Chao Ruea + Pixzel Caffe

สวัสดีค่ะ ยังอยู่กับทริปขนอม จ.นครศรีธรรมราชอยู่นะคะ ซึ่งเป็นโพสต์สุดท้ายของทริปขนอมแล้ว ก็จะรวมเอาร้าน 2 ร้านที่เคโกะแวะทั้งขาไปและขากลับมาอยู่ในโพสต์เดียวกันนะคะ

ร้านแรกเป็นร้านที่แวะทานอาหารเที่ยง ก่อนขับรถดิ่งไปยังขนอมค่ะ เป็นร้านที่เคโกะเห็นน้องคนนึงเค้าแวะร้านนี้แทบทุกครั้งที่มานครฯเลย ก็เลยลองแวะดูบ้างค่ะ

Restaurant name : Chao Ruea / ชาวเรือ
Google maps : https://goo.gl/maps/A3vMUfSJ5dj72wFw9
Parking lots : yes
Location : อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
Opening hours : 10AM – 9.30PM
Visited date : 5 Oct 19

ร้านนี้มีที่จอดรถด้วย แต่อยู่ในซอยฝั่งตรงข้ามร้านค่ะ พอใกล้ ๆ ถึงร้านแล้วก็จะมีป้ายบอกทางไปที่จอดรถอยู่นะคะ

ร้านเป็นเรือนไม้ 2 ชั้น เคโกะเลือกขึ้นไปนั่งชั้น 2 ค่ะ จัดพื้นที่แอบงง ๆ นิดหน่อย แต่ดูให้ความเป็นส่วนตัวแต่ละโต๊ะดีเลย แล้วก็ดูร่มรื่น ดูเป็นธรรมชาติมาก ๆ ค่ะ

สั่งอาหารไปเรียบร้อยแล้วก็เริ่มที่เซ็ทอัพบนโต๊ะค่ะ

จานแรก เป็นหลนปูค่ะ เป็นหนึ่งในเมนูแนะนำของทางร้านเลย มาเป็นโถขนาดกลาง แต่อัดแน่นเต็มโถมากค่ะ พร้อมด้วยผักแกล้มนานาชนิดแบบเต็มที่เช่นกัน

ปูมาเป็นก้อน ๆ เลยนะคะ ไม่ได้ยีมาเส้นเล็กเส้นน้อยแต่อย่างใด เพราะงั้นทานเข้าไปก็จะได้สัมผัสของเนื้อปูเต็มปากเต็มคำมาก ๆ ค่ะ อร่อยเลยแหละ ^^ ผักเยอะดีด้วยค่ะ

จานต่อไป น่าจะเป็นปลากระบอกทอดขมิ้นนะคะ

ด้วยความที่ชอบทานปลาอยู่แล้ว แต่ครั้นจะสั่งปลามาทั้งตัวก็กระไรอยู่ ก็เลยมาลงที่ปลาทอดแบบนี้ล่ะค่ะ แต่ก็มาจานใหญ่อยู่เหมือนกันนะ ทอดมาได้กรอบ หอม อร่อยมากค่ะ โรยกระเทียมเจียวใส่มาด้วย หอมสุด ๆ เลย

จานต่อไปเป็นซิกเนเจอร์ของภาคใต้เนาะ มาแล้วก็ต้องหาทานกันค่ะ กับใบเหลียงผัดไข่

ตัวนี้ก็ทำมาได้ดีเช่นกันค่ะ ไม่อมน้ำมันจนเกินไปค่ะ

สนนราคารวม 560 บาทตามที่มีจดไว้ค่ะ (จดผิดขออภัยด้วยค้า) ซึ่งถามว่าราคานี้แพงไหม สำหรับตัวคนเดียวก็แรงอยู่ค่ะ แต่ว่าแต่ละจานก็มาจานใหญ่นะคะ เอาจริง ๆ เคโกะทานไม่หมดหรอก 3 จานนั่นน่ะ มีเหลือห่อกลับไปทานต่อด้วยค่ะ (555) แล้วก็อิ่มพุงกลมเลยแหละ

เพราะฉะนั้นแล้ว เคโกะว่าราคานี้รับได้ค่ะ อร่อยทุกจานเลยแหละ พนง.ก็บริการดี รวดเร็วอยู่ค่ะ ^^

มาต่อกันที่ร้านที่ 2 เลยนะคะ ซึ่งเป็นร้านที่เคโกะเสิร์ช ๆ เอา กะมานั่งเล่นฆ่าเวลารอเวลากลับไปที่สนามบินค่ะ เพราะไม่อยากไปนั่งแกร่วในสนามบินนะคะ

Restaurant name : Pixzel Caffe
Google maps : https://goo.gl/maps/SJTT9SwpiW9zycti9
Parking lots : no
Location : อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
Opening hours : 10AM – 6PM
Visited date : 7 Oct 19
Website : https://www.facebook.com/pixzelcaffe

เป็นร้านเล็ก ๆ น่ารักที่อยู่ตรงข้ามกับวัดมหาธาตุเลย ที่จอดรถหายากมากถึงมากที่สุด ซึ่งต้องจอดตามไหล่ทางเอานะคะ เคโกะโชคดีนิดตรงที่มีช่องให้จอดพอดี แต่ส่วนตัวไม่ชอบจอดรถท่านี้ไง แอบเหนื่อย T.T

ร้านน่ารักดีค่ะ ตกแต่งดูอาร์ต ๆ ดี สามารถตรงไปที่เคาน์เตอร์และสั่งอาหารได้เลย เค้าจะให้เบอร์มาและเอาอาหารที่สั่งมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะค่ะ

เคโกะสั่งเครื่องดื่มไป 1 แก้วเป็น Beach Boy Sunset ค่ะ แก้วนี้ 80 บาท

เครื่องดื่มมาสีสวยมากกกกกก ก็ต้องคน ๆ นิดนึงให้รสชาติด้านบนกับด้านล่างเข้ากันก่อนดื่มค่ะ ส่วนตัวน้ำแข็งสีฟ้า ๆ นั่น เคโกะลองเจาะดูดดูตอนที่น้ำใกล้หมดแล้ว น่าจะมีส่วนผสมแอลกอฮอล์อยู่นะคะ เพราะได้กลิ่นและรสเบา ๆ ค่ะ แต่โดยรวม อร่อยนะ

อีกจานนึงเป็นขนมทานเล่นค่ะ สั่งเป็น Banana Crape Rasberry มาค่ะ ราคา 95 บาท พนง.บอกว่าทางร้านทำเองด้วยค่ะ

ไม่รู้จะรีวิวยังไงดี ก็คือเครปอะ (5555) ก็เป็นเครปที่หน้าตาน่ารัก ตกแต่งจานมาได้น่ารักดีค่ะ ดูไม่เยอะและไม่น้อยจนเกินไป (หมายถึงการตกแต่งนะ) ส่วนรสชาติ ก็เครปอะค่ะ (5555) เป็นเครปนิ่มนะ ทานคู่กับไอศกรีมวานิลลาค่ะ ตัวราสเบอร์รี่เหมือนจะเป็นแบบแช่แข็ง ซึ่งรสจะออกเปรี้ยวโดดไปหน่อย เกินกว่าจะมาตัดรสหวานของเครปและไอศกรีม แล้วจะกลมกล่อมขึ้นน่ะค่ะ แต่ก็ไม่ได้แย่นะ ถือว่ากลาง ๆ ละกันค่ะ ^^”

โดยรวมก็เป็นร้านน่ารักที่น่ามานั่งดื่มน้ำ ทานขนม เม้าท์มอยกับเพื่อนไรงี้อะค่ะ

เม้าท์มอยกันที่เพจได้นะคะ ^^
https://www.facebook.com/thisiskeigo/

Kiriwong

สวัสดีค่ะ ในทริปขนอมของเคโกะนั้น เพราะความโก๊ะของตัวเองที่จองตั๋วบินผิดสนามบิน ไปที่นครศรีธรรมราชแทนที่ควรจะเป็นสุราษฎร์ธานีนั้น เลยทำให้หาที่แวะเที่ยวเพิ่มนอกเหนือไปจากขนอมค่ะ ก็เลยมาลงตัวที่คีรีวง ซึ่งเคโกะแวะไปช่วงเช้า ก่อนที่จะขึ้นเครื่องกลับมากทม.นะคะ

คีรีวงเค้าว่าเป็นแหล่งฟอกปอดที่ดีแห่งนึงในไทยเลยแหละ แต่ส่วนตัวก็รู้สึกว่า เออ อากาศดีมั้ย ก็ดีค่ะ แต่โดยรวม ๆ แล้วดีขนาดนั้นว่าต้องมาให้ได้มั้ย ก็ไม่นะ ..

