี้คือวัดดังในหัวหินแหละค่ะ แต่บางวัดเคโกะก็เพิ่งได้เคยไปค่ะ

1. วัดห้วยมงคล

Spot name : Wat Huay Mongkol / วัดห้วยมงคล
Location : อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
Google maps : https://goo.gl/maps/Fh49uYwX3V5xuXLX6
Entrance fee
: free
Opening hours : 6AM-9PM
Visited date : 25 Oct 2021
Facebook : https://web.facebook.com/huaymongkoltemplehuahin

สำหรับวัดนี้ เคโกะไปมาหลายครั้งมาก ๆ ค่ะ แทบจะเกือบทุกครั้งที่ไปหัวหิน/ปราณบุรีด้วยซ้ำ

ด้านหลังหลวงปู่พระประธานองค์ใหญ่ที่โดดเด่นเป็นสง่านั้นก็จะมีบ่อน้ำขนาดใหญ่เลี้ยงปลาอยู่ด้วยนะคะ เดิน ๆ ไปนิดนึงเนอะไรงี้

อีกฟากฝั่งหนึ่งมีหลวงพ่อโสธรด้วยค่ะ เข้าใจว่าเพิ่งจะสร้างเสร็จอะนะคะ เพราะคราวก่อนมา ยังไม่สมบูรณ์ดีเท่าไหร่อยู่เลย

เคโกะไม่ได้เดินเข้าไปชมหรือกราบไหว้ใกล้ ๆ นะคะ น่าจะค่อนข้างไกลหรือไม่ก็อาจจะต้องเอารถไปค่ะ –ก็แอบขี้เกียจแหละ ฮาาาาา

นอกจากนี้ ภายในตัววัดก็ยังมีอะไรอื่น ๆ อีกด้วยค่ะ มีขอพรไอ้ไข่ด้วย ซึ่งอยู่อีกทางนึง มีคาเฟ่ มีสแน็ค/ของฝากขายด้วยค่ะ

ไปต่อกันที่วัดที่ 2 เลยค่ะ

2. วัดเขาตะเกียบ

Spot name : Wat Khao Takiap / วัดเขาตะเกียบ
Location : อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
Google maps : https://goo.gl/maps/TnEuKjf3aWwLyhUH6
Entrance fee
: free
Opening hours : 9AM-5.30PM
Visited date : 9, 30 Oct 2021

สำหรับวัดเขาตะเกียบเคโกะไปมา 2 วันด้วยความโก๊ะกังและความหาข้อมูลไว้น้อยอะนะคะ แต่จะพยายามรวบรวมให้เป็นเนื้อหาส่วนต่อเนื่องกันเนอะ

วัดเขาตะเกียบมีจุดเด่นที่พระพุทธรูปปางห้ามสมุทรที่เป็นองค์ใหญ่เด่นตั้งอยู่เขาตะเกียบ หันหน้าออกทะเลค่ะ ซึ่งส่วนตัวเคโกะจะขับรถไปจอดในซอยข้าง ๆ Verso Hua-hin เลยค่ะ จะเป็นตรอกซอยที่เดินลงหาดเขาตะเกียบได้ รวมทั้งจอดไว้เพื่อไปคาเฟ่ยอดฮิตอย่าง Skoop Beach Cafe Hua-hin ด้วยล่ะค่ะ

รูปด้านบนนี้คือในซอยข้าง Verso ที่บอกอะนะคะ ถ่ายจากบริเวณหาดออกมาที่ถนนใหญ่ปากทางนะคะ

จากนั้นก็เดินลงไปที่หาดเลยค่ะ จะเห็นเขาตะเกียบอยู่ทางขวามือพร้อมทางขึ้นเขาเลยค่ะ

ด้านหน้าก็คือหาดเขาตะเกียบ มีจุดบริการม้าตรงนี้ด้วยค่ะ จากที่ไปเดินหาดหัวหินมาแล้วก็เข้าใจว่าเป็นคล้าย ๆ terminal point ของม้าหาดหัวหินค่ะ เหมือนเป็นเส้นทางหัวหิน-เขาตะเกียบสำหรับนั่งม้าไรงี้ค่ะ

มีเรือประมงจอดอยู่ตรงนี้ไม่กี่ลำ ไม่แน่ใจว่าเป็นเรืออะไรนะคะ ส่วนตัวใช้เป็นพร็อพค่า 5555

มองไปทางหน้าผาเขาตะเกียบ เห็นอาคารเล็ก ๆ ที่หันหน้าออกทะเลอยู่ก็คิดว่าน่าจะเป็นศาลเสด็จเตี่ย หรือ กรมหลวงชุมพรฯค่ะ เดี๋ยวมีเข้าไปดูใกล้ ๆ นะคะ

จากนั้นก็เดินขึ้นบันไดไปเลยค่ะ ซึ่งช่วงต้น ๆ ทางเนี่ยจะเป็นร้านอาหารอยู่ ก็ไม่เป็นไรค่ะ เดินขึ้นบันไดผ่านไปได้จนสุดทางเลยค่ะ ก็จะเจอกับพระพุทธรูปปางห้ามสมุทรแล้ว

ทางด้านซ้ายมือก่อนถึงพระพุทธรูปนิดหน่อย ก็จะมีทางแยกไปที่ศาลเสด็จเตี่ยค่ะ

เคโกะแวะกราบไหว้พระก่อน แล้วจึงเดินเลยต่อเข้าไปด้านในนะคะ เจอกับบันไดสูงชันอันนี้อยู่ ในใจก็แอบคิดว่าขึ้นไปแล้วจะไปโผล่ที่วัดด้านบนเขาตะเกียบมั้ยนะ

เคโกะเดินไปได้ 5-6 ก้าว ก็ต้องถอยค่ะ คือบันไดชันแบบไม่น่าเดินเลยค่ะ ชันแบบหงายหลังไรงี้ค่ะ เดินแล้วไม่สบายใจเท่าไหร่ ก็เลยขอผ่านนะคะ –ใครทราบข้อมูลมาแชร์กันได้นะคะ ^^

ซึ่งส่วนที่อยู่ด้านบนเขาตะเกียบนั้น เคโกะใช้การขับรถไปตามทาง จะผ่านร้านขายอาหารทะเลเยอะ ๆ อะค่ะ ผ่านร้านลาแมร์แล้วก็จะถึงด้านบนวัดเขาตะเกียบค่ะ ซึ่งระหว่างทางก็ค่อนข้างชันอยู่พอสมควรเลยค่ะ

สำหรับบริเวณวัดด้านบนนี้จะมีลิงอยู่ค่อนข้างเยอะ ซึ่งควรต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ

เห็นบันไดสูงชันเพื่อขึ้นไปโบสถ์ด้านบนแล้วก็แอบท้อนิดนึง เลยแวะไหว้พระใกล้ ๆ ด้านล่างก่อนค่ะ

แล้วก็ขึ้นบันไดกันค่ะ วันที่ไปคนค่อนข้างน้อยอยู่ เดินชิลล์ ๆ ได้ และเป็นวันที่ฟ้าครื้ม ๆ ค่ะ ไม่ร้อนก็เลยพอไหวอยู่

พอขึ้นไปด้านบนแล้ว มองวิวโดยรอบก็หายเหนื่อยเลยค่ะ วิวโอเคเลยนะ

แล้วก็มองลงมาด้านล่าง บริเวณที่จอดรถค่ะ ก็จะพอมองเห็นอยู่เนอะว่าบันไดขึ้นมาค่อนข้างสูงพอสมควรค่ะ เดินขึ้นแบบใส่ mask ก็พอเหนื่อย ๆ แต่หายใจได้ทันอยู่ค่ะ

หันมาดูโบสถ์ด้านบนบ้าง

เป็นที่น่าเสียดายว่าเคโกะไม่ได้เข้าด้านในนะคะ เพราะวันนั้นแต่งตัวไปไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ เลยขอเดินอยู่รอบ ๆ ดีกว่าค่ะ –จะว่าไปก็ไม่ควรอยู่ดี – -“

วกกลับลงไปที่ศาลเสด็จเตี่ยหรือศาลกรมหลวงชุมพรฯด้านล่างค่ะ

หลังจากที่เคโกะไหว้พระเดินชมด้านในเสร็จแล้วก็ลงไปที่ศาลเสด็จเตี่ยค่ะ

เคโกะเดินอ้อมไปตรงหน้า ซึ่งจริง ๆ แล้วมีป้ายบอกอยู่ว่าเปิดแล้วปิดด้วย ก็เข้าใจว่าสามารถเปิดเพื่อเข้าไปกราบไหว้ได้ แต่เคโกะก็เลือกที่จะไม่เข้าไปอะนะคะ

ขอยืนชื่นชมวิวทะเลตรงหน้าแบบ 180 องศาแทน

ปิดท้ายที่วัดแห่งสุดท้ายค่ะ

3. วัดถ้ำเขาเต่า

Spot name : Wat Tham Khao Tao / วัดถ้ำเขาเต่า
Location : อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
Google maps : https://goo.gl/maps/en8Ky1VhGiU9ovMW8
Entrance fee : free
Opening hours : N/A
Visited date : 30 Oct 2021

เป็นความงงของกูเกิ้ลแม็พมากค่ะในการมาวัดถ้ำเขาเต่านี้ คือวนยังไงก็วนหาทางเข้าวัดไม่เจออะ เคโกะขอแปะกูเกิ้ลแม็พที่ในแม็พจะเป็นศาลเจ้าพ่อเขาเต่าแทนนะคะ หมุดจะอยู่ใกล้ ๆ ขนมถ้วยป้าแว๊ด ซึ่งเคโกะว่าน่าจะตรงกว่าค่ะ

เคโกะเริ่มต้นความงงงวยที่อ่างเก็บน้ำเขาเต่า ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ มีจุดเด่นอยู่ที่พลับพลากลางอ่างเก็บน้ำค่ะ

รอบ ๆ เป็นทางสวยเลย เห็นมีคนรีวิวในแม็พว่าวิ่งออกกำลังกายยามเย็น/เช้าได้ ก็น่าสนใจอยู่นะ 555

ซึ่งจริง ๆ แล้วใกล้ ๆ จุดตรงนี้ที่เคโกะถ่าย ก็จะมีรถจอดข้างทางเป็นแถวยาวอยู่แล้ว ถ้าขยันเดิน ก็เดินตรงเข้าไปอีกหน่อยค่ะ ก็จะเป็นศาลเจ้าพ่อเขาเต่า ฯลฯ รวมถึงทางเข้าวัดถ้ำเขาเต่าแล้ว

เคโกะแวะไหว้พระตรงนี้อีกนิดหน่อย ก่อนที่จะเดินเข้าไป ก็เลยเห็นว่าด้านในมีลานจอดรถของวัดด้วย แต่ค่อนข้างแคบและมีที่จำกัดค่ะ ส่วนตัวคิดว่าจอดด้านนอก ริมทางบริเวณอ่างเก็บน้ำคือโอเคแล้วค่ะ แค่เดินไกลนิดนึง

เดินไปตามทางเรื่อย ๆ ก็จะเริ่มเจอเรือประมง คล้าย ๆ ปากแม่น้ำไรงี้ค่ะ

แล้วก็มาถึงปากทางวัดถ้ำเขาเต่าแล้วค่ะ

ลักษณะของวัดก็จะมีลักษณะเป็นถ้ำสองคูหาไรงี้ค่ะ และมีทางคดเคี้ยวขึ้นไปด้านบนอีกด้วย

ถ้ำคูหาแรกไม่ค่อยมีอะไรค่ะ เดินไปเรื่อย ๆ ตามทางก็จะเจอกับคูหาที่สอง ซึ่งจะมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ ความเป็นถ้ำ ๆ ก็ทำให้ดูว้าวได้พอสมควรเลยค่ะ บวกกับวิวภายนอกอีกงี้ โหหหหห คือความชิลล์มากกกก

เดินทะลุผ่านเข้าไปด้านในอีก เป็นทางเดินเลียบทะเลแบบนี้เลยค่ะ

มีคุณเต่าให้สมกับชื่อเขาเต่าอะเนอะ

นอกจากนี้ก็จะมีทางแยกบันไดขึ้นไปทางต่าง ๆ มีป้ายบอกที่ชวนงงงวยอีกแล้วค่ะ เคโกะก็อาศัยเดินมั่ว ๆ เอา ก็จะเจอกับพระต่าง ๆ ประมาณนี้ค่ะ

แล้วก็ถ่ายลงมาด้านล่างบ้างค่ะ วิวมุมสูงก็สวยดีอยู่น้าาา

จากนั้นเคโกะก็เดินย้อนกลับไปด้านหน้าวัดค่ะ ที่มีทางแยกพระสังกัจจายน์อยู่ ไหว้พระสังกัจจายน์แล้ว เดินต่อไปอีกนิดจะมีมุมดูดวงอยู่ (เหมือนเคยอ่านเจอจากไหนซักแห่งนึงว่าดูดวงแม่นมาก –ไม่ได้ดูนะคะ ขอผ่านก่อนค่ะ แหะ ๆ ใครมาดูแล้วเป็นไงบ้าง แชร์ให้อ่านกันได้นะคะ ^^)

แล้วก็ได้ยินเสียงพระเชิญชวนขึ้นไปไหว้พระด้านบนอีกชั้นนึง ก็เลยเดินขึ้นไปค่ะ ได้พูดคุยกับหลวงปู่อยู่พักนึง –ปกติเคโกะไม่ค่อยคุยกับพระนะคะ เพราะความห่างวัดล้วน ๆ เลยทำให้รู้สึกวางตัวไม่ถูกในการพูดคุยกับพระค่ะ

หลวงปู่แนะนำว่าให้ขึ้นไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมด้านบน และมีพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ ที่จัดแสดงของใช้โบราณแนวจีน ๆ ด้วย (แต่ขึ้นไปแล้วไม่เจอ น่าจะปิดแล้วค่ะ) รวมทั้งเคโกะถามหลวงปู่ด้วยว่าขึ้นไปชมพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ด้านบนเขาเต่าได้ยังไง หลวงปู่บอกว่า ก็ทางที่เคโกะผ่านไปแล้วนั่นแหละ –น่าจะเป็นทางบันไดงงงวยด้านในที่เคโกะมองแล้วงุนงงขั้นสุดค่ะ ฮาาาาาา

(ที่เรียกหลวงปู่ เพราะหลวงปู่บอกว่าตัวเองอายุ 72 ปีแล้วนะคะ –ตอนแรกเคโกะเรียกหลวงพี่ ปีนเกลียวเฉยยยย 5555)

แล้วก็จบเรื่องเล่าไหว้พระ 3 วัดดังในหัวหินลงแบบดื้อ ๆ ตรงนี้เลยค่ะ ซึ่งเคโกะมีทำคลิปในยูทูปด้วยนะคะ มีแถมร้านบ้านถั่วเย็นให้ด้วยน้าาาาา

แล้วเจอกันในโพสต์ถัดไปค่ะ ^^
https://web.facebook.com/thisiskeigo

[Pranburi] Temples + Restaurants

สวัสดีค่าาา ทริปปราณบุรีที่ไปช่วงวันหยุดปีใหม่ ก็เน้นกินกับไหว้พระเนอะ คือก็มีเวลาแค่นั้นอะ แถมก็ไปมาซะทั่วแล้วด้วย ฮาาาาา

ที่แรกก็เป็นวัดที่ใครไปหัวหินหรือปราณบุรีก็มักจะแวะกัน เป็นที่รู้จักกันดีค่ะ

Spot name : Wat Huay Mongkol / วัดห้วยมงคล
Location : อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
Google maps : https://goo.gl/maps/jVSdSL2xodfbRueHA
Entrance fee : Free
Opening hours : 6AM – 9PM
Visited date : 1 Jan 2021

ก็ไม่ต้องพูดอะไรเยอะกับวัดนี้เนอะ ส่วนตัวเคโกะเองก็ไปหลายรอบมากเลยค่ะ แหะ ๆ จุดเด่นก็อยู่ที่หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ค่ะ

ความที่มาบ่อย เลยเดินเสาะหามุมแปลก ๆ ที่น่าจะยังไม่เคยเดินบ้าง เดินไปมาก็เจอบึงใหญ่ที่ให้อาหารปลาได้ นั่งเล่นชิลล์ ๆ เพลิน ๆ ได้ด้วยค่ะ

ไปส่องในกูเกิ้ลแม็พมา หมุดปักว่าวังมัจฉาค่ะ

มองไปฝั่งตรงข้ามดูจะมีวัดอีกวัดนึงรึเปล่าน้าาา และส่องในกูเกิ้ลแม็พมา (อีกละ) ก็เห็นว่าเป็นหลวงพ่อโสธรสีทององค์ใหญ่อะนะคะ น่าจะยังสร้างไม่แล้วเสร็จนะ

จริง ๆ เคโกะมีนัดน้องไว้ แต่ดูเวลาแล้วน่าจะยังพอมีเวลาอยู่ ก็เลยไปนั่งแช่ในร้านคาเฟ่แถว ๆ ถนนคนเดินปราณค่ะ ไปกลางวัน คนไม่เยอะมาก แต่ร้านนี้คนแอบแน่นอยู่ค่ะ

Restaurant name : C_C Coffee & Bistro
Google maps : https://goo.gl/maps/YjxQ9W8byFfzLBbd9
Parking lots : Yes
Location : อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
Opening hours : 8AM – 8PM
Visited date : 1 Jan 2021
Website : https://web.facebook.com/CCcoffeeBistro/

เมนูที่สั่งก็คือชาเย็นโกโก้หวานน้อยค่ะ

ก็เป็นการผสมผสานกันระหว่างชาเย็นและโกโก้ดี จำไม่ได้แล้วว่ารสชาติเป็นไง ฮาาาา แต่ถ้าจำไม่ได้ก็แปลว่าก็ไม่ได้แย่ค่ะ แหะ ๆ

แล้วก็เลยถ่ายบรรยากาศร้านมานิดหน่อย เท่าที่พอจะถ่ายได้ เพราะคนเยอะพอสมควรเลยค่ะ

ก็เป็นร้านที่มีการตกแต่งอะไรเยอะทีเดียวค่ะ นั่งจิบกาแฟเพลิน ๆ ชิลล์ ๆ เม้าท์มอยกับเพื่อนได้ ถ่ายรูปกันได้ ถ้าจำไม่ผิด ร้านมีหลายโซนให้นั่งอยู่ค่ะ ทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์เลย และมีที่เป็นลักษณะบ้าน 2 ชั้นเก๋ ๆ บันไดเวียนด้วยไรงี้ มีเมนูอาหารด้วยนะคะ แต่เคโกะไม่ได้ชิมนะ เพราะเดี๋ยวหิ้วท้องไปทานกับน้องค่ะ

ร้านนี้ใกล้ ๆ สะพานดำ ที่เคโกะแอบเห็นมีคนปักหมุดถ่ายรูปด้วยล่ะ แต่ไม่ได้แวะไปนะคะ เพราะน้องบอกว่าออกมาร้านกินข้าวกันแล้ว เลยรีบบึ่งไปค่ะ

ส่วนร้านที่กินข้าวกันนั้น เคโกะลืม ลากหาในแผนที่ก็ไม่เจอ แง้ววว~ //เนี่ยยย ทำไมไม่จดดดด 5555

ข้ามไปที่คาเฟ่เลยละกันค่ะ ทานข้าวเสร็จแล้วก็เลยชวนกันมานั่งอืดที่คาเฟ่ต่อ

Restaurant name : Blue Butterfly
Google maps : https://goo.gl/maps/vbdcRmvdwUpLh79c8
Parking lots : Yes
Location : อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
Opening hours : 7AM – 6PM
Visited date : 1 Jan 2021
Website : https://web.facebook.com/Blue-Butterfly-1752383308323207

ร้านนี้อยู่ในแพลนเคโกะอยู่แล้วด้วยค่ะ บังเอิญที่น้อง ๆ ก็ชวนมาพอดี

เคโกะสั่งชามะนาวหวานน้อยและฟรุตเค้กค่ะ

ฟรุตเค้กเค้ามาชิ้นเล็กนะคะ ทานคนเดียวหมดแหละ หน้าแน่นมาก เนื้อเค้กจะไม่เหมือนบัตเตอร์เค้กหรือฟรุตเค้กทั่วไปนะคะ เนื้อจะเบา ๆ ค่อนไปทางชิฟฟอนหรือสปองค์เค้กมากกว่า เนื้อจะร่วนนิดนึงเนาะ โดยรวมถือว่าใช้ได้ค่ะ

ตอนที่ไปคนเยอะเหมือนกัน แต่นั่งไปนั่งมา ร้านก็เริ่มโล่ง เลยขยับย้ายเปลี่ยนที่นั่งกัน แล้วก็เลยได้เก็บบรรยากาศรอบ ๆ ร้านมาฝากกันค่ะ

ร้านมีทั้งโซนอินดอร์และเอาท์ดอร์นะคะ อินดอร์ก็จะมีโต๊ะนั่งน้อยหน่อยน้าาา

ชอบการตกแต่งร้านดีค่ะ มีของน่ารักประดับตกแต่งร้านเยอะเลย ไม่เว้นแม้แต่บันไดเข้าตัวร้านเลยค่ะ

ภายในร้านค่ะ

ด้านนอกมีเปลนั่งชิลล์ ๆ ด้วย

แบบนั่งกับพื้น ล้อมวงกันเป็นกรุ๊ปก็ชิลล์ดีค่ะ

นั่งชิลล์ ๆ พูดคุยอะไรกันอยู่จนร้านเกือบปิดเชียวค่ะ กว่าจะแยกย้ายกัน

แปะรูปริมชายหาดเขากะโหลกไว้นิดนึง ถ่ายตอนเช้าของอีกวันก่อนที่จะเช็คเอาท์และกลับกทม.ค่ะ

ความที่เช็คเอาท์ออกมาแต่เช้า เลยไม่มีที่จะไป ฮาาาาาา

ไปแกร่วแถว ๆ ปากน้ำปราณแล้วก็ร้อนอีก สุดท้ายเลยมานั่งร้าน Above Sea Level Cafe ค่ะ เมนูก็เป็นชามะนาวหวานน้อยตามเคย

เหตุที่ต้องมานั่งแช่คาเฟ่ก่อน ก็เพราะว่าเคโกะหมายมั่นปั้นมือว่าจะไปทานอาหารที่ร้านประจำ ซึ่งตั้งอยู่ที่เดียวกับคาเฟ่นี้แหละค่ะ และเคโกะไปเช้าเกิน ร้านยังไม่เปิดอะนะคะ แหะๆ

Restaurant name : Udom Potchana / อุดมโภชนา / UDOMPOCHANA Seafood
Google maps : https://goo.gl/maps/VbKHQRPMSaWSDuBcA
Parking lots : Yes
Location : อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
Opening hours : 10AM – 10PM
Visited date : 2 Jan 2021
Website : https://web.facebook.com/udomseafood

เป็นร้านโปรดในดวงใจสำหรับแถวปากน้ำปราณนี้เลยล่ะค่ะ ถ้ามีโอกาสคือก็ต้องมานั่งทานอาหารที่ร้านนี้อะ ชอบมากกก ถูกจริตสุดค่ะ ทานตั้งแต่ร้านยังอยู่ที่เดิมจนย้ายมาที่ใหม่ กว้างขวางไฉไล รสชาติอาหารก็ยังเหมือนเดิม เป็นร้านโปรดเหมือนเดิมค่ะ

ความไดเอ็ทของเคโกะ เลยสั่งไปแค่ยำวุ้นเส้นทะเล และ ทอดมันปลากรายนะคะ

คือเค้ามาจานใหญ่อะ ทานหมดนี่ก็จุกแล้วค่ะ 5555

เมนูเด็ดอีกเมนูของเค้าที่เคโกะมักจะแนะนำเสมอก็คือหมึกแดดเดียวนะคะ ไปทานที่ไหนก็ไม่เหมือนที่ร้านนี้ค่ะ อร่อยมากกก

ส่วน 2 จานที่สั่งมานี้ก็อร่อยค่ะ ทอดมันปลากรายเนื้อหนึบดี ยำวุ้นเส้นก็ไม่เละค่ะ วุ้นเส้นคือดีเลย และรสชาติก็มาแบบกำลังดี ไม่อ่อน ไม่จัดจนเกินไปค่ะ

จำราคามื้อนี้ไม่ได้อะ แต่ใช้คูปองส่วนลดจากเราเที่ยวด้วยกันไปค่ะ

ถ้าคิดว่าเคโกะอิ่มมากแล้ว คงกลับกรุงเทพเลยนั้น …. คุณคิดผิดค่ะ 55555

//ไหนว่าไดเอ็ท 55555

ต่อกันอีกร้านก่อนกลับกรุงเทพจริง ๆ แล้วค่ะ

Restaurant name : บ้านถั่วเย็น BaanTuaYen x The Dogs Space
Google maps : https://goo.gl/maps/rnhFWxP1F5m4HM9E8
Parking lots : Yes
Location : อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
Opening hours : 9.30AM – 6PM
Visited date : 2 Jan 2021
Website : https://baantuayen-huahin.business.site/
Facebook : https://web.facebook.com/baantuayen/

ร้านบ้านถั่วเย็นนี้ เคโกะได้รับการแนะนำมานานมากแล้ว พอมีโอกาสก็เลยไปค่ะ เป็นร้านที่เน้นความถั่วเนาะ น่าจะทุกเมนูนะคะจะมีถั่วเป็นส่วนผสมหลัก

ไปถึงก็คือตกใจมากเพราะคนเยอะมากกกกค่ะ แทบไม่มีโต๊ะนั่งเลย สุดท้ายเลยได้ที่เคาน์เตอร์บาร์ ใกล้ ๆ กับเคาน์เตอร์สั่งอาหาร และพนง.ก็จะบอกเคโกะไว้ก่อนว่าเสียงเครื่องปั่นจะดัง อาจจะหนวกหูนะไรงี้ แต่ไม่มีทางเลือกแล้วนี่ T.T –ก็ไม่ได้ซีเรียสด้วยแหละค่ะ

เคโกะสั่งถั่วแดงปั่นหวานน้อย และขนมเป็น Beanoffie มีไอศกรีมช็อคโกแลตมาให้ทานคู่กันด้วยค่ะ ซึ่งบีนนอฟฟี่ของเค้าก็เป็นเมนูแบบบานอฟฟี่ แต่เปลี่ยนจากกล้วยเป็นถั่วค่ะ

นั่งละเลียดทานแบบชิลล์ ๆ อยู่พักนึง น้องพนง.ก็เดินมาแจ้งว่ามีโต๊ะด้านหลังที่ว่างแล้ว สนใจย้ายไหม ซึ่งติดกับสระน้ำเล็ก ๆ ค่ะ เคโกะก็โอเค ก็เลยย้ายไป

ก็เป็นโต๊ะแบบเคาน์เตอร์บาร์เลยค่ะ นั่งหันไปมองห่านในสระแบบเพลิน ๆ สบายใจดีค่ะ ก็เป็นมุมที่ดีนะ ชิลล์มากเลยค่ะ

มีเรือให้พายด้วยแหละ แต่ยังไม่เห็นมีใครพายจริงจังเลยนะคะ มีแต่เอาไปเป็นพร็อพถ่ายรูป ฮาาาาา

โดยรวมกับร้านนี้ ก็สมกับที่พี่คนที่แนะนำเค้าแนะนำหนักแน่นมากว่าให้มาลอง คือดีจริงค่ะ อาหารเครื่องดื่มคืออร่อยมาก รสถั่วนัวมาก สายถั่วควรมาโดนค่ะ ^^ อีกทั้งวิว บรรยากาศก็คือดีงาม ชิลล์ ๆ ได้สบายมากค่ะ

เหมือนเป็นทริปตะลอนกินมากกว่าเนอะ //ใครว่าไดเอ็ท หือ? 55555

ฝากเพจด้วยค้าาาา
https://web.facebook.com/thisiskeigo

[Phang-Nga] Temples

สวัสดีค่ะ เหมือนเริ่มห่าง ๆ หาย ๆ เนอะ ^^”

โพสต์นี้พากลับมาพังงาต่อค่ะ ลืมกันไปแล้วยังว่าเคโกะมีไปพังงามาด้วยยยย ดองนานจนจะครึ่งปีแล้วมั้งเนี่ย T.T

ในโพสต์นี้จะเป็นวัด 2 วัดที่ไปมาในทริปนี้นะคะ คือเค้าว่าวัดสวยแหละ ก็เลยไปซะหน่อย

เริ่มกันที่วัดแรกเลยค่ะ

Spot name : วัดท่าไทร / วัดเทสก์ธรรมนาวา
Location : อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
Google maps : https://goo.gl/maps/AzJ6H1Hwh6jcnk7a9
Entrance fee : Free
Opening hours : N/A
Visited date : 3 Oct 2020

เป็นวัดที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลังเลยค่ะ อยู่ริมทะเลด้วย คือสวยและวิวดีสุด ๆ ไปเลย

อีกซักมุมนะคะ

ด้านหน้าค่ะ

เดินเข้าไปกราบพระกันค่ะ องค์พระก็งามมากเช่นกัน

เดินไปชมวิวที่ริมทะเลบ้างนะคะ ทะเลเงียบสงบมากเลย

เคโกะแวะวัดนี้เป็นที่แรกหลังจากขับรถออกจากสนามบินและเข้าเขตจังหวัดพังงาเลยค่ะ ซึ่งแปลกใจมากว่าทำไมเงียบบบบบมากจริง ๆ ซึ่งพออยู่เที่ยว ๆ ไป ก็เลยรู้ว่าเงียบมากกกกก เพราะโควิดและนักท่องเที่ยวเดิมส่วนใหญ่คือนักท่องเที่ยวต่างชาติอะนะคะ

ปิดท้ายที่วัดนี้ด้วยวัดจากมุมมองริมทะเลบ้างค่ะ

ต่อกันที่วัดที่ 2 เลยค่ะ ซึ่งเป็นวัดที่เคโกะแวะวันสุดท้ายขากลับไปสนามบินอะนะคะ

Spot name : วัดสุวรรณคูหา / วัดถ้ำ / Wat Suwan Khuha
Location : อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา
Google maps : https://goo.gl/maps/aBMFCNrue5KP25be6
Entrance fee : Free
Opening hours : N/A
Visited date : 5 Oct 2020

ก็เป็นอีกวัดนึงค่ะที่คนโล่งมากกกก เรียกได้ว่าไม่มีคนเลยจะดีกว่าค่ะ

จอดรถแล้วก็เดินตามทางเข้าวัด ดูแล้วมีเค้าว่าเคยมีร้านค้าอยู่แต่ก็มีร้านเปิดอยู่แค่ 2 ร้านเองค่ะ

ระหว่างทางเดินไปก็เป็นหน้าผาสูงใหญ่ ได้ฟีลว่าเดี๋ยวได้เข้าถ้ำแน่ ๆ ค่ะ 555

ก่อนเข้าวัดที่อยู่ในถ้ำ ก็จะมีต้นโพธิ์ที่เค้าว่ามีอายุร้อยปีอยู่ด้านหน้าก่อน เป็นต้นที่ใหญ่มาก ๆ ค่ะ

แล้วก็เจอกับปากทางเข้าค่ะ

วันนั้นเคโกะนุ่งกางเกงขาสั้นไป ก็จะมีเจ้าหน้าที่ที่นั่งอยู่ด้านหน้าจะบอกให้นุ่งผ้าถุงทับด้วยค่ะ งดใส่ขาสั้นเนอะ

ด้านในก็จะมีพระพุทธรูปหลายรูปเลยค่ะ

เดินลึกเข้าไปด้านในก็จะมีถ้ำให้เดินเข้าไปด้วยค่ะ

ก็จะมีรูปปั้นของฤๅษีท่านนึงอยู่ แอบหลอนนิด ๆ เหมือนกันนะคะ แหะๆ

เดินลึกเข้าไปอีกหน่อยก็จะมีประมาณนี้อยู่ จะเดินลึกเข้าไปอีกก็ได้ค่ะ แต่เคโกะว่ามืดไปอะ เลยหยุดแค่นี้พอ

เดินย้อนกลับออกมาเลยได้เจอกับพระปรมาภิไธยของหลาย ๆ รัชกาลเลย

แล้วพอจะเดินออก ก็เจอกับสถูปของต้นตระกูล ณ ตะกั่วทุ่งด้วยค่ะ เป็นวัดที่สำคัญมากจริง ๆ เลยนะคะเนี่ย

ก็เป็นสองวัดที่เคโกะว่าน่าสนใจค่ะ และพอได้ไปแล้วก็รู้สึกว่าน่าสนใจมากจริง ๆ ด้วยค่ะ

จบแบบห้วน ๆ ละกันเนอะ
https://web.facebook.com/thisiskeigo

[Nakhon Pathom] Temples

สวัสดีค่ะ โพสต์นี้ขอเป็นสายบุญซักหน่อยนะคะ จะพาไปไหว้พระที่นครปฐมกัน แหวกแนวบ้างเนอะ ก็เห็นฮิตกันแต่ไปไหว้พระ 7 วัดที่อยุธยาค่ะ แต่เคโกะซะอย่าง ต้องแหวกแนวสิ 5555

วัดทั้งหมดในโพสต์นี้ จริง ๆ แล้วเคโกะไปทั้งหมด 2 วันค่ะ รวบเป็นโพสต์เดียวกัน และมีอยู่วัดนึงที่ไม่ได้ถ่ายรูปอะไรมาเลยค่ะ แหะๆ ^^”

ค่อย ๆ ไล่เรียงกันไปเนอะ และถ้ามีตรงไหนผิดพลาดก็รบกวนชี้แนะด้วยค่าาา เคโกะไม่ค่อยสันทัดสายธรรมะเท่าไหร่ แต่แค่รู้สึกอยากไปไหว้พระอะค่ะ ^^”

1 วัดธรรมปัญญารามบางม่วง

Spot name : วัดธรรมปัญญารามบางม่วง / Wat Tham Panyaram
Location : อ.สามพราน จ.นครปฐม
Google maps : https://goo.gl/maps/F9puuPcMLLJEUKu28
Entrance fee : free
Opening hours : 6AM – 6PM
Visited date : 28 Jul 2020
Website : https://www.mahayan.com/
Facebook : https://www.facebook.com/MahayanBuddha/

เลี้ยวเข้ามาที่จอดรถ ก็จะมีทางซ้ายและขวามือให้เราแวะเวียนค่ะ เป็นแบบที่สูงและอาคารชั้นเดียวที่ดูแนวจีน ๆ ค่ะ ซึ่งเคโกะแวะไปทางที่สูงก่อน 555

จริง ๆ แล้วทางวัดเค้ามีแปะตัวเลขไว้ด้วยนะว่าสามารถไล่เรียงตามลำดับได้ แต่เคโกะไม่ได้สังเกตค่ะ เลยเดินแบบตามใจฉันเลย ตรงที่จะไปก่อนเนี่ย ถ้าจำไม่ผิด จะเป็นหมายเลข 3 ไรงี้ค่ะ

ตรงนี้จะมีบันไดให้เดินขึ้นดูเหนื่อย ๆ นิดนึง แต่ขึ้นมาแล้วก็จะเป็นองค์เจ้าแม่กวนอิมปางเสวยสุของค์ใหญ่มาก ๆ ค่ะ

สำหรับใครที่เดินไม่สะดวก ทางวัดก็มีลิฟท์บริการด้วยนะคะ จะแอบ ๆ หลบมุมอยู่อีกด้านนึงน้าาา

จากนั้นก็เดินด้านใต้ค่ะ ลักษณะเหมือนห้องโถง แต่มีเจ้าแม่กวนอิมปางเดียวกับด้านบน ในขนาดเล็กลงประดิษฐานอยู่ในอุโมงค์ที่เป็นลักษณะคล้ายดวงตาค่ะ

สามารถเดินลอดอุโมงค์ด้านหลังองค์เจ้าแม่ได้ด้วย ซึ่งเป็นนิทรรศการเล่าถึงประวัติความเป็นมา … ที่เคโกะก็ดูผ่าน ๆ แบบผ่าน ๆ จริง ๆ ไม่รู้สึกถึงความน่าสนใจค่ะ 5555

แล้วจากนั้นก็เดินลัดเลาะไปอีกฟากนึง ซึ่งระหว่างทางนั้นก็จะมีเต็นท์ตั้งรับบริจาคทุกสรรพสิ่งเลย ตั้งแต่ทำบุญโลงศพสะเดาะเคราะห์ ทำบุญไถ่วัว-ควาย ฯลฯ เรียกได้ว่าครบวงจรค่ะ แถมมีพระประกาศออกสื่อให้ด้วยว่าใครบริจาคเป็นเงินกี่บาท –ส่วนตัวว่า ไม่ค่อยโอเคค่ะ เป็นคนที่ทำบุญแล้วไม่ชอบให้ออกสื่ออะค่ะ ><“

อีกฟากนึงที่เป็นอาคารชั้นเดียวนั้น จะเป็นที่ประดิษฐานของพระยูไลค่ะ ซึ่งถือเป็นพระประธานของวัดแห่งนี้ด้วยอะนะคะ

สามารถเข้าไปถวายสังฆทาน ทำบุญสะเดาะเคราะห์ใด ๆ ตรงนี้ได้ครบถ้วนดีค่ะ

สนใจก็ลองแวะเวียนกันไปดูเนอะ

2 วัดสามพราน

Spot name : วัดสามพราน / Wat Sam Phran
Location : อ.สามพราน จ.นครปฐม
Google maps : https://goo.gl/maps/nYGCzo3u21B4WESM6
Entrance fee : free
Opening hours : 6AM – 6PM
Visited date : 28 Jul 2020
Website : https://watsamphran.business.site/
Facebook : https://www.facebook.com/WatSampran/

วัดนี้ก็จะมีจุดเด่นที่มีลักษณะเป็นอาคารทรงสูงแล้วมีมังกรพันรอบอาคารค่ะ

วันที่ไป ก็เจอกับชาวพม่ามาทำบุญกันเต็มวัดเลยค่ะ ทำเอางงเลยว่าวัดพม่าหรือเปล่าเนี่ย 5555 แต่วัดก็ดูแนวจีน ๆ อยู่นะ ไรงี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่วัดเองก็ประกาศอยู่เนือง ๆ ว่าเป็นวัดไทยไม่ใช่วัดพม่านะ แต่ก็อดขำไม่ได้ค่ะ เพราะไปทางไหนก็มีแต่พม่าอะ 55555

เพราะคนเยอะ เคโกะเลยไม่ได้เข้าไปด้านใน ไม่ได้เดินวนขึ้นไปชั้นบนของอาคารนี้นะคะ แค่เดินวนรอบ ๆ เฉย ๆ

แต่แค่นี้ก็เห็นมีความเชื่ออะไรหลาย ๆ อย่างเยอะเลย อย่างตรงนี้ คือเชื่อว่าให้มีคนเกื้อหนุน ค้ำจุนเรา หรือเปล่าคะ

ตรงนี้ก็พันผ้าสี แต่ละนิ้วของมังกรก็จะมีความหมายที่แตกต่างกันค่ะ มีป้ายอธิบายไว้อยู่ข้าง ๆ

มีลูกแก้วมังกรด้วย เค้าว่าอธิษฐานขอพรองค์พญา 12 นักษัตรได้ด้วยนะ ใช่ตรงนี้หรือเปล่าคะ

จากนั้นเคโกะก็เดินขึ้นตึกอีกตึกนึงประมาณ 5 ชั้นขึ้นไปไหว้พระด้านบนค่ะ

จากตรงนี้ เราจะมองเห็นตึกที่มีมังกรพันตึกได้ถนัดเลย ดูจากมุมสูงแล้วสวยมากเลยค่ะ

เห็นหัวมังกรด้วยล่ะ แต่จำไม่ได้ละว่าเห็นจากจุดที่ยืนอยู่ตรงมุมไหนค่ะ แหะๆ

จากนั้นก็ไปต่ออีกวัดนึงค่ะ ซึ่งเป็นวัดที่ไม่ได้ถ่ายรูปอะไรมาเลย 555 แต่ขออนุญาตลงไว้ให้เป็นข้อมูลเนาะ

3 วัดศีรษะทอง หรือวัดพระราหู

Spot name : วัดศีรษะทอง / วัดพระราหู / Wat Sisrathong
Location : อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม
Google maps : https://goo.gl/maps/39GbCFj6ecAZXcSD8
Entrance fee : free
Opening hours : 7AM – 5PM
Visited date : 28 Jul 2020
Website : http://www.watphrarahoo.com/address.html
Facebook : https://www.facebook.com/watsrisathong/

สาเหตุที่เคโกะถ่ายรูปไม่ได้เลยก็เป็นเพราะว่า วันที่ไปคนเยอะมากกกกกก จริง ๆ ค่ะ แต่ทางวัดคือโอเคนะ มีตรวจวัดไข้ แปะสติ๊กเกอร์ที่เสื้อด้วยไรงี้

จุดเด่นก็คือพระราหูค่ะ เป็นศาลาขนาดใหญ่ มีบริการธูปเทียนให้หยิบแล้วเข้าไปกราบไหว้ หรือจะซื้อของดำถวายก็หาได้จากด้านข้างเช่นกัน

cr. รูป : https://www.facebook.com/watsrisathong/photos/a.271915729593750/1354733177978661/?type=1&theater

แล้วตรงบริเวณลานจอดรถก็มีตลาดนัดเล็ก ๆ ให้เดินเล่นด้วยค่ะ

ต่อกันที่วัดถัดไปเลยนะคะ

4 วัดพระประโทณเจดีย์

Spot name : วัดพระประโทณเจดีย์วรวิหาร / Wat Prathon Chedi
Location : อ.เมือง จ.นครปฐม
Google maps : https://goo.gl/maps/5DydwknpkSq77McF7
Entrance fee : free
Opening hours : 6AM – 6PM
Visited date : 28 Jul 2020
Website : http://www.oocities.org/prapatone/templehist.html

เป็นพระอารามหลวงค่ะ มีพื้นที่ขนาดใหญ่เลยแหละ และเงียบสงบมากจริง ๆ วันที่ไปแทบไม่มีคนเลยค่ะ

ที่นี่มีสถานโบราณ เป็นเจดีย์สมัยทวารวดี ทรงโอคว่ำ เก่าแก่มากค่ะ แต่ก็ยังถูกบูรณะให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เลย

บริเวณฝั่งตรงข้ามกับองค์เจดีย์ค่ะ เงียบเหงาดีจัง

เป็นวัดที่ไปแล้วไม่ได้ไหว้พระอะนะคะ มัวแต่ถ่ายรูป 55555

ก็เจดีย์สวยและยังดูสมบูรณ์มากเลยนี่นาาาาา //ยิ้มอ่อน

จริง ๆ แล้ววันนั้นที่ไป เคโกะมีแพลนว่าจะไปพระปฐมเจดีย์ต่ออีกทีนึงด้วยแต่เวลาไม่ดีแล้วค่ะ เพราะมีนัดกับพี่คนนึงไว้ เลยต้องตัดออกจากแพลนไปก่อน แล้วก็มีเหตุให้ได้ไปอีกวันนึง

แต่อีกวันนึงนั้น เคโกะแวะไปอีกวัดนึงก่อนนะคะ

5 วัดไร่ขิง

Spot name : วัดไร่ขิง / Wat Rai Khing
Location : อ.สามพราน จ.นครปฐม
Google maps : https://goo.gl/maps/5DydwknpkSq77McF7
Entrance fee : free
Opening hours : 8AM – 4PM
Visited date : 8 Aug 2020
Facebook : https://www.facebook.com/Watraikhings/

เป็นวัดใหญ่วัดนึงเลยค่ะ มีที่จอดรถเยอะมากกกกก แต่คนก็เยอะมากกกกกกเช่นกัน มีการตรวจวัดไข้และแปะสติ๊กเกอร์ด้วยอะนะคะ เรียงแถวเข้าคิวเข้าไปไหว้พระด้านในกันยาวเลยแหละ ดูเป็นระเบียบ แต่พอเข้าไปด้านในได้จริงก็วุ่นวายเหมือนเดิมค่ะ แย่งกันจุดเทียน จุดธูปกัน 5555

จุดธูปเทียนวางดอกไม้ได้ที่ด้านหน้าโบสถ์วัดค่ะ แต่ด้านในก็เข้าไปกราบไหว้ได้ มีตีกรอบจำกัดระยะห่างด้วย มีเจ้าหน้าที่ประกาศตลอดเลยนะว่าให้อยู่ในกรอบที่ตีเส้นไว้ให้

บริเวณรอบ ๆ วัดก็มีทำบุญหลายอย่างให้เลือกทำค่ะ ทั้งผ้าป่าลอยฟ้า (ก็ว่าแปลกดี) แล้วก็ทำบุญประจำวันเกิดไรงี้

ด้านหลังวัดก็มีให้อาหารปลาด้วยนะคะ ก็เห็นคุณพ่อคุณแม่พาเด็ก ๆ มาเลี้ยงอาหารปลากันเยอะเลย เคโกะเดินเด๋อ ๆ ไปคนเดียว เขินมากอะ 5555

ต่อกันที่วัดสุดท้ายเลยค่ะ

6 องค์พระปฐมเจดีย์

Spot name : องค์พระปฐมเจดีย์ / Phra Pathom Chedi
Location : อ.เมือง จ.นครปฐม
Google maps : https://goo.gl/maps/dfyfFia91kLazwmd6
Entrance fee : free
Opening hours : N/A
Visited date : 8 Aug 2020

จริง ๆ องค์พระควรต้องมาช่วงเย็น ๆ เนาะ แล้วก็ไปเดินเล่นตลาดนัดหรือตลาดโต้รุ่งองค์พระค่ะ แต่เคโกะไม่ได้ไปเดินตลาดนัดน้าาาา .. แม้จะอยากเดินแค่ไหนก็ตามเหอะ ><“

ว่ากันตามตรง เคโกะผ่านไปผ่านมาองค์พระตั้งแต่เด็กค่ะ เพราะต้องมาเชงเม้งที่นครปฐมทุกปีอยู่แล้ว แต่ไม่เคยแวะเข้าไปกราบไหว้เลยนะ นี่เป็นครั้งแรกเลยค่ะ 555

วันที่ไป รถจอดรอบ ๆ ไม่ได้เยอะเลยนะ แต่ไหงเดินเข้าประตูวัดแล้ว คนเยอะมากกกกก

ไหว้พระด้านหน้าตรงนี้เสร็จแล้ว ก็เลยขอเดินเล่นรอบ ๆ ซัก 1 รอบค่ะ

ซึ่งพอพ้นจุดไหว้พระด้านหน้าตรงนั้นไปแล้ว ก็ไม่ค่อยมีคนแล้วแหละ

ใครสายถ่ายรูป หลบเลี่ยงผู้คนมาบริเวณรอบ ๆ นี้แบบเคโกะได้ค่ะ เคโกะว่าสวยดีนะ ^^

เดิน ๆ ไปเจอจุดที่เป็นถ้ำ ๆ อะไรด้วย? ไม่ได้เข้าไปนะคะ ดูประตูปิดอะ ไม่น่าจะเข้าไปได้ค่ะ เลยได้แต่ถ่ายรูปด้านหน้ามาเฉย ๆ

แล้วก็มีจุดไหว้พระอีกที่นึง ตรงนี้เป็นพระนอนค่ะ

เดินมาอีกหน่อย เจอมุมน่ารัก ขออีกซักแชะนะคะ

ทั้งหมดเสร็จสรรพแล้วได้ 6 วัดค่ะ จริง ๆ มีวัดอื่น ๆ ในจ.นครปฐมที่น่าสนใจอีกหลายวัดเลยน้าาาา

แล้วมาติดตามกันต่อนะคะกับร้านอาหารในนครปฐมค่ะ ไหว้พระแล้วก็ต้องกินอะเนอะ 5555
https://www.facebook.com/thisiskeigo

[Cha-am] 1-day trip

สวัสดีค่ะ ตั้งใจจะมาเล่าเรื่อง 1-day trip ไปชะอำให้เร็วกว่านี้สักหน่อย แต่ก็วุ่นวายกับเรื่องอื่น จนมาโพสต์ช้าตามเคย ^^”

ทริปเกิดขึ้นปุบปับพอดู แต่ก็ไม่ได้อะไรมากมายค่ะ เน้นชิลล์ ๆ กัน แล้วก็ไม่ได้ค้างคืนด้วย เลยไม่ได้มีประเด็นว่าต้องจองที่พักล่วงหน้าอะไร

ล้อหมุนตอน 9 โมงตรงที่คอนโดพี่ที่ร่วมทริปไปด้วยกันค่ะ ราว ๆ 11 โมงกว่า ๆ นิดหน่อย เราก็มาถึงจุดหมายปลายทางแรก คือวัดมหาธาตุวรวิหาร อ.เมือง จ.เพชรบุรีค่ะ

Spot name : วัดมหาธาตุวรวิหาร
Location : อ.เมือง จ.เพชรบุรี
Google maps : https://goo.gl/maps/9ytjPPuqS9cFwcCD8
Entrance fee : free
Opening hours : N/A
Visited date : 23 May 2020

มีที่จอดรถในวัดเลยนะคะ เคโกะก็โก๊ะ ๆ ไปจอดริมถนนเฉ้ยยยย 5555

ก่อนเข้าในอุโบสถวัด มีน้อง ๆ มาวัดอุณหภูมิ และบีบเจลแอลกอฮอล์ให้ล้างมือก่อนเข้าด้วยค่ะ

บนผนังรอบ ๆ ก็เป็นภาพวาดค่ะ น่าจะเป็นภาพเก่า สวยวิจิตรทีเดียว

ไหว้พระเสร็จ เคโกะก็ตั้งท่าจะกลับไปที่รถ แต่พี่ที่ไปด้วยกันเค้าดึงไว้ ชวนให้เดินเล่นรอบ ๆ วัดก่อน เลยมองไปเห็นพระปรางค์ 5 ยอดที่เป็นเอกลักษณ์ของวัดแห่งนี้ค่ะ

เดินไปที่พระปรางค์ 5 ยอดนั้น รอบ ๆ พระปรางค์มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่รอบ ๆ ใส่ตู้กระจก แต่เคโกะว่าไฟค่อนข้างน้อยไปนิด บางจุดดูสลัว ๆ วังเวงนิดหน่อยค่ะ

ด้วยความที่ไม่เคยมาวัดนี้มาก่อนเลย ก็เลยไม่รู้นะคะว่าเงียบเหงาแบบนี้อยู่แล้ว หรือเพราะเพิ่งจะเป็นเอาช่วงนี้ แต่ด้านหน้าที่ไหว้พระกัน คนก็เยอะอยู่น้าาาาา

อ้อ ประตูกระจกบางบานก็ชำรุดด้วยค่ะ เปิดโล่งออกมาให้เห็นองค์พระได้ชัดเจนเลยแบบนี้

เดินไป ก็เจอนุ้งแมวค่ะ ท่าทางเคยชินกับผู้คนทีเดียว ไปแหย่ ไปเล่นด้วยก็มาเล่นด้วยกลับค่ะ ก่อนที่จะล้มตัวนอนแผละตามเดิม 555 เอ็นดูววว์

มาดูองค์พระปรางค์กันบ้าง แดดแรงเชียวค่ะก็เลยไม่ได้ขึ้นไปที่องค์พระปรางค์นะคะ

แล้วก็ออกจากวัด มุ่งหน้าสู่วัดที่ 2 ค่ะ

Spot name : วัดใหญ่สุวรรณาราม
Location : อ.เมือง จ.เพชรบุรี
Google maps : https://goo.gl/maps/CUncFx1cf29HjqWN7
Entrance fee : free
Opening hours : N/A
Visited date : 23 May 2020

วัดนี้มีรถจอดเยอะอยู่ แต่ในวัดจริง ๆ คนกลับน้อยกว่าที่คิดค่ะ ค่อนข้างบางตาเลยแหละ มารู้เอาทีหลัง เพื่อนบอกว่าเค้ามากินก๋วยเตี๋ยวหน้าวัดกัน อ้าววว … 555

จากลานจอดรถเดินมาเรื่อย ๆ จนถึงตัวอุโบสถวัด บรรยากาศร่มรื่น และเงียบมากเลยค่ะ ที่นี่ก็มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่รอบ ๆ เช่นกัน

เข้าไปไหว้พระด้านใน ไม่มีจุดวัดอุณหภูมิอะไรนะคะ

เสร็จแล้วก็มาเอ้อระเหยอยู่ริมน้ำค่ะ บรรยากาศเงียบสงบและดีเลยแหละ

แล้วก็มีพระรูปนึงมาแนะนำให้ไปเรือนไม้โบราณที่อยู่ติด ๆ กันดู ก็เลยไปค่ะ

ถ้าเข้าใจไม่ผิดนะ เป็นเรือนไม้สักทั้งหลังค่ะ ด้านในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่

ซูม ๆ หน่อย มีคนแปะทองที่องค์ร. 5 เต็มเลยค่ะ ^^”

ก่อนที่จะออกจากวัด ที่ลานจอดรถเราก็ได้ยินแม่ค้าที่ขายน้ำ ของทานเล่นอยู่ที่ลานจอดรถร้องเรียกเชิญชวนซื้อของ เคโกะเลยหันไปมองดูด้วยความสนใจ เพราะหนึ่งในที่เค้าเชิญชวนก็คือตะลิงปลิงแช่อิ่มค่ะ เค้าโฆษณาว่าแช่น้ำผึ้ง รสจะกลมกล่อม ไปตัดเปรี้ยวของตะลิงปลิงได้ดี ชิมแล้วก็ชอบค่ะ เลยจัดมานิดหน่อย

— พอกลับมาบ้าน เปิดทานระหว่างทำงานแก้ง่วงแล้ว ก็อร่อยดีนะคะ เริ่มเสียดายละที่ไม่ได้ขอนามบัตรคุณป้าคนขายมา เผื่อสั่งซื้อต่ออะค่ะ ><“

แล้วก็ออกจากวัด มุ่งหน้าสู่ชะอำ หาร้านอาหารบรรยากาศดี ๆ ริมทะเลนั่งชิลล์กันค่ะ

เราเลือกได้เป็นร้านเจ๊นงค์ซีฟู้ดค่ะ ริมทะเลเล้ยยยย

Restaurant name : ครัวเจ๊นงค์ซีฟู้ด
Google maps : https://goo.gl/maps/nhZ3JoGyV2eULqRKA
Parking lots : yes
Location : อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
Opening hours : 10AM – 8PM (during Covid-19 situation)
Visited date : 23 May 2020
Website : https://www.facebook.com/KruaJeaNong/

ที่จอดรถร้านอยู่ไม่ไกลจากตัวร้านเท่าไหร่ เดินสิบก้าวก็ถึงค่ะ ในร้านมีไม่กี่โต๊ะ เข้าใจว่าเพิ่งเปลี่ยนแปลงเพราะสถานการณ์โควิดนะคะ

วิวได้ใจไป 100 คะแนนเต็มเลยค่ะ มีทางลงหาดให้ด้วยนะ

แล้วก็สั่งอาหารค่ะ ก็ทำไม่นานนะ ทะยอย ๆ มาค่ะ

จานแรกเป็นแกงส้มปลาริวกิว (หรือปลาเรียวเซียว) +ไข่ปลาค่ะ

ไข่ปลามาลูกใหญ่มากกกกก เคี้ยวหนึบหนับเต็มปากเต็มคำ ปรุงมารสจัดจ้านกลมกล่อมดีค่ะ ผักอาจจะไม่แน่นน้าาา แต่ไข่ปลาแน่นมากค่ะ

จานต่อไปน่าจะเป็นปลากระพงทอดน้ำปลาค่ะ ร้านจะบั้งตัวปลามาให้แบบนี้ค่ะ น้ำจิ้มรสแซ่บมากก มะม่วงหอมและเปรี้ยวดีเลยค่ะ ทานรวม ๆ กันแล้วกลมกล่อมเลย

สุดท้ายพระเอกของงาน ปูนึ่งค่ะ พี่เค้าเกรงใจว่าเคโกะชอบกินปูมั้ย เลยสั่งมาแค่ครึ่งโล ก็ได้มา 3 ตัวขนาดย่อม ๆ ค่ะ แต่เนื้อปูแน่น หวาน สดมากเลยค่ะ

อิ่มแล้วก็หาคาเฟ่นั่งชิลล์ต่อค่ะ เสิร์ชเอาจากกูเกิ้ลเลยเจอร้านนี้ อยู่ไม่ไกลกันด้วย ไปค่ะ!!

Restaurant name : Thé Tea House
Google maps : https://goo.gl/maps/WjgtQTf7S5uwEGDt9
Parking lots : yes
Location : อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
Opening hours : 10AM – 6PM
Visited date : 23 May 2020
Website : https://www.facebook.com/theteahousehuahin/

ร้านนี้อยู่ใน FN Outlet ที่อยู่ตรงข้ามกับโรงแรม Sheraton หัวหินนะคะ และชื่อร้าน ออกเสียงว่า “เต ที เฮ้าส์” ค่ะ “เต” คำแรกคือภาษาฝรั่งเศส แปลว่าชานะคะ

หน้าร้านมีให้วัดอุณหภูมิ มีเจลแอลกอฮอล์บริการ และจัดโต๊ะตามหลัก social distance เลยค่ะ

ร้านนี้ได้ Wongnai Users’ Choice 2019 ด้วยล่ะ เจอร้านเด็ดเข้าซะแล้ววววว 555

หน้าร้านแบบมุมไกลบ้างค่ะ

บรรยากาศภายในร้านค่ะ ถ่ายตอนที่คนโล่ง ๆ แล้วพอดี ^^”

ร้านตกแต่งได้สวยงาม เก๋ไก๋มากค่ะ มานั่งชิลล์ ๆ ถ่ายรูปเล่นได้เลยแหละ

เครื่องดื่มที่สั่ง เคโกะสั่งเป็นบลูเบอรี่เลมอนโซดาค่ะ รสชาติโอเคเลย

ปิดท้ายทริปของวันด้วยร้านเบเกอรี่ค่ะ เคโกะเพิ่งรู้ว่ามีสาขาที่ชะอำด้วย ดีนะที่เห็นก่อนตอนผ่านไปรอบแรก (ฝั่งตรงข้าม) ค่ะ พอขากลับ ต้องผ่านอยู่แล้วเลยแวะอย่างไม่ลังเลเลย

Restaurant name : The Baguette / ขนมปังฝรั่งเศส ชะอำ
Google maps : https://goo.gl/maps/rthHWtvBjpw1kvty6
Parking lots : yes (หน้าร้าน)
Location : อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
Opening hours : 8AM – 6PM
Visited date : 23 May 2020

ได้มาหลายสิ่ง แต่ถ่ายไว้แค่สิ่งเดียวค่ะ 5555 พายผีเสื้อช็อคโกแลตค่ะ แถมเปิดถุงไปแล้วอีกต่างหาก 5555

โดยส่วนตัว ร้านนี้ทำขนมอร่อยค่ะ ถ้าซื้อไปฝากคนอื่น แนะนำเป็นพายกรอบที่วางอยู่กลางร้านค่ะ จะเก็บได้นานหน่อยน้าาา

แต่ขนมหรือเค้กอย่างอื่น ๆ ก็อร่อยค่ะ เคโกะถูกใจกับเค้กสับปะรดเป็นพิเศษเลย ด้วยจริตส่วนตัวด้วยอะนะคะ แต่ก็ไม่เคยเห็นเค้กสับปะรดมาก่อน มาเจอที่ร้านนี้แหละ เลยซื้อมาชิม อร่อยเลยค่ะ ^^

ก็จบทริปไปแบบชิลล์ ๆ จบใน 1 วันค่ะ ^^

เม้าท์มอยกันที่เพจได้นะคะ
https://www.facebook.com/thisiskeigo

[Taipei] Longshansi + Xiahai City God Temple

สวัสดีค่ะ โพสต์นี้จะพาไปไหว้พระกัน 2 ที่นะคะ ซึ่งเป็นวัดที่ต่างก็ขึ้นชื่อเรื่องการขอคู่ทั้งนั้นเลยค่ะ อิอิ

และนั่นก็คือจุดประสงค์ของพวกเรานะคะ ฮาาาา

Spot name : Longshansi / 龍山寺
Location : Taipei
Google maps : https://goo.gl/maps/aLPqpvcs6y2HvkpB9
Entrance fee : free
Opening hours : 6AM – 10PM
Visited date : 15 Feb 2020
Website : http://www.lungshan.org.tw/

เดินทางง่ายและสะดวกด้วย MRT ลงที่สถานี Longshansi (Longshan Temple Station) ค่ะ ออกจากสถานีมา เดินนิดหน่อยก็เจอแล้ว จะอยู่ตรงข้ามกับตัวสถานีเลยค่ะ

วัดนี้เคโกะไปมาหลายรอบมาก ๆ ค่ะ จนจำไม่ได้แล้วว่าไปมากี่รอบ (ความจำสั้นด้วยแหละค่ะ ฮาาาา) ลองไล่ ๆ ดูก็จะประมาณนี้นะคะ แปะลิ้งค์ไว้ให้แต่ละรอบแล้วน้าาา

รอบที่ 1 ปี 2014
รอบที่ 2 ปี 2018
รอบที่ 3 ปี 2019

ช่วงที่ไป ยังมีควันหลงจากวันตรุษจีนอยู่นะคะ ก็จะมีซุ้มโคมให้ลอดให้ขอพรอยู่ที่ลานกว้างด้านหน้าของวัดด้วยค่ะ

ด้านขวามือก็จะมีมุมน้ำตกจำลอง เป็นมุมที่มีคนมาพักผ่อนหย่อนใจกันเยอะเลยค่ะ และก็แน่นอนว่าปกติไม่ได้มีอะไรสวยงามอลังการแบบนี้ ผลพ่วงจากตรุษจีนเช่นกันค่ะ

ซูมน้องปลาทองหน่อย นาน ๆ ทีจะเจอคนโล่ง ๆ แบบนี้ซักทีค่ะ แหะๆ

พวกเรารีบเข้าไปด้านในเพื่อปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วงก่อนเลยนะคะ ซึ่งจริง ๆ แล้วหากสนใจกราบไหว้พระที่วัดหลงชานจริง ๆ เค้ามีวิธีไหว้อยู่ค่ะ ซึ่งในหน้าเว็บที่แปะไว้ให้ตอนต้นก็มีอธิบายไว้แล้วนะคะ

เข้าด้านในแล้วก็ตกใจเพราะมีคนมาร่วมสวดมนต์เยอะมาก ๆ ค่ะ ถ้าเข้าใจไม่ผิด น่าจะเป็นการร่วมกันสวดมนต์เพื่อปัดเป่า Covid-19 ค่ะ ซึ่งตอนนั้นที่ไปก็อยู่ในระยะที่เริ่มแพร่ระบาดกันแล้ว ก่อนที่ไต้หวันจะปิดประเทศราว ๆ เดือนนึงค่ะ

เยว่เหล่า หรือเทพจันทรา เทพเนื้อคู่นั้นจะอยู่ด้านในสุดทางซ้ายมือค่ะ คนก็ยังมากราบไหว้เยว่เหล่าเยอะเช่นเคยค่ะ

จากนั้นเราก็โอ้เอ้กราบไหว้พระองค์อื่น ๆ อีกและมาหยุดอยู่ตรงมุมขายเครื่องรางค่ะ เดี๋ยวนี้เค้ามีแปลอังกฤษให้แล้ว มีใบเมนูให้ดูก่อนด้วย มีกระดาษให้จดเบอร์เพื่อนำไปยื่นให้คนขายได้เลยค่ะ เค้าจะให้เราจ่ายเงินก่อนแล้วรับบัตรคิวมา พอถึงคิวเราก็ค่อยเข้าไปรับของที่เราสั่งไป ดูสะดวกขึ้นเยอะเลยค่ะ

แล้วเราก็ออกมาลอดซุ้มที่ว่าด้านหน้าวัดค่ะ คนเยอะเหมือนกัน ระหว่างรอก็เล็งหลังคาวัดอะไรไปเรื่อยเปื่อย

อ้อ ที่นี่มีเครื่องรางเยอะมาก ๆ ค่ะ ใครมองหาเครื่องรางด้านไหน ที่นี่ตอบโจทย์ได้หมดเลยค่ะ จบครบในที่เดียวเลยค่ะ

มาต่อกันวัดที่ 2 เนอะ

Spot name : Taipei Xiahai City God Temple / 台北霞海城隍廟
Location : Taipei
Google maps : https://goo.gl/maps/WKqP6BUdoYZUk9UB6
Entrance fee : free
Opening hours : 6.16AM – 7.47PM
Visited date : 16 Feb 2020
Website : http://tpecitygod.org/

สถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานี Beimen ค่ะ ออกที่ Exit 3 แล้วเดินตรงมาเรื่อย ๆ ราว ๆ 10 นาทีก็จะเจอตลาด วัดนี้จะเป็นวัดเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้ ๆ กับตลาดค่ะ

วัดนี้ก็เคยไปมาแล้วค่ะ ความเก่าความเดิม ที่นี่ นะคะ

ระหว่างทางก่อนถึงวัดก็จะเป็นตึกแถวที่มีลักษณะเป็นตึกเก่า แล้วบูรณะแต่ด้านล่างให้ดูทันสมัยขึ้น แต่ก็ยังคงความเก่าของอาคารไว้เก๋ ๆ ค่ะ สวยอ่ะ

แล้วก็เดินมาถึงตัววัดจนได้ค่ะ

ทางเข้าวัดจะอยู่ตรงนี้นะคะ

ที่วัดนี้จะแยกกันระหว่างไหว้พระทั่วไปกับมาขอคู่ เวลาเราจะไปซื้อชุดไหว้พระก็ต้องแจ้งเค้าค่ะว่าจะมาขอคู่ ขอด้ายแดงด้วยไรงี้ ชุดใหญ่สุดอย่างที่พวกเราซื้อก็คือ 300 NTD แบ่งเป็น 50 NTD และ 250NTD ค่ะ แล้วก็สามารถแจ้งเค้าได้ว่าให้เค้าช่วยแนะนำหน่อย เค้ามีเจ้าหน้าที่ที่พูดอังกฤษได้อยู่ด้วยค่ะ

เจ้าหน้าที่ที่แนะนำวิธีการกราบไหว้ก็แนะนำให้เป็นอย่างดีมากเลยค่ะ อธิบายละเอียดทุกขั้นตอนและอธิบายเป็นสเต็ป ๆ ไป ไม่ได้อธิบายรวดเดียวจบ ให้เราจำกันเองนะคะ เค้าจะคอยบอก เสร็จแล้วก็กลับมาหาเค้า เค้าจะพาไปทำขั้นตอนต่อไปทีละขั้น ๆ จนจบค่ะ

พอเสร็จสิ้นพิธีกรรมแล้ว ก็จะได้ถุงด้ายแดงนี้มา ด้านในมีด้ายแดงอยู่นะคะ ก็ให้พกติดตัวไว้จนกว่าคำขอเราจะสัมฤทธิ์ผลจึงค่อยเก็บไว้ที่บ้านค่ะ

ด้านหน้าเป็นรูปเยว่เหล่า ส่วนด้านหลังก็จะเป็นชื่อวัดค่ะ

หมดเรื่องภารกิจของพวกเราแล้ว ขากลับก็เลยชวนเพื่อน ๆ แวะชิมชานมไข่มุกค่ะ

เลือกแวะร้านนี้เพราะว่า ตอนขามา เคโกะเห็นผู้หญิงกลุ่มนึงถือแก้วชาร้านนี้ทุกคนเลย ก็เลยสงสัยว่าต้องอร่อยมากแน่ ๆ ไม่งั้นคงไม่ถือกันครบทุกคนแบบนั้นหรอก

จัดไปค่ะ ชานมไข่มุกไม่ใส่น้ำตาลน้ำแข็งปกติ 55NTD

ที่นี่เวลาสั่งชานมไข่มุกแบบนี้ ก็จะต้องระบุความหวานและปริมาณน้ำแข็งด้วยอะนะคะ

พอถือออกมากินได้หน่อยนึง เพื่อน ๆ ก็ไปสั่งกินตามบ้าง 5555

โดยส่วนตัวมาบ่อยอยู่แล้ว และชอบชานมของที่นี่อยู่แล้วค่ะ ก็จะว่าอร่อยถูกปากแหละนะ แต่เพื่อน ๆ ที่สั่งหวานปกติกัน ก็บอกว่าคือหวานน้อยของไทยค่ะ ซึ่งเพื่อน ๆ ก็ชอบรสแบบนี้แหละ ก็ปลิ้มปริ่มกันไป

จริง ๆ แล้วเคโกะก็ว่า ชาของไทยหวานไปจริง ๆ นะ ><” //จากใจคนไม่กินหวานค่ะ แหะๆ

เริ่มที่วัด จบลงที่ชานมเฉ้ยยย 5555

ด้วยความที่ข้าง ๆ วัดเป็นตลาด เพราะฉะนั้นก็จะมีร้านขายของ ของกิน ของใช้อะไรมากมายก่ายกองเหมือนถนนคนเดินเลย ก็หากมาแล้ว ไหว้พระแล้ว มีเวลาว่างก็เดินเล่นกันก่อนได้นะคะ 😉

ชวนเม้าท์ได้ที่เพจค่ะ เหงาแหละดูออก 5555
https://www.facebook.com/thisiskeigo

[Nantou] Sun Moon Lake

สวัสดีค่ะ โพสต์นี้จะยาวนิดนึงนะคะ เตือนแต่เนิ่น ๆ เลย ^^”

ที่ Sun Moon Lake (บางทีก็จะย่อเป็น SML ค่ะ) เนี่ยจริง ๆ เคโกะเคยไปมาแล้วรอบนึง แต่ตอนนั้นรู้สึกว่ามีเวลากระชั้นไปหน่อย ยังเที่ยวได้ไม่ครบ ก็เลยตั้งใจมาเก็บตกที่พลาด ๆ ไปเมื่อคราวก่อน เพราะงั้นถ้าใครหลงมาดูรีวิวเรื่องราวของเคโกะในรอบนี้ อาจจะรู้สึกว่าแปลกประหลาดได้ค่ะ 55555

Spot name : Sun Moon Lake / ทะเลสาบสุริยันจันทรา / 日月潭
Location : Nantou, Taiwan
Google maps : https://goo.gl/maps/CXuXGUkL2VEihWJV9
Entrance fee : N/A
Opening hours : N/A
Visited date : 9 Dec 2019
Website : https://www.sunmoonlake.gov.tw/en/

ขอแนะนำการมั่ว ๆ งง ๆ หลง ๆ ตามประสาเคโกะในครั้งแรกที่บล็อกบ้านเดิมค่ะ มี 2 ตอน
ตอนที่ 1: https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=keigo&month=01-2015&date=24&group=6&gblog=115
ตอนที่ 2: https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=keigo&month=01-2015&date=29&group=6&gblog=116

ที่ Sun Moon Lake นี้เป็นอะไรที่ผิดแผนสุด ๆ ในทริปนี้ของเคโกะแล้วค่ะ เพราะพาสไม่มี ซื้อก็ไม่ได้ เพราะที่ Tourist Information center ที่ Sun Moon Lake จะมีขายพาสเฉพาะตัวเล็กสุดที่ใช้ได้ใน area นี้เท่านั้น ซึ่งเคโกะอยากได้ตั๋วรถบัสไปผู่ลี่ (Puli) เพื่อต่อรถไปที่อื่นต่อด้วย

แต่แล้วพนง.ขายตั๋วสารพัดสิ่ง (จะอยู่ด้านหลังของ Tourist information center ค่ะ เป็นเคาน์เตอร์เดียวกับที่ขายตั๋วรถบัส) ก็กรุณาใจดีนั่งคำนวณทุกสิ่งอย่างที่เคโกะอยากได้ แล้วก็บอกว่า “ซื้อแยกไปสิ ถูกกว่าอีก เรามีขายตั๋วทุกอย่างที่คุณอยากได้นะ” .. แทบกรี๊ดเลยค่ะ

สุดท้าย เคโกะก็ซื้อตั๋วรถบัสรอบทะเลสาบ+ตั๋วเข้าธีมพาร์ควัฒนธรรม 9 ชนเผ่า (หมู่บ้านวัฒนธรรม 9 ชนเผ่า) มาในราคา 80+650 = 730NTD ค่ะ ตอนแรกอยากได้ตั๋วเรือด้วย แต่ก็ตัดทิ้งเพราะประหยัดงบ 5555 … จริง ๆ เคยนั่งไปในครั้งก่อนแล้วค่ะ ก็เลยไม่ได้สนใจมากเท่าไหร่ เพราะอย่างไร รถบัสก็ครอบคลุมเส้นทางทั้งหมดที่อยากจะไปอยู่แล้ว

ส่วนตั๋วรถบัสนั้น พนง.บอกว่า ใช้ Easycard ใช่มั้ย ใช้ไปเลย เพราะถูกกว่าซื้อตั๋วราคาเต็มอยู่แล้ว (เป็นสิทธิพิเศษของการใช้บัตรอยู่แล้วค่ะ ซึ่งจะมีส่วนลดให้ ถูกกว่าซื้อตั๋วเที่ยวเดียว)

เริ่มจากแปะแผนที่ทะเลสาบก่อนนะคะ

จากแผนที่ด้านบน จะเห็นว่าทางเรือนั้น มีจอดแค่ 3 ท่าเท่านั้นค่ะ และท่าเรือใหญ่ก็จะมี 2 ท่าคือ Shuishe และ Ita Thao แต่เคโกะแนะนำที่พักบริเวณ Shuishe มากกว่านะคะ เพราะเป็นท่ารถด้วย จะไปไหนมาไหน ก็เริ่มที่นี่ค่ะ สะดวกกว่าอีกฝั่งนึงนะคะ

เอาล่ะ มาดูแผนที่รถบัสรอบทะเลสาบบ้าง เคโกะเอามาจากเว็บรถบัสหนานโถวเวอร์ชั่นภาษาจีน (http://www.ntbus.com.tw/s03.html) ค่ะ ถึงมีแผนที่ตัวนี้ เลยเอามาใส่ชื่อภาษาอังกฤษกำกับให้ จะได้เข้าใจนะคะ

ตรงที่ใส่คำอังกฤษกำกับให้นั้นคือจุดท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะแวะลงไปเที่ยวกันค่ะ แต่ในคราวนี้ เคโกะแพลนไว้ว่าจะแวะที่ Xuanguang Temple, Ci’en Pagoda, Ita Shao Pier และ SML Ropeway (เพื่อขึ้นกระเช้าไปธีมพาร์ค) เท่านั้นนะคะ ส่วนวัดเหวินวู่ (Wenwu Temple) ที่คนไทยนิยมไปกันนั้น เคโกะจะขอผ่านค่ะ เพราะเคยไปมาแล้ว

หลังจากซื้อตั๋วเสร็จสรรพ ก็มายืนรอรถบัสนะคะ ตั๋วที่ได้มาก็หน้าตาดูบอบบางแบบนี้ ต้องเก็บไว้ให้ดีค่ะ เพราะจะใช้ทั้งวันเลย

แต่เนื่องจากยังมีเวลาอีกพอสมควรเลยกว่ารถจะมา ก็เลยไปที่ Longfeng Temple กันก่อนค่ะ ได้ยินมาว่าที่นี่มีเทพความรักที่ให้ด้ายแดงที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ๆ ด้วย อยู่ไม่ไกลจากท่ารถ Shuishe ค่ะ ก็เดินไปราว ๆ 10 นาทีได้ก็ถึงแล้ว

หลังจากที่เคโกะเก้ ๆ กัง ๆ อยู่คนเดียว ก็เลยขอแนะนำเลยก็แล้วกันค่ะ จะได้ไม่งง ๆ เอ๋อ ๆ เหมือนเคโกะกัน 5555

ไปถึงปุ๊บ ให้เดินไปที่โถงกลางค่ะ จะมีห้องเล็ก ๆ ทางซ้ายมือติดกับโถงกลาง เพื่อซื้อชุดไหว้ ราคา 100NTD จากนั้นเจ้าหน้าที่จะแนะนำการไหว้ให้ รวมถึงมีคู่มือภาษาไทยในการไหว้เทพความรักมาให้ด้วย ซึ่งก็จะจุดธูปไหว้ที่โถงกลางก่อนให้เรียบร้อย จากนั้นถึงค่อยไปไหว้ที่เทพความรัก ซึ่งอยู่โถงทางขวามือของวัดค่ะ จะมีเจ้าหน้าที่ยืนรอต้อนรับเพื่อแนะนำวิธีการกราบไหว้ให้

เจ้าหน้าที่เดาถูกกว่าเคโกะเป็นคนไทย เลยเปิด Google Translate รออยู่แล้วเพื่อถามว่า “เคยแต่งงานแล้วหรือยัง” ค่ะ เคโกะตอบเป็นภาษาจีนไป เจ้าหน้าที่ก็ตกใจว่าเราพูดจีนได้ พอพูดยาวไปอีกนิดหน่อย เห็นว่าเคโกะเข้าใจเป็นส่วนใหญ่ ก็เลยขอเก็บคู่มือภาษาไทยไปเลยค่ะ แล้วบอกว่า ฟังเค้าอธิบายแล้วกัน ไม่ต้องอ่าน 55555 แต่เค้าก็ดีนะคะ คอยถามย้ำเป็นช่วง ๆ ว่าเข้าใจที่เค้าพูดใช่มั้ย ไรงี้ค่ะ

วิธีการก็ไม่มีอะไรมาก อธิษฐานต่อเทพความรัก (เจ้าหน้าที่เน้นย้ำว่าให้บอกเทพเลยนะ ว่าเรามาไกลมากเลยเพื่อมาขอคู่ดี ๆ สักคน มาจากตั้งไทยแน่ะ … แอบขำปนเอ็นดูค่ะ 5555) แล้วโยนกรับเสี่ยงทาย ให้ผลออกเป็นหงายและคว่ำอย่างละอันถึงจะเอาด้ายแดงไปได้ แต่ถ้าไม่ได้ ก็ให้โอกาส 3 ครั้ง สำเร็จ 1 ใน 3 ก็ถือว่าผ่าน และหยิบด้ายแดงได้ค่ะ ซึ่งเคโกะโยนได้ในครั้งแรกเลย ว้าวววว…

จากนั้นเจ้าหน้าที่จะให้เราเลือกด้ายแดงเองจากที่ห้อยอยู่กับท่านเทพ แล้วเอาใส่ซองให้ วนรอบควันธูป 3 รอบ ก่อนย้ำให้เราพกไว้กับตัวในที่ที่เราพกติดตัวเป็นประจำ เช่น กระเป๋าสตางค์ หรือมือถือค่ะ พอสำเร็จ ได้คู่แล้วจึงค่อยพามากราบไหว้เทพด้วยกันและคืนด้ายแดงไป

เคโกะเลือกที่จะพกไว้กับโทรศัพท์มือถือนะคะ เพราะพกติดตัวมากกว่ากระเป๋าสตางค์ค่ะ ฮาาา

เสร็จแล้วเคโกะก็เดินกลับไปที่ท่ารถค่ะ ซึ่งหน้าวัดเนี่ย จะเป็นวิวทะเลสาบพอดีเลย สวยมากค่ะ หยุดพักชมวิวให้หายเหนื่อยก่อนก็ได้นะคะ

แล้วเคโกะก็เดินกลับทางเดิมไปยังท่ารถ แล้วก็นั่งรถบัสไปที่ Xuanguang Temple ค่ะ ซึ่งเป็นป้ายสุดท้ายเลย

ที่วัด Xuanguang แห่งนี้ เดินทางมาด้วยเรือก็ได้ค่ะ และถ้าขึ้นไปชมวิวจากที่สูง จะเป็นจุดที่มองเห็นเกาะ Lalu ได้ชัดที่สุดด้วยค่ะ (เกาะ Lalu คือเกาะที่ใหญ่ที่สุดใน SML นี้ แต่เป็นเกาะที่ขึ้นไปไม่ได้ค่ะ)

วัด Xuanguang แห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าวัดพระถังซำจั๋งด้วย เนื่องจากเคยเป็นที่ประดิษฐานของพระธาตุของพระถังในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นได้นำพระธาตุมาไว้ที่นี่ แต่ภายหลังได้ย้ายไปที่อีกวัดนึง คือวัด XuanZang ซึ่งอยู่ไม่ได้ไกลกันนักค่ะ

ตรงนี้จะมีแท่นหินที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกันมาก มีการต่อคิวยาวเชียวค่ะ

มองออกไปเห็นเกาะ Lalu ได้ใกล้และชัดที่สุดด้วยค่ะ

และบริเวณท่าเรือ หรือด้านหน้าทางขึ้นวัดเองก็จะมีไข่ต้มใบชาจำหน่ายอยู่ ซึ่งขึ้นชื่อมาก ๆ ค่ะ ใครไปใครมาก็ต้องมาชิมกัน เคโกะก็เลยขอมาชิมบ้าง ใบละ 13NTD ค่ะ

ก็ได้กลิ่นใบชาเบา ๆ นะ เปลือกไข่แกะง่ายมากค่ะ แต่ก็ยังรู้สึกเหมือนไข่พะโล้เบา ๆ และก็คือไข่ต้มธรรมดาเท่านั้นเองค่ะ 55555 แต่ก็สมควรมาลองกันดูค่ะ

จากนั้น เคโกะก็เดินกลับไปที่ป้ายรถบัส เพื่อไปต่อที่อื่น แต่ว่าเคโกะเดินหลงทาง -*- ก็เลยทำให้พลาดรถบัสไปอย่างน่าเจ็บใจค่ะ คือมาช้าไปราว ๆ 2-3 นาทีเท่านั้นเอง

ระหว่างที่ยืนลังเลอยู่ว่าจะเอายังไงกับชีวิตต่อไปดี เพราะถ้าเคโกะเดินไปที่จุดหมายต่อไปคือ Ci’en Pagoda ก็ห่างออกไปราว ๆ 2 กิโลเมตรค่ะ ถามว่าเดินได้ไหม คือ อากาศเย็น ๆ แบบนี้ ก็เดินได้แหละ แต่เคโกะมีเวลาจำกัดมาก ๆ ค่ะ ต้องไปให้ครบทุกที่และทันทั้งรถ ทั้งเคเบิ้ลคาร์ทุกสิ่งด้วย

สุดท้าย ก็เลือกเดินไปค่ะ คิดว่าน่าจะเร็วกว่ารอรถบัสคันต่อไปที่จะมาในอีก 1 ชม.

ตรงด้านหลังวัดเป็นทางเริ่มเทรลที่ชื่อว่า QingLong mountain trail ซึ่งเป็นเส้นทางที่เคโกะจะเดินไปค่ะ (ป้ายจะบอกระยะทางแค่ 850 เมตร แต่แค่เทรลเส้นนี้ค่ะ ยังไม่ถึงเจดีย์ที่จะไปซะทีเดียว ต้องเดินต่อไปอีก รวมแล้วก็เลยประมาณ 2 กิโลเมตรค่ะ)

เคโกะชอบเทรลที่ไต้หวันอย่างนึง คือเค้าทำทางไว้ดีมาก เดินสบายค่ะ ซึ่งที่นี่ก็เช่นกัน เป็นเทรลที่เดินได้เรื่อย ๆ (ถ้าไม่เหนื่อยซะก่อน ฮาาา)

เดินไปราว ๆ 10 ท้อใจ โดยไม่ได้สนใจวิวข้างทางเท่าไหร่ เพราะต้นไม้บังอยู่เป็นระยะ ๆ ค่ะ ทั้ง ๆ ก็มีจุดชมวิวให้ดูตลอดทาง แต่ก็ไม่ได้เห็นวิวอะไรสวยอะ 555 และในที่สุดก็มาจนถึงทางออกจนได้ค่ะ จะมาโผล่ที่ริมถนนตรงนี้เลย

อันที่จริง ตรงข้ามจุดนี้ก็คือวัด Xuan Zang ที่เคโกะเพิ่งพูดถึงไป แต่เราจะติดไว้ก่อนค่ะ จะไปที่ไกลกว่า และใช้ความถึกของขาต่อไปด้วยการไปที่ Ci’en Pagoda ก่อนค่ะ

เดินไปนิดหน่อย ก็จะเจอปากทางเข้า Ci’en Pagoda แล้ว แต่นั่นแค่ปากทางค่ะ ยังต้องเดินเข้าไปราว 700 เมตร จนถึงทางบันไดขึ้นไปยังเจดีย์ ซึ่งมีระยะทางอีกราว ๆ 7-800 เมตร … ไงล่ะ เบ็ดเสร็จก็ราว ๆ 2 กม.นั่นแหละ T.T

ถึงอย่างไรก็ดี เดินมาถึงจนได้ค่ะ (แนะนำถ้าจะถึกขนานนี้ ควรฟิตร่างกายมาให้พร้อมค่ะ นี่ก็ฟิตร่างกายมาทั้งปีเพื่อการนี้แหละ T.T)

ลานด้านหน้าเจดีย์คือ ลานหินกรวดขาวละเอียด และท้องฟ้าก็เป็นใจ ใสกิ๊งเชียวค่ะ

เจดีย์มีทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นจะมีทางออกไปเดินรอบระเบียงชมวิวภายนอกได้แบบ 360 องศา ซึ่งถ้าถึก (อีกแล้ววว) แนะนำให้ขึ้นไปชั้นบนสุดค่ะ

ถามเคโกะว่า เดินมาแล้ว 2 กม. จะเดินอีกไหวมั้ย … ค่ะ มาถึงจุดนี้แล้วค่ะ ไม่ไหวก็ต้องไหวอะนะ ถึกกว่านี้ไม่มีอีกแล้วค่ะ T.T

พอขึ้นมาชั้นบนสุด วิวจะมีอยู่ 2 แบบค่ะ คือวิวทะเลสาบ และวิวภูเขาที่อยู่ด้านตรงข้ามกับทะเลสาบ ก็สวยไปทั้งสองแบบนะ

เอาวิวภูเขาไปก่อนค่ะ ด้านล่างของรูปคือด้านหน้าของเจดีย์ที่เดินเข้ามาถึงค่ะ

ต่อด้วยวิวทะเลสาบค่ะ

มีแบบพาโนรามาให้ด้วย สวยสุดอะไรสุด รู้สึกหายเหนื่อย (แปบนึง) เลยค่ะ

มีวิดีโอที่เคโกะถ่ายไว้ให้ดูถึงบรรยากาศรอบ ๆ เจดีย์ด้วยค่ะ มีติดผู้คน ติดเสียงคนแถว ๆ นั้นไปนิดนึงนะคะ พยายามหลบแล้ว แต่ไม่พ้นจริง ๆ T.T

ภายในเจดีย์นี้มีเวลาปิดทางขึ้นลงด้วยนะคะ ตามรูปนี้เลย

แล้วก็เดินกลับออกมาทางเดิม เดินกลับไปที่วัด XuanZang ค่ะ ซึ่งก็มีป้ายรถบัสอยู่ที่หน้าวัดนี้ด้วย

ด้านหน้าวัดค่ะ จะเก็บภาพให้หมดแบบนี้ ต้องไปยืนถ่ายที่ฝั่งตรงข้ามค่ะ

บอกตามตรงว่าเหนื่อยมาก ๆ กับการเดินทาง เลยไม่ค่อยอยากจะเข้าวัดนี้เท่าไหร่ แต่ว่าดูตารางเวลารถแล้ว ยังมีอยู่พอสมควร ก็เลยเข้าวัดเดินเล่นอีกซักนิดแล้วกัน T.T

ด้านหน้าวัด หันเข้าหาทะเลสาบ ก็จะมีวิวทะเลสาบมาอีกค่ะ

พอก้าวพ้นประตูวัดไปแล้ว จะมีเทพทั้งสองท่านนี้ยืนประจำซ้ายและขวาของด้านหลังประตูวัดนะคะ

เข้าไปไหว้พระกันค่ะ พระประธานของที่นี่คือพระถังซำจั๋ง อย่างที่บอกไปแล้วในตอนต้นว่า พระธาตุของพระถังได้ถูกย้ายมาประดิษฐานไว้ที่นี่ค่ะ

เพราะมีเวลาจำกัดจำเขี่ย เลยทำให้เยี่ยมชมไม่ทั่วเท่าไหร่ ซึ่งบริเวณวัดยังมีสวนรอบ ๆ ให้เดินชมอีกนะคะ

แต่เคโกะต้องไปต่อแล้ว ><~

นั่งรถบัสไปลงที่สถานีเคเบิ้ลคาร์ หรือ Ropeway ค่ะ แล้วรีบพุ่งไปขึ้นกระเช้าเพื่อที่จะไปธีมพาร์ควัฒนธรรม 9 ชนเผ่า

แต่ถ้าเคโกะจะรวบเอาเรื่องราวในธีมพาร์ควัฒนธรรม 9 ชนเผ่ามาไว้ในโพสต์นี้ด้วย จะยาวมากกกกกกกกกกกกกกค่ะ เลยขออนุญาตตัดไปอีกโพสต์นึงนะคะ

ตัดฉับมาที่ภาพกลับมาจากธีมพาร์คค่ะ

มืดแล้วววว .. รู้เลยว่าอยู่กันจนวินาทีสุดท้ายจริง ๆ T.T ถ้าไปอ่านต่อในโพสต์หน้าจะรู้ค่ะว่าเหนื่อยมากจริง ๆ T.T

ถามว่าวันนี้จบแล้วหรือยัง .. ยังค่ะ ยังไม่หมดวัน ><~

นั่งรถบัสกันต่อค่ะ ไปยังท่าเรือ Ita Shao มาเดินหาขนมทานเล่นก่อนค่ะ

บรรยากาศก็จะคล้าย ๆ กับตลาดกลางคืนทั่วไป แต่ผิดที่คนน้อยกว่า ก็แอบแปลกใจเหมือนกันว่าคนบางตาไปเยอะเลย เข้าใจว่าเป็นเพราะเป็นวันธรรมดาอะค่ะ คนเลยน้อยกว่าที่เคยมา

เอาล่ะ เริ่มตามล่าตะลุยหาของทานกันเลยค่ะ

สิ่งแรกที่ทานก็คือเจ้านี่ค่ะ คล้ายแฮมเบอร์เกอร์หรือแซนด์วิช แต่เปลี่ยนจากขนมปังเป็นเต้าหู้ค่ะ ตรงกลางเป็นไส้ต่าง ๆ แล้วแต่เราจะเลือกไส้ใส่ (มีเมนูภาษาจีนให้ดูและอ่าน) สนนราคาที่ 50NTD ค่ะ

ถ้าชอบทานเต้าหู้ แนะนำว่าไม่ควรพลาดเลยค่ะ มันอร่อยมากจริง ๆ และถ้าทานเผ็ดได้ บอกเค้าใส่พริกมาด้วย จะเพิ่มความอร่อยยิ่งขึ้นค่ะ

ต่อไปที่แป้งม้วนเนื้อค่ะ ลักษณะคล้ายโรตี แต่ไส้จะเป็นเนื้อค่ะ มีให้เลือกแบบใส่เนื้อกับไม่ใส่เนื้อ สนนราคา 60NTD ค่ะ

เอ็นดูคนขายมาก เห็นภาษาจีนกระท่อนกระแท่นของเคโกะเวลาสั่ง เลยเดาว่าเป็นคนญี่ปุ่น เพราะตอบกลับมาเป็นญี่ปุ่นเฉยเลยค่ะ 5555

แป้งม้วนห่อเนื้อนี้ อร่อยที่เนื้อค่ะ เนื้อผัดมากำลังดีเลย เนื้อนุ่ม ไม่เหนียวเลยค่ะ แป้งก็จี่มากรอบพอดี ทานแล้วอร่อยเลยค่ะ

ต่อกันที่ร้านชาบ้าง ร้าน Tea18 นี้มีที่นั่งด้วยค่ะ สั่งหน้าร้านถ้าเกิน 40 NTD (มั้งนะคะ) ก็สามารถนั่งทานในร้านได้เลย

เดินมาทั้งวันอย่างเหนื่อย นั่งเอาท์ดอร์ท่ามกลางอากาศเย็น ๆ ได้ค่ะ ไม่รู้สึกหนาวแล้ว ณ จุดนั้น ><~

ส่วนชาที่สั่ง สั่งชาที่เป็นเมนูแนะนำของร้านมา (ไม่ทราบจะดื่มอะไรดีก็ให้พนักงานแนะนำให้ได้ค่ะ) สนนราคา 55NTD เป็นชาไม่ใส่นม และไม่ใส่น้ำตาล (0% sugar) ด้วยค่ะ นั่งทานพร้อมกับแป้งม้วนห่อเนื้อด้านบน เพลินเชียวค่ะ ^^

ปิดท้ายโพสต์นี้ที่วิวบริเวณท่าเรือ Ita Shao ยามเย็นค่ะ ค่อนข้างไร้ผู้คนเป็นปกติอยู่แล้ว เพราะช่วงเย็น เรืองดวิ่งแล้วค่ะ ก็เลยดูเงียบ ๆ เหงา ๆ ไป

แล้วกลับมาติดตามกันต่อโพสต์หน้านะคะ

ทวงรีวิวเรื่องราวได้ที่เพจตามเคยค่ะ
https://www.facebook.com/thisiskeigo/

Sakon Nakorn

สวัสดีค่ะ มาอีกโพสต์นึงที่จะย้าวยาวแล้วนะคะ ^^

ก่อนอื่นเลยต้องขอบคุณไปรษณีย์ไทยสำหรับรางวัลผู้โชคดีในงานแสตมป์โลกที่สนับสนุนโดยแอร์เอเชีย เป็นตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ดอนเมือง-สกลนคร 2 ที่นั่งค่ะ ตอนแรกได้มาก็ดีใจมากเลยนะ แต่ก็อดหงุดหงิดเล็กน้อยไม่ได้กับความจุกจิกและล่าช้าจากแอร์เอเชียค่ะ ^^”

ขอบคุณเพื่อนน่ารักด้วยน้าาาาที่อุตส่าห์ไปด้วยกัน แถมยังวางทริปและจองโรงแรมต่าง ๆ ให้ด้วยค่ะ

มาเริ่มกันเลยเนอะ

Spot name : วัดถ้ำผาแด่น
Location : อ.เมือง สกลนคร
Google maps : https://goo.gl/maps/YzfYz6cTYam1L8Pw5
Entrance fee : Free
Opening hours : N/A
Visited date : 21 June 2019

ลงเครื่องปุ๊บ ก็พุ่งไปที่วัดถ้ำผาแด่นเลยค่ะ ขับรถตามกูเกิ้ลแม็พไปจนถึงลานจอดรถด้านล่างของวัด แล้วก็ต้องจอดไว้ตรงนี้ค่ะ ไม่สามารถขับขึ้นเขาไปยังวัดได้แล้ว และต้องใช้บริการรถสองแถวขึ้นลงค่ะ โดยมีค่าบริการ 20 บาทต่อ 1 รอบ (ขึ้นและลง)

เส้นทางขึ้นเขาก็เป็นถนนแคบ ๆ ขนาด 2 เลน รถสวนไปกลับได้ค่ะ แต่ค่อนข้างชันนิดหน่อย

ระหว่างทางก็มีพระพุทธรูปสีขาวตั้งตระหง่านอยู่สองข้างถนนด้วยค่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็นอาณาบริเวณวัดแล้วเลยตั้งไว้หรือเปล่านะคะ

แล้วรถสองแถวก็มาจอดอยู่หน้าวัดค่ะ ใครที่แต่งตัวไม่เรียบร้อย เช่นนุ่งสั้น ทางวัดก็มีผ้าถุงบริการด้วยค่ะ

วัดแห่งนี้ก็จะมีการแกะสลักพระพุทธรูปบนหน้าผาที่สวยงามมาก ๆ ค่ะ

แล้วก็มีพระพุทธรูปปางนาคปรกที่งดงามมาก ๆ ด้วยค่ะ มองไปด้านหลังสามารถมองลงไปเห็นวิวที่สวยด้วย

แล้วก็มีบาตรให้โยนด้วย ออกแนวเสี่ยงทายค่ะ ถ้าโยนเหรียญเข้าบาตรได้ก็จะสมหวัง ไรงี้ แต่เคโกะโยนเข้าแค่บาตร 2 ใบค่ะ ส่วนเพื่อนเคโกะโยนเข้าทุกใบเลยอ่ะ

แล้วก็ไหว้พระหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดที่อยู่ใกล้ ๆ อีกนิดนึงก่อนที่จะกลับค่ะ

จากนั้นเราก็ไปต่อที่พญาเต่างอยค่ะ

Spot name : พญาเต่างอย
Location : เต่างอย สกลนคร
Google maps : https://goo.gl/maps/DqWT19ovFHQeSppH7
Entrance fee : Free
Opening hours : always open
Visited date : 21 June 2019

ตอนที่ไป เคโกะไม่มีข้อมูลอะไรเลยนะคะ ในหัวก็จินตนาการว่า น่าจะเป็นดอย เป็นเขา เป็นผาอะไรให้เดินดูชมวิวไรงี้อะค่ะ แต่พอไปถึง เพื่อนก็มาเฉลยว่าเป็นพญาเต่า ที่เค้ามาหาตัวเลขกัน ^^”

ก็มีเรื่องสารภาพอีกเรื่องเหมือนกันว่า ตอนแรกได้ยินคำว่า เต่างอย ในใจก็คิดว่าคือชื่อพันธุ์เต่าค่ะ (5555) แต่พอไปคุยกับพี่คนนึงที่เค้าเป็นคนอีสาน ถึงได้รู้ความจริงว่า งอยเป็นกริยานึง คล้าย ๆ กับการชะโงก การผงกหัวขึ้น ไรงี้ เป็นภาษาอีสานค่ะ 5555

จากนั้นเราก็ไปที่ฟาร์มฮักต่อค่ะ แวะทานอาหารเที่ยงด้วย แวะเลี้ยงแกะด้วย

Spot name : Farm Hug / ฟาร์มฮัก
Location : อ.เมือง สกลนคร
Google maps : https://goo.gl/maps/JNMtAJQnjR45r2ie8
Entrance fee : Free
Opening hours : restaurant 10.00 – 21.00, coffee shop 8.30-21.00, sheep farm 8.00-18.00
Visited date : 21 June 2019
Website : https://www.facebook.com/farmhug.snk/

ที่นี่ก็แบ่งออกเป็น 3 โซนค่ะ คือร้านอาหาร, ร้านกาแฟ และฟาร์มแกะค่ะ ซึ่งด้านหน้าก็จะเป็นส่วนของร้านอาหารและร้านกาแฟค่ะ

เราแวะทานอาหารกันก่อน ซึ่งเดี๋ยวจะยกยอดไปในอีกโพสต์นึงนะคะ

พอทานอาหารเสร็จ เราก็เดินดูแกะกันนิดนึง แต่ไม่มีพนง.ขายอาหารแกะเลย น้องแกะก็ร้องแบะๆ เรียกความสนใจจากพวกเรากันสุด ๆ แต่ไม่มีอาหารจะให้อ่าาา ><~

ที่นี่มีจุดถ่ายรูปเยอะพอสมควรเลยค่ะ เสียแต่ว่าวันที่พวกเราไปนั้น แดดร้อนมากจริง ๆ เงียบเหงามากเลย (อาจจะเพราะเป็นวันศุกร์ด้วยนะ) เดินดูน้องแกะ เดินเล่นรอบ ๆ นิดหน่อย แล้วเราก็กลับค่ะ

ไปต่อกันที่หมู่บ้านท่าแร่ ที่เป็นชุมชนและคงอนุรักษ์บ้านหลังเก่าไว้ได้เป็นอย่างดี

Spot name : คฤหาสน์อุดมเดชวัฒน์ / ชุมชนท่าแร่ / หมู่บ้านท่าแร่ / บ้านโบราณ 100 ปี
Location : อ.เมือง สกลนคร
Google maps : https://goo.gl/maps/JSA9HHeCayiWvGxB9
Entrance fee : Free
Opening hours : 9.00-18.00
Visited date : 21 June 2019

นี่ก็เป็นอีกที่ค่ะที่ทำให้เซอร์ไพรส์ได้ประมาณนึงเลย เพราะได้ยินว่าเป็นชุมชนหรือหมู่บ้านโบราณ ในใจก็คิดถึงว่าจะมีบ้านโบราณอยู่หลาย ๆ หลัง เป็นชุมชนเลย แต่พอไปจริง ๆ ก็มีอยู่ไม่กี่หลังเท่านั้นเองค่ะ

แต่สวยดีนะ เดินถ่ายรูปกันสนุกเลยค่ะ

มีป้ายอธิบายประวัติความเป็นมาของบ้านหลังนี้อยู่นิดหน่อยค่ะ

ทำไว้ดูค่อนข้างงานเผาเลยนะคะเนี่ย แอบเสียดายเหมือนกัน

ตรงหน้าบ้านมุมนี้ก็เก๋ ๆ ดีน้าาา

คิดว่าที่นี่เหมาะกับการถ่ายรูปพอร์เทรตดีค่ะ รูปที่ได้จะออกมาดูเก๋ ๆ ชิค ๆ ดีนะคะ

ใกล้ ๆ มีร้านก๋วยเตี๋ยวขายอยู่ในบ้านโบราณอีกหลังนึง แต่เพราะเราอิ่มกันอยู่ เลยไม่ได้ชิมนะคะ

แล้วก็เลยแวะไปที่โบสถ์มิคาแอลกันค่ะ อยู่ใกล้ ๆ กันเลย

Spot name : โบสถ์มิคาแอล /St. Michael’s Cathedral
Location : อ.เมือง สกลนคร
Google maps : https://goo.gl/maps/pgaA7aAWVCsifAc4A
Entrance fee : Free
Opening hours : N/A
Visited date : 21 June 2019

ที่นี่เป็นโบสถ์ที่สวยเก๋ด้วยรูปทรงที่ดูแปลกตาของโบสถ์ค่ะ

ไปตอนช่วงบ่ายแก่ ๆ หน่อย แต่แดดยังแรงอยู่ ลอดช่องด้านข้างเข้ามาก็ทำให้ดูแปลกตาไปอีกนิดนึงค่ะ

ตึกนี้ก็สวยดี เค้าเรียกอะไรอะคะ ><”

คือถ้าเป็นวัดไทย ก็น่าจะเป็นหอระฆังล่ะนะ 5555

วันแรกของทริป (ห้ะ ทั้งหมดนี่แค่วันเดียว? ^^”) ก็จบลงที่บึงบัวค่ะ ก่อนที่เราจะไปเช็คอินที่โรงแรมได้ซะที

Spot name : อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติ
Location : อ.เมือง สกลนคร
Google maps : https://goo.gl/maps/MdS6z1gcnWQtYa7D8
Entrance fee : Free
Opening hours : Always open
Visited date : 21 June 2019

ก็เป็นบึงบัวขนาดใหญ่ล่ะค่ะ มีทางเดินที่ไม่มีที่กั้นทางเดินให้เดินไปรอบ ๆ บึง มีศาลาพักผ่อนนิดหน่อย

ส่วนบัวก็ยังบานไม่ค่อยเต็มบึงเท่าไหร่ค่ะ เลยดูไม่ค่อยสวยเลย

ริมบึงด้านนึงมีอนุสาวรีย์พญานาคอยู่ค่ะ มีแท่นจุดธูปเทียนไหว้อยู่ด้วยนะ

ไปดูพญานาคเผือกใกล้ๆ ค่ะ

เข้าใจว่ามาผิดฤดูแหละค่ะ บัวยังบานไม่สะพรั่งทั้งบึงอย่างที่คิดภาพไว้ในหัวอะ ถ้าบัวบานเต็มบึงน่าจะสวยกว่านี้ค่ะ

ตัดไปที่อีกวันนึง วันก่อนกลับค่ะ เราบึ่งรถมาจากนครพนมก็เลยเลือกแวะไปดูวิวที่สันเขื่อนน้ำอูนกันค่ะ

Spot name : เขื่อนน้ำอูน / สันเขื่อนน้ำอูน
Location : อ.พังโคน สกลนคร
Google maps : https://goo.gl/maps/h8JGw7pdFLSg6F4V9
Entrance fee : Free
Opening hours : Always open
Visited date : 23 June 2019

ขับรถไป มีป้ายบอกทางเข้าตั้งแต่ริมถนนสายหลักเลยค่ะ แล้วก็ขับเข้าไปตามทางเรื่อย ๆ ก็จะมาโผล่ที่สันเขี่อนพอดีเลย วิวสวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก นักท่องเที่ยวน้อยค่ะ เห็นแต่เด็ก ๆ ขี่มอเตอร์ไซค์มากันเป็นกลุ่ม ๆ เท่านั้นเอง

ที่นี่อากาศดีมากกกกกกกกก วิวสวยด้วย ดูธรรมชาติสุด ๆ เลยค่ะ เพลินมาก แทบไม่ค่อยอยากกลับเท่าไหร่เลย แต่เรามองเห็นฟ้าครื้ม ๆ กลัวจะฝนตกก็เลยกลับเข้าตัวเมืองดีกว่าค่ะ

กลับมาเข้าวัดเข้าวากันต่อ .. ^^”

Spot name : พระธาตุนารายณ์เจงเวง
Location : อ.เมือง สกลนคร
Google maps : https://goo.gl/maps/24BLEgtFacC8PVim8
Entrance fee : Free
Opening hours : N/A
Visited date : 23 June 2019

จริง ๆ เรามีหลายช้อยส์มากในการแวะวัดอีกสักวัดนึง แต่เราก็เลือกพระธาตุที่นี่กันค่ะ เพราะดูรูปแล้วดูแปลกตาดี ไม่เหมือนพระธาตุที่อื่น ๆ ที่เราไปกันมา

ดูมีความเก่าหลงเหลือให้เห็นค่ะ เป็นพระธาตุอิฐ ๆ ไรงี้อะนะคะ

ข้าง ๆ มีพญานาคอยู่ด้วย

จากนั้นเราก็จะไปพระธาตุเชิงชุมกันอีกที่นึง แต่ว่าถนนด้านหน้าวัดปิดแล้วค่ะ เพราะเป็นถนนคนเดินผ้าคราม ก็เลยต้องจอดรถไว้ใกล้ ๆ ถนนผ้าคราม แล้วเดินช้อปปิ้ง ดูงานผ้าครามซักแป๊บแล้วค่อยแวะวัดทีหลังก็แล้วกันนะ ^^”

Spot name : ถนนคนเดินสกลนคร / ถนนผ้าคราม / ถนนผ้าย้อมคราม
Location : อ.เมือง สกลนคร
Google maps : https://goo.gl/maps/Zd6c2MhCJRRY8D2U8
Entrance fee : Free
Opening hours : Sat-Sun 15.00-20.00
Visited date : 23 June 2019

ตอนที่ไปก็ผู้คนไม่เยอะมากค่ะ ลักษณะก็จะเป็นแผงตั้งขายสินค้าจากผ้าย้อมครามหรือผ้าครามนี่แหละค่ะ ตลอด 2 ข้างถนนเลย ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นเสื้อผ้า เครื่องประดับต่าง ๆ อย่างเช่น เข็มขัด ที่คาดผม ต่างหูไรงี้ค่ะ แล้วก็ยังมีรองเท้า กระเป๋าด้วย

คนที่รักผ้าไทย ชอบแต่งตัว ไม่ควรพลาดค่ะ เคโกะกับเพื่อนโดนกันไปหลายชิ้นเลยแหละ ^^

ที่ชอบเป็นพิเศษคือรองเท้าค่ะ รองเท้าหนังแหละแต่เค้าบุผ้าครามไว้ด้านนอกค่ะ เก๋มากกกกกก แล้วก็ใส่สบาย ไม่กัดเท้าด้วยนะ ^^

ปิดท้ายทริปด้วยพระธาตุเชิงชุมค่ะ วัดที่มีชื่อเสียงของสกลนครค่ะ

Spot name : วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร
Location : อ.เมือง สกลนคร
Google maps : https://goo.gl/maps/XxTRPVLeUFNwyiQH9
Entrance fee : Free
Opening hours : N/A
Visited date : 23 June 2019

ตอนที่เราเข้าวัดไป ก็เริ่มเย็นโพล้เพล้แล้วค่ะ

ไหว้พระธาตุเสร็จ เค้าก็เปิดไฟประดับพระธาตุและรอบ ๆ วัดพอดีเลย

ข้าง ๆ เป็นวัดค่ะ ที่นี่กว้างใหญ่มาก ๆ เลย

รั้ววัดก็ไม่ใช่กำแพงธรรมดา ๆ หากแต่เป็นสิงห์ยาวตลอดแนวค่ะ

ก็จบทริปสกลนครลงอย่างประทับใจค่ะ ไม่คิดว่าเมืองเล็ก ๆ อย่างสกลนครก็มีอะไรที่น่าสนใจ และให้ไปเดินเที่ยวชมเยอะอยู่นะคะ … แม้จะสายบุญเข้าวัดซะเยอะก็ตาม ฮาาาาาา

เดี๋ยวโพสต์หน้าจะรวมของกินในทริปนี้ให้ค่ะ รอแป๊บน้าาาาาาาาา~

แวะไปเม้าท์มอยระหว่างรอโพสต์ใหม่ ๆ ได้ที่เพจนะคะ
https://www.facebook.com/thisiskeigo/

Nakhon Phanom

สวัสดีค่ะ ในทริปสกลนครที่ไปมาเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็มีโผล่ไปที่นครพนมอยู่ 2 วัน 1 คืนด้วยค่ะ ตามคำชวนจากเพื่อนของเพื่อนที่ไปด้วยกัน มาดูกันค่ะว่าระยะเวลาเท่านี้ จะไปไหนกันได้บ้าง

เคโกะไม่ตัดทอนโพสต์ทีละ 1 สถานที่นะคะ ขอรวบยาว ๆ จบไปเลยในโพสต์นี้โพสต์เดียวเลยนะคะ ยาวนิดนึงน้าาาา

เริ่มจากสถานที่แรกเลยค่ะ ด้วยความที่เพื่อนชอบและสนใจในไดโนเสาร์ ก็เลยชวนไปตามหารอยเท้าไดโนเสาร์กัน เพราะเห็นว่าที่นครพนมเค้ามีแหล่งรอยเท้าไดโนเสาร์ด้วยค่ะ .. ไปกัน

Spot name : แหล่งเรียนรู้รอยเท้าไดโนเสาร์ ท่าอุเทน
Location : ท่าอุเทน นครพนม
Google maps : https://goo.gl/maps/fKgNrkKEMKLQkQVG6
Entrance fee : Free
Opening hours : Always open
Visited date : 22 June 2019

ขับรถมาตามกูเกิ้ลแม็พ สองข้างทางมีแต่ต้นไม้ ท้องฟ้า และรถบนถนนที่มีนาน ๆ คันนึง ทำเอาใจไม่ดีว่าหมุดที่ปักไว้ผิดหรือเปล่านะ แต่ในที่สุดเราก็มาถึงหมุดที่ปักไว้เป๊ะค่ะ ดูเงียบเหงา รกร้าง ไม่มีผู้คนเลยจริง ๆ ทิ้งไว้เพียงแต่ซากอารยธรรมที่ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้เคยมีคนคึกคักมากแค่ไหน

สามารถขับรถเข้าไปจอดด้านในได้ตามอัธยาศัยเลยค่ะ ว่างไปหมด ไม่มีใครเลยนอกจากเราสองคนจริง ๆ

ตัวอาคารที่จัดแสดงเป็นอาคารชั้นเดียว .. ก็อย่าเรียกว่าอาคารเลยเนอะ ดูดีเกินไป (ฮาาา) เป็นเพียงหลังคาสังกะสีคลุมไว้อะค่ะ แล้วก็มีทางให้เดิน สามารถขึ้นไปชมได้ทั้งขั้นบันไดและทางลาด (มีทางลาดด้วยนะ แอบแปลกใจและทึ่งกับความอำนวยสะดวกกับคนที่ไม่สะดวกเดินขึ้นเดินลงค่ะ)

แล้วก็จะมีป้ายเขียนคำอธิบายถึงความเป็นมาของที่นี่ด้วย

ไหน เจ้าไดโนเสาร์ พาเราไปดูหน่อยจิ๊~

มีป้ายอธิบายว่าบริเวณนี้มีรอยเท้าไดโนเสาร์ที่ถูกค้นพบอยู่มากทีเดียว มากถึง 202 รอย (ถ้าจำไม่ผิด) ค่ะ แล้วก็ทำแผนผังรอยเท้าให้ดูประกอบด้วยนะ

แต่มันควรจะมีอะไรให้เราดูเยอะมาก ๆ ก็กลับกลายเป็นว่าทั้งเคโกะและเพื่อนต่างก็มองหาไม่เจอค่ะ นี่เป็นรอยที่ชัดที่สุด ที่เราว่า เออ มันใช่รอยเท้าไดโนเสาร์แหละเธ๊อ ไรงี้

โดยส่วนตัว เคโกะว่าน่าเสียดายกับแหล่งท่องเที่ยวตรงนี้มาก ๆ เลยค่ะ ทำมาทุกอย่างพร้อมสรรพดีแล้ว แต่ขาดการเอาใจใส่ บำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพดี รวมไปถึงการจัดแสดงรอยเท้าที่น่าจะทำให้ชัดเจนกว่านี้สักหน่อย เช่น ทำป้ายชี้ว่ารอยตรงไหนบ้าง ของสายพันธุ์ไหน หรืออาจจะใส่เกม interactive ก็ได้ว่าให้จับคู่รอยเท้ากับเจ้าของไรงี้ ก็น่าจะพอดูน่าสนใจมากขึ้น

เคโกะว่า เพราะความว่างเปล่า จัดแสดงเหมือนจัดบอร์ดในโรงเรียนอะค่ะ เลยทำให้ขาดความน่าสนใจไป พอบอกต่อ ๆ กันปากต่อปากว่ามันไม่มีอะไร ก็กลายเป็นไม่มีอะไรไปจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ก็มีอะไรให้ศึกษาอยู่นะ 🙂

จากนั้นเราก็ออกจากที่ตรงนั้นไปต่อที่พระธาตุท่าอุเทนค่ะ เรานัดเจอเพื่อนเจ้าถิ่นไว้ที่นั่น

Spot name : พระธาตุท่าอุเทน
Location : ท่าอุเทน นครพนม
Google maps : https://goo.gl/maps/sgx6aVipAqBwMKvR7
Entrance fee : Free
Opening hours : Always open
Visited date : 22 June 2019

สิ่งที่ดีงามของพระธาตุแห่งนี้ก็คือ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงเลย สามารถเดินข้ามถนนมาเพื่อชมทัศนียภาพสวย ๆ ของริมแม่น้ำโขงได้ค่ะ

เสียอย่างเดียว วันที่เราไปกันนั้น แดดร้อนมากกกกกกกกกกกกกกกกค่ะ ร้อนเสียจนคุณป้าที่อยู่ตรงโต๊ะจำหน่ายธูปเทียนบอกว่า ไม่ต้องถอดรองเท้า ใส่รองเท้าเข้าไปได้เลย เพราะแดดร้อน เลยทำให้พื้นร้อนมาก เหยียบเท้าเปล่าไม่ไหวแน่ ๆ ค่ะ

จากนั้นเราก็กลับเข้าที่พัก แล้วค่อยออกมาใหม่ในตอนบ่ายแก่ ๆ และสถานที่เพื่อนเจ้าถิ่นพาไปก็คือ อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ค่ะ

Spot name : Ho Chi Minh Museum / อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์
Location : อ.เมือง นครพนม
Google maps : https://goo.gl/maps/pe6cM4gNgSNjWu1LA
Entrance fee : N/A (จำไม่ได้นะคะ ตามเค้าไปอะค่ะ แหะๆ)
Opening hours : 8.00-17.00
Visited date : 22 June 2019

เคยได้ยินและรู้มาก่อนหน้าแล้วว่าบ้าคโฮเค้ามีบ้านในไทย แต่ก็ลืม ๆ ไปว่าอะไรยังไง จนมาถึงแล้วถึงได้นึกเรื่องนี้ออกมาได้ค่ะ ซึ่งที่นี่เค้าสร้างขึ้นมาใหม่ แต่บ้านหลังจริง ๆ ที่บ้าคโฮอยู่นั้นก็ยังอนุรักษ์ไว้อยู่ เป็นบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ กันค่ะ จะเข้ามาถึงอนุสรณ์สถานที่นี่ ก็ต้องผ่านบ้านหลังดั้งเดิมของเค้าอยู่แล้ว

บ้านหลังดั้งเดิมค่ะ

เราขับรถเลยเข้าไปในบ้านหลังใหม่ที่เค้าทำขึ้นมาซะไฉไล สวยงามทีเดียวค่ะ

ตรงปากทาง เคโกะคลับคล้ายคลับคลาว่ามีโต๊ะอยู่ตรงทางเข้า แต่จำไม่ได้จริง ๆ ค่ะว่าเสียค่าเข้าไหมนะ

ด้านในค่อนข้างจะกว้างขวาง ใหญ่โตโอ่อ่ามากเลยค่ะ

แล้วก็ขึ้นไปเคารพบ้าคโฮกันสักนิดนึงค่ะ

มีเขาอยู่ด้านหลังอนุสรณ์สถานแห่งนี้ด้วย ไม่แน่ใจว่าจำลองขึ้นมาหรือมีอยู่แล้วนะคะ

รอบ ๆ ก็จะมีบ้านหลังเล็ก เข้าใจว่าจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ไว้ด้วย และก็ยังมีรูปถ่ายภาพประวัติศาสตร์ต่าง ๆ จัดแสดงไว้ด้วยค่ะ

ถ่ายจากด้านหลังตัวอาคารค่ะ ดูใหม่และใหญ่มากเลย

จากนั้น เราก็ไปริมน้ำโขงกันค่ะ เดี๋ยวเราจะไปล่องเรือลำน้ำโขงกัน

ไปถึงแล้วก็มีเวลานิดหน่อย ก่อนถึงเวลาล่องเรือ ซึ่งปกติแล้วจะมีวันละ 1 รอบ ตอน 5 โมงเย็น ราคา 50 บาทค่ะ เราก็เลยไปไหว้พญานาคที่ริมน้ำโขงกันก่อน

Spot name : Naga Monument / พญาศรีสัตตนาคราช
Location : อ.เมือง นครพนม
Google maps : https://goo.gl/maps/LvLa4ScBxC8XaspZ8
Entrance fee : Free
Opening hours : Always open
Visited date : 22 June 2019

ท่าเรือที่จะไปลงเรือนั้นก็อยู่ใกล้ ๆ กันแหละค่ะ จะมี 2 แบบคือล่องเรืออย่างเดียว (ที่บอกราคาไปแล้ว) กับอีกแบบคือเป็นเรือล่องแม่น้ำพร้อมอาหารเย็นด้วย แบบนี้จะราคาแพงกว่าค่ะ

ใกล้ ๆ กับท่าเรือก็มีป้ายสุดเขตแดนสยามด้วย

วันที่ไปก็บังเอิญว่ามีคนเหมาเรือไปหมดแล้ว กำลังจะถอดใจแล้วไปที่อื่นแทน ก็มีคนกลุ่มนึงมาชวนให้รอรอบ 6 โมงเย็นด้วยกัน เพราะเค้าโทรไปติดต่อเรือให้เพิ่มรอบอีกรอบแล้ว แต่จำนวนคนต้องมีมากพอที่จะออกเรืออีกรอบได้ค่ะ

ไหน ๆ ก็มาแล้ว ก็เลยรอขึ้นเรือค่ะ

ท่าเรือและเรือที่ใช้ก็จะประมาณนี้ค่ะ เรือเป็นเรือ 2 ชั้น ส่วนใหญ่ก็นั่งชั้นบนกันนะ และชั้นล่างมีจำหน่ายเครื่องดื่มและลูกชิ้นปิ้งด้วยค่ะ

จริง ๆ มารอบ 6 โมงก็ดีเหมือนกันนะคะ เย็นกำลังดี แดดไม่ร้อนด้วย

บนเรือมีไกด์คอยแนะนำสถานที่ต่าง ๆ ทั้งซ้ายและขวาตลอดเส้นทาง สลับกับเปิดเพลงนิดหน่อยค่ะ

แล้วไกด์ก็บรรยายถึงคนนึงที่เค้ากำลังว่ายน้ำข้ามแม่น้ำโขงไปฝั่งลาวอยู่ .. เคโกะก็แบบ เห้ยยยย เอาจริงดิ ก็แอบไกลอยู่นะ ><~

เค้าไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ยคะ ใครก็ได้ยืนยันให้เคโกะที~

เค้าได้ยินเสียงไกด์แซวค่ะ เลยมาโบกมือให้

พระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าแล้วค่ะ

เดินมาท้ายเรือ ถ่ายรูปท้องฟ้าไว้หน่อย ยามเย็นพระอาทิตย์ตกดินแบบนี้ ท้องฟ้าสีสวยมากเลย

มาดูแสงทไวไลท์ยามเย็นกันนะคะ ก็เป็นข้อดีของการมารอบ 6 โมงเย็นเนอะ ได้เห็นวิวสวย ๆ และท้องฟ้าสวย ๆ แบบนี้ค่ะ

เรือวนกลับมาส่งที่เดิมนะคะ เห็นพญานาคพ่นน้ำยามค่ำพอดี สวยไปอีกแบบค่ะ

วันต่อมา เราก็ออกจากโรงแรม ไปซื้อของฝาก (ที่แอบผิดหวังเบา ๆ เดือนร้อนเพื่อนเจ้าถิ่นที่ต้องวิ่งหาร้านอร่อยแล้วเอามาส่งให้ ^^”) แล้วปิดท้ายนครพนมที่วัดพระธาตุเรณูค่ะ เป็นพระธาตุสีชมพู น่ารัก น่าสะดุดตา

Spot name : วัดพระธาตุเรณู
Location : เรณูนคร นครพนม
Google maps : https://goo.gl/maps/h4JKXy7HK1yvSbf16
Entrance fee : Free
Opening hours : Always open
Visited date : 23 June 2019

จุดเด่นของเมืองนครพนมอีกอย่างก็คือจะมีพระธาตุประจำวันเกิดด้วย แต่เคโกะก็ไม่ได้อะไรมากมายกับเรื่องนี้ค่ะ ก็เลยไม่ได้ดั้นด้นไปพระธาตุประจำวันเกิดตัวเอง ซึ่งพระธาตุทุกที่ที่เคโกะไป ไม่ใช่พระธาตุวันเกิดของตัวเองและของเพื่อนเลยนะ ฮาาาา ก็งง ทำไมไม่ไปล่ะ 55555

แวะไปเม้าท์มอยกันได้ที่เพจค่ะ เดี๋ยวสกลนครมาค่ะ แป๊บน้าาาา
https://www.facebook.com/thisiskeigo/

[Taipei] Longshan Shi/Xingtian Temple/Xiahai City God Temple

สวัสดีค่ะ กลับมาต่อกันไว ๆ กับไต้หวันนะคะ อีกนิดเดียวน้าาา จะจบแล้วค่ะ ><“

โพสต์นี้จะพาไปไหว้พระที่วัดดังในไทเปกันแบบเร็ว ๆ 3 วัดด้วยกันค่ะ และที่ว่าเร็ว ๆ นั้นก็เป็นเพราะว่าตอนที่เคโกะไปไทเปนั้น ฝนตกตลอดเลยค่ะ ทั้ง ๆ ที่อยู่ต่างจังหวัดอากาศดี๊ดี ท้องฟ้าแจ่มใสตลอดเลยแท้ ๆ T.T

จำได้แม่นเลยค่ะว่าช่วงปีใหม่ 2018-2019 (ก็ที่เพิ่งผ่านมานี่แหละ) ดูคอนเสิร์ต Mayday (วงดนตรีไต้หวัน) ผ่านทีวีที่ถ่ายทอดสดจากไทเปอยู่ที่โฮสเทล แล้วเป็นเวทีกลางแจ้งอะ ก็เล่นคอนกลางสายฝน แฟน ๆ ก็เชียร์กันกลางสายฝนอย่างนั้นเลยค่ะ คนดูแลโฮสเทลยังบอกเลยว่า ที่ไทเปฝนตกทุกวัน ผิดกับที่ไถหนาน ที่อากาศสดใสมาก ๆ – -“

เพราะอากาศไม่เป็นใจ ก็เลยหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปเร็ว ๆ ค่ะ เลยเป็นที่มาของการเล่าเรื่องแบบเร็ว ๆ นะคะ แหะๆ

Spot name : Lungshan Temple / Longshan Shi / Longshan Temple / 龍山寺
Google maps : https://goo.gl/maps/X7yjvqLDGDL5oBVm7
Transportation : MRT Longshanshi Station exit 1, aross the road
Entrance fee : Free
Opening hours : always open
Visited date : 1 Jan 2019

วัดนี้เคโกะไปมาน่าจะเป็นรอบที่ 3 แล้วค่ะ (รอบที่แล้ว อ่านได้ที่นี่นะคะ)

วันนั้นเคโกะนั่งรถไฟมาจากไถจงค่ะ แล้วแว้บไปซื้อของช้อปปิ้งก่อนแล้ว ถึงได้พุ่งมาวัดปิดท้ายค่ะ ก็เลยมาถึงดึกไปหน่อย แหะๆ

ทางวัดมีธูปแจกให้กราบไหว้ได้ฟรี ซึ่งได้ลดทอนการใช้ธูปลงเหลือเพียงแค่ดอกเดียวค่ะ

ไหว้พระเสร็จแล้ว เคโกะก็พุ่งเข้าไปด้านในต่ออย่างคุ้นเคย (ใช่สิ เธอมาแล้วครั้งนึงนี่นา 55)

ใช่แล้วค่ะ เคโกะมาหาเทพแห่งความรักหรือ 月下老人 (เยว่เซี่ยเหล่าเหริน) อีกแล้วค่ะ แหะๆ วันที่ไปฝนก็ตกปรอย ๆ นะ (อย่างที่บอกไปตอนต้นอะค่ะ ฝนตกตลอดเลย – -“) แต่คนก็ยังมาไหว้ขอพร ขอเนื้อคู่ บลาๆ กันอยู่อย่างเนืองแน่นเช่นเดิมค่ะ

คราวก่อนเคโกะมาถามคำถาม ได้คำตอบที่น่าตกใจไปแล้ว ปีนี้เคโกะก็กลับมาถามคำถามใหม่อีกครั้งค่ะ (ไม่ใช่คำถามเดิมน้าาา) ซึ่งคำตอบที่ได้ก็ตรงดีค่ะ ก็พอรู้คำตอบอยู่บ้างแล้วอะนะ แค่ขอความมั่นใจอะค่ะ 5555

แล้วก็ขอด้ายแดงมาพกอีกเช่นเคย

ก่อนออกจากวัด ก็แวะซื้อเครื่องรางสักหน่อย เจอแต่คนไทยทั้งนั้นเลยค่ะ 55555

ซื้อเครื่องรางเรื่องความรักมาให้เพื่อน 2 ชิ้น สำหรับเพื่อน 2 คน ส่วนตัวเองมีด้ายแดงพอแล้วค่ะ (555) เลยเอาเครื่องรางเรื่องขับขี่ปลอดภัยมาแทน (ไม่ได้อยู่ในรูป) สามชิ้นสนนราคา 90NTD ค่ะ แต่ราคาไม่เท่ากันนะคะ ระหว่างของเคโกะกับของเพื่อนอะค่ะ

เสร็จแล้วก็อ้อยอิ่งอยู่ที่ตลาดข้าง ๆ วัดค่ะ จะว่าไป มาที่นี่สองสามรอบแล้ว เพิ่งได้มาเดินตลาดก็วันนั้นแหละค่ะ

เจอลูกชิ้นปลาร้านนี้ คนต่อคิวเยอะมากกกกก ฝนตกยังไงคนเค้าก็ไม่หวั่นจริง ๆ ก็เลยต่อคิวบ้างค่ะ

ไม้ละ 10NTD ซื้อ 10 ไม้แถม 1 ไม้นะคะ

เบลอ ๆ นิดนึง ทั้งฝนตก ทั้งเดินไปด้วย ทานไปด้วยค่ะ

ดูแล้วน่าจะเป็นลูกชิ้นปลาขึ้นชื่อของตงก่าง ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นท่าเรือ+ตลาดปลาที่เมืองผิงตง ทางใต้ของไต้หวันนะคะ

เนื้อลูกชิ้นปลา เคโกะดูเค้าทำแล้ว (เค้าทำและทอดสด ๆ ตรงนั้นเลยค่ะ) เหมือนลูกชิ้นปลากราย แล้วใส่ไข่นกกระทาตรงกลางค่ะ ปั้นให้รียาวเหมือนลูกรักบี้ แล้วจึงนำไปทอด เสียบไม้พร้อมทานได้ค่ะ มีราดน้ำจิ้มนิดหน่อยเพื่อเพิ่มรสชาติ โดยส่วนตัวแล้วคืออร่อยดีค่ะ เนื้อเด้งดึ๋ง หนุบหนับได้อารมณ์ลูกชิ้นปลาจริง ๆ ไม่แป้งค่ะ

จากนั้นเคโกะก็จะไปต่ออีกวัดนึง แต่ว่าวัดปิดแล้วค่ะ –ไม่รู้เอาอะไรคิดว่าดึกแล้ววัดจะยังเปิดอยู่น่ะ – -“

แล้วก็เลยเปลี่ยนใจ กลับที่พักค่ะ ไว้ค่อยไปต่ออีก 2 วัดที่เหลือในวันรุ่งขึ้นค่ะ

Spot name : Hsing Tian Kong / Xingtian temple / 行天宮
Google maps : https://goo.gl/maps/Aznqyorsn7NizMY7A
Transportation : MRT Xingtian Temple exit 3, walk straight on the road, temple is at intersection
Entrance fee : Free
Opening hours : 6:00 AM – 10:00 PM
Visited date : 2 Jan 2019

เลี่ยงมาตอนเช้าแทน เพื่อให้ชัวร์ว่าวัดยังเปิดอยู่แน่ ๆ แต่ก็มาเจอกับการสวดมนต์เช้าแทนค่ะ

ท่ามกลางฝนพรำ ๆ เช่นเคย

ด้านในอุโบสถ ก็มีทั้งพระและพุทธศาสนิกชนทั้งนั่งและยืนสวดมนต์กันอยู่อย่างพร้อมเพรียงค่ะ

เคโกะยืนรีรออยู่พักใหญ่ ไม่ทราบเลยว่าเค้าสวดกันนานแค่ไหนค่ะ แต่สุดท้ายแล้ว ก็ขออนุญาตแอบยืนไหว้จากด้านหลัง แล้วก็ออกค่ะ รอไม่ไหวจริงๆ T.T

Xing Tian Temple หรือวัดสิงเทียนนี้นะคะ เป็นวัดที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของไต้หวันค่ะ มีทั้งหมด 3 สาขา อีกสองสาขาจะอยู่ที่ Beitou และ Sanxia (รู้จักกันในชื่อ Xing Xiu Temple) สาขานี้เป็นสาขาที่มีอายุน้อยกว่า แต่กลับมีชื่อเสียงมากกว่า อาจจะเพราะด้วยการเดินทางที่สะดวกกว่าค่ะ

วัดนี้จะโดดเด่นเรื่องการทำนายดูดวงไรงี้อะค่ะ ว่ากันว่าดูได้แม่นทีเดียวค่ะ ส่วนตัวก็ยังไม่เคยลองนะคะ ^^”

ต่อไปเป็นวัดที่เคโกะไปตอนกลางคืนเมื่อวาน แล้วปิดค่ะ ^^”

Spot name : Taipei Xiahai City God Temple / Taipei Xia Hai Cheng huang miao / 台北霞海城隍廟
Google maps : https://goo.gl/maps/1ZspJrDNbrsXm5Yz9
Transportation : MRT Beimen station exit 3, walk straight on the Tacheng street about 10-15 minutes
Entrance fee : Free
Opening hours : 6.16AM-7.47PM
Visited date : 2 Jan 2019

ลักษณะก็จะเป็นศาลเจ้าเก่า ๆ หน่อยค่ะ อยู่ใกล้ ๆ กับตลาดสดเลย ใกล้ ๆ ก็จะมีลักษณะเป็นตึกเก่าด้วยนะคะ

ฝนตกพรำ ๆ เช่นเคย มีรูป 1 รูปถ้วน ฮาาาา

สำหรับที่วัดนี้ จะเด่นเรื่องขอพรความรักเนื้อคู่อะไรงี้ค่ะ

ซึ่งวิธีการก็คือ จะต้องซื้อชุดไหว้ที่มีเครื่องรางกับทางเจ้าหน้าที่วัดก่อน แล้วจึงไหว้พระรวมถึงขอเนื้อคู่ ขอพรกับเทพแห่งความรัก ด้วยค่ะ แล้วจึงปักธูปลงในกระถางที่เค้าจัดไว้ให้ เสร็จแล้วจึงนำเครื่องรางมาวนรอบกระถางธูป 3 รอบแล้วพกติดตัวไว้ เอากระดาษไหว้ไปวางไว้ในที่ที่ทางวัดจัดไว้ให้ค่ะ เค้าจะนำไปเผาให้เราเอง

วันที่เคโกะไป อย่างที่บอกนะคะว่าฝนตก ก็เลยไม่ได้ไหว้อะไรจริงจังเบอร์นั้นนะคะ อาศัยไหว้ธรรมดา ๆ เอาค่ะ ก่อนที่จะกลับไปที่พัก เพื่อไปสนามบิน กลับไทยแล้วค่ะ

โพสต์หน้าเป็นโพสต์สุดท้ายของทริปไต้หวันแล้วค่ะ กว่าจะโพสต์ครบจบทริปได้ก็กลางปีเข้าไปแล้ว T.T แง~
https://www.facebook.com/thisiskeigo/