Khanom (3D2N)

สวัสดีค่ะ ลัดคิวมาอีกแล้วตามประสานุช (555) โพสต์นี้บอกก่อนเลยว่าจะยาวนิดนึงนะคะ เพราะตั้งใจโพสต์เดียวให้จบทริปขนอมเลย ซึ่งเคโกะใช้เวลากับทริปขนอมนี้ไป 3 วัน 2 คืนค่ะ

แต่เดิมตั้งใจแค่ไปนอนดูทะเลเฉยๆ เพราะอย่างที่บอกไปแล้วในโพสต์ก่อนว่ามีเรื่องไม่สบายใจอยู่ค่ะ แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เลยไปเสิร์ช ๆ ดูว่ามีอะไรน่าเที่ยวบ้าง ก็เลยเจอว่ามีที่น่าเที่ยวเยอะอยู่ ซึ่งนอกจากที่เคโกะไปแล้ว ก็ยังมีพวกน้ำตกต่าง ๆ อีกนะคะ ซึ่งเคโกะขี้เกียจไปน้ำตกอะค่ะ ไม่ค่อยอินกับน้ำตกนะ (555) เพราะงั้น นอกจากในโพสต์นี้แล้ว จะมีน้ำตกต่าง ๆ และถ้ำอะไรอีกซักสิ่งด้วยค่ะ (ถ้ำนี่ เคโกะก็ไม่ค่อยอินเหมือนกัน 555)

เริ่มเลยค่ะ เดี๋ยวจะยาว แล้วจะขี้เกียจอ่านเนาะ 555

Location : Khanom, Nakorn Si Thammarat
Visited date : 28-30 May 2018
No of person(s) : 1
Transportation : AirAsia (DMK – NST – DMK) + self-drive, rented car

เคโกะบินไปลงสนามบินนครศรีธรรมราชด้วยสายการบินแอร์เอเชีย และรับรถที่ทำการจองไว้ล่วงหน้าผ่านเว็บของ Thai Rent A Car นะคะ ได้ Nissan Almera มา สีขาวคันเล็กกะทัดรัดเหมาะกับผู้หญิงเดินทางคนเดียวเลย

ไปถึงเวลาเที่ยง ๆ บ่าย ๆ แล้ว ก็จะหิวมากค่ะ แต่การขับรถคนเดียว มองทางไปด้วย หาร้านข้าวกินไปด้วย เป็นอะไรที่ลำบากมากพอดูเลย T.T

แต่สุดท้ายก็เลี้ยวเข้าร้าน “ขนมจีนครูพร” ขนมจีนน้ำยาปูนิ่มค่ะ ซึ่งจะอยู่ทางผ่านไปขนอมนั่นแหละ ถ้ามาจากสนามบินอย่างเคโกะก็ใช้เส้นทางมุ่งขึ้นทางทิศเหนือ (มุ่งเข้ากรุงเทพ — ไกลไป เอาสุราษฎร์ธานีพอเนอะ 555) ค่ะ จะอยู่ฝั่งซ้ายมือเลย แวะง่ายมาก ๆ และมีป้ายชวนชิมตลอดด้วย (ก็เป็นเหตุผลที่เลือกร้านนี้แหละนะ ^^”)

Locationhttps://goo.gl/e6nH8h

ทางร้านมีที่จอดรถให้ค่ะ จอดหน้าร้านได้ประมาณ 3 คัน และข้าง ๆ อีกเพียบค่ะ มีร้านกาแฟด้วย แต่เคโกะไม่ได้ชิมค่ะ

ขนมจีนของร้านจะเป็นเซ็ท ๆ เหมาะกับมาทานกันหลาย ๆ คนมากกว่า แต่เคโกะมาคนเดียว ทางร้านก็มีแบบจานเดี่ยวให้เลือกด้วยค่ะ เคโกะก็เลยเลือกขนมจีนน้ำยาปูนิ่มไป และเลือกของกินเล่นเป็นลูกชิ้นปลาลวกจิ้มค่ะ น้ำดื่มบริการตัวเองฟรีนะคะ