อ่าว สรุปไปแล้วเฉ้ยยยย 555 มาดูกันค่ะ ทำไมเคโกะถึงคิดแบบนั้นนะ

Spot name : หมู่บ้านคีรีวง
Location : อ.ลานสกา นครศรีธรรมราช
Google maps : https://goo.gl/maps/iY3CeZ8rKZQFxbGd6
Entrance fee : Free
Opening hours : always open
Visited date : 7 Oct 19

** เคโกะไปก่อนที่จะมีข่าวดังเรื่องทำลายสิ่งแวดล้อมในคีรีวงนะคะ เพราะฉะนั้นเคโกะขออนุญาตไม่พูดถึงเรื่องที่มีประเด็นในข่าวนะคะ

ขับรถมาตามกูเกิ้ลแม็พและป้ายบอกทางมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งมาถึงจนได้ค่ะ สิ่งแรกที่เจอเลยก็คือสะพานตัวนี้

ไปถ่ายใกล้ ๆ หน่อยนะคะ เห็นเค้าชอบถ่ายรูปมุมนี้กัน ฮาาาา

ตอนที่ไป ก็เห็นมีคนถ่ายรูปอยู่บ้างประปราย ไม่ถึงกับเยอะอะค่ะ

แล้วก็เลยไปดูวิวนอกสะพานบ้างดีกว่า สวยกว่าสะพานอี๊กกก XD

ขับรถต่อวน ๆ เข้าไปที่หนานหินท่าหาค่ะ ระหว่างทางเห็นว่าจะมีตลาดด้วย ซึ่งเข้าใจว่าน่าจะเป็นตลาดเช้านะคะ ดูเงียบแบบเก็บของกันไปแล้วอะ

จอดรถตรงที่เค้ารับฝากรถ ค่าจอดคันละ 20 บาทค่ะ มีถนนแคบ ๆ รถวิ่งได้คันเดียวข้ามลำคลองเล็ก ๆ นี่ด้วย ก็แอบเสียวอยู่ ตามประสาค่ะ แหะๆ

จอดรถเสร็จแล้วก็เดินเล่นรอบ ๆ มีคนเล่นน้ำอยู่บ้างนิดหน่อย แต่ไม่ได้เยอะมากมากนักค่ะ

แถวนี้ก็ลักษณะเป็นลำคลองเล็ก ๆ แหละค่ะที่เกิดมาจากน้ำตกแถว ๆ นั้น ที่ดีคือน้ำใสมาก ดูสะอาดค่ะ ลงเล่นน้ำได้ และมีร้านค้าริมทั้งสองฝั่งเลย

อีกฟากนึงของถนนที่คั่นลำคลองนี้กลับเงียบกริบค่ะ ไม่มีคนเล่นน้ำเลย มีแต่คนถ่ายรูปเล่น (เคโกะก็คนนึงล่ะ 555)

ดูเวลาแล้วยังเหลือเวลาเดินเล่นอีก ก็เลยขับรถต่อเข้าไปยังน้ำตกวังไม้ปักค่ะ ซึ่งจะอยู่ลึกสุดของคีรีวงเลยค่ะ

ที่จอดรถอยู่ด้านหน้าทางเข้าน้ำตก ตอนที่ไป รถจอดอยู่ไม่เยอะเลยค่ะ

พอเดินเข้าไปด้านในบริเวณน้ำตก คนก็ไม่เยอะนะ มีคนเล่นน้ำอยู่บ้างนิดหน่อยค่ะ

แล้วก็สมควรแก่เวลาค่ะ รวมทั้งรู้สึกไม่ค่อยน่าสนใจด้วยล่ะ ก็เลยกลับดีกว่า

โดยสรุปนะคะ รู้สึกว่าเหมือนมีร่องรอยความคึกคักของนักท่องเที่ยวอยู่ช่วงนึงก่อนหน้านี้อะค่ะ แล้วเคโกะก็ไปเจอแต่ความเงียบเหงาและว่างเปล่า หลายสิ่งหลายอย่างดูผุพัง ขาดการเอาใจใส่ เช่น ป้ายบอกทางที่ดูทรุดโทรมแล้ว กองขยะกองโตริมสะพานปากทางคีรีวง ป้ายร้านอาหารที่ดูเก่าแล้ว ฯลฯ อะไรงี้อะค่ะ ก็เลยรู้สึกไม่ได้ประทับใจอะไรเท่าไหร่นัก

ฝากเพจด้วยค่าาา~
https://www.facebook.com/thisiskeigo/

Khanom 2019

สวัสดีค่ะ แอบติดใจขนอมจากที่เคยไปมาแล้วเมื่อปีที่แล้ว ปีนี้ก็เลยจัดไปอีกรอบค่ะ ^^

แต่คราวนี้ไม่ได้อยู่แต่ในขนอมตลอดทั้ง 3 วัน 2 คืนนะ แล้วจะขอแบ่งทริปนี้ลงเป็น 3 โพสต์ค่ะ ^^

จุดแรกที่แวะในขนอมก็คือ บ่อน้ำผุดธรรมชาติค่ะ ไปเห็นจากทวิตเตอร์ของนุชด้วยกันนี่แหละ ก็เลยลองตามไปดูบ้าง

Spot name : น้ำบ่อผุดธรรมชาติ
Location : อ.ขนอม นครศรีธรรมราช
Google maps : https://goo.gl/maps/vPEMCfz8PWFEhJvE6
Entrance fee : Free
Opening hours : N/A
Visited date : 5 Oct 19

ทางเข้าเป็นทางดินธรรมดา ๆ ยังไม่มีลาดยางค่ะ ที่จอดรถก็จอดได้ตามสะดวกเลย ^^” ส่วนเคโกะจอดที่ลานจอดตรงข้ามกับทางเข้าบ่อน้ำผุด ซึ่งมีหลุมใหญ่อยู่ด้วย ต้องขับระวัง ๆ นิดนึงด้วยค่ะ

ทางเข้าบ่อน้ำผุดก็จะประมาณนี้

เดินเข้าไปไม่กี่ก้าวก็จะเจอบ่อน้ำผุดแล้วค่ะ ตอนที่เคโกะไปก็มีครอบครัวใหญ่ครอบครัวนึงเค้ามาอยู่ก่อนหน้าแล้ว มีเด็ก ๆ เล่นน้ำกันอยู่ 2 คน แล้วเค้าเห็นเคโกะมาคนเดียว ก็เลยชวนคุยนู่นนี่นั่นค่ะ

ลักษณะก็จะเป็นบ่อน้ำขนาดไม่ใหญ่มากแหละ เข้าใจว่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากการผุดน้ำขึ้นจากพื้นดิน จนกลายเป็นบ่อน้ำค่ะ ซึ่งก็ยังพอจะมองเห็นจุดที่มีน้ำผุดขึ้นมาอยู่นะคะ น้อง ๆ ที่เล่นน้ำอยู่ ก็ยังชี้ให้ดูเลยค่ะว่าจะอยู่ตรงกลางบ่อ ซึ่งต้องลงน้ำไปดูอะ เคโกะขอผ่านค่ะ ไม่สะดวกน้อออ

แต่ก็ยังมีอีกจุดนึงที่สามารถดูจากบนฝั่งได้ค่ะ พ่อแม่ของเด็ก ๆ ชี้ให้ดูกัน ซึ่งก็เป็นตาน้ำผุดเล็ก ๆ มาก ๆ ค่ะ

สิ่งที่ดีงามเลยก็คือ น้ำใสมากกกกกกกกกกกกกก ใสจนมองเห็นพื้นดินที่อยู่ใต้น้ำเลยค่ะ

แต่ข้อเสียก็มีนะ เคโกะมองว่าค่อนข้างทรุดโทรมแล้วอะ ดูขาดความใส่ใจ และดูเหมือนมีร่องรอยความคึกคักของนักท่องเที่ยวหลงเหลืออยู่ ก่อนที่จะเงียบเหงาแบบนี้ค่ะ

จากนั้นก็ขับรถไปที่พักค่ะ ซึ่งเคโกะก็พักที่เดิมเลย คือที่ Leeloo Cabana Khanom ค่ะ ก็มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย ซึ่งเคโกะจะอัพเดทไว้ในโพสต์อันเดิมนะคะ เพราะไม่ได้เปลี่ยนไปมากอะ ^^ ตั้งใจจองห้องหมายเลข 7 อันเป็นการตามรอยอย่างสมบูรณ์แบบ แต่ทว่า พอไปถึง คุณเจ้าของ (คิดว่าใช่ค่ะ เพราะเป็นคนต่างชาติ ตรงกับข้อมูลที่ได้มาว่าเจ้าของเป็นคนต่างชาตินะ) ก็บอกว่าจองห้องเบอร์ 7 มาแต่ให้ไม่ได้นะ เพราะปลวกลงพอดีค่ะ ก็เลยได้ห้องเดิม ห้องเบอร์ 6 แทน T.T

คงไม่มาแก้มือแล้วนะคะ แหะๆ เว้นแต่มีคนลากมาด้วยอะค่ะ ..

มาดูวิวริมทะเลที่รีสอร์ทกันดีกว่า วิวดี เงียบสงบเหมือนเคย แต่เพิ่มเติมคือมีคนพลุกพล่านขึ้นเยอะจากรีสอร์ทข้าง ๆ ทั้งสองฝั่งค่ะ

เช้าวันต่อมา ตั้งใจออกเรือไปดูโลมาสีชมพู แต่เคโกะก็จำเวลาผิด ออกสายไปหน่อย.. ก็ไม่เท่าไหร่ค่ะ สายไปซักราว ๆ 2 ชม. เอ๊งงงง …

ช่วงเวลาที่เหมาะสมก็คือช่วงเช้า ๆ ประมาณ 7 โมงนะคะ อย่าสายเหมือนเคโกะนะ ><“

คราวนี้เคโกะมาที่ท่าเรือแหลมประทับค่ะ เป็นท่าเรือที่ยอดฮิตมากในการมาเช่าเรือเพื่อออกไปดูโลมาสีชมพูนะคะ

Spot name : ท่าเรือแหลมประทับ
Location : อ.ขนอม นครศรีธรรมราช
Google maps : https://goo.gl/maps/M7Fi5pr4PBMWpdgF6
Entrance fee : Free
Opening hours : เวลาที่เหมาะสมคือช่วงเช้าๆ ประมาณ 7 โมงค่ะ
Visited date : 6 Oct 19

มีที่จอดรถนิดหน่อยพอกรุบกริบ แต่จอดฟรีค่ะ แล้วเดินไปตามทางที่มีป้ายบอกชัดเจนว่าเป็นทางไปลงท่าเรือค่ะ แล้วพอถึงบริเวณท่าเรือก็จะเจอกับอนุสาวรีย์โลมาแบบนี้เลยค่ะ

เคโกะไปถึงก็สัมผัสได้ถึงความเงียบเหงา (อีกแล้ว 555) แล้วก็มีพนง.มาต้อนรับ ถามว่ากี่คน เคโกะก็ต้องตอบไปอย่างมั่นใจค่ะว่า “คนเดียวค่ะ” เพราะเค้าจะตะโกนต่อกันไปเพื่อให้คนเรือเค้าจัดเตรียมเรือค่ะ

ระหว่างรอคนเรือเค้าจัดเตรียมเรือ ก็เลยถ่ายรูปไปพลาง ๆ ทะเลดูค่อนข้างเงียบสงบดีค่ะ น้ำนิ่งเลยแหละ

เรือที่นี่มีเยอะเพียงพอบริการนักท่องเที่ยวค่ะ เป็นลักษณะให้เช่าเหมาลำ ลำละ 1000 บาทค่ะ เรือลำนึงก็จะบรรจุคนได้ประมาณ 6-7 คนค่ะ

แล้วเคโกะก็หันไปชวนคนเรือคุยบ้าง เค้าเล่าให้ฟังว่ามาช่วงนี้กำลังเหมาะเลย เพราะเพิ่งมีลูกโลมากำลังเล่นซนอยู่ 2 ตัวค่ะ เลยทำให้มีโอกาสเจอโลมาได้ง่ายขึ้น เพราะเค้าซนเนาะ พ่อแม่ก็ต้องคอยวิ่งไล่ประกบไรงี้ค่ะ ฮาาา

เค้าบอกด้วยว่ามีออกไปหลายลำแล้ว ก็เลยทำให้เคโกะเอะใจขึ้นมา แล้วถึงได้รู้สึกตัวว่า มาสายไปแล้วค่ะ 5555 (รู้สึกตัวช้าจริง ๆ – -“)

เอาล่ะ แต่เรือเคโกะมีแค่เคโกะคนเดียวไง น้ำหนักเบา ซิ่งง่าย ไปโลดค่าาา

เรือออกได้แป๊บเดียว ก็ตามเรือลำก่อนหน้าหลาย ๆ ลำที่เค้าวนหาโลมากันอยู่ก่อนแล้ว ก็วน ๆ กันอยู่ซักพัก เราก็ได้เจอกับโลมาค่ะ

เค้าก็พยายามวนเรือเข้าไปให้ใกล้ ๆ ให้เราได้เก็บภาพและได้เห็นอย่างเต็มที่อะนะคะ

อีกซักรูปเนอะ

มีถ่ายวิดีโอมาด้วยนะ ซึ่ง … ก็ยังไม่รู้ว่าจะว่างทำวิดีโอให้ดูกันเมื่อไหร่ค่ะ (ปีที่แล้วเคโกะก็พูดเงี้ยะ ผ่านไปปีนึง ก็ยังนอนแน่นิ่งในคอมอยู่เหมือนเดิมค่ะ ฮาาาาา)

เอาไว้ให้เคโกะว่างทำแล้วจะแปะบนเพจแจ้งให้ทราบกันนะคะ //ฝากติดตามเพจด้วยค่าาา แหะๆ

คนเรือวนให้ดูโลมาอยู่พักใหญ่ จนโลมาว่ายน้ำหนีหายไปจนไม่คิดว่าจะเจอแล้ว เค้าก็พาเคโกะไปที่เขาหินพับผ้าค่ะ

ลักษณะของหินพับผ้าก็คือ มีความเรียงเป็นชั้น ๆ คล้ายกับผ้าที่พับไว้เป็นตั้ง ๆ อะค่ะ

ก็เป็นลักษณะที่เกิดตามธรรมชาตินะคะ คราวนี้ต่างจากคราวที่แล้วที่คนเรือไม่ได้พาขึ้นไปเดินเล่นค่ะ ซึ่งคนเรือเมื่อปีที่แล้วเค้าก็เคยบอกไว้แล้วว่าปกติจะไม่มีใครพาไปเดินบนเขาพับผ้ากันค่ะ มีเค้าคนเดียว (ฮาาาา)

แล้วก็ผ่านกระชังเลี้ยงปลาที่อยู่กลางทะเล ซึ่งจากบริเวณนี้ ถ้าเรามองไปอีกฝั่งตรงข้าม (กระชังปลานี้อยู่ซ้ายมือ ก็มองไปทางขวามืออะค่ะ) ก็จะพอมองเห็นท่าเรือดอนสักที่ไปเกาะสมุย ซึ่งเป็นเขตจังหวัดสุราษฎร์ธานีค่ะ

แล้วเราก็จะมุ่งหน้าไปยังจุดถัดไปคือหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเล เกาะนุ้ยค่ะ

คนเรือก็จะเทียบเรือให้เราลง ซึ่งก็ลงไปคนเดียวนะคะ เค้าไม่ได้ตามมาด้วยนะคะ

เดินขึ้นไปตามขั้นบันไดเพื่อกราบไหว้หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลได้ค่ะ มีธูปเทียนให้พร้อมเลย

ทางเดินด้านล่างจะเป็นบ่อน้ำจืดเล็ก ๆ ที่เค้าเล่ากันว่าหลวงปู่ทวดมาเหยียบแล้วเกิดเป็นบ่อน้ำจืดอย่างอัศจรรย์เมื่อหลวงปู่มาที่เกาะนี้แล้วไม่มีน้ำจืดให้ใช้ค่ะ

ตอนที่ไปน้ำขึ้นพอดี เข้าไม่ได้ค่ะ ก็ต้องผ่านไป แต่เคโกะไม่ซีเรียสแหละ เพราะเคยมาแล้วค่ะ

แล้วก็กลับเข้าฝั่ง เป็นอันจบทริปออกเรือไปดูโลมาแล้วค่ะ

กลับมาถึงท่าเรือโดยสวัสดิภาพ แล้วก็จ่ายเงินค่าเรือให้กับคนเรือได้โดยตรงเลย แล้วก็กลับค่ะ

ระหว่างทางที่ออกไปจากท่าเรือนั้นจะมีทางช่วงนึงบนเขา ซึ่งวิวสวยม้ากกกกก คราวนี้เคโกะไม่พลาดแล้วแหละ หยุดรถแล้วถ่ายรูปซะเลยค่ะ ไหน ๆ ถนนก็ว้างว่างงงงง

แล้วก็กลับเข้าตัวเมืองขนอมค่ะ ซึ่งก็ยังมีเวลาเยอะอยู่เลยกว่าจะเย็น ก็เลยหาร้านกาแฟนั่งชิลล์ ๆ และอ่านหนังสือที่ติดไปด้วยค่ะ

หาในกูเกิ้ลแม็พจนได้ร้านนี้ค่ะ

Restaurant name : Frankies Coffee
Google maps : https://goo.gl/maps/9vSSFwJVpP66Y1wR8
Parking lots : yes
Location : อ.ขนอม นครศรีธรรมราช
Opening hours : 8.30AM – 5PM
Visited date : 6 Oct 19

ร้านเป็นร้านไม่ใหญ่มากค่ะ เข้าใจว่าเป็นบริเวณด้านหน้าทางเข้าขนอมบีชเรสิเดนท์นะคะ

ร้านตกแต่งแบบโล่ง ๆ ดี ไม่มีแอร์ แต่ก็ไม่ได้ร้อนอะไรค่ะ เพราะเปิดโล่งไปหมดเลย ส่วนที่จอดรถก็จอดได้ที่ด้านหน้าร้านเลยค่ะ

เคโกะเลือกมานั่งแอบมุม ดูวิวภายนอกเพลิน ๆ (เอ๊ะ ไหนว่าจะมาอ่านหนังสือ ?)

เคโกะสั่งชาเย็น กับแซนด์วิชทูน่าไปมั้งคะ รวมราคาประมาณ 150 บาทค่ะ

ชาเย็นเป็นชาเย็นที่รสเหมือนในกรุงเทพเลย คือไม่อร่อยค่ะ ชาเจือจางมาก ออกหวานและไม่มีกลิ่นชาเลย ไม่ผ่านอย่างรุนแรงค่ะ

ตัวแซนด์วิชก็กริลล์ขนมปังมาได้กรอบดี ผักแน่นไส้แน่นดีอยู่

โดยรวมก็ยังไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่อะค่ะ กับร้านนี้ 😦

เช้าวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับกทม. ก็ไปทานอาหารเช้าที่ร้านที่หมายตาไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วแล้วค่ะ ซึ่งครั้งนั้นพลาดไปเพราะไปตรงกับวันหยุดเค้าพอดี

Restaurant name : ขนอมติ่มซำ
Google maps : https://goo.gl/maps/4ELtTnNmvFZ3xpaC8
Parking lots : yes
Location : อ.ขนอม นครศรีธรรมราช
Opening hours : 6.30 – 11.30AM
Visited date : 7 Oct 19

ที่จอดรถจะอยู่ข้าง ๆ ร้านเลยค่ะ กว้างขวางดีอยู่ แล้วก็เดินไปสั่งที่เคาน์เตอร์ได้เลย รวมถึงหยิบติ่มซำต่าง ๆ ที่อยู่ในตู้ ส่งให้พนง. ไปอุ่นร้อนให้ได้ค่ะ

เคโกะสั่งโจ๊กไปเพิ่มอีกชามด้วยล่ะ

โจ๊กหมูเค้าจะวางผักชี, ขิงซอย และกระเทียมเป็นกระจุก ๆ ไว้ให้แบบในรูปเลยนะคะ เคโกะว่าก็สะดวกดีกับคนที่ไม่ทานอะไรบางอย่างค่ะ ก็ตักออกได้เนอะ

มีชาร้อนเสิร์ฟให้ทุกโต๊ะฟรีด้วยค่ะ ซึ่งชาฟรีแต่ก็หอมชาอะ อร่อยเลย

ติ่มซำที่สั่งไปทั้งหมด 6 เข่งก็มาวางเรียงให้ตรงหน้าค่ะ

ติ่มซำดูเพลน ๆ ดูทั่ว ๆ ไป ที่ไหน ๆ ก็มี แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายค่ะ เทียบกับราคาแล้วเคโกะถือว่าโอเคนะ

ปิดท้ายที่ชาเย็น ที่ชอบมาก ๆ ค่ะ เป็นชาเย็นแบบชาใต้ หอมชา ชาเข้มข้นมาก และไม่หวานเกินไปด้วย อร่อยมากจริง ๆ หาทานได้ยากในกทม.ด้วยค่ะ ใครเจอบอกพิกัดเคโกะหน่อยนะคะ ^^”

สนนราคารวมประมาณ 163 บาทค่ะ ราคารับได้อยู่นะ ถือว่าราคาดีเลยแหละกับรสชาติ ปริมาณไรงีด้วยค่ะ

ใครมาขนอม เคโกะแนะนำร้านนี้เลยนะคะ อย่าพลาด ๆ ^^

ฝากติดตามอีกสองโพสต์ในทริปนี้ด้วยนะคะ ไม่นานเกินรอค่ะ เพราะอยากเคลียร์ทริปตัวเองในปีนี้ให้หมดก่อนที่ทริปใหญ่ประจำปีของเคโกะจะมาถึง และน่าจะเป็นมหากาพย์รีวิวอีกเช่นเคย 5555 (ถ้าติดตามกันมานานแล้วก็น่าจะเดาได้ค่ะว่าทริปไปไหน อิอิ)

ฝากเพจด้วยค้าาาา //ยิ้มหวานนน
https://www.facebook.com/thisiskeigo/

Khanom (3D2N)

สวัสดีค่ะ ลัดคิวมาอีกแล้วตามประสานุช (555) โพสต์นี้บอกก่อนเลยว่าจะยาวนิดนึงนะคะ เพราะตั้งใจโพสต์เดียวให้จบทริปขนอมเลย ซึ่งเคโกะใช้เวลากับทริปขนอมนี้ไป 3 วัน 2 คืนค่ะ

แต่เดิมตั้งใจแค่ไปนอนดูทะเลเฉยๆ เพราะอย่างที่บอกไปแล้วในโพสต์ก่อนว่ามีเรื่องไม่สบายใจอยู่ค่ะ แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เลยไปเสิร์ช ๆ ดูว่ามีอะไรน่าเที่ยวบ้าง ก็เลยเจอว่ามีที่น่าเที่ยวเยอะอยู่ ซึ่งนอกจากที่เคโกะไปแล้ว ก็ยังมีพวกน้ำตกต่าง ๆ อีกนะคะ ซึ่งเคโกะขี้เกียจไปน้ำตกอะค่ะ ไม่ค่อยอินกับน้ำตกนะ (555) เพราะงั้น นอกจากในโพสต์นี้แล้ว จะมีน้ำตกต่าง ๆ และถ้ำอะไรอีกซักสิ่งด้วยค่ะ (ถ้ำนี่ เคโกะก็ไม่ค่อยอินเหมือนกัน 555)

เริ่มเลยค่ะ เดี๋ยวจะยาว แล้วจะขี้เกียจอ่านเนาะ 555

Location : Khanom, Nakorn Si Thammarat
Visited date : 28-30 May 2018
No of person(s) : 1
Transportation : AirAsia (DMK – NST – DMK) + self-drive, rented car

เคโกะบินไปลงสนามบินนครศรีธรรมราชด้วยสายการบินแอร์เอเชีย และรับรถที่ทำการจองไว้ล่วงหน้าผ่านเว็บของ Thai Rent A Car นะคะ ได้ Nissan Almera มา สีขาวคันเล็กกะทัดรัดเหมาะกับผู้หญิงเดินทางคนเดียวเลย

ไปถึงเวลาเที่ยง ๆ บ่าย ๆ แล้ว ก็จะหิวมากค่ะ แต่การขับรถคนเดียว มองทางไปด้วย หาร้านข้าวกินไปด้วย เป็นอะไรที่ลำบากมากพอดูเลย T.T

แต่สุดท้ายก็เลี้ยวเข้าร้าน “ขนมจีนครูพร” ขนมจีนน้ำยาปูนิ่มค่ะ ซึ่งจะอยู่ทางผ่านไปขนอมนั่นแหละ ถ้ามาจากสนามบินอย่างเคโกะก็ใช้เส้นทางมุ่งขึ้นทางทิศเหนือ (มุ่งเข้ากรุงเทพ — ไกลไป เอาสุราษฎร์ธานีพอเนอะ 555) ค่ะ จะอยู่ฝั่งซ้ายมือเลย แวะง่ายมาก ๆ และมีป้ายชวนชิมตลอดด้วย (ก็เป็นเหตุผลที่เลือกร้านนี้แหละนะ ^^”)

Locationhttps://goo.gl/e6nH8h

ทางร้านมีที่จอดรถให้ค่ะ จอดหน้าร้านได้ประมาณ 3 คัน และข้าง ๆ อีกเพียบค่ะ มีร้านกาแฟด้วย แต่เคโกะไม่ได้ชิมค่ะ

ขนมจีนของร้านจะเป็นเซ็ท ๆ เหมาะกับมาทานกันหลาย ๆ คนมากกว่า แต่เคโกะมาคนเดียว ทางร้านก็มีแบบจานเดี่ยวให้เลือกด้วยค่ะ เคโกะก็เลยเลือกขนมจีนน้ำยาปูนิ่มไป และเลือกของกินเล่นเป็นลูกชิ้นปลาลวกจิ้มค่ะ น้ำดื่มบริการตัวเองฟรีนะคะ

01

มาเที่ยวทางภาคใต้ สิ่งนึงที่คนชอบกินผักน่าจะชอบก็คือ ผักเคียงเค้าจะให้มาเยอะมากกกกกกกกกกกกกค่ะ

ส่วนรสชาตินั้น เคโกะถือว่าโอเคค่ะ ส่วนตัวไม่ใช่คนชอบทานน้ำยาที่ผสมกะทิเท่าไหร่ แต่พอได้ลองแล้วก็รู้สึกรสชาติจัดจ้านดีค่ะ ทานกับผักเคียงแล้วอร่อยมาก ส่วนลูกชิ้นปลาลวกจิ้มนั้นทำมาได้ดีเลยค่ะ

สนนราคารวม 95 บาทค่ะ

อิ่มแล้วก็เดินทางกันต่อได้ จุดแรกที่เคโกะจะแวะก็คือสวนปลาตอดค่ะ เอาจริง ๆ นะ เคโกะเองก็ไม่เคยเข้าร้านแนวฟิชสปามาก่อนเลยค่ะ นี่ครั้งแรกเลย ><

เคโกะไปที่สวนปลาตอด บ้านสวนสุวรรณค่ะ ค่ารักษาสถานที่ 20 บาท/คน มีที่จอดรถให้ด้วย และสามารถสั่งอาหารเครื่องดื่มมานั่งทานพักผ่อนสบาย ๆ ไปด้วยได้ค่ะ

Locationhttps://goo.gl/maps/7ZwHgZsovXx

ถ้าเราจะไปนั่งให้ปลาตอด พนง.เค้าจะเตรียมเสื่อและยากันยุงให้

DSC_7331

เคโกะไปนั่งแจมกับคุณพี่ผู้หญิงสองคนที่แวะมานั่งเม้าท์มอยกันเล่น เลยได้รู้ว่าที่บ้านสวนสุวรรณนี้เพิ่งเปิดใหม่ค่ะ อยู่ไม่ไกลจากสวนตาสวรรค์ที่โด่งดังเท่าไหร่ค่ะ ที่นี่ก็จะเงียบ ๆ สงบ ๆ กว่านะ

DSC_7335.jpg

เงียบสงบมากจริง ๆ

เคโกะนั่งให้ปลาจั๊กจี้เท้าได้พักเดียว ก็ออกค่ะ 5555 พยายามนิ่งยังไงก็ไม่ชินกับการที่มีปลามาจั๊กกะจี้ฝ่าเท้าซะทีอะค่ะ T^T .. คงไม่ใช่ทางของเราน่ะนะ 555

ต่อไปที่ขนอมแคนยอนค่ะ ซึ่งมันเป็นความโก๊ะของเคโกะและ Google Maps เลยค่ะ เพราะจริง ๆ แล้วมันอยู่ใกล้ ๆ กับบ้านสวนสุวรรณเลย แต่แค่เคโกะออกมาถึงถนนใหญ่ แล้วเลี้ยวขวาปุ๊บ ชีวิตก็เปลี่ยนเลยค่ะ เพราะ Google Maps route เส้นทางให้ใหม่ อ้อมโลกไปเพื่อวนกลับมาที่เดิม .. แบบแค่เลี้ยวซ้ายไปอีกหน่อยอะ ก็ถึงแล้ว … ทำไมไม่บอกให้กลับรถล่ะ ห๊าาาาาา -*-

Locationhttps://goo.gl/maps/b37uSFfmvy32

DSC_7336

ตรงนี้จะต้องค่อนข้างใช้ความสังเกตพอสมควรค่ะ ไม่มีป้ายใด ๆ บอกเลยยยยยย ขับรถผ่านไปแล้ว 1 รอบ (ตอนที่ไปบ้านสวนสุวรรณนั่นแหละ) ก็ไม่ได้สังเกตเห็นแต่อย่างใดค่ะ ความรู้สึกก็แบบ เหมือนเขาลูกนึง เหมือนหน้าผาไรสักสิ่งไรงี้อะค่ะ

จอดรถได้ที่ฝั่งตรงข้ามค่ะ มีเวิ้ง ๆ ลาน ๆ ให้จอดรถได้ซัก 4-5 คันค่ะ ข้ามถนนไปมาก็ระวังกันด้วยนะคะ เพราะเป็นทางโค้งค่ะ

DSC_7339

เราเข้าไปเดินเล่น แอคท่าถ่ายรูป portrait สวย ๆ ได้เลยค่ะ ถามเคโกะว่าสวยมั้ย .. ก็สวยค่ะ โอเคอยู่ แต่ถ้าไม่ผ่านทางนี้ ก็ไม่ได้จำเป็นต้องดิ้นรนมานะคะ T^T มันไม่ได้ดูแกรนด์ ดูยิ่งใหญ่แบบที่อื่น ๆ อะ

DSC_7342.jpg

อีกซักรูปปิดท้ายกับขนอมแคนยอนค่ะ วนรถไกลมาก ขอถ่ายรูปให้คุ้มนี้ดดด ^^”

DSC_7343

จากนั้นเคโกะก็พอใจแล้วค่ะ กลับเข้าที่พักไปเช็คอินดีกว่า (เคโกะโพสต์ไปแล้วนะคะ คลิกดูที่นี่ได้เลยค่ะ)

วันรุ่งขึ้น ตั้งใจออกเช้า ๆ หน่อยเพื่อไปนั่งเรือออกไปดูโลมาสีชมพู (พนง.รีสอร์ทแนะนำว่าให้ไปช่วงเช้าค่ะ) แต่ปรากฏว่าฝนตกหนักมากกกกกกกกก T^T ทำอะไรไม่ได้อีก ก็ต้องนอนอยู่ห้อง อ่านหนังสือ เขี่ยหน้าจอโทรศัพท์รอฝนซาแล้วก็ค่อยออกไปตะลุยต่อค่ะ

กว่าจะออกไปได้ ก็เกือบ ๆ เที่ยงแล้วก็เลยมองหาอะไรกินระหว่างทางไปด้วย ก็เลยได้ร้านบังชามาค่ะ ซึ่งเป็นร้านที่หมายตาไว้อยู่แล้ว แต่ในกูเกิ้ลลงเวลาเปิด-ปิดที่เป็นตอนเย็นค่ะ ซึ่งจริง ๆ เค้าเปิดตั้งแต่สาย ๆ แล้วนะคะ

Locationhttps://goo.gl/maps/vEsPSdALB9H2

02

เคโกะสั่งชาเย็นกับโรตีมะตะบะไป รอนานพอควร แต่โรตีมะตะบะที่ได้มาอร่อยมาก ๆ ค่ะ ส่วนชาเย็นนั้นเคโกะเฉย ๆ อะ

สนนราคารวม 60 บาทค่ะ

ในเมื่อฝนตก ทำแผนเที่ยวของเคโกะรวนไปหมดเลย ก็เลยเริ่มต้นที่เจดีย์ประการังค่ะ แต่แผนก็รวนไปอีกเพราะว่าวันที่เคโกะไป เป็นวันวิสาขบูชา ชาวบ้านและนักเรียนโรงเรียนใกล้เคียงก็มาทำบุญที่วัดกันเพียบค่ะ แม้ว่าเคโกะจะไปถึงช่วงเที่ยง ๆ แล้วก็ตาม ผู้คนก็ยังหนาตาอยู่ น่าจะอยู่ในช่วงทะยอยกันกลับหลังเสร็จงานบุญค่ะ ^^”

Locationhttps://goo.gl/maps/UbUqwmH979n

ในรีวิว เค้าขึ้นไปด้านบนกันได้ แต่เคโกะไม่กล้าขึ้นไปค่ะ ไม่มีใครขึ้นเลย ก็เลยถ่ายรูปอยู่แต่ด้านล่างค่ะ

IMG_6026.jpg

เหมือนจะเป็นการก่อกองทรายเข้าวัดเลยนะคะเนี่ย ^^”

IMG_6024

เสียเวลาอยู่ตรงนี้น้อยกว่าขับรถมาถึงอีกค่ะ T^T แล้วก็ไปต่อที่สะพานไม้ อ่าวเตล็ด

ระหว่างทางขับรถมาที่อ่าวเตล็ด ก็เจออุโมงค์ต้นไม้นี้เข้าโดยบังเอิญ สวยดี จนอดหยุดรถถ่ายรูปจากในรถไม่ได้ค่ะ (ด้านหลังไม่มีรถตามนะคะ แต่เคโกะก็จอดถ่ายแค่แชะเดียวแหละ แล้วก็ขับรถต่อค่ะ)

IMG_6027

ขับมาเรื่อย ๆ พอใกล้ ๆ ถึงก็จะมีป้ายบอกทางไปอ่าวเตล็ดค่ะ ตามป้ายโลดดด แล้วก็มาจอดรถไว้ด้านหน้าทางเข้าได้เลยค่ะ

DSC_7361

เดินไปอีกนิด ก็จะเห็นสะพานไม้ยาว ๆ ยื่นลงไปในทะเลทางซ้ายมือค่ะ ทางขวามือ (หรือตรงหน้านั่นแหละ) ก็จะเป็นร้านขายของเล็ก ๆ เลยร้านขายของตรงนี้ไปก็มีหลวงพ่อแดง ประดิษฐานในถ้ำให้กราบไหว้กันด้วยค่ะ เดี๋ยวเคโกะกลับมาตรงนี้นะคะ พาไปดูวิวทะเลอ่าวเตล็ดกันก่อนค่ะ

Locationhttps://goo.gl/maps/Lmb7zSiVNex

DSC_7364

ก็เป็นสะพานไม้ที่ดูแข็งแรงพอสมควร ยื่นลงไปในทะเลค่ะ สามารถชมวิวทะเลได้แบบ 360 องศาเลย คือถ้าชอบทะเล รักทะเล ไม่ควรพลาด ณ จุดนี้มาก ๆ ค่ะ น้ำใสกิ๊งงงงงเลย

DSC_7367

เดินมาจนสุดปลายทางสะพานไม้ ก็จะเป็นจุดขึ้นลงเรือค่ะ ซึ่งชาวเรือเค้าก็จะจอดเรือไว้แถว ๆ นั้นแหละ

DSC_7380

มาดูแบบพาโนรามากันบ้าง

IMG_6031

เป็นอ่าวที่เงียบ ๆ สงบ ๆ ดีค่ะ

ระหว่างที่เคโกะยืนถ่ายรูป ๆ หมุนไปหมุนมา (หามุมถ่ายรูปนะคะ ไม่ได้หามุมเซลฟี่แต่อย่างใด ฮาาาา) ก็มีคนเรือชวนไปนั่งเรือชมโลมาสีชมพู ดูนู่นดูนี่ ไรงี้ค่ะ เคโกะก็ถึงกับตาวาวเลยอะ เพราะทำใจไปแล้วอะค่ะว่ายังไงก็คงต้องสลับโปรแกรมไปนั่งเรือดูโลมาพรุ่งนี้เช้า ก่อนกลับกรุงเทพฯแทน แต่ถ้าเค้าชวนมางี้ ก็เลยสนใจขึ้นมาค่ะ

ถามไถ่ไปมา ว่ายังดูโลมาได้อีกเหรอ เค้าก็ยืนยันว่าได้ ถ้าไม่ได้เค้าก็จะวนไปหาโลมาให้ค่ะ

ราคาเหมาลำคือ 1000 บาทถ้วนค่ะ หลักๆก็จะพาชมโลมาสีชมพู, เขาพับผ้า และหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด เกาะนุ้ย รวม 3 จุดค่ะ

ป้ะ ลุยยยย~

** เดี๋ยวถ้าว่าง ๆ แล้ว เคโกะจะทำเป็นคลิปลง youtube ด้วยล่ะค่ะ ถ่ายรูป + คลิปมาพอควรเลย ^^” ถ้าเสร็จแล้วจะอัพไว้แล้วจะแปะบอกหน้าเพจนะคะ

เขาพับผ้า ก็คือเขาที่มีลักษณะเหมือนหินซ้อนทับกันเป็นชั้น ๆ คล้ายผ้าพับซ้อนกันไปมาค่ะ เป็นลักษณะที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ

DSC_7389

อีกซักมุม

DSC_7403

คนเรือบอกว่าปกติแล้วเรือลำอื่นที่พาเที่ยว จะแค่พาดูรอบ ๆ เท่านั้น ไม่พาขึ้นเกาะไปเดิน ซึ่งขึ้นไปเดินเล่น ถ่ายรูปเล่นได้ค่ะ (รูปที่ถ่ายบนเขาพับผ้านั่น เป็นรูป profile ในเฟซบุ๊คส่วนตัวของเคโกะไปแล้วค่ะ 555)

แวะเกาะอีกซักเกาะนั่งเล่นอีกเกาะนึงค่ะ

IMG_6050

จากนั้นเราก็ไปไหว้หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเล เกาะนุ้ยกันค่ะ

IMG_6052

บ่อน้ำจืดที่ว่าค่ะ

IMG_6054

คนเรือเล่าให้ฟังว่ามีตำนานอยู่ คือ หลวงปู่และพระอีกหลายรูปที่โดยสารเรือมาจนถึงเกาะนี้ ก็แวะพัก แต่หาน้ำจืดไม่ได้ หลวงปู่ก็เลยอธิษฐานแล้วก้าวลงไป เกิดเป็นน้ำจืดขึ้นมาค่ะ

คร่าว ๆ ก็ประมาณนี้ล่ะนะคะ

เคโกะก็พาซื่อไปแอบชิมด้วยนะ รสชาติจะไม่ได้จืดแบบน้ำเปล่า หรือน้ำจืดซะทีเดียวอะค่ะ ออกกร่อย ๆ หน่อยน่ะนะ ^^”

แล้วก็ขึ้นไปกราบไหว้หลวงปู่ด้านบน ชมวิวด้านบนซักนิดค่ะ

DSC_7399

จากนั้นก็นั่งเรือต่อ วนๆ หาโลมาสีชมพูนี่แหละ

IMG_6059

ซึ่งสุดท้ายเราก็เจอค่ะ เจอตัวนึงโดดดึ๋ง ๆ ขึ้นมาให้เคโกะเชยชมอยู่สองตุ้บ ยังถ่ายรูปไม่ทันเลย 555 แล้วก็หายไป ไม่เจออีก

แต่ถึงจะถ่ายรูปไม่ได้ เคโกะก็โอเคนะคะ คือไม่ได้คาดหวังว่าออกเรือมารอบบ่ายจะเจอโลมาสีชมพูค่ะ เพราะเค้าก็ว่ากันว่าตอนเช้าจะมีโอกาสเจอสูงกว่า แต่ได้เจอโดยบังเอิญแบบนี้ก็ถือว่าโชคดีแล้วค่ะ ^^

บอกได้คำเดียวว่า โลมาสีชมพูน่าร้ากกกกมากจริงๆ ค่ะ ❤

เคโกะกรี๊ดกร๊าด แล้วก็บ่นว่าน่าร้ากกกก จนคนเรือแซวเลยค่ะ 555

ขากลับ คนเรือเค้าก็ชวน ๆ คุย คุยไปคุยมา เค้าก็บอกค่ะว่าก็เดาไว้อยู่เหมือนกันว่าเคโกะน่าจะมีเรื่องไม่สบายใจอยู่ ก็เลยพยายามชวนคุย พาไปดูนู่นนี่นั่นไรงี้ให้สบายใจและรู้สึกสนุก เคโกะเองก็อึ้งไปเลยนะที่ได้ยินแบบนั้นอะค่ะ คือ เราก็ไม่คิดไงว่าเค้าจะดูออก .. ดูออกได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรือคะเนี่ย T^T

แล้วเค้าก็พาไปดูกระชังปลาที่เลี้ยงกลางทะเลอีกที่นึงเป็นการตบท้ายค่ะ

IMG_6066

ไฮไลท์ที่พามาดูคือปลาดุกทะเลค่ะ ตัวใหญ่ม้ากกกกกกกกกกกก

จากนั้นก็พาไปหม่ำข้าวก่อนจะพากลับมาส่งที่อ่าวเตล็ดดังเดิมค่ะ แล้วก็ยังมีน้ำใจเดินไปไหว้หลวงพ่อแดง ถ้ำติสโสคูหาเทวาธรรมที่อยู่บริเวณนั้นด้วยค่ะ เป็นทางเดินขึ้นเขาเตี้ยๆไป ไม่กี่ก้าว ก่อนที่จะเข้าไปในถ้ำค่ะ ภายในถ้ำมีไฟส่องสว่างอยู่นะคะ ไม่ต้องกลัวมืดเนาะ

เรียบร้อยแล้วก็กลับค่ะ ถือเป็นทริปออกเรือที่ประทับใจมาก ๆ อีกครั้งนึงค่ะ

จริง ๆ แล้วการเหมาเรือชมโลมาสีชมพูนั้น ที่แนะนำ ๆ กันจะเป็นท่าเรือแหลมประทับนะคะ ไม่ใช่ที่อ่าวเตล็ดค่ะ ^^”

ไหน ๆ ก็ได้นั่งเรือไปละ เคโกะก็เลยวนรถไปแหลมประทับดูลาดเลาเผื่อไว้ให้คนอื่น ๆ ที่มาอ่านนะคะ

Locationhttps://goo.gl/maps/1h3L3r25A3A2

ท่าเรือแหลมประทับกับอ่าวเตล็ด จริง ๆ ก็ไม่ได้ไกลกันเท่าไหร่ค่ะ ถือเป็นระแวก ๆ เดียวกันนะ ระหว่างทางที่ไปแหลมประทับ ช่วงใกล้ๆ ถึงแล้วน่ะค่ะ วิวทะเลสวยมากกกกกกกจริง ๆ (แต่เคโกะหยุดถ่ายรูปไม่ได้อะ เป็นทางบนเขา ทางโค้งค่ะ T^T เสียดายเบาๆ)

มีที่จอดรถก่อนถึงทางลงท่าเรือ มีทั้งแบบเสียสตางค์และฟรีค่ะ เคโกะหลงเข้าไปจอดที่จอดฟรีมาแหละ ซึ่งเป็นตอนเย็นแล้วค่ะ ชาวบ้านแถวนั้นก็มองเคโกะแบบงง ๆ เล็กน้อย อารมณ์แบบ มาท่าเรืออะไรเวลานี้เนี่ย 555

DSC_7406

ก็จะเป็นท่าเรือที่มีเรือจอดเยอะๆ ค่ะ ถ้ามาช่วงเช้าน่าจะคึกคักน่าดูเลย เคโกะมาตอนเย็นแล้ว ก็เลยเงียบเหงาไปนะคะ

เก็บรูปมาให้เป็นแนวทางมาเนาะ

DSC_7410

จากนั้นก็กลับที่พักค่ะ

วันสุดท้าย เคโกะออกมาช่วงเช้า ตั้งใจมาทานติ่มซำที่ร้านแถว ๆ นั้นแหละค่ะ (เสิร์ชเจอในกูเกิ้ล) แต่ปรากฏว่าร้านปิดพอดี T^T

ก็กลับเลยค่ะ ไปดูวิวกันต่อที่เนินเทวดาค่ะ ทางไปโอเคอยู่ มีป้ายบอกตลอดทางเลยค่ะ แต่กูเกิ้ลแม็พเจอแต่ทางเข้านะคะ หมุดที่ปักไว้ ไม่ได้ไปถึงยอดเขาอะ มาได้ถึงใกล้ ๆ ก็ต้องคอยหาป้ายชี้ทางวนขึ้นเขาเองค่ะ – -”

Location : https://goo.gl/maps/dM2ktouWdNA2

ทางขึ้นเป็นทางขึ้นเขาที่ชันมาก ๆ ค่ะ ใช้เกียร์ต่ำเลยค่ะ ขึ้นมาตามทางจนกระทั่งถึงด้านบน ก็ปรากฏว่า ปิดซะงั้น!! คืออะไร๊~

IMG_6088

เอาจริงๆ งงมาก ณ จุดนั้น คือไม่คิดมาก่อนค่ะว่าจุดชมวิวมีเวลาเปิด-ปิดด้วยอะ – -”

ดูวิวรถกับเบื้องหลังที่จอดรถอยู่หน้าประตูที่ปิดเนี่ยละกันนะคะ ถือว่าขึ้นมาสูงใช้ได้เลย

IMG_6089

เคโกะวนไปวนมา ก็พอเห็นช่องทางแอบเข้าไป ><” (ขอโทษค้าาาาาา) ก็เลยเดินเข้าไปเงียบ ๆ ค่ะ

DSC_7415

เดินเข้ามาจนได้ แหะๆ

DSC_7420

ใกล้ ๆ กันมีเนินนางฟ้าด้วย แต่ทางไปเนินนางฟ้าก็มีประตูกั้นและล็อคกุญแจอีกค่ะ คราวนี้หาทางข้ามไปไม่ได้แล้วอะ ก็เลยยอมแพ้ค่ะ ><~

แต่เอาจริง ๆ นะ โดยส่วนตัวแล้วอะ เคโกะว่าวิวไม่ได้สวยขนาดนั้นค่ะ มันมีต้นไม้บังสายตาอยู่อะค่ะ ไม่ได้อิ่มเอมกับวิวทะเลเท่าไหร่เลย

รู้สึกไม่ค่อยคุ้มกับการขับรถปีนเขาสุดชันขึ้นมาเลยค่ะ ^^”

แปะรูปเวลาเปิด-ปิดประกอบนะคะ เคโกะไม่ได้มาผิดเวลาด้วยนะ บอกเลยยย

IMG_6090

ทางขึ้น-ลงจะผ่านโรงแรมเนอวานานะคะ แปะให้ดูประกอบ เผื่อจะโยนหมุดกูเกิ้ลแม็พมาที่นี่แทนค่ะ

IMG_6093

ถ่ายรูปตอนขาลงจากเนินเทวดาค่ะ ทางชันใช้ได้เลย

เพราะผิดแผนอีกแล้ว ก็เลยว่าจะขับรถไปอ่าวท้องหยีต่อค่ะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ก็อยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่

เอาจริง ๆ นะ ไปถึงแล้วรู้สึกก้ำกึ่งมากค่ะว่าคิดผิดหรือคิดถูกเนี่ยที่มา

ยังไงก็ตาม เคโกะก็ลุยมาถึงอ่าวท้องหยีละ

Locationhttps://goo.gl/maps/uhy3cP1DNeB2

IMG_6094

จอดรถตามสะดวกค่ะ อย่าจอดใต้ต้นมะพร้าวก็พอ เพราะลูกมะพร้าวอาจจะตกใส่รถได้ค่ะ ^^” (โดนบอกให้เลื่อนรถมาแล้ว เพราะไปจอดใต้ต้นมะพร้าวพอดี ไอ้เราก็กะว่าอาศัยร่มเงาหน่อยค่ะ ไรงี้ 55)

การมาถึงอ่าวท้องหยีนั้น จะว่าลำบากก็ลำบาก จะว่าง่ายก็ง่ายค่ะ ถนนที่มาเป็นถนนแคบ ๆ เส้นทางเดียวเท่านั้น ไม่มีทางอื่น ๆ มาอีก (เว้นทางเรือไปเนอะ)  ซึ่งระหว่างทางนั้น คดเคี้ยว แคบ และชันเป็นบางช่วงด้วยค่ะ

เคโกะมาถึงแล้วเพิ่งนึกออกอะว่าพนง.ที่รีสอร์ทก็บอกว่าสวย แต่ไม่แนะนำให้มาคนเดียวค่ะ เพราะมันมืด และแคบ (เค้าคงคิดว่ามาตอนเย็น ที่ไปเช็คอินที่พักน่ะนะ)

แต่วิวทะเลนั้นนนน สวยมากกกกกกกกกค่ะ เงียบและสงบอีกแล้ว

DSC_7427

คือถ้าใครมองหาทะเลสวย ๆ น้ำใส ๆ สงบ ๆ เงียบ ๆ นะ เคโกะว่าทะเลที่ขนอมเนี่ย ตอบโจทย์มาก ๆ ค่ะ 

อยากโผกอดผลิตมาก ณ จุดนั้น คือ ดีใจที่ได้ทำความรู้จักผลิตแล้วก็ตัดสินใจตามรอยมาที่ขนอมนี่ ได้ค้นพบว่าทะเลขนอมสวยมากแค่ไหน ซึ่งมันสวยมากจริง ๆ ค่ะ 

เดินเล่นตามหาดเรื่อยเปื่อย พักผ่อนสักหน่อย ก่อนจะต้องไปขับรถวน ๆ บนเขาทางแคบ ๆ เพื่อกลับออกไปจากอ่าวท้องหยีค่ะ

DSC_7428

เวลาเหลือไปอีก ขับรถวนต่อไปค่ะ แต่คราวนี้เคโกะกลับเข้าเมืองนครฯแล้วนะคะ ไปหาร้านอาหารใต้ที่น่าจะอร่อยทานบ้างค่ะ ^^”

หลับหูหลับตาเลือกร้านนายหนังมา อยู่ในเมืองนครฯค่ะ มีที่จอดรถให้อยู่หลังร้าน เดินทะลุจากด้านหลังร้านมาที่ร้านได้เลยค่ะ

Locationhttps://goo.gl/maps/xVndy67JN9x

มาคนเดียว แล้วไงล่ะ หิวมาก ๆ ค่ะ เพราะข้าวเช้าก็ยังไม่ได้กินไง ก็เลยจัดเต็ม 3 เมนูเล้ยยยย (555) มีห่อหมกไข่เจียว, ยำไข่ปลากระบอก และใบเหลียงผัดไข่ค่ะ

03

รสชาติโดยรวม อร่อยมากค่ะ โดยเฉพาะห่อหมกไข่เจียว เก๋ ๆ ดีค่ะ ก็ดูเป็นไข่เจียวอะนะ แต่รสชาติคือห่อหมกเต็มๆ ค่ะ

สนนราคารวม 335 บาท

เวลายังเหลือก่อนไปสนามบินเพื่อขึ้นเครื่องกลับค่ะ วนต่อไปที่ถนนท่าช้างค่ะ มีร้านขายเครื่องถม เครื่องเงินเพียบเลย ซึ่งเคโกะเห็นน้องคนนึงในเฟซบุ๊คเค้ามาคีรีวง และแวะซื้อเครื่องเงินอะค่ะ ก็เลยนึกออก แล้วก็เลยมาบ้าง (55)

จอดรถได้ที่บริเวณด้านหน้าสนามกีฬาค่ะ เคโกะเดินเข้าออกหลายร้านอยู่ ซึ่งแต่ละร้านก็ต้อนรับดีนะคะ ดูได้ ไม่ซื้อก็ไม่ว่าอะไรค่ะ จนไปจบที่ร้านศรีนคร ร้านสุดท้ายที่เข้าไปดูเลยค่ะ

Locationhttps://goo.gl/maps/mG2R9fLTxDq

ได้แหวนเกลี้ยง ๆ 1 วง + ต่างหู 2 คู่แบบเล็ก ๆ ค่ะ สนนราคารวม 420 บาท เคโกะโอเคกับราคานี้นะ ^^”

ยังค่ะ ยังไม่จบ ไปต่อกันที่ร้านเกลอเฮาส์ (Glur House) ต่อค่ะ เป็นร้านคาเฟ่ชิค ๆ สไตล์คนกทม.เลยแหละ จอดรถได้ตามไหล่ทางริมถนน จอดชิด ๆ ค่ะ ร้านจะอยู่ตรงข้ามกับสถานีตำรวจภูธรจังหวัดเลยนะคะ คนเยอะใช้ได้เลยแหละ

สั่งเมนูใหม่ของทางร้านค่ะ (จำไม่ได้แล้วว่าอะไร – -“) แต่ราคาแอบแรงค่ะ แก้วนี้ 95 บาท

04

จิบชาไป ไถหน้าจอมือถือไป ได้เวลากลับแล้วก็รีบบึ่งรถไปสนามบินค่ะ เป็นอันจบทริปอย่างสวยงาม ^^

ติดตามโพสต์หน้ากันต่อไปด้วยนะคะ จะแว้บกลับไปต่อทริปญี่ปุ่นละ ^^”

สุดท้าย ฝากเพจไว้ให้ติดตามกันด้วยนะคะ ^^”
https://www.facebook.com/thisiskeigo/

Leeloo Cabana, Khanom

สวัสดีค่ะ แอบลัดคิวแซงหน้ามาลงอย่างว่องไวตามประสานุชที่ดี 555

**นุช คือ คำเรียกแฟนคลับของคุณเป๊ก ผลิตโชคนะคะ

Resort name : Leeloo Cabana
Location : Khanom, Nakorn Si Thammarat
Access : Khanom Beach, near ตาลคู่รีสอร์ท
Night(s) : 2 nights, 28 – 30 May 2018
Person : 1
Room type : Bangalow – Beach Front
Room rate : 800/night/room
Booking via : agoda.com

เคโกะเช่ารถขับไปจากสนามบินนครศรีธรรมราชนะคะ ก็ขับขึ้นไปทางทิศเหนือแหละ เพราะอ.ขนอมอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดค่ะ ซึ่งก็เปิดกูเกิ้ลแม็พมาค่ะ (555)

ทางเข้ารีสอร์ทจะดูเล็ก ๆ ไม่โดดเด่นเลย ให้จำไว้ว่าอยู่ใกล้ ๆ กับโรงแรมตาลคู่ หรือตาลคู่รีสอร์ทค่ะ จะมีทางเข้าและป้ายเล็ก ๆ บอกอยู่ (ว่าจะถ่ายรูปมา แต่มัวแต่กังวลเรื่องถนนที่ไม่ดีเลย หลุมใหญ่มาก และขับรถอยู่เลยไม่ได้ถ่ายมาค่ะ ^^”)

ที่จอดรถ จอดได้ที่ด้านหน้ารีสอร์ทเลย อย่าเด๋อไปจอดด้านข้างนะคะ นั่นมันที่ของรีสอร์ทข้างๆ ค่ะ — พลาดไปจอดมาแล้ว โดนไล่เลย 555

IMG_6003

เช็คอิน จ่ายค่าห้อง (บุ๊คผ่านอะโกด้า แค่กันวงเงินไว้เฉยๆ แต่ไม่ได้ชำระจริง ต้องมาจ่ายที่รีสอร์ทเองค่ะ) เคโกะจองไว้ 2 คืน ก็ 1600 บาทถ้วน แล้วก็รับกุญแจเข้าห้องได้เลย

หลังจากที่พูดคุยเช็คอินกับพนง.เรียบร้อยแล้ว พนง.ก็เริ่มเข้าเรื่อง ..

พนง. – นี่มาตามหาห้องเบอร์ 7 ด้วยหรือเปล่าคะ
เคโกะ – //สตั๊นท์ไปแป๊บนึง ก็ใช่ค่ะ (ยิ้มเขินๆ) มากันเยอะเลยเหรอคะ
พนง. – ก็มากันเรื่อย ๆ ค่ะ นี่ก็เพิ่งเช็คเอาท์ไปเมื่อเช้า มาจากชลบุรีเลย (โห นุช เธอสุดยอดจริงๆ)
เคโกะ – โหหห
พนง. – แต่ห้องเบอร์ 7 ตอนนี้ไม่ว่างอะค่ะ ฝรั่งมาเช่าอยู่ยาว เดือนนึงเลย
เคโกะ – ค่ะ
พนง. – จริง ๆ ระบุห้องได้นะคะ แต่ห้องจะว่างหรือเปล่าอีกเรื่อง แต่ก็ระบุมาก่อนได้ค่ะ คนก่อนก็โทรมาหาเจ้าของ ขอห้องเบอร์ 7 แต่ก็อดไปเพราะไม่ว่าง

คุยกันอีกนิดหน่อยแล้วก็แยกย้ายค่ะ 555

** ห้องเบอร์ 7 คือ ห้องที่ผลิตมาพักในตอนนั้นนะคะ — เผื่อ non-นุชมาอ่านเนาะ

หน้าบ้านพัก ก็จะสไตล์นี้เหมือนกันทุกหลังล่ะค่ะ

IMG_6083

พนง.ก็คงรู้ล่ะค่ะว่าคนไทยจองมาที่นี่ น่าจะเป็นนุชกัน เลยบอกว่า ไม่ได้ห้องเบอร์ 7 แต่ให้ห้องเบอร์ 6 นะคะ ห้องติด ๆ กันเลย

IMG_6081

หน้าต่างเค้าจะเปิดไว้ให้แบบนี้ สไตล์กระต๊อบไม้ไผ่ในละครเลย ก็เปิดปิดได้ค่ะ

บ้านเป็นไม้ไผ่ทั้งหลัง ดูเป็นธรรมชาติดีมาก ๆ ค่ะ เข้ามาในห้องก็คือเป็นเตียงเลย ด้านข้างขวามีชั้น 2 ชั้น ให้วางของค่ะ

ในห้องแอบมืดไปหน่อย ไฟไม่ค่อยสว่างนักค่ะ สว่างแค่จุดเดียวคือหัวเตียงเท่านั้นเลย

IMG_6005

ห้องเป็นห้องพัดลมเพดาน ไม่มีแอร์ค่ะ ตอนแรกก็แอบกังวลว่าจะร้อนไหม แต่พอกลางคืน ถึงเวลานอนจริง ๆ ก็ไม่ร้อนนะคะ ออกหนาวด้วยซ้ำ จากที่ไม่ได้ห่มผ้า ต้องดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมเลยอะ

[update as of Oct 19]

มีการกางมุ้งไว้ให้ด้วยอะค่ะ ซึ่งพอกางมุ้งนอนก็ไม่ได้รู้สึกร้อนหรืออะไรนะคะ ก็อากาศเย็น ๆ สบาย ๆ เหมือนเคยค่ะ

ห้องน้ำก็คือบานประตูที่ติด ๆ อยู่หัวเตียงนั่นแหละค่ะ เป็นสเต็ปบันไดก้าวลงไป เคโกะยืนถ่ายรูปอยู่หน้าประตูเน้อ ไม่ได้ลงไปด้านล่างค่ะ

IMG_6007

มีสบู่ก้อนเล็ก ขวดแชมพูและสบู่เหลวให้ที่หน้ากระจกนั่นแหละ ส่วนผ้าเช็ดตัวก็มีให้ค่ะ อยู่ปลายเตียง

ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นนะคะ น้ำจะเย็น ๆ หน่อย แนะนำว่าถ้าขี้หนาวให้รีบอาบน้ำค่ะ ยิ่งดึก น้ำก็ยิ่งเย็น

IMG_6006

[update as of Oct 19]

มีเครื่องทำน้ำอุ่นติดให้แล้วนะคะ มีที่วางของเล็ก ๆ ตรงฝักบัวให้ด้วย ดีงามเลยยยย ^^

แล้วก็บริเวณห้องอาหาร (ก็บาร์ที่ผลิตเค้ามานั่งไลฟ์ขนอมในตำนานนั่นแหละ >< ) รวมถึงเป็นที่เช็คอินด้วยค่ะ

IMG_6008

ไปดูวิวทะเลบ้างค่ะ มีเก้าอี้ให้นั่งเล่นด้วยนะ

เอียงซ้ายยยย

IMG_6009

เอียงขวาาาาา

IMG_6010
สีทรายเพี้ยนเยอะเลย สีทรายจริง ๆ จะตามรูปบนกับรูปล่างค่ะ สีอ่อน ละมุนเท้ามาก ๆ

เคโกะมาที่นี่ ว่ากันตามตรงคือมีเรื่องไม่สบายใจอยู่ค่ะ (ตามที่ทวิตไปในทวิตเตอร์ ^^”) และเวลาที่ไม่สบายใจก็เลือกที่จะมาทะเล ซึ่งทะเลใกล้ ๆ กรุงเทพ เคโกะก็ไปมาซ้ำ ๆ จนเบื่อแล้วค่ะ (555) ครั้งนี้ก็เลยเลือกที่จะตามรอยผลิตมาถึงที่ขนอมนี่เลย

เชื่อมั้ย เคโกะเห็นทะเลปุ๊บนะ คือ น้ำตาไหลออกมาเองเลยอะค่ะ แล้วที่แปลกมากก็คือ แถว ๆ นั้นจะมีสุนัขอยู่สองสามตัววิ่งเล่นกันอยู่ มีอยู่ตัวนึงเข้ามาคลอเคลียเคโกะเองเลยอะ ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วเคโกะไม่ค่อยมีสุนัขเข้าใกล้ค่ะ ส่วนตัวเองก็ไม่ค่อยถูกกับสุนัขนัก แต่กับตัวนี้คือ ยื่นมือให้ มันก็เลียมือ เลียขาเลยค่ะ เหมือนพยายามปลอบเคโกะอยู่เลยค่ะ น่ารักมาก ๆ

พอไม่ให้มันเลีย มันก็มานั่งอยู่ใกล้ ๆ เหมือนนั่งเฝ้าเลย ^^”

IMG_6011

มาสรุปปิดท้ายกับที่พักแห่งนี้ค่ะ

  • อาหารเช้าไม่รวมในค่าห้อง รีสอร์ทติดทะเล มีเก้าอี้นั่งเล่นดูทะเลได้ ทะเลเงียบสงบดี อาจจะมีเสียงจอแจจากรีสอร์ทข้าง ๆ นิดหน่อยค่ะ มีไวไฟ ความเร็วดีอยู่
  • ห้องพักไม่มีแอร์ ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ถ้าติดสองอย่างนี้ก็ทำใจไว้ก่อนล่วงหน้าเลยค่ะ
  • 7-11 ที่ใกล้ที่สุด อยู่ห่างออกไปราว ๆ 1.5 กิโลเมตร ระแวกใกล้เคียงไม่มีร้านค้าอะไรมากมาย และไกลสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ พอสมควร หากมารถสาธารณะ (เช่น รถตู้ ให้มาส่งที่รีสอร์ทอะไรงี้) น่าจะลำบากอยู่ค่ะ แนะนำเป็นเช่ารถขับมาจะสะดวกกว่า
  • พนง.น่ารัก อัธยาศัยดีค่ะ เช็คอินแล้วก็แนะนำที่ท่องเที่ยวให้ด้วย ให้แผนที่มาด้วยค่ะ
  • มีแมลงอยู่บ้าง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับฤดูค่ะ ตอนที่เคโกะไป มีแมลงอยู่พอควร คืนที่สองระทึกได้อีก มีหนูออกมาวิ่งเล่นด้วยค่าาา ><~ ดีนะ คุมสติอยู่ ไม่งั้นกรี๊ดแตกแน่ ๆ เคโกะไม่ชอบหนูเลยค่ะ ฮืออออ T^T ก็เอาเป็นว่าพกยากันยุง ยากันแมลงอะไรงี้ไปด้วยดีกว่าค่ะ

โดยรวมๆ แล้วเคโกะว่าเป็นรีสอร์ทดูธรรมชาติ ๆ และธรรมดา ๆ เรียบง่ายดีค่ะ ไม่รู้จะแนะนำยังไงดี เอาเป็นว่าถ้านุชเชสอินกับไลฟ์ขนอม ก็มาเถอะค่ะ 5555

สำหรับ non-นุช ก็ถ้าชอบความเรียบง่ายและทะเลสวย ๆ ก็แนะนำค่ะ ทะเลที่นี่สวยมากจริง ๆ น้ำใสมาก ๆ เลยค่ะ และทะเลยังสะอาดอยู่ ขยะก็มีนะ แต่น้อยอยู่มากกกค่ะ

ขอบคุณผลิตที่แนะนำรีสอร์ทนี้ให้รู้จักผ่านไลฟ์ขนอมเมื่อตอนนู้น และยังรอนุชให้ดูไลฟ์ (ย้อนหลัง) อยู่จนนุชคนนี้อยากตามรอยมาบ้าง ^^

ถ้าขยัน โพสต์หน้าจะมาเล่าเรื่องเที่ยวในขนอมต่อนะ 

ฝากเพจด้วยค่าาาา .. https://www.facebook.com/thisiskeigo/