01

มาเที่ยวทางภาคใต้ สิ่งนึงที่คนชอบกินผักน่าจะชอบก็คือ ผักเคียงเค้าจะให้มาเยอะมากกกกกกกกกกกกกค่ะ

ส่วนรสชาตินั้น เคโกะถือว่าโอเคค่ะ ส่วนตัวไม่ใช่คนชอบทานน้ำยาที่ผสมกะทิเท่าไหร่ แต่พอได้ลองแล้วก็รู้สึกรสชาติจัดจ้านดีค่ะ ทานกับผักเคียงแล้วอร่อยมาก ส่วนลูกชิ้นปลาลวกจิ้มนั้นทำมาได้ดีเลยค่ะ

สนนราคารวม 95 บาทค่ะ

อิ่มแล้วก็เดินทางกันต่อได้ จุดแรกที่เคโกะจะแวะก็คือสวนปลาตอดค่ะ เอาจริง ๆ นะ เคโกะเองก็ไม่เคยเข้าร้านแนวฟิชสปามาก่อนเลยค่ะ นี่ครั้งแรกเลย ><

เคโกะไปที่สวนปลาตอด บ้านสวนสุวรรณค่ะ ค่ารักษาสถานที่ 20 บาท/คน มีที่จอดรถให้ด้วย และสามารถสั่งอาหารเครื่องดื่มมานั่งทานพักผ่อนสบาย ๆ ไปด้วยได้ค่ะ

Locationhttps://goo.gl/maps/7ZwHgZsovXx

ถ้าเราจะไปนั่งให้ปลาตอด พนง.เค้าจะเตรียมเสื่อและยากันยุงให้

DSC_7331

เคโกะไปนั่งแจมกับคุณพี่ผู้หญิงสองคนที่แวะมานั่งเม้าท์มอยกันเล่น เลยได้รู้ว่าที่บ้านสวนสุวรรณนี้เพิ่งเปิดใหม่ค่ะ อยู่ไม่ไกลจากสวนตาสวรรค์ที่โด่งดังเท่าไหร่ค่ะ ที่นี่ก็จะเงียบ ๆ สงบ ๆ กว่านะ

DSC_7335.jpg

เงียบสงบมากจริง ๆ

เคโกะนั่งให้ปลาจั๊กจี้เท้าได้พักเดียว ก็ออกค่ะ 5555 พยายามนิ่งยังไงก็ไม่ชินกับการที่มีปลามาจั๊กกะจี้ฝ่าเท้าซะทีอะค่ะ T^T .. คงไม่ใช่ทางของเราน่ะนะ 555

ต่อไปที่ขนอมแคนยอนค่ะ ซึ่งมันเป็นความโก๊ะของเคโกะและ Google Maps เลยค่ะ เพราะจริง ๆ แล้วมันอยู่ใกล้ ๆ กับบ้านสวนสุวรรณเลย แต่แค่เคโกะออกมาถึงถนนใหญ่ แล้วเลี้ยวขวาปุ๊บ ชีวิตก็เปลี่ยนเลยค่ะ เพราะ Google Maps route เส้นทางให้ใหม่ อ้อมโลกไปเพื่อวนกลับมาที่เดิม .. แบบแค่เลี้ยวซ้ายไปอีกหน่อยอะ ก็ถึงแล้ว … ทำไมไม่บอกให้กลับรถล่ะ ห๊าาาาาา -*-

Locationhttps://goo.gl/maps/b37uSFfmvy32

DSC_7336

ตรงนี้จะต้องค่อนข้างใช้ความสังเกตพอสมควรค่ะ ไม่มีป้ายใด ๆ บอกเลยยยยยย ขับรถผ่านไปแล้ว 1 รอบ (ตอนที่ไปบ้านสวนสุวรรณนั่นแหละ) ก็ไม่ได้สังเกตเห็นแต่อย่างใดค่ะ ความรู้สึกก็แบบ เหมือนเขาลูกนึง เหมือนหน้าผาไรสักสิ่งไรงี้อะค่ะ

จอดรถได้ที่ฝั่งตรงข้ามค่ะ มีเวิ้ง ๆ ลาน ๆ ให้จอดรถได้ซัก 4-5 คันค่ะ ข้ามถนนไปมาก็ระวังกันด้วยนะคะ เพราะเป็นทางโค้งค่ะ

DSC_7339

เราเข้าไปเดินเล่น แอคท่าถ่ายรูป portrait สวย ๆ ได้เลยค่ะ ถามเคโกะว่าสวยมั้ย .. ก็สวยค่ะ โอเคอยู่ แต่ถ้าไม่ผ่านทางนี้ ก็ไม่ได้จำเป็นต้องดิ้นรนมานะคะ T^T มันไม่ได้ดูแกรนด์ ดูยิ่งใหญ่แบบที่อื่น ๆ อะ

DSC_7342.jpg

อีกซักรูปปิดท้ายกับขนอมแคนยอนค่ะ วนรถไกลมาก ขอถ่ายรูปให้คุ้มนี้ดดด ^^”

DSC_7343

จากนั้นเคโกะก็พอใจแล้วค่ะ กลับเข้าที่พักไปเช็คอินดีกว่า (เคโกะโพสต์ไปแล้วนะคะ คลิกดูที่นี่ได้เลยค่ะ)

วันรุ่งขึ้น ตั้งใจออกเช้า ๆ หน่อยเพื่อไปนั่งเรือออกไปดูโลมาสีชมพู (พนง.รีสอร์ทแนะนำว่าให้ไปช่วงเช้าค่ะ) แต่ปรากฏว่าฝนตกหนักมากกกกกกกกก T^T ทำอะไรไม่ได้อีก ก็ต้องนอนอยู่ห้อง อ่านหนังสือ เขี่ยหน้าจอโทรศัพท์รอฝนซาแล้วก็ค่อยออกไปตะลุยต่อค่ะ

กว่าจะออกไปได้ ก็เกือบ ๆ เที่ยงแล้วก็เลยมองหาอะไรกินระหว่างทางไปด้วย ก็เลยได้ร้านบังชามาค่ะ ซึ่งเป็นร้านที่หมายตาไว้อยู่แล้ว แต่ในกูเกิ้ลลงเวลาเปิด-ปิดที่เป็นตอนเย็นค่ะ ซึ่งจริง ๆ เค้าเปิดตั้งแต่สาย ๆ แล้วนะคะ

Locationhttps://goo.gl/maps/vEsPSdALB9H2

02

เคโกะสั่งชาเย็นกับโรตีมะตะบะไป รอนานพอควร แต่โรตีมะตะบะที่ได้มาอร่อยมาก ๆ ค่ะ ส่วนชาเย็นนั้นเคโกะเฉย ๆ อะ

สนนราคารวม 60 บาทค่ะ

ในเมื่อฝนตก ทำแผนเที่ยวของเคโกะรวนไปหมดเลย ก็เลยเริ่มต้นที่เจดีย์ประการังค่ะ แต่แผนก็รวนไปอีกเพราะว่าวันที่เคโกะไป เป็นวันวิสาขบูชา ชาวบ้านและนักเรียนโรงเรียนใกล้เคียงก็มาทำบุญที่วัดกันเพียบค่ะ แม้ว่าเคโกะจะไปถึงช่วงเที่ยง ๆ แล้วก็ตาม ผู้คนก็ยังหนาตาอยู่ น่าจะอยู่ในช่วงทะยอยกันกลับหลังเสร็จงานบุญค่ะ ^^”

Locationhttps://goo.gl/maps/UbUqwmH979n

ในรีวิว เค้าขึ้นไปด้านบนกันได้ แต่เคโกะไม่กล้าขึ้นไปค่ะ ไม่มีใครขึ้นเลย ก็เลยถ่ายรูปอยู่แต่ด้านล่างค่ะ

IMG_6026.jpg

เหมือนจะเป็นการก่อกองทรายเข้าวัดเลยนะคะเนี่ย ^^”

IMG_6024

เสียเวลาอยู่ตรงนี้น้อยกว่าขับรถมาถึงอีกค่ะ T^T แล้วก็ไปต่อที่สะพานไม้ อ่าวเตล็ด

ระหว่างทางขับรถมาที่อ่าวเตล็ด ก็เจออุโมงค์ต้นไม้นี้เข้าโดยบังเอิญ สวยดี จนอดหยุดรถถ่ายรูปจากในรถไม่ได้ค่ะ (ด้านหลังไม่มีรถตามนะคะ แต่เคโกะก็จอดถ่ายแค่แชะเดียวแหละ แล้วก็ขับรถต่อค่ะ)

IMG_6027

ขับมาเรื่อย ๆ พอใกล้ ๆ ถึงก็จะมีป้ายบอกทางไปอ่าวเตล็ดค่ะ ตามป้ายโลดดด แล้วก็มาจอดรถไว้ด้านหน้าทางเข้าได้เลยค่ะ

DSC_7361

เดินไปอีกนิด ก็จะเห็นสะพานไม้ยาว ๆ ยื่นลงไปในทะเลทางซ้ายมือค่ะ ทางขวามือ (หรือตรงหน้านั่นแหละ) ก็จะเป็นร้านขายของเล็ก ๆ เลยร้านขายของตรงนี้ไปก็มีหลวงพ่อแดง ประดิษฐานในถ้ำให้กราบไหว้กันด้วยค่ะ เดี๋ยวเคโกะกลับมาตรงนี้นะคะ พาไปดูวิวทะเลอ่าวเตล็ดกันก่อนค่ะ

Locationhttps://goo.gl/maps/Lmb7zSiVNex

DSC_7364

ก็เป็นสะพานไม้ที่ดูแข็งแรงพอสมควร ยื่นลงไปในทะเลค่ะ สามารถชมวิวทะเลได้แบบ 360 องศาเลย คือถ้าชอบทะเล รักทะเล ไม่ควรพลาด ณ จุดนี้มาก ๆ ค่ะ น้ำใสกิ๊งงงงงเลย

DSC_7367

เดินมาจนสุดปลายทางสะพานไม้ ก็จะเป็นจุดขึ้นลงเรือค่ะ ซึ่งชาวเรือเค้าก็จะจอดเรือไว้แถว ๆ นั้นแหละ

DSC_7380

มาดูแบบพาโนรามากันบ้าง

IMG_6031

เป็นอ่าวที่เงียบ ๆ สงบ ๆ ดีค่ะ

ระหว่างที่เคโกะยืนถ่ายรูป ๆ หมุนไปหมุนมา (หามุมถ่ายรูปนะคะ ไม่ได้หามุมเซลฟี่แต่อย่างใด ฮาาาา) ก็มีคนเรือชวนไปนั่งเรือชมโลมาสีชมพู ดูนู่นดูนี่ ไรงี้ค่ะ เคโกะก็ถึงกับตาวาวเลยอะ เพราะทำใจไปแล้วอะค่ะว่ายังไงก็คงต้องสลับโปรแกรมไปนั่งเรือดูโลมาพรุ่งนี้เช้า ก่อนกลับกรุงเทพฯแทน แต่ถ้าเค้าชวนมางี้ ก็เลยสนใจขึ้นมาค่ะ

ถามไถ่ไปมา ว่ายังดูโลมาได้อีกเหรอ เค้าก็ยืนยันว่าได้ ถ้าไม่ได้เค้าก็จะวนไปหาโลมาให้ค่ะ

ราคาเหมาลำคือ 1000 บาทถ้วนค่ะ หลักๆก็จะพาชมโลมาสีชมพู, เขาพับผ้า และหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เกาะนุ้ย รวม 3 จุดค่ะ

ป้ะ ลุยยยย~

** เดี๋ยวถ้าว่าง ๆ แล้ว เคโกะจะทำเป็นคลิปลง youtube ด้วยล่ะค่ะ ถ่ายรูป + คลิปมาพอควรเลย ^^” ถ้าเสร็จแล้วจะอัพไว้แล้วจะแปะบอกหน้าเพจนะคะ

เขาพับผ้า ก็คือเขาที่มีลักษณะเหมือนหินซ้อนทับกันเป็นชั้น ๆ คล้ายผ้าพับซ้อนกันไปมาค่ะ เป็นลักษณะที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ

DSC_7389

อีกซักมุม

DSC_7403

คนเรือบอกว่าปกติแล้วเรือลำอื่นที่พาเที่ยว จะแค่พาดูรอบ ๆ เท่านั้น ไม่พาขึ้นเกาะไปเดิน ซึ่งขึ้นไปเดินเล่น ถ่ายรูปเล่นได้ค่ะ (รูปที่ถ่ายบนเขาพับผ้านั่น เป็นรูป profile ในเฟซบุ๊คส่วนตัวของเคโกะไปแล้วค่ะ 555)

แวะเกาะอีกซักเกาะนั่งเล่นอีกเกาะนึงค่ะ

IMG_6050

จากนั้นเราก็ไปไหว้หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเล เกาะนุ้ยกันค่ะ

IMG_6052

บ่อน้ำจืดที่ว่าค่ะ

IMG_6054

คนเรือเล่าให้ฟังว่ามีตำนานอยู่ คือ หลวงปู่และพระอีกหลายรูปที่โดยสารเรือมาจนถึงเกาะนี้ ก็แวะพัก แต่หาน้ำจืดไม่ได้ หลวงปู่ก็เลยอธิษฐานแล้วก้าวลงไป เกิดเป็นน้ำจืดขึ้นมาค่ะ

คร่าว ๆ ก็ประมาณนี้ล่ะนะคะ

เคโกะก็พาซื่อไปแอบชิมด้วยนะ รสชาติจะไม่ได้จืดแบบน้ำเปล่า หรือน้ำจืดซะทีเดียวอะค่ะ ออกกร่อย ๆ หน่อยน่ะนะ ^^”

แล้วก็ขึ้นไปกราบไหว้หลวงปู่ด้านบน ชมวิวด้านบนซักนิดค่ะ

DSC_7399

จากนั้นก็นั่งเรือต่อ วนๆ หาโลมาสีชมพูนี่แหละ

IMG_6059

ซึ่งสุดท้ายเราก็เจอค่ะ เจอตัวนึงโดดดึ๋ง ๆ ขึ้นมาให้เคโกะเชยชมอยู่สองตุ้บ ยังถ่ายรูปไม่ทันเลย 555 แล้วก็หายไป ไม่เจออีก

แต่ถึงจะถ่ายรูปไม่ได้ เคโกะก็โอเคนะคะ คือไม่ได้คาดหวังว่าออกเรือมารอบบ่ายจะเจอโลมาสีชมพูค่ะ เพราะเค้าก็ว่ากันว่าตอนเช้าจะมีโอกาสเจอสูงกว่า แต่ได้เจอโดยบังเอิญแบบนี้ก็ถือว่าโชคดีแล้วค่ะ ^^

บอกได้คำเดียวว่า โลมาสีชมพูน่าร้ากกกกมากจริงๆ ค่ะ ❤

เคโกะกรี๊ดกร๊าด แล้วก็บ่นว่าน่าร้ากกกก จนคนเรือแซวเลยค่ะ 555

ขากลับ คนเรือเค้าก็ชวน ๆ คุย คุยไปคุยมา เค้าก็บอกค่ะว่าก็เดาไว้อยู่เหมือนกันว่าเคโกะน่าจะมีเรื่องไม่สบายใจอยู่ ก็เลยพยายามชวนคุย พาไปดูนู่นนี่นั่นไรงี้ให้สบายใจและรู้สึกสนุก เคโกะเองก็อึ้งไปเลยนะที่ได้ยินแบบนั้นอะค่ะ คือ เราก็ไม่คิดไงว่าเค้าจะดูออก .. ดูออกได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรือคะเนี่ย T^T

แล้วเค้าก็พาไปดูกระชังปลาที่เลี้ยงกลางทะเลอีกที่นึงเป็นการตบท้ายค่ะ

IMG_6066

ไฮไลท์ที่พามาดูคือปลาดุกทะเลค่ะ ตัวใหญ่ม้ากกกกกกกกกกกก

จากนั้นก็พาไปหม่ำข้าวก่อนจะพากลับมาส่งที่อ่าวเตล็ดดังเดิมค่ะ แล้วก็ยังมีน้ำใจเดินไปไหว้หลวงพ่อแดง ถ้ำติสโสคูหาเทวาธรรมที่อยู่บริเวณนั้นด้วยค่ะ เป็นทางเดินขึ้นเขาเตี้ยๆไป ไม่กี่ก้าว ก่อนที่จะเข้าไปในถ้ำค่ะ ภายในถ้ำมีไฟส่องสว่างอยู่นะคะ ไม่ต้องกลัวมืดเนาะ

เรียบร้อยแล้วก็กลับค่ะ ถือเป็นทริปออกเรือที่ประทับใจมาก ๆ อีกครั้งนึงค่ะ

จริง ๆ แล้วการเหมาเรือชมโลมาสีชมพูนั้น ที่แนะนำ ๆ กันจะเป็นท่าเรือแหลมประทับนะคะ ไม่ใช่ที่อ่าวเตล็ดค่ะ ^^”

ไหน ๆ ก็ได้นั่งเรือไปละ เคโกะก็เลยวนรถไปแหลมประทับดูลาดเลาเผื่อไว้ให้คนอื่น ๆ ที่มาอ่านนะคะ

Locationhttps://goo.gl/maps/1h3L3r25A3A2

ท่าเรือแหลมประทับกับอ่าวเตล็ด จริง ๆ ก็ไม่ได้ไกลกันเท่าไหร่ค่ะ ถือเป็นระแวก ๆ เดียวกันนะ ระหว่างทางที่ไปแหลมประทับ ช่วงใกล้ๆ ถึงแล้วน่ะค่ะ วิวทะเลสวยมากกกกกกกจริง ๆ (แต่เคโกะหยุดถ่ายรูปไม่ได้อะ เป็นทางบนเขา ทางโค้งค่ะ T^T เสียดายเบาๆ)

มีที่จอดรถก่อนถึงทางลงท่าเรือ มีทั้งแบบเสียสตางค์และฟรีค่ะ เคโกะหลงเข้าไปจอดที่จอดฟรีมาแหละ ซึ่งเป็นตอนเย็นแล้วค่ะ ชาวบ้านแถวนั้นก็มองเคโกะแบบงง ๆ เล็กน้อย อารมณ์แบบ มาท่าเรืออะไรเวลานี้เนี่ย 555

DSC_7406

ก็จะเป็นท่าเรือที่มีเรือจอดเยอะๆ ค่ะ ถ้ามาช่วงเช้าน่าจะคึกคักน่าดูเลย เคโกะมาตอนเย็นแล้ว ก็เลยเงียบเหงาไปนะคะ

เก็บรูปมาให้เป็นแนวทางมาเนาะ

DSC_7410

จากนั้นก็กลับที่พักค่ะ

วันสุดท้าย เคโกะออกมาช่วงเช้า ตั้งใจมาทานติ่มซำที่ร้านแถว ๆ นั้นแหละค่ะ (เสิร์ชเจอในกูเกิ้ล) แต่ปรากฏว่าร้านปิดพอดี T^T

ก็กลับเลยค่ะ ไปดูวิวกันต่อที่เนินเทวดาค่ะ ทางไปโอเคอยู่ มีป้ายบอกตลอดทางเลยค่ะ แต่กูเกิ้ลแม็พเจอแต่ทางเข้านะคะ หมุดที่ปักไว้ ไม่ได้ไปถึงยอดเขาอะ มาได้ถึงใกล้ ๆ ก็ต้องคอยหาป้ายชี้ทางวนขึ้นเขาเองค่ะ – -”

Location : https://goo.gl/maps/dM2ktouWdNA2

ทางขึ้นเป็นทางขึ้นเขาที่ชันมาก ๆ ค่ะ ใช้เกียร์ต่ำเลยค่ะ ขึ้นมาตามทางจนกระทั่งถึงด้านบน ก็ปรากฏว่า ปิดซะงั้น!! คืออะไร๊~

IMG_6088

เอาจริงๆ งงมาก ณ จุดนั้น คือไม่คิดมาก่อนค่ะว่าจุดชมวิวมีเวลาเปิด-ปิดด้วยอะ – -”

ดูวิวรถกับเบื้องหลังที่จอดรถอยู่หน้าประตูที่ปิดเนี่ยละกันนะคะ ถือว่าขึ้นมาสูงใช้ได้เลย

IMG_6089

เคโกะวนไปวนมา ก็พอเห็นช่องทางแอบเข้าไป ><” (ขอโทษค้าาาาาา) ก็เลยเดินเข้าไปเงียบ ๆ ค่ะ

DSC_7415

เดินเข้ามาจนได้ แหะๆ

DSC_7420

ใกล้ ๆ กันมีเนินนางฟ้าด้วย แต่ทางไปเนินนางฟ้าก็มีประตูกั้นและล็อคกุญแจอีกค่ะ คราวนี้หาทางข้ามไปไม่ได้แล้วอะ ก็เลยยอมแพ้ค่ะ ><~

แต่เอาจริง ๆ นะ โดยส่วนตัวแล้วอะ เคโกะว่าวิวไม่ได้สวยขนาดนั้นค่ะ มันมีต้นไม้บังสายตาอยู่อะค่ะ ไม่ได้อิ่มเอมกับวิวทะเลเท่าไหร่เลย

รู้สึกไม่ค่อยคุ้มกับการขับรถปีนเขาสุดชันขึ้นมาเลยค่ะ ^^”

แปะรูปเวลาเปิด-ปิดประกอบนะคะ เคโกะไม่ได้มาผิดเวลาด้วยนะ บอกเลยยย

IMG_6090

ทางขึ้น-ลงจะผ่านโรงแรมเนอวานานะคะ แปะให้ดูประกอบ เผื่อจะโยนหมุดกูเกิ้ลแม็พมาที่นี่แทนค่ะ

IMG_6093

ถ่ายรูปตอนขาลงจากเนินเทวดาค่ะ ทางชันใช้ได้เลย

เพราะผิดแผนอีกแล้ว ก็เลยว่าจะขับรถไปอ่าวท้องหยีต่อค่ะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ก็อยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่

เอาจริง ๆ นะ ไปถึงแล้วรู้สึกก้ำกึ่งมากค่ะว่าคิดผิดหรือคิดถูกเนี่ยที่มา

ยังไงก็ตาม เคโกะก็ลุยมาถึงอ่าวท้องหยีละ

Locationhttps://goo.gl/maps/uhy3cP1DNeB2

IMG_6094

จอดรถตามสะดวกค่ะ อย่าจอดใต้ต้นมะพร้าวก็พอ เพราะลูกมะพร้าวอาจจะตกใส่รถได้ค่ะ ^^” (โดนบอกให้เลื่อนรถมาแล้ว เพราะไปจอดใต้ต้นมะพร้าวพอดี ไอ้เราก็กะว่าอาศัยร่มเงาหน่อยค่ะ ไรงี้ 55)

การมาถึงอ่าวท้องหยีนั้น จะว่าลำบากก็ลำบาก จะว่าง่ายก็ง่ายค่ะ ถนนที่มาเป็นถนนแคบ ๆ เส้นทางเดียวเท่านั้น ไม่มีทางอื่น ๆ มาอีก (เว้นทางเรือไปเนอะ)  ซึ่งระหว่างทางนั้น คดเคี้ยว แคบ และชันเป็นบางช่วงด้วยค่ะ

เคโกะมาถึงแล้วเพิ่งนึกออกอะว่าพนง.ที่รีสอร์ทก็บอกว่าสวย แต่ไม่แนะนำให้มาคนเดียวค่ะ เพราะมันมืด และแคบ (เค้าคงคิดว่ามาตอนเย็น ที่ไปเช็คอินที่พักน่ะนะ)

แต่วิวทะเลนั้นนนน สวยมากกกกกกกกกค่ะ เงียบและสงบอีกแล้ว

DSC_7427

คือถ้าใครมองหาทะเลสวย ๆ น้ำใส ๆ สงบ ๆ เงียบ ๆ นะ เคโกะว่าทะเลที่ขนอมเนี่ย ตอบโจทย์มาก ๆ ค่ะ 

อยากโผกอดผลิตมาก ณ จุดนั้น คือ ดีใจที่ได้ทำความรู้จักผลิตแล้วก็ตัดสินใจตามรอยมาที่ขนอมนี่ ได้ค้นพบว่าทะเลขนอมสวยมากแค่ไหน ซึ่งมันสวยมากจริง ๆ ค่ะ 

เดินเล่นตามหาดเรื่อยเปื่อย พักผ่อนสักหน่อย ก่อนจะต้องไปขับรถวน ๆ บนเขาทางแคบ ๆ เพื่อกลับออกไปจากอ่าวท้องหยีค่ะ

DSC_7428

เวลาเหลือไปอีก ขับรถวนต่อไปค่ะ แต่คราวนี้เคโกะกลับเข้าเมืองนครฯแล้วนะคะ ไปหาร้านอาหารใต้ที่น่าจะอร่อยทานบ้างค่ะ ^^”

หลับหูหลับตาเลือกร้านนายหนังมา อยู่ในเมืองนครฯค่ะ มีที่จอดรถให้อยู่หลังร้าน เดินทะลุจากด้านหลังร้านมาที่ร้านได้เลยค่ะ

Locationhttps://goo.gl/maps/xVndy67JN9x

มาคนเดียว แล้วไงล่ะ หิวมาก ๆ ค่ะ เพราะข้าวเช้าก็ยังไม่ได้กินไง ก็เลยจัดเต็ม 3 เมนูเล้ยยยย (555) มีห่อหมกไข่เจียว, ยำไข่ปลากระบอก และใบเหลียงผัดไข่ค่ะ

03

รสชาติโดยรวม อร่อยมากค่ะ โดยเฉพาะห่อหมกไข่เจียว เก๋ ๆ ดีค่ะ ก็ดูเป็นไข่เจียวอะนะ แต่รสชาติคือห่อหมกเต็มๆ ค่ะ

สนนราคารวม 335 บาท

เวลายังเหลือก่อนไปสนามบินเพื่อขึ้นเครื่องกลับค่ะ วนต่อไปที่ถนนท่าช้างค่ะ มีร้านขายเครื่องถม เครื่องเงินเพียบเลย ซึ่งเคโกะเห็นน้องคนนึงในเฟซบุ๊คเค้ามาคีรีวง และแวะซื้อเครื่องเงินอะค่ะ ก็เลยนึกออก แล้วก็เลยมาบ้าง (55)

จอดรถได้ที่บริเวณด้านหน้าสนามกีฬาค่ะ เคโกะเดินเข้าออกหลายร้านอยู่ ซึ่งแต่ละร้านก็ต้อนรับดีนะคะ ดูได้ ไม่ซื้อก็ไม่ว่าอะไรค่ะ จนไปจบที่ร้านศรีนคร ร้านสุดท้ายที่เข้าไปดูเลยค่ะ

Locationhttps://goo.gl/maps/mG2R9fLTxDq

ได้แหวนเกลี้ยง ๆ 1 วง + ต่างหู 2 คู่แบบเล็ก ๆ ค่ะ สนนราคารวม 420 บาท เคโกะโอเคกับราคานี้นะ ^^”

ยังค่ะ ยังไม่จบ ไปต่อกันที่ร้านเกลอเฮาส์ (Glur House) ต่อค่ะ เป็นร้านคาเฟ่ชิค ๆ สไตล์คนกทม.เลยแหละ จอดรถได้ตามไหล่ทางริมถนน จอดชิด ๆ ค่ะ ร้านจะอยู่ตรงข้ามกับสถานีตำรวจภูธรจังหวัดเลยนะคะ คนเยอะใช้ได้เลยแหละ

สั่งเมนูใหม่ของทางร้านค่ะ (จำไม่ได้แล้วว่าอะไร – -“) แต่ราคาแอบแรงค่ะ แก้วนี้ 95 บาท

04

จิบชาไป ไถหน้าจอมือถือไป ได้เวลากลับแล้วก็รีบบึ่งรถไปสนามบินค่ะ เป็นอันจบทริปอย่างสวยงาม ^^

ติดตามโพสต์หน้ากันต่อไปด้วยนะคะ จะแว้บกลับไปต่อทริปญี่ปุ่นละ ^^”

สุดท้าย ฝากเพจไว้ให้ติดตามกันด้วยนะคะ ^^”
https://www.facebook.com/thisiskeigo